ตอนที่แล้วบาทที่ 14
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบาทที่ 16

บาทที่ 15


บาทที่ 15

หงเซียวส่งผึ้งเซียนไปเก็บต้นอ่อนไม้ศักดิ์สิทธิ์นอกหมู่บ้าน เขาเคยได้นำไปจากที่นี่เพื่อไปปลูกยังเกาะที่ตนเองอยู่และจัดสร้างเป็นค่ายกลสำหรับฝึกพลังเซียนที่นั่น

ไม่นานนักผึ้งเซียนก็กลับมาพร้อมกับต้นไม้ คนในหมู่บ้านที่เห็นต่างก็ไม่ใส่ใจ เพราะว่าต้นไม้นี้มีทั่วไปทั้งป่านี้ ไม่ได้หายาก และไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมายนัก

เขาปลูกต้นไม้ลงไปตามตำแหน่งของพลังวิถีเซียนไร้ลักษณ์ และใช้วิชายันต์ลับต้องห้าม ยันต์จากวิชาลับเซียนมาร เขียนด้วยพลังเซียนจากวิชาเซียนของสำนักพรตผ่านกระบี่ภูษาเซียน บังคับให้ต้นไม้โคจรพลัง ยามเมื่อเขาไม่อยู่ที่นี่ต่อไปในอนาคต ที่แห่งนี้ก็จะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่น

เพราะว่าอำนาจของพลังเซียนสำนักพรตนั้นเหมาะสำหรับการเขียนยันต์เป็นอันมาก ทั้งยังตั้งอยู่ในเขตที่มีรากเซียนฝังอยู่ใต้ดิน ดังนั้นพลังเซียนที่เกิดขึ้นในใจกลางของค่ายกลนี้จึงรุนแรงยิ่งกว่าที่เกาะถึงสามเท่าตัว ซึ่งหากว่าเขาต้องสร้างชีพจรเซียนที่นั่นใช้เวลาสิบปี หากอยู่ที่นี่เขาก็ควรใช้เวลาเพียงสามปีกว่าเท่านั้น

หากเขาปลูกต้นไม้ที่นี่หนึ่งเดือนก็จะเกือบเท่ากับสามปีในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป นั่นคือสิ่งที่เขาคำนวณออกมาได้

หงเซียวและเด็กสาวพากันปลูกเมล็ดพันธุ์กับพื้น ท่ามกลางการเลี้ยงดูจากพลังเซียน พวกเขาคาดว่าต้นไม้น่าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อเร่งยิ่งขึ้นไปกว่านั้น ไส้เดือนรากอสูรถูกปล่อยออกมาเพื่อให้เลี้ยงดูเมล็ดพันธุ์เหล่านี้

จากนั้นหงเซียวก็เริ่มสร้างภูษาเซียนอันดับที่สามของเขา เช่นเดียวกับซีชี่และเหมยเหมยที่เลือกภูษาเซียนนี้ด้วยเช่นกัน ภูษาเซียนคุณไสย

หงเซียวสร้างเป็นเครื่องประดับป้ายห้อยเอวรูปด้วงกว่าง เพราะว่าซีซี่เปลี่ยนรูปทรงหิ่งห้อยยักษ์ของภูษาเซียนอันดับแรกเป็นปิ่นปลายหยกสีเขียวอ่อน และรูปทรงของภูษาเซียนห้าธาตุเป็นกำไลที่มีอัญมณีสีเขียวไล่เฉดห้าเม็ดประดับ ดังนั้นภูษาเซียนใหม่นี้เธอจึงคิดสร้างเป็นรูปต่างหูอัญมณีข้างเดียวสีเขียวอ่อนเช่นกัน ทำให้เธอสง่ายิ่งขึ้น

สำหรับเหมยเหมยนั้น รูปทรงผีเสื้อของเธอนั้นใช้เป็นเอกลักษณ์ เธอเปลี่ยนผีเสื้อยักษ์ตัวแรกให้เป็นเครื่องประดับผมรูปผีเสื้อสีเหลืองมีจุดดำ เช่นเดียวกันกับภูษาเซียนห้าธาตุของเธอที่เป็นเครื่องประดับผมรูปผีเสื้อห้าสี และภูษาเซียนใหม่นี้ก็เป็นเครื่องประดับผมรูปผีเสื้อสีแดงสดใสมีลวดลายสีดำงดงาม เมื่อประดับรวมกันบนศีรษะทำให้หน้าตาเธอยิ่งสะสวยโดดเด่นยิ่งขึ้น

ส่วนจินหลินและซิ่วจูนั้นไม่สนใจในการใช้แมลงแม้แต่น้อย พวกเธอคาดหวังจะเข้าไปดูในหอคัมภีร์ในวันพรุ่งนี้

เมื่อพวกเขาสร้างภูษาเซียนเสร็จแล้ว ทั้งห้าคนก็มารวมกันร่วมฝึกฝนประจำวันภายในไข่มุกที่หงเซียวสร้างขึ้น หมอกเรืองแสงสีฟ้าเข้มข้นแผ่กระจายไปทั่วพื้นที่ทันที

ในวันถัดไปพวกเขาก็เข้าไปอ่านหนังสือในหอคัมภีร์ของสำนัก ซึ่งเป็นกระท่อมหลังหนึ่งกลางหมู่บ้าน และเมื่อเดินเข้าไป ตรงกลางนั้นก็เป็นหลุมใหญ่ลึกลงไปใต้ดิน ซึ่งหงเซียวคาดว่าน่าจะเกิดจากการขุดของแมลง ภายใต้นั้นเป็นห้องใหญ่หลายห้อง และแต่ละห้องก็จะมีหนังสือเก็บเอาไว้บนแคร่ไม้ และมีแมลงอยู่กลุ่มหนึ่งคอยรักษาความชื้นไม่ให้มากจนขึ้นราและไม่ให้น้อยจนหนังสือแห้งกรอบ และนอกจากนี้ก็ยังรักษาอุณหภูมิและปริมาณอากาศถ่ายเทอีกด้วย

และที่นั่นทุกคนก็ได้รู้จักว่าแมลงศักดิ์สิทธิ์นั้นมีอะไรบ้าง และชนิดไหนที่ใช้เป็นแมลงคุณไสยได้ วิธีการฝังแมลงคุณไสยในตัวเอง ทั้งยังมีวิชาเซียนชั้นปฐมเซียนของสำนักอื่นอยู่ด้วยอีกหลายสำนัก แต่ทั้งหมดนั้นล้วนขาดคาถาประกอบ

พวกเขาอดใจไว้ไม่ยอมฝึกปรือ แต่อย่างไรก็ตามหงเซียวก็ได้จดจำวิชาเหล่านั้นเอาไว้เผื่อใช้ประโยชน์ในภายภาคหน้า

พวกหงเซียวค้นพบว่า ทวีปมีทั้งหมดสิบสามทวีป ทวีปที่พวกเขาอยู่ ทวีปเหลียงนี้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับเจ็ด เฉพาะทวีปนี้ก็มีอาณาจักรมากถึงร้อยเจ็ดอาณาจักร มีสำนักเซียนอยู่ทั้งหมดห้าสิบสามสำนัก เป็นสำนักใหญ่ห้าสำนัก สำนักขนาดกลางสิบแปดสำนัก ที่เหลือเป็นสำนักขนาดเล็ก สำนักเซียนคุณไสยรั้งอันดับสุดท้าย เพราะว่าพวกเขาไม่มีคนในชั้นมัชฌิมเซียนแม้แต่คนเดียว เนื่องมาจากต้องเปลี่ยนแมลงใหม่ทุกยี่สิบปีทำให้การพยายามเข้าสู่ชั้นมัชฌิมเซียนของพวกเขาขาดตอน

ขณะที่พวกหงเซียวกำลังกลับที่พักอยู่นั้น พวกเขาก็ประสบกับคนในสำนักหลายคนที่เข้ามาขอร้องให้เขาช่วยยืดอายุขัยแมลงคุณไสยของตนเอง แต่ครานี้ ไม่ใช่แมลงคุณไสยในตลับหยกอีกต่อไป แต่เป็นแมลงคุณไสยที่ฝังอยู่ในร่างของพวกเขา

เนื่องจากหงเซียวเคยเป็นหมอมาก่อน ดังนั้นการยืดอายุไขของแมลงแม้จะอยู่ในร่างคนนั้นจึงไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย เช่นเดียวกับหญิงสาวทั้งหลายที่ได้รับการฝึกจากเขามาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะจินหลินที่อยู่กับเขามานานมาก

ไม่นานนักคนทั้งสำนักซึ่งมีอยู่ประมาณยี่สิบกว่าคนก็ได้มาขอใช้บริการของเขาจนครบคน

หลังจากนั้นเขาก็ได้รับของขวัญจากคนเหล่านั้นมากมาย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสมุนไพร ในเมื่อทุกคนต่างคิดว่าหงเซียวสนใจในการปลูกสมุนไพร พวกเขาจึงพยายามหาสมุนไพรที่มีอายุมากเท่าที่ตนเองจะพอมีกำลังสู้ไหวมาให้เพื่อเป็นคำขอบคุณ แต่ก็มีบ้างที่เป็นแมลง และไข่แมลงศักดิ์สิทธิ์

แน่นอนว่าหงเซียวย่อมรับไว้ด้วยความยินดี และเขาก็เอาลงปลูกไว้ในใจกลางค่ายกล

ด้วยการกระตุ้นของไข่มุกและกระแสหมอกเรืองแสงที่แผ่กระจายไปทั่วค่ายกล ยิ่งทำให้สมุนไพรทั้งที่ปลูกจากเมล็ดและปลูกจากต้นที่มีอายุมากต่างพากันเติบโตอย่างบ้าคลั่ง อายุของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เพิ่มขึ้นราวกับติดจรวด

ในช่วงหลัง พวกหงเซียวล้วนเก็บตัว อีกทั้งทุกคนต่างไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้บริการของหงเซียวแล้ว จึงไม่มีใครไปรบกวนเขาอีก

เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างนั้น

“หงเซียว พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเปิดหูเปิดตาที่งานชุมนุมหมื่นเซียน อย่าลืมเตรียมตัวให้เรียบร้อย” ผู้อาวุโสหหลิวส่งแมลงตัวหนึ่งบินมาตรงหน้าหงเซียวและกล่าวขึ้นขณะที่เขากำลังทำการพรวนดินอยู่

แมลงที่เขาส่งมานี้ก็เหมือนกับแมลงที่ชายหนุ่มเฝ้าหน้าหมู่บ้านส่งไปหาผู้อาวุโส มันเป็นแมลงสื่อสารที่ทำหน้าที่คล้ายกับจดหมาย มันจะส่งข้อความเสร็จแล้วก็จบงาน

หงเซียวแจ้งให้ทุกคนได้รู้ จากนั้นเขาก็เปลี่ยนงานพรวนดินเป็นเก็บสมุนไพร พวกเขาคิดจะนำไปขายที่งานชุมนุมหมื่นเซียน เพราะหงเซียวคิดว่าหากเทียบพวกเขากับเซียนคนอื่นแล้ว เขาน่าจะเป็นยาจกที่สุดแล้ว

สมุนไพรที่เขาได้จากการเพาะเมล็ดนั้นบัดนี้มีอายุเกินร้อยปีทุกต้น จากการช่วยเหลือของการฝึกพลังเซียนในไข่มุก หมอกพลังเรืองแสงสีฟ้าของพวกเขานั้นได้เพิ่มอายุพวกมันขึ้นไปอีกสี่เท่า เช่นเดียวกับตอนที่หงเซียวสร้างชีพจรเซียนในไข่มุกครั้งสุดท้ายที่เกาะ ที่เขาสามารถย่นเวลาสี่ปีสุดท้ายเหลือปีเดียวได้

ส่วนสมุนไพรที่เขาได้มาเป็นของขวัญนั้น ส่วนใหญ่ก็จะมีอายุนับร้อยปีแล้ว เมื่อได้รับการดูแลจากหงเซียว พวกมันก็มีอายุเพิ่มกันไปอีกนับร้อยปี

หงเซียวทิ้งสมุนไพรไว้บางต้นเพื่อให้พวกเขาได้เห็นว่าใจกลางค่ายกลนี้เหมาะสมสำหรับการปลูกสมุนไพรมากเพียงใด ซึ่งในอนาคตสำนักนี้ก็จะรุ่งเรืองขึ้นเพราะค่ายกลที่หงเซียวทิ้งไว้พร้อมกับวิชาเซียน

หงเซียวกับอีกสี่สาวสามารถสร้างชีพจรเซียนจุดที่สี่ได้สำเร็จ เมื่อมาอยู่ที่นี่ และกำลังอยู่ในระหว่างทางของการสร้างชีพจรเซียนจุดที่ห้า

วันรุ่งขึ้นของอีกวันมาถึงอย่างรวดเร็ว หงเซียวกับสี่สาวเดินไปหน้าสำนักยามใกล้รุ่งและพบว่ามีหนุ่มสาวรออยู่ที่นั่นเจ็ดแปดคนแล้ว พวกเขาล้วนเป็นศิษย์สำนักนี้ แม้ว่าทุกคนจะดูเป็นหนุ่มสาวแต่ส่วนใหญ่แล้วอายุจะเกินห้าสิบปี มีเพียงส่วนน้อยที่อายุน้อยกว่าห้าสิบปี

ทุกคนต่างพากันทักทายหงเซียวด้วยมารยาทอันดีในเมื่อหงเซียวช่วยเหลือพวกเขาไว้ทุกคนก่อนหน้านี้

ไม่นานนักผู้อาวุโสหลิวก็ออกมาจากหมู่บ้านและได้เรียกแมลงปอที่อยู่ข้างทางมาหนึ่งตัวก่อนจะร่ายคาถาเซียนแมลงเปลี่ยนมันให้มีขนาดใหญ่สามารถที่จะบรรทุกคนได้ถึงสิบคนบนหลัง

เขาเรียกหงเซียวให้พากันลอยตัวขึ้นไปบนหลังมัน ซึ่งตอนนี้สูงกว่าพื้นขึ้นไปเกือบยี่สิบเมตร ก่อนจะพาพวกเขาบินขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็ว

แมลงปอนั้นแม้ว่าจะตัวโตขึ้นมามาก แต่อย่างไรก็ตาม ปีกของมันไม่ได้กระพือช้ากว่าเดิมแม้แต่น้อย ชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็อยู่ระดับเมฆ นับว่ารวดเร็วกว่าตอนที่พวกเขาเดินทางร่วมกว่ามังกร หรือตอนที่พวกเขาเดินทางมาที่นี่มากนัก อีกทั้งพวกเขาไม่สัมผัสถึงการแหวกอากาศของความเร็วเหนือเสียงหรือโซนิคบูมแม้แต่น้อย ช่างน่าทึ่งนัก

ขณะที่หงเซียวและบรรดาสาวๆกำลังสงสัยว่าคนที่เหลือนั้นเขาเพียงแค่มาส่งเท่านั้นใช่หรือไม่ เขาก็เห็นแมลงปอขนาดใหญ่อีกหลายตัวทยอยบินขึ้นมาบนฟ้า ซึ่งทั้งหมดมีขนาดพอที่จะบรรทุกคนได้หนึ่งคน

เมื่อผู้อาวุโสเห็นว่าทุกคนพร้อมแล้ว เขาก็พยักหน้าพร้อมกับกล่าวกับหงเซียวว่า “เตรียมตัวให้พร้อมนะ ข้าจะบินเร็วแล้ว”

วู่ม หงเซียวและสี่สาวเหมือนกับเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างเคลื่อนที่ผ่านด้านข้างไปอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่รู้สึกเหมือนว่าเคลื่อนที่แต่อย่างใด จากการที่เขาประเมิน เขาคาดว่าน่าจะเร็วกว่าการเดินทางที่เร็วที่สุดของพวกเขาอยู่ประมาณหนึ่งเท่าตัว

พวกเขาเดินทางใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมง หงเซียวคิดไม่ออกเลยว่าหากว่าเป็นตอนที่เขายังคุ้มกันภัยอยู่ ระยะทางนี้เขาจะต้องใช้เวลาเดินทางนานเท่าไหร่ หนึ่งปี สองปี หรือชั่วชีวิต หากไม่พบกับจินต้า พวกเขาจะได้เข้าสู่วิถีเซียนหรือไม่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด