ตอนที่แล้วเล่ม1 : บทที่ 42 – ปลีกตัวออกห่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม1 : บทที่ 44 – เย่อหยิ่ง

เล่ม1 : บทที่ 43 – ความประหลาดใจ


กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 43ความประหลาดใจ

การพัฒนาร่างกายของโนอาห์เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากการปลีกตัวออกห่างไปราวหนึ่งเดือนครึ่ง

อย่างแรกคือวัฏจักรที่ห้าของเขาสิ้นสุดลงแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากสารสกัดจากสัตว์ทั้งสิบสองขวดและยากำลังภายในสองขวดควบคู่กับการดูดซับจากจุดฝังเข็มตลอดเวลาหนึ่งเดือน วัฏจักรที่ห้าจึงสมบูรณ์ภายในเวลาไม่ถึงสามเดือน!

อย่างที่สองได้เกิดขึ้นในวันเดียวกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เอง เขาฝึกฝนอักษรรูนคีเซอร์จนภาพที่ปรากฏในทะเลแห่งสตินั้นสมบูรณ์แล้ว หลังจากนั้นก็มีเสียงฮัมเพลงเบาๆ ดังออกมาจากข้างในและก้องกังวาลไปทั่วทรงกลมจิตใจของเขาทำให้มันสั่นและขยายวงกว้าง โนอาห์รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาในศีรษะของเขาและอดทนจนกระทั่งความเจ็บปวดนั้นหายไปและทรงกลมหยุดสั่น

โลกที่เขาเห็นหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้กลับต่างไปจากเดิม แม้อยู่ในเวลากลางคืนเขามองเห็นหลายสิ่งเรียกได้ว่าเกือบจะชัดเจนเช่นตอนกลางวันและเห็นรายละเอียดบนสิ่งนั้นๆ ด้วย

เขาหยิบดาบขึ้นมาเล่มหนึ่งและตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนหน้านี้เขาเห็นใบดาบสีดำมีพื้นผิวที่เรียบเนียนมากแต่ตอนนี้เขากลับมองเห็นรอยบุ๋มรอยเว้าตามจุดต่างๆ บนใบดาบ เขาวางดาบลงและตั้งสมาธิในการรับฟังและการรับรู้ เขารู้สึกถึงทุกคนในชั้นนี้! ถ้าเขาตั้งสมาธิได้มากพอเขาอาจได้ยินเสียงฝีเท้าคนรับใช้ที่เดินอยู่ห่างออกไป

เขารู้สึกถึงลมที่ไหลเข้าไปในปอด เลือดที่กำลังไหลเวียนไปทั่วร่างกาย และ “ลมหายใจ” ที่กำลังเติมเต็มร่างกายเขา แม้แต่ความคิดของเขาเองก็ดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างราบรื่นและรวดเร็วเช่นกัน

เขาลองเคลื่อน “ลมหายใจ” ตามศิลปะการต่อสู้ด้วยนิ้วมือและเขาสังเกตเห็นร่องรอยจางๆ เป็นสีรุ้งลอยอยู่ในอากาศ

‘นั่นคือลมหายใจแห่งสวรรค์และโลกหรือ? ฉันมองเห็นด้วยงั้นหรือ?’

เขาประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า

‘ไม่สิ นั่นมันความหนาแน่นของ “ลมหายใจ” ที่อยู่ในร่างกาย ไม่รู้ว่าคนอื่นก็รู้สึกได้ง่ายๆ เหมือนกับที่ฉันรู้สึกได้ไหม’

จากนั้นเขาก็นอนลงบนเตียงเพื่อพักผ่อนเนื่องจากจิตใจของเขายังคงสับสนเล็กน้อยจากการพัฒนาร่างกายนี้

‘ปัญหาตอนนี้ก็คือ พรุ่งนี้จะบอกอาจารย์ยังไง...’

* * * * *

“อะไรนะ?! มันเป็นไปได้ยังไงที่เจ้าสำเร็จวัฏจักรที่ห้าแล้ว?” วิลเลียมอ้าปากค้างและกำลังยืนอยู่ตรงหน้าโนอาห์ ณ ห้องฝึกฝน

“มันเป็นไปได้ยังไง? แม้จะกินยากำลังภายในเข้าไปก็เถอะ แต่นั่นอย่างน้อยก็อีกสองเดือน! กว่าวัฏจักรขั้นที่ห้าจะสมบูรณ์ เจ้ามั่นใจรึว่าจุดฝังเข็มหยุดทำงานแล้วจริงๆ น่ะ?”

โนอาห์พยักหน้าจากนั้นก็หายใจเข้าออกแรงเพื่อสงบตัวเอง เขาหยิบบางสิ่งออกมาจากข้างในเสื้อและชูให้อาจารย์ดู

วิลเลียมยังรู้สึกตกใจกับบทสนทนาเมื่อครู่ เขาเพียงจ้องมองมือของโนอาห์โดยนึกไม่ออกเลยว่าที่อยู่ในมือนั่นคืออะไร จากนั้นเขาก็สังเกตว่ามีบางอย่างแปลกไปจึงหยิบแผ่นกระดาษที่โนอาห์ยื่นให้เขา เขาคลี่กระดาษออกและมองอักษรรูนคีเซอร์ที่เขียนอยู่บนนั้น เขาขมวดคิ้วและสบตาโนอาห์ด้วยสีหน้าที่ดูสับสน

“เจ้าล้มเลิกความคิดที่อยากจะเป็นจอมเวทย์แล้วงั้นรึ?”

โนอาห์ทำได้เพียงเผยรอยยิ้มแปลกๆ พร้อมทั้งมองไปรอบๆ เล็กน้อย จากนั้นก็เข้าไปใกล้อาจารย์และกระซิบเบาๆ

“จริงๆ แล้วข้าอยากได้รูนถัดไปน่ะขอรับเพราะข้ากลายเป็นจอมเวทย์แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา”

หลังจากนั้นก็เกิดเสียงตะโกนดังขึ้นจนทำให้กำแพงสั่นสะเทือนสนั่นไปทั่วตึกผู้พิทักษ์ แม้แต่ทหารที่อยู่ในลานก็ยังรู้สึกว่าเสียงนั่นคล้ายกับเสียงของรองสารวัตร

ในห้องฝึกฝน โนอาห์กำลังนั่งคุกเข่าพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ใช้ปิดหู เขากำลังรอให้อาจารย์ของเขาหลุดออกจากความประหลาดใจและรอเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่เปล่งเสียงอันน่าสะพรึงนั่นออกมาอีกเป็นครั้งที่สอง

วิลเลียมหายใจไม่เป็นจังหวะพร้อมกับดวงตาทั้งสองที่เบิกโพลง แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็สงบสติอารมณ์ลงและมองไปยังหน้าผากของโนอาห์ จ้องมองด้วยสายตาที่จริงจัง

โนอาห์รู้สึกถึงแรงกดดันที่ทะเลแห่งสติดังนั้นเขาจึงใช้พลังงานจิตเพื่อปกป้องทรงกลม การต่อสู้ระหว่างแรงกดดันภายในและภายนอกดำเนินต่อไปครู่หนึ่งก่อนที่วิลเลียมจะหยุดการตรวจสอบและนั่งลงตรงหน้าโนอาห์พร้อมกับสีหน้าที่แสดงถึงความไม่เชื่อสายตา

“เจ้าทำสำเร็จแล้วจริงๆ”

โนอาห์เพียงพยักหน้า เขาไม่สามารถให้คำอธิบายเรื่องนี้ได้

“หากฉายาของข้าคืออัจฉริยะหาตัวจับได้ยาก ถ้าอย่างนั้นควรเรียกเจ้าว่ายังไงดีล่ะ?”

วิลเลียมครุ่นคิดก่อนที่เขาจะเข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริงเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้

“ข้าจะหาข้ออ้างเพื่อรับสำเนาของรูนที่สอง ต้องห้ามให้เขตในรู้ว่าเจ้าเป็นจอมเวทย์แล้ว มันอันตรายเกินไป”

เขายังคงไม่รู้ว่าสิ่งที่เขากำลังทำนั้นคือการโกหกผู้บังคับบัญชาของเขาเอง

“จากนั้น หลังจากที่ผ่านการรักษาขั้นที่หกแล้ว มันคงดีกว่าหากเจ้าจะอยู่แต่นอกนอกคฤหาสน์เพื่อทำภารกิจ ความเป็นไปได้ที่ตระกูลจะมอบคัมภีร์เวทมนตร์ให้เจ้านั้นต่ำมาก ทางที่ดีคือสะสมคุณสมบัติไว้ให้มากก่อนที่เจ้าจะรู้ว่าตัวเองมีธาตุอะไร เจ้าไม่มีทางรู้หรอก พวกเขาอาจจะยอมรับเจ้าในฐานะทายาทที่แท้จริงก็เป็นได้!”

วิลเลียมกำลังวางแผนหนทางที่ดีที่สุดให้กับลูกศิษย์ โดยไม่ได้สนใจเลยว่าคำพูดของเขาจะกลายเป็นการทรยศต่อพวกเดียวกันเอง

โนอาห์กำลังมองชายที่เอาแต่พึมพำอยู่ตรงหน้า มันทำให้เขาอดรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เกิดขึ้นภายในใจไม่ได้

‘เขาเป็นอาจารย์ที่ดีมาก ถ้าฐานะของเขากับตระกูลไม่แน่นแฟ้นพอ... บางที ฉันอาจทำให้เขาเดือดร้อนตอนที่ฉันเลือกที่จะวิ่งหนีไป’

วิลเลียมหยุดการวางแผนเมื่อสังเกตเห็นลูกศิษย์จ้องมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มที่ธรรมดาและจริงใจบนใบหน้า

“มองอะไร?”

โนอาห์เพียงตอบกลับสั้นๆ “ขอบคุณนะขอรับ”

วิลเลียมงุนงงเล็กน้อยจากนั้นก็ยิ้มและส่ายหน้า เขาวางมือบนศีรษะของโนอาห์ ลูบผมเขาเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง

“เจ้าพยายามได้ดี ซึ่งเหมาะควรที่จะได้รับรางวัลตอบแทน และหากสรรค์และโลกไม่ยอมมอบให้เจ้า งั้นข้าเองที่จะเป็นคนทำ”

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในใจของรองสารวัตรแห้งผู้พิทักษ์ที่มีก่อนหน้านี้ได้รับการคลายผ่อนแล้ว

‘หากมนุษย์ไม่ยุติธรรม ก็ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยข้าก็ทำในส่วนที่ถูกต้องแล้ว’

โนอาห์ไม่อาจหยั่งรู้ความสงสัยของอาจารย์ได้ เช่นนั้นเขาจึงไม่เข้าใจประโยคดังกล่าว

วิลเลียมลุกขึ้นยืนและฮัมทำนองเพลงที่มีความสุข จากนั้นก็นั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่งในห้องเพื่อเรียบเรียงรายงาน แต่หลังจากนั้น เขาก็มองไปยังเด็กหนุ่มที่ยังคงยืนอยู่กลางห้อง

“มีอะไร?” เขายังคงยิ้มขณะถาม

“เอ่อ ท่านอาจารย์ เราเข้าสู่การรักษากันวันนี้เลยได้หรือไม่ขอรับ?”

ความสุขที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ของวิลเลียมถูกลบล้างไปและถูกแทนที่ด้วยความขุ่นเคืองอย่างเช่นที่เคยรู้สึก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด