บาทที่ 19
บาทที่ 19
เธอใช้วิชาของสำนักเซียนคุณไสยเช่นกัน อันดับแรกเพียงเธอสะบัดมือผีเสื้อนับพันพลันพวยพุ่งออกมาบดบังรอบตัวเธอไปจนหมดสิ้นและแผ่กระจายออกไป ผีเสื้อทั้งหมดล้วนเป็นสีแดงเลือดที่มีจุดสีดำบนนั้น ดูราวกับดวงตาอสูรกระหายเลือดจำนวนมากมายกำลังจ้องมองอยู่
ฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนจะเป็นคนที่ฝึกวิชาของสำนักเซียนห้าธาตุ และได้เรียนรู้อาคมมามากกว่าพวกเขา ทันทีที่อีกฝ่ายเห็นเหมยเหมยปล่อยผีเสื้อออกมามากมาย ชายคนนี้ก็ทำท่าเหมือนกับเกร็งพลังแล้วก็มีไฟลุกท่วมทั่วตัวขึ้นทันที ในเมื่อใครๆก็รู้กันว่าแมลงทั้งหลายล้วนแพ้ไฟ
เหมยเหมยไม่สนใจใช้ผีเสื้อของเธอนั้นโบยบินจนบดบังทัศนียภาพรอบด้าน ผีเสื้อของเหมยเหมยไม่ทำการโจมตีใดๆ เพียงแต่บินวนล้อมอีกฝ่ายเอาไว้ และสุดท้ายผู้คนก็เห็นว่าเหมยเหมยตอนนี้มีร่างกายที่ดูกึ่งมนุษย์กึ่งผีเสื้อจากอาคมร่างแมลง สง่าและสวยงามดูราวกับราชินีของเหล่าผีเสื้อและแมลงทั่วพิภพ
“หึ มีแค่นี้รึ” ชายคนนั้นแค่นเสียงจากนั้นก็ยิงบอลไฟเข้าใส่เหมยเหมย เหมยเหมยถลันกายวูบ เธอก็หายไปในหมอกเมฆผีเสื้อที่เธอสร้างขึ้น
“ยุ่งยากจริง” ชายคนนั้นระเบิดพลังเพลิงออกไปรอบด้าน ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะเน้นฝึกธาตุไฟเป็นพิเศษ
เมื่อระเบิดพลังเพลิงนั้นระเบิดออกไปรอบข้าง ไฟนั้นก็พุ่งปะทะกับผีเสื้อที่บินอยู่โดยรอบ ในเมื่อผีเสื้อนั้นเป็นพลังเซียนเช่นเดียวกับไฟที่พวยพุ่งออก ผีเสื้อเหล่านี้จึงมีความสามารถในการทนไฟระดับหนึ่ง หากว่าตัวไหนไหม้ไปบ้างก็จะสลายเป็นพลังเซียนไป
บรึม บรึม บรึม ชายคนนั้นมีเพลิงที่ทรงอานุภาพอย่างมาก เพียงระเบิดพลังออกไปไม่กี่ครั้งเปลวเพลิงก็เกือบครอบคลุมไปทั่วลาน แต่ที่น่าตื่นตะลึงก็คือเหมยเหมยหายไปจากสนามแล้ว
ที่ทุกคนคิดก็คือเหมยเหมยต้องบินขึ้นไปบนฟ้าแน่นอน แต่ว่าจะอยู่ตรงไหนกัน
ชายคนนั้นดูเหมือนจะบ้าคลั่ง เขาจุดพื้นสนามให้ลุกไหม้แล้วใช้ความร้อนพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อเผาไหม้ผีเสื้อที่บินอยู่ด้านบน
แต่ดูเหมือนผีเสื้อจะยิ่งมายิ่งทนไฟ ซึ่งพวกหงเซียวก็พบว่าเหมยเหมยเปลี่ยนเป็นใช้ผีเสื้อสายพันธุ์ที่มีลำตัวใหญ่หนาอ้วนมีปีกสั้น ซึ่งท่ามกลางกระแสลมจากความร้อนนั้น พวกมันไม่เกรงกลัวความร้อนแม้แต่น้อย
ถ้าจะพูดให้ถูกต้องพลังเซียนจะเกรงกลัวความร้อนได้อย่างไร หรือเกรงกลัวพลังเซียนของคนอื่นได้อย่างไร สิ่งที่วัดกันก็คือใครมีพลังเซียนที่เข้มแข็งกว่ากันต่างหาก แต่บางครั้งคุณสมบัติของพลังเซียนก็สามารถนำมาวัดได้เช่นเดียวกัน เช่นพลังเซียนบางอย่างก็อาจจะแพ้ทางพลังเซียนอีกอย่างก็เป็นไปได้ เช่นพลังเซียนสายไฟก็แพ้ทางพลังเซียนสายน้ำเป็นต้น
แม้ว่าจะบอกว่าแมลงส่วนใหญ่ไม่อาจทนความร้อนได้ แต่หากดูแมลงในทะเลทรายมันก็มีความสามารถทนความร้อนได้เหลือเชื่อ แมลงบางชนิดก็อาศัยอยู่ในน้ำพุร้อนได้อย่างสบาย ยิ่งเป็นแมลงเซียนย่อมต้องเหลือเชื่อมากกว่านี้
“ฮะฮ่ะฮ่ะ” ชายคนนั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อเห็นผีเสื้อพยายามเกาะกันเป็นก้อนใหญ่ๆแล้วตกลงมาเหมือนเม็ดฝนก่อนจะแตกระเบิดหายไปก่อนที่ก้อนใหญ่นั้นจะสัมผัสตัวเขา
บรึม ปุปุปุ เศษซากของแมลงกระเด็นไปทั่ว มีกระทบตัวเขาบ้างเป็นบางตัว
“น่ารำคาญจริง” ชายคนนั้นพลันเร่งไฟเพิ่มขึ้น แต่หอกผีเสื้อที่เกาะกันเป็นแท่งยาวก็พุ่งทะลวงลงมาจากฟากฟ้า แม้ว่าไฟจะร้อนแรงแต่ซากแมลงที่อยู่ด้านหน้าก็สามารถช่วยกันพลังเพลิงไว้ได้ระดับหนึ่ง
ชายคนนั้นหลบไปด้านข้างก่อนหอกแมลงนั้นจะกระทบตัว แต่ก่อนที่หอกแมลงนั้นจะกระทบพื้นมันพลันเลี้ยวตีวงพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายอีกครั้ง
“หืม ข้าลืมไปว่านี่เป็นแมลง” ชายคนนั้นยกมือขึ้นต่อยสวน แมลงจะแข็งแกร่งไปกว่าหมัดได้อย่างไร
ตูม ซึ่งก็จริง แมลงนั้นเมื่อกระทบกับหมัดของเชามันก็แตกกระจายไป มีหลายตัวที่แหลกเหลวเป็นน้ำเหนียวติดไปบนร่างของชายคนนั้น
“อะไรกัน นี่แมลงจริงๆรึ” ชายคนนั้นแปลกใจ เขานึกว่าจะมีแต่พลังเซียนที่เป็นรูปแมลง แต่ไม่คิดว่าจะมีแมลงจริงปะปนมากับแมลงเซียนพวกนี้ด้วย
วูบ วูบ แต่ไม่นานน้ำเหนียวพวกนั้นก็สลายตัวไปเป็นพลังเซียน
“สามารถจำลองพลังเซียนจนเหมือนแมลงจริงๆได้ น่าสนใจ วะฮะฮะ” ชายคนนั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ก้อนแมลงผีเสื้อที่เกาะบนร่างของเขาหลายก้อนเริ่มเผาไหม้สลายกลายเป็นพลังเซียน
มีหอกแมลงพุ่งลงมาอีกหลายแท่ง ทุกแท่งล้วนถูกชายคนนี้ทำลายไปจนหมดสิ้น
ทันใดนั้นเองชายคนนั้นก็รู้สึกผิดปกติเมื่อพลังเซียนบนร่างจุดหนึ่งเกิดอาการอุดตัน ส่งผลให้เพลิงเซียนที่ลุกท่วมสนามหายวับไปเหลือเพียงเพลิงจริงที่เกิดลุกลามขึ้นตามอำนาจเพลิงเซียน
เขารีบส่งจิตเข้าไปในร่าง และก็พบว่าไม่เพียงแต่จุดหนึ่งในร่างเท่านั้นที่เกิดการอุดตัน ในเลือดเนื้อของเขานั้นมีแมลงกำลังคืบคลานไปหาจุดชีพจรอื่นๆอีกหลายตัว
“นี่มันอะไรกัน” ชายคนนี้ไม่เข้าใจว่าแมลงพวกนี้มาจากไหนกัน ในเมื่อเขาเผามันไปจนหมดแล้ว
แต่เดี๋ยวก่อน เขาจำได้ว่าเขาต่อยแมลงไปหลายตัว และเผามันตอนที่มันเกาะเสื้อผ้า…. เกาะเสื้อผ้า
ด้วยความกระวนกระวายเขารีบส่งพลังเซียนไปจนทั่วร่าง และพบว่ากระทั่งกำปั้นที่ใช้ต่อยแมลงนั้นก็มีแมลงฝังอยู่ในมือนั้นหลายตัว
แมลงพวกนี้ทำไมจึงฝังตัวเข้าไปในร่างของเขาได้ นอกจากว่าแมลงพวกนี้จะเป็นปรสิต หรือไม่ก็แมลงคุณไสย แต่เดี๋ยวก่อน แมลงคุณไสย
จุดชีพจรที่สองถูกยึด เขาพยายามส่งพลังเซียนเข้าไปขยี้แมลงเหล่านี้ แต่กลับพบว่ามันกลับกลืนกินพลังเซียนของเขาราวกับเป็นขนมหวาน
จุดชีพจรที่สามถูกยึด และนั่นแมลงตัวนั้นกำลังคืบคลานไปยังชีพจรเซียน
เขามัวแต่สนใจแต่ภายในร่างกายของตนเอง ไม่ทันได้สังเกตว่ามีหญิงสาวสวยที่มีปีกผีเสื้อบนหลังกำลังบินร่อนอยู่ไม่ห่างนักท่ามกลางผีเสื้อเล็กๆนับร้อยตัว
คนทั้งสนามต่างก็คิดว่าชายผู้ทรงพลังที่สุดคนนี้จะชนะ แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหยุดยั้งกลางคันแล้วเอาแต่ยืนเหม่ออยู่อย่างนั้น
ในร่างของเขานั้น แมลงตัวนั้นเข้าสู่ชีพจรเซียนแล้วทำการควบคุมชีพจรเป็นของตนเองดูดกลืนพลังเซียนเข้าตัวอย่างบ้าคลั่ง
เขารีบลืมตาขึ้นมองหญิงสาวสวยที่ยืนอยู่ไม่ห่างนัก เธอยังคงดูสงบเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่การกระทำในร่างของเขานี้ดูขัดแย้งกับหน้าตาเป็นที่สุด
“ข-ข้า ข้าขอโทษ ได้โปรดยกโทษให้ข้า อ๊ากกก...” ความเจ็บปวดจากการถูกแมลงคุณไสยกัดกินชีพจรเซียนนั้นทั้งเจ็บปวดทั้งเจ็บใจ เจ็บใจที่เห็นว่ามันทำอะไรแต่กลับแก้ไขไม่ได้
“ไหนเจ้าว่าจะชวนข้าไปห้องนอนของเจ้าสองต่อสองไม่ใช่หรือ” เธอเอ่ยเสียงหวานชวนเคลิบเคลิ้ม แต่ชายคนนี้ฟังแล้วเหมือนกับปีศาจกำลังเรียกหา
“ข้า ข้าไม่กล้าแล้ว ได้โปรด ข้าขอโทษ ข้า-”
“แต่ข้าเป็นหญิง และก็ได้รับความเสียหายจากวาจาของเจ้า เจ้าจะรับผิดชอบอย่างไร” เหมยเหมยเอ่ยเสียงหวานฟังดูเหมือนกับการออดอ้อนคนรักมากกว่า
เพราะว่าคุณไสยไม่ได้ทำอันตรายต่อร่างกายให้เห็นภายนอก เขาจึงไม่ถูกส่งออกไปนอกเขตสนาม และเมื่อคุณไสยฝังเข้าไปในร่าง ชุดป้องกันก็ไม่สามารถตรวจจับการทำอันตรายของคุณไสยได้แล้ว
“ข-ข้า… ข้าขอโทษ เจ้าต้องการอะไรข้าก็จะยกให้ทั้งหมด” เขากล่าวอย่างไม่ได้ศัพท์ สร้างความงงงันให้กับคนทั้งสนามว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่คนจากสำนักเซียนคุณไสยกลับสายตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น
พวกเขามัวแต่ใช้คุณไสยตัวใหญ่ๆไม่กี่ตัวเพื่อใช้พลังโค่นล้มศัตรู ไม่เคยคิดจะใช้แมลงตัวเล็กๆจำนวนมากเหล่านี้ซอกซอนไปหาจุดอ่อนคู่ต่อสู้เลยจริงๆ และทันทีที่แมลงเหล่านั้นเกาะเสื้อผ้าอีกฝ่ายได้ พวกเขาก็รู้ว่าชายคนนี้จบแล้ว
แมลงที่เกาะอยู่นั้นเป็นพลังเซียนจำแลงรูปแมลงคุณไสย
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ส่งคาถาที่เจ้าใช้ทั้งหมดนี้มาให้ข้า ข้าเห็นว่าน่าเล่นนัก เมื่อข้าอ่านพอใจแล้วข้าค่อยคืนให้เจ้าดีไหม” เหมยเหมยกล่าว
“ด-ด-ได้” ชายคนนี้ไม่กล้าปฏิเสธ รีบส่งหนังสือให้กับเหมยเหมย ซึ่งใช้ผีเสื้อสองตัวเข้าไปรับจากมือของอีกฝ่าย
เหมยเหมยไม่ใช้มือจับหนังสือแต่เปิดแหวนมิติดูดเอาหนังสือเข้าไปจากผีเสื้อในทันที
เธอหันหลังกลับเดินลงเวที พร้อมกับดึงแมลงคุณไสยในร่างของอีกฝ่ายมาจนเกือบหมด เหลือไว้เพียงจุดเดียว คือจุดชีพจรที่ยับยั้งการใช้พลังไฟของอีกฝ่าย แต่แมลงคุณไสยที่เธอดึงกลับมานั้นก็ดูดพลังเซียนของอีกฝ่ายมาจนอิ่ม
แมลงทั้งหมดบินเข้าไปในร่างของเธอ แต่ในเวลานั้นอีกฝ่ายพลันตวาดก้องต่อยหมัดออกพร้อมกับหมัดที่เปลี่ยนเป็นสีทอง