บทที่ 147.2 ปาฏิหาริย์เทพเจ้าดงซูบิน(2)
บทที่ 147.2 ปาฏิหาริย์เทพเจ้าดงซูบิน(2)
ผู้แปล loop
เซงอังเการู้ว่าเขาไม่สามารถให้เหตุผลกับนักเรียนเหล่านี้และพยายามพูดกับพวกเขาอย่างดี แต่เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่นักเรียนพูดเขาก็โกรธมาก ‘ไอ้พวกเปี๊ยกเหล่านี้มันช่างนิสัยเสียและไม่มีเหตุผลเลย แต่เซงอังเกาไม่สามารถโต้เถียงกับพวกเขา เพราะผู้นำของสาขาเพิ่งได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาเพราะมีคดีทุจริตก่อนหน้านี้ และเหตุการณ์ที่หลานชายของหัวหน้าเจียงก็พึงเคลียร์จบไปเท่านั้น เขาไม่สามารถปล่อยให้สาขาประสบปัญหาอีกต่อไป ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลทั้งหมดนี้เขาก็จะไม่สนใจไอพวกเด็กนี้เลยและก็จะส่งตัวกลับไปให้ผู้ปกครองทั้งหมด ไอเปี๊ยกเหล่านี้คือคนที่เริ่มเหตุการณ์นี้และสาขาเองก็ไม่ได้ผิดอะไร พวกเขาเป็นคนที่ปฏิเสธที่จะไปและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสาขา’
เซงอังเกาไม่สามารถทำให้หัวหน้าเจียงผิดหวังได้อีกต่อไป! เขาไม่สามารถรอให้ผู้ปกครองและญาติของของนักเรียนเหล่านี้มาได้! เขาต้องแก้ไขเหตุการณ์นี้ถ้าอย่างงั้นเขาจะอธิบายต่อผู้ปกครองและญาติ!
หลังจากออกจากห้องเก็บของแล้ว เซงอังเกาก็ได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าเจียง
“ทำไมนักเรียนพวกนั้นถึงยังไม่ออก! มันนานแค่ไหนแล้ว?!”
“หัวหน้าเจียงเราต้องการให้พวกเขาไป แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะออกไป พวกเขายังปฏิเสธเราจากการถอดกุญแจมือด้วย”
“สาขาของนายกำลังทำอะไรอยู่? อา?! ทำไมพวกนายถึงสร้างปัญหามากมายให้กับฉัน! ฉันไม่สนใจสิ่งที่นายทำ สิ่งนี้จะต้องถูกจัดการทั้งหมดในตอนนี้! ปล่อยพวกเขาทันที! ฉันจะให้เวลานายทั้งหมด 20 นาทีเพื่อแก้ไขปัญหานี้!” หัวหน้าเจียงวางสาย
ผู้นำและพนักงานทุกคนยืนอยู่ที่นั่นดูกันและกันโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ทุกคนรู้ว่าต้องปล่อยให้นักเรียนเหล่านี้ออกไป สาขาไม่สามารถเสียชื่อเสียงที่ได้อีกแล้ว ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสาขาถ้าสิ่งนี้ไม่ได้รับการแก้ไข เด็กเหล่านี้ปฏิเสธที่จะฟังใครและครอบครัวของพวกเขาต่างก็อยู่ในระดับผู้บริหารระดับสูงกว่าหัวหน้าเซง ดังนั้นการใช้กำลังไม่ใช่คำจตอบ แล้วทางสาขาจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี?
‘เป็นไปไม่ได้!’
ไม่มีใครอยากกล้าก้าวไปข้างหน้าเพราะไม่มีใครรู้วิธีแก้ไขปัญหานี้
ผู้บริหารในสาขาทั้งหมดปิดปากเงียบ
1 วินาที……
2 วินาที……
3 วินาที……
ปางปิงล้างคอของเขาเพื่อทำลายความเงียบงันและทุกคนรวมถึงหัวหน้าเซง, เสี่ยวหยาน และ เฉิงไห่เหม่ย มองเขา เขาหยุดชั่วครู่หนึ่งและพูดถึงชื่อ “อย่างงั้นเราควรเรียกหัวหน้าซูบินมาช่วยจะดีกว่าไหม?”
หลายคนจู่ ๆ ก็นึกถึงดงซูบิน
ถูกตัอง! สาขาเขตตะวันตกยังคงมีหัวหน้าซูบิน!
ทำไมพวกเขาถึงไม่นึกถึงชื่อนี้เร็วกว่านี้!
แต่เมื่อทุกคนจำหัวหน้าซูบินได้พวกเขาก็หันไปมองหัวหน้าเซง เพราะหัวหน้าเซงเพิ่งลงโทษหัวหน้าซูบินไปเมื่อวานนี้
เซงอังเกาขมวดคิ้ว เขาไม่เชื่อว่าดงซูบินจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ นี่ไม่ได้เกี่ยวกับความสามารถของเขาเลย ซูบินนั้นไม่มีเส้นสายอะไรเลยเขาจะถูกไล่ออกจากห้องไปเฉยๆ แต่ เซงอังเกานั้นไม่มีทางเลือกอื่น เขาหันกลับมามองคนของเขา:“เรียกซูบินมาที่นี้!”
เสี่ยวหยาน มองที่เซงอังเกา เธอไม่ได้โทรหาซูบิน ‘คุณนึกถึงซูบินเมื่อคุณเจอปัญหาสินะ’
ตอนนีมีคนโทรเข้าไปที่สำนักงานกิจการทั่วไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่าซูบินอยู่ไหน เพราะเขาไม่ได้อยู่ในสำนักงาน
เซงอังเกาตะโกนให้หยานเหล่ย และคนอื่น ๆ :“ไปตามหาเขาใส! ลองขึ้นไปชั้นบนแล้วตามหาเขาให้เจอ!”
ที่จริงแล้ว ดงซูบินนั้นนั้นดูเหตุการณ์จากหน้าต่างห้องน้ำ เขารู้ว่าสาขากำลังมีปัญหาอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นหยานเหล่บและคนของสำนักงานอีกสองสามคนวิ่งกลับไปมากที่ตึก เขาจึงแสร้งทำเป็นถอดกางเกงและรีบเข้าไปในห้องน้ำ
5 นาทีต่อมาประตูห้องน้ำถูกเปิดออก!
หยานเหล่ยหอบมากและมองเขาอย่างจริงจัง “ดงซูบิน! ทำไมนายถึงยังอยู่ที่นี่! มากับฉันตอนนี้! หัวหน้าเซงกำลังมองหาหายอยู่!”
ดงซูบินจ้องไปที่เขา:“ทำไมนายถึงตะโกนอย่างงั้น? นายไม่เห็นว่าฉันกำลังทำธุระหนักอยู่”
หยานเหล่ยไม่ต้องการให้ดงซูบินเกินหน้าเกินตาตัวเขา แต่นี่เป็นคำสั่งของหัวหน้าเซง นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าดงซูบิน ไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน “เร็วเข้า! หัวหน้ากำลังรอนายอยู่! หยุดเสียเวลาได้แล้ว!”
“เอ๋นายไม่เข้าใจฉันหรือยังไงกัน?” ดงซูบินโกรธจัด “ตอนนี้ฉันปวดท้องมาก! ฉันจะรีบออกมาไปได้อย่างไรกันเหล่า?”
หยานเหล่บชี้ไปที่เขา:“นายนี้มัน! นายคิดว่านายเก่งมาจากไหนเชียว! แม้แต่หัวหน้าเซงก็ยังโทรหานายไม่ได้!”
“เวรเอ๋ย แก! หยุดใช้ชื่อของหัวหน้ามาข่มฉันสักที! นอกจากการใช้ชื่อหัวหน้าแกทำอย่างอื่นเป็นบ้างไหม”
หยานเหล่บ ตะโกน:“ได้!” เขาหันหลังออกไป
ตอนนี้ ดงซูบินลืม ไม่ใช่แค่ ‘หยานเหล่ยเท่านั้นที่ได้รับรางวัล แต่ฉันกับถูกลงโทษ? นี่มันมากเกินไปแล้ว! เวรเถอะ! ตอนนที่มีปัญหาและทุกคนก็คิดถึงฉัน? แล้วทุกคนมั่วทำอะไรกันอยู่ตั้งแต่แรก! เวรเถอะ! พวกคุณสร้างความยุ่งเหยิงนี้และต้องการให้ฉันไปแก้ไขปัญหาให้อย่างงั้นหรอ? แล้วฉันจำเป็นจะต้องช่วยคนที่มีอคติในตัวฉันด้วยหรอ? ไม่มีใครจดจำกผลงานของฉันและฉันยังคงถูกลงโทษ? และสุดท้ายก็ต้องการให้ฉันช่วยคุณทั้งหมดตอนนี้หรอ ลืมมันไปซะเถอะ! ฉันไม่ใช่คนโง่นะ!’
ดงซูบินตัดสินใจที่จะไม่สนใจพวกเขา ‘ฉันไม่สนใจพวกนั้นหรอก’!
ดงซูบินไม่ต้องการให้ความช่วยเหลือเนื่องจากความโกรธของเขาที่มีต่อการปฏิบัติตัวของหัวหน้าเซงที่มีต่อเขาและเขาก็ไม่รู้วิธีแก้ไขปัญหานี้ด้วย นักเรียนเหล่านี้ล้วนมีเส้นสายที่แข็งแรง อีกทั้งเขาก็ไม่รู้จะพาเด็กพวกนี้กลับไปอย่างไร
แต่หลังจากคิดถึงเหตุการณ์นี้ซักพักแล้วดงซูบินก็รู้สึกว่าเขาไม่ควรทำเช่นนี้ หัวหน้าแผนกทั้งหมดของสาขากำลังรอเขาอยู่ข้างนอกและถ้าเขายังคงพยายามซ่อนตัวเขาจะทำให้หัวหน้าทั้งหมดขุ่นเคือง นอกจากนี้ดงซูบินยังโกรธเคืองกับการตัดสินใจของหัวหน้าเซงเพียงเท่านั้น
ดงซูบินรีบใส่กางเกงแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
หยานเหล่ย มาถึงทางเข้าแล้ว
หัวหน้าเซง และคนอื่น ๆ มองดูเขา “ซูบินอยู่ที่ไหน นายพบเขาหรือยัง”
“ผมพบเขาแล้ว” หยานเหล่ย ตอบโต้ด้วยความโกรธ “เขาอยู่ในห้องน้ำ ผมบอกเขาว่าหัวหน้าทั้งหมดกำลังรอเขาอยู่และมีบางอย่างเร่งด่วนที่เขาจะต้องมาแก้ไข แต่เขากลับปฏิเสธที่จะออกมา!”
ปฏิเสธที่จะออกมา? ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นสีเขียว
‘หัวหน้าซูบินงจะต้องโมโหอยู่แน่กับเรื่อวรายชื่อโปรแกรมแลกเปลี่ยน แต่…… แต่ดงซูบินน่าจะคิดภาพที่กว้างขึ้น เขาไม่ควรดูหมิ่นหัวหน้าทั้งหมด’
เสี่ยวหยานคิดอยู่พักหนึ่งแล้วโทรหาดงซูบิ บนมือถือของเขา แต่ไม่มีใครตอบ
เสี่ยวหยาน โทรเรียกถึง 3 ครั้ง แต่ไม่มีใครตอบ ทันใดนั้นเธอเห็นดงซูบินวิ่งออกจากอาคารหลักมาหาพวกเขา
เซงอังเกาโกรธกับท่าทางของดงซูบิน “หัวหน้าซูบิน! คุณมั่วไปทำอะไรอยู่! เราทุกคนรอคุณอยู่”
ดงซูบินหยุดชั่วครู่และเห็นทุกคนจ้องมองเขา “หัวหน้าเซง คุณกำลังพูดเรื่องอะไร”
เสี่ยวหยานถามว่า:“ทำไมนายมาช้าจัง”
ดงซูบินตอบว่า:“ผมปวดท้องและกำลังเข้าห้องน้ำ เมื่อเลขานุการหยานมาหาผมผมกำลังทำธุระได้ครึ่งทางแล้ว เมื่อฉันได้ยินว่าหัวหน้ากำลังตามหาผม ก็รีบล้างทุกอย่างและล้างมือ ผมไม่ยอมเสียวเวลาแม้แต่วินาทีเดียว หัวหน้าเสี่ยว หัวหน้าคงไม่อยากเห็นผมวิ่งออกมาทั้งๆที่ถอดกางเกงอยู่หรอกใช่ไหมครับ?”
เสี่ยวหยานหันไปหาหยานเหล่ย ทันที:“เลขานุการหยาน! คุณพยายามจะทำอะไรกันแน่? คุณพยายามกุเรื่องอย่างงั้นหรอ?”
หยานเหล่ย คิดว่าดงซูบินจะออกมาหลังจาก 5 ถึง 6 นาทีหรือแม้กระทั่งอาจจะไม่ออกมาเลย เขาไม่ได้คาดหวังว่า ดงซูบินจะออกจากห้องน้ำเร็วเช่นนี้ เนื่องจากเขาได้ยินสิ่งที่ดงซูบินพูดออกมาแล้ว“ตอนที่ผมเห็นดงซูบินก่อนหน้านี้ เขาปฏิเสธที่จะมากับผม เขายังตำหนิผมอีก!”
ดงซูบินตอบโต้:“ผมกำลังทำความสะอาดก้นของผมอยู่! นายยืนยันให้ฉันออกจากห้องน้ำในทันที! ก่อนที่ฉันจะช็ดก้น นายก็ตะโกนใส่ฉัน 'แม้แต่หัวหน้าเซง ก็โทรหานายไม่ได้!' คำเหล่านี้มันออกมาจากปากของนาย! นายออกไปก่อนที่ฉันจะพูดอะไรกลับไป! นายต้องการให้ฉันทำอะไร? เดินออกไปกับนายโดยไม่มีกางเกง? เลขานุการหยาน! นายกำลังใส่ร้ายฉันใช่ไหม!”
หัวหน้าทั้งหมดรู้ว่าพวกเขามองหัวหน้าซูบินผิดไป บางคนจะออกจากห้องน้ำได้ทันทีเมื่อพวกเขากำลังทำธุระครึ่งทางได้อย่างไร นี่มันไม่มีเหตุผลเลย
หยานเหล่ยถึงกับตื่นตระหนก:“นายพูด……”
ดงซูบินขัดจังหวะเขา:“ฉันพูดอะไรเหรอ?”
"พอ!" เซงอังเกาตะโกน:“นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับเรื่องไร้สาระเหล่านี้!”
เสี่ยวหยานโกรธเมื่อเธอเห็นเซงอังเกา ยังพยายามช่วยเหลือหยานเหล่ย เธอจ้องไปที่หยานเหล่ยอยู่เป็นเวลา 3 ถึง 4 วินาทีจากนั้นจึงหันไปหาดงซูฐิน “ซูบินนายควรรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนเช้า หากนายสามารถพานักเรียนเหล่านั้นออกจากสาขาได้ภายใน 5 นาทีและจัดการปัญหานี้กันเองฉันสัญญาว่าฉันจะให้คำอธิบายสำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานและวันนี้!” ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เสี่ยวหยานกำลังพูด มันเป็นเรื่องของความขัดแย้งระหว่างเลขานุการหยานและหัวหน้าซูบิน
ดงซูบินประทับใจกับคำพูดของเสี่ยวหยาน! เขารอคอยสิ่งนี้มานาน
เซงอังเกาตกใจที่ได้ยินสิ่งที่เสี่ยวหยาน พูด
หัวหน้าคนอื่น ๆ ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเสี่ยวหยานกำลังพยายามทำอะไร จะต่อต้านกับหัวหน้าเซง เพราะหัวหน้าซูบิน?
เมื่อไม่นานมานี้หัวหน้าเซงและเสี่ยวหยานนั้นสนิทสนมกันมากขึ้น
เสี่ยวหยานเข้าร่วมกับกลุ่มของหัวหน้าเซงแต่เธอไม่ได้ละทิ้งศักดิ์ศรีและเกียรติยศของเธอ เธอยังคงมีอัตตาของเธอ เลขานุการของหัวหน้าเซง ได้ยั่วดงซูบินซ้ำแล้วซ้ำอีกและหัวหน้าเซงยังเข้าข้างหยานเหล่ย สิ่งนี้ทำให้เสี่ยวหยานโกรธเป็นอย่างมาก ‘โอ้ตอนที่ซูบินปะทะกับหยานเหล่ยและโดนโยนความผิดให้กับดงซูบิน ก่อนที่คุณจะตรวจสอบเหตุการณ์ทั้งหมด ตอนนี้สาขากำลังมีปัญหาและคุณต้องการซูบินเพื่อช่วยคุณ? มันจะไม่ดูตลกไปหน่อยหรอ’
แต่เสี่ยวหยานไม่ปล่อยให้การกระทำของเซงอังเกาหลุดมือเธอไปแน่ เธอหันไปหาเขา “หัวหน้าเซง ถ้าซูบินสามารถแก้ไขเหตุการณ์นี้ได้มีบางสิ่งที่ดิฉันต้องบอกคุณ”
เซงอังเกาได้ยินสิ่งที่เสี่ยวหยานพูโ และความคิดแรกของเขาคือเขาไม่ได้จัดการกับความขัดแย้งของซูบิน และ หยานเหล่ย เมื่อวานนี้ เสี่ยวหยานรู้สึกไม่พอใจกับบทลงโทษที่ซูบินได้รับ แต่นี่เป็นเพราะซูบินด่าหยานเหล่ยโดยไม่มีเหตุผล เซงอังเการู้สึกว่าเขาอาจพลาดอะไรบางอย่างไปจากท่าทางที่เสียวหยาน แสดงอยู่ เขามองไปที่หยานเหล่ย และพูดว่า:“เดียวเราต้องมีเรื่องที่จะต้องคุยกันหลังจากนี้ หัวหน้าเจียงจะโทรมาภายใน 5 นาที ซูบินคุณสามารถจัดการกับสิ่งนี้ได้ภายใน 5 นาทีได้ไหม?”
ดงซูฐินพูดในใจของเขา ‘พวกคุณคาดหวังในตัวฉันสูงเกินไป’ แต่เนื่องจากหัวพูดแล้วดงซูบินนั้นต้องตอบกลับได้เพียง:“ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด” ในใจของเขาเขาพูดว่า 'ฉันไม่ได้ทำเรื่องเพราะคุณหรอกนะ ฉันกำลังทำสิ่งนี้กับหัวหน้าเสี่ยว! '
"ดี!" เซงอังเก พยักหน้า "เริ่มเลย!"
เสี่ยวหยายตบหลังให้กำลังใจดงซูบิน
เฉิงไห่เหม่ย, ปานปิง และหัวหน้าและพนักงานที่เหลือมองไปที่ดงซูบินหลายคนรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่ดงซูบินจะแก้ไขปัญหานี้ นักเรียนทุกคนนั้นเป็นเด็กดื้อและมีเส้นใหญ่มาก ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัว พวกเขาจะไม่ฟังใครเลย หัวหน้าซูบินงจะไม่สามารถทำให้เรื่องสงบลงได้! แต่หัวหน้าซูบินเป็นคนที่ช่วยสาขาไว้หลายต่อหลายครั้ง เมื่อใดก็ตามที่ทุกคนหมดหวัง ชายที่ชื่อดงซูบินก็จะช่วยให้ความหวังกลับมา
ความตึงเครียดทำให้ดงซูบินรู้สึกถึงน้ำหนักบนบ่าของเขา
ดงซูบินยิ้มให้กับตัวเองอย่างเหน็ดเหนื่อยและเดินไปที่ห้องเก็บของ เขาต้องการแก้ไขปัญหานี้ด้วย เขาถูกลงโทษโดยเซงอังเกา และ หยานเหล่ยได้ท่าท้ายเขาหลายต่อหลายครั้ง นี่เป็นโอกาสดีสำหรับเขาที่จะกลับมาแก้ปัญหา แต่เงื่อนไขคือเขาต้องจัดการเหตุการณ์นี้ให้สำเร็จ เขายังไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร
เสี่ยวหยาน, เฉิงไห่เหม่ย และแม้แต่เซงอังเกา ก็พยายาม แต่ล้มเหลว
นักเรียนเหล่านั้นไม่ต้องการฟังใครเลย! ดงซูบินไม่สามารถทำอะไรได้แม้ว่าเขาจะเข้าไปในห้องเก็บของนั้น
เมื่อดงซูบินเข้ามาใกล้ประตูเขาก็จำได้ว่าเขาไม่ได้ใช้ “ย้อนกลัย” ของเขาตั้งแต่วันตรุษจีน เขาคิดหนักและรู้สึกว่าควรทำอะไรที่แตกต่างออกไป เนื่องจากนักเรียนเหล่านั้นปฏิเสธที่จะฟังการชักชวนใด ๆ เขาอาจจะต้องใช้กำลังเช่นกัน ‘พวกนายเลือกทางนี้เองนะฉันจะสั่งสอนพวกนายให้เข้าใจในกฏระเบียบเอง’
ทันใดนั้นดงซูบินก็ได้ยินการสนทนาในห้อง
“พี่สาวผมยาวของสำนักความมั่นคงแห่งรัฐนั้นซึ่ง หลิวซีชอบเพราะเธอเป็นคนน่ารักจริงๆ เราต้องได้เบอร์เธอในวันนี้”