GOI ตอนที่ 106 ในที่สุดก็ได้เจอหูเซียนเอ๋อร์!
“นั่นใคร! ใครกำลังพูด!?”
เมื่อนางได้ยินเสียงของผู้ชาย ดรุณีน้อยตกใจถึงขั้นร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความกลัว นางแทบจะปาขยะในมือใส่ป๋ายเสี่ยวเฟย
“จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากถังขยะเบื้องหน้าเจ้า”
ขณะที่ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ย สายตาของดรุณีน้อยหันไปหาทิศทางของเสียง
“เจ้าหลอกใครอยู่? ถังขยะที่ไหนจะพูดได้? บอกมาว่าเจ้าหลบอยู่ที่ใดกันแน่? ไม่มีจุดจบที่ดีสำหรับศิษย์ชายที่บุกรุกหอพักหญิง เชื่อข้าเลย ข้าจะเรียกท่านป้ามา!”
ท่านป้าที่นางเอ่ยถึงคือเทพแห่งกำแพงสวรรค์ในสายตาของศิษย์ชาย
“แต่ข้าคือถังขยะเบื้องหน้าเจ้าจริงๆ เคยได้ยินหรือไม่ว่าทุกสรรพสิ่งในโลกล้วนมีวิญญาณสิงสถิต? ข้าแค่พิเศษอยู่บ้าง”
ดรุณีน้อยเดินมาหาช้าๆ ภายใต้วาจาเหลวไหลของป๋ายเสี่ยวเฟย นางทำท่าราวจะเอื้อมมือออกไปจับ
“จะดีที่สุดหากเจ้าไม่แตะต้องข้า สติสัมปชัญญะของข้าอ่อนแอเป็นอย่างมากในขณะที่พลังธาตุหยินของเจ้าแข็งแกร่งเกินไป เป็นไปได้สูงว่าเจ้าจะทำให้สติของข้ากระจัดกระจาย”
ป๋ายเสี่ยวเฟยร้องให้ดรุณีน้อยหยุดมือ แต่ความสงสัยของนางยังอยู่
“แปลก เหตุใดเสียงของเจ้าคุ้นเคยเหลือเกิน?”
ศิษย์หญิงเกาศีรษะพลางเอ่ย ความคิดนับล้านพรั่งพรูเข้าในใจป๋ายเสี่ยวเฟย
‘บัดซบ! ข้าโด่งดังเกินไปหรือ!?’
“หมายความว่าระหว่างเรามีชะตาต้องกัน เจ้าช่วยข้าหน่อยได้หรือไม่?”
ขณะที่เขาแก้ตัวข้างๆ คูๆ ป๋ายเสี่ยวเฟยชักจูงบทสนทนาสู่ประเด็นหลัก
“พูดมา หากไม่ยากเกินไปก็พอพิจารณาได้”
ดรุณีน้อยยังคงเคลือบแคลงอยู่เล็กน้อย แต่เขาโชคดีที่ศิษย์หญิงผู้นี้ใจดีเพราะหากเป็นคนเช่นชีเว่ย ป๋ายเสี่ยวเฟยคงถูกลากไปชำแหละนานแล้ว
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สติของข้าแทบมอดม้วยดับสิ้นมลายหายไป ทันใดนั้นเองมีโฉมสะคราญที่เป็นนักเชิดหุ่นสายแปลงกายในร่างจิ้งจอกช่วยชีวิตข้าไว้ แต่ข้าไม่ได้เจอนางมานานแล้ว หวังว่าเจ้าจะช่วยข้าตามหานาง ข้ารู้ว่านางอยู่ใน...”
ป๋ายเสี่ยวเฟยยังพูดจาเหลวไหลไม่จบก็เป็นดรุณีน้อยที่เผยสีหน้ารู้แจ้งโดยฉับพลัน!
“อ๊า! ข้ารู้แล้วว่าเจ้าคือใคร!!! ป๋ายเสี่ยวเฟย! ใช่หรือไม่!? เจ้ากำลังมองหาพี่หญิงเซียนเอ๋อร์! คิดอยู่เชียวว่าเหตุใดเสียงคุ้นหูนัก!”
ขณะที่นางเอ่ย สุ้มเสียงแฝงความเหยียดหยัน
ในใจป๋ายเสี่ยวเฟยเต็มไปด้วยความขมขื่น
‘ข้าจบแล้ว ทำพลาดไป! ข้าจบสิ้นแล้ว!’
“เอ่อ... นั่น...”
“ช่างกล้าหาญชาญชัยเหลือเกิน! แถมยังบ้าบิ่นถึงกับมาหาคนในหอพักหญิง แต่ไม่ต้องกังวล ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง แต่ต้องจำไว้ว่าจะต้องตอบแทนข้าภายหลัง!”
เมื่อดรุณีน้อยมั่นใจว่าถังขยะคือป๋ายเสี่ยวเฟย นางมีสีหน้าตื่นเต้น
แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่ได้สนใจข้อเรียกร้องของนางเพราะมีเพียงความยินดีในใจเขา!
“ได้ ได้ ก็ได้! ตราบใดที่เจ้ายินยอมจะช่วยข้าและสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ข้าจะยอมทำที่เจ้าขอ!”
“ฮ่าๆ ! เดาถูกด้วย! เจ้าคือป๋ายเสี่ยวเฟยจริงๆ !”
นางร้องเสียงหลงอีกคราด้วยความประหลาดใจ กลายเป็นว่านางแค่อำป๋ายเสี่ยวเฟยเล่นเมื่อครู่...
ป๋ายเสี่ยวเฟยปรารถนาเพียงจะตบหน้าตัวเองสักฉาด
‘ข้าเฉลียวฉลาดตลอดเวลา เหตุใดข้ามาโง่เอาตอนนี้!?’
“เอ่อ... สหายนักเรียน เจ้าบอกว่าจะช่วยข้า!”
“ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกังวล ลูกพี่ป๋าย ท่านถึงกับเสี่ยงชีวิตมาที่นี่ และไม่ว่าจะมองอย่างไรท่านก็เคยช่วยข้าไว้ เรื่องเล็กๆ นี้ข้าต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว”
ดรุณีน้อยหัวเราะในลำคอพลางเผยสีหน้าที่ป๋ายเสี่ยวเฟยเห็นได้บ่อยครั้งในชีเว่ย
‘จบกัน วิญญาณสอดรู้สอดเห็นของนางถูกจุดขึ้นแล้ว!’
แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยในปัจจุบันไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ เขาหวังเพียงว่าดรุณีน้อยจะรักษาสัญญาและช่วยเหลือเขาใน ‘เรื่องเล็กๆ ’
“ลูกพี่ป๋าย รอก่อน ข้าจะไปพาพี่หญิงเซียนเอ่อร์มาหาท่าน!”
ศิษย์หญิงยิ้มราวกับได้พบเจอเรื่องที่น่าสนใจที่สุดในโลก นางวิ่งไปกระโดดไปกลับหอพักหญิง
ป๋ายเสี่ยวเฟยถอนหายใจยาวเหยียดพลางรอด้วยความกระวนกระวายในใจ เขารู้สึกว่าหญิงสาวไม่เรียบง่ายอย่างที่เห็น และเขาจะได้ประสบเรื่องน่าหวาดหวั่นในไม่ช้า
ขณะที่เขาคิด ป๋ายเสี่ยวเฟยเริ่มคิดแผนรับมือต่อสถานการณ์ต่างๆ เพราะผู้ที่พร้อมย่อมสามารถหลีกเลี่ยงภยันอันตราย!
ขณะเดียวกัน ดรุณีน้อยวิ่งกลับไปในหอพักแต่ไม่ได้กลับไปหาหูเซียนเอ๋อร์ในทันที นางวิ่งไปยังห้องของตนด้วยความตื่นเต้นก่อนจะพูดใส่สีตีไข่เรื่องป๋ายเสี่ยวเฟยให้ทุกคนในห้องได้ทราบ
หลังจากนั้น เพลิงสอดรู้สอดเห็นของทุกคนถูกจุดด้วยดรุณีน้อย และทั้งหมดกระโจนออกไปป่าวประกาศอย่างกระตือรือร้นให้ญาติสนิทมิตรสหายรับรู้โดยทั่วกัน...
เครือข่ายสายสัมพันธ์ของผู้หญิงใหญ่โตเพียงใด? ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที หลายเรื่องราวของ ‘ป๋ายเสี่ยวเฟยตามจีบหูเซียนเอ๋อร์‘ กลายมาเป็นข้อถกเถียงที่ทุกคนในหอพักรู้กันถ้วนหน้า
แน่นอน ดรุณีน้อยกล่าวได้ว่าทำภารกิจสำเร็จเพราะหูเซียนเอ๋อร์รู้ข่าวนี้เช่นกัน
พร้อมกับความฉงนระคนตื่นเต้นในใจ หูเซียนเอ๋อร์สวมใส่อาภรณ์ด้วยความลังเลเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ในขณะเดียวกัน ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้สึกราวกับหัวของเขากำลังจะระเบิด
เขาได้คาดเดาถึงสถานการณ์หลากชนิด แต่ฉากเบื้องหน้าไม่ได้อยู่ในใจของเขาแม้แต่น้อย! ศิษย์ใหม่ร้อยกว่าๆ กระซิบกระซาบอยู่รอบตัวเขาราวกับกำลังอยู่ในสวนสัตว์ คำถามนับไม่ถ้วนส่งเสียงดังให้ได้ยิน ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่กล้าแม้แต่จะเปิดปากพูด
หากเขาส่งเสียงออกมาก็ไม่ต่างอันใดกับรนหาที่ตาย!
‘บัดซบ! คำพูดของผู้หญิงเชื่อถือไม่ได้จริงๆ ! โดยเฉพาะเมื่อนางเอ่ยว่าจะไม่บอกคนอื่น!!!’
“ลูกพี่ป๋าย ท่านเพิ่งพูดกับข้าเมื่อครู่ หากตอนนี้ไม่เปิดปากข้าก็แย่น่ะสิ!”
ดรุณีที่คุยกับป๋ายเสี่ยวเฟยตอนนั้นขยับตัวมาอยู่เบื้องหน้า ทั้งใบหน้าแฝงความกังวลใจเพราะถ้าป๋ายเสี่ยวเฟยไม่เอ่ยปาก นางต้องถูกกล่าวหาว่าพูดโป้ปดปล่อยข่าวลือเป็นแน่แท้
แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยก็ยังไม่มีปฏิกิริยา
‘ผู้หญิงบ้า! ขุดหลุมข้าเช่นนั้นแล้วยังหวังให้ข้าตอบอีก!?’
‘ดีที่สุดแล้วหากเจ้าถูกผู้คนตีตัวออกห่าง!’
แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยได้คิดเรื่องราวตื้นเขินเกินไป วิธีทรมานที่ดรุณีน้อยครอบครองนั้นมากมายกว่าผู้ชายเยอะ ยังไม่เอ่ยถึงเรื่องที่ป๋ายเสี่ยวเฟยอยู่ในอาณาเขตของนาง
“ท่านป้าอยู่ข้างนอก หากพวกเราไม่ช่วยเจ้าหลบซ่อน เจ้าคิดว่านางจะมองผ่านวิชาแปลงกายของเจ้าได้ไหมหากนางอยู่เบื้องหน้าเจ้า?”
ประโยคเดียวทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยยอมแพ้ทันที...
“เจ้าอยากให้ข้าพูดอะไร!?”
ป๋ายเสี่ยวเฟยกัดฟันแน่นกรอดพลางเอ่ย แค่ประโยคง่ายๆ เท่านี้ก็เพียงพอให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองรุนแรงจากดรุณีโดยรอบ
“ว้าว! มันพูดได้จริงด้วย!”
“ฟังจากเสียง เหมือนป๋ายเสี่ยวเฟยผู้นั้นจริงๆ !”
“ว้าว! โรแมนติคเหลือเกิน! เขาตามนางมาถึงหอพักหญิงเชียว!”
“...”
เสียงมากมายดังขึ้นเป็นท่วงทำนองขณะที่ป๋ายเสี่ยวเฟยอยากจะฆ่าตัวตายให้จบๆ ไปเสีย ไม่ต้องให้เขาคิดก็รู้ว่าเขาจะต้องโด่งดังในคืนวันรุ่งขึ้นเป็นแน่แท้...
แต่ในวินาทีที่ป๋ายเสี่ยวเฟยสิ้นหวัง หูเซียนเอ๋อร์เดินเข้ามา
ป๋ายเสี่ยวเฟยมองหน้าเรียวงามปานหยกไร้ที่ติของหูเซียนเอ๋อร์ เขาพลันรู้สึกโล่งอกในใจ เขาถอนความสามารถจำลองทัศนียภาพของเสี่ยวเฮยออกโดยลืมคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา...