ตอนที่แล้วบทที่ 146 สาขาตะวันตกลุกเป็นไฟอีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 147.2 ปาฏิหาริย์เทพเจ้าดงซูบิน(2)

บทที่ 147.1 ปาฏิหาริย์เทพเจ้าดงซูบิน(1)


บทที่ 147.1 ปาฏิหาริย์เทพเจ้าดงซูบิน(1)

ผู้แปล loop

ณ ห้องทำงานของหัวหน้าเซง

หลังจากได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนเก่าของเสี่ยวหยาน ก็รีบไปที่สำนักงานของเซงอังเกา หลังจากนั้นครู่หนึ่งเฉิงไห่เหม่ยและหัวหน้าแผนกการเมืองของปางปินก็เดินทางมาถึงด้วยเช่นกัน ผู้ปกครองของนักเรียนเหล่านั้นจะต้องติดต่อพวกเขามาเช่นกัน หยานเหล่ยนั้นเป็นเลขาคนเดียวที่อยู่ในห้องนั้น นี่มันเป็นเหมือนการประชุมฉุกเฉิน ‘ฮืม ……นี่เป็นการประชุมฉุกเฉินจริง ๆ เนื่องจากหัวหน้าหลายคนจากเมืองและรัฐบาลกลางมีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้’

เซงอังเกา รู้ว่าทำไมหัวหน้าจากหลายแผนกจึงมารวมตัวกันที่ก้องของเขา “ผมได้บอกให้สำนักที่หกปล่อยพวกเขาไปแล้ว”

ปางปินมองหัวหน้าเซงอย่างกังวล “หัวหน้าครับ เด็กได้รับบาดเจ็บหรือป่าว”

เซงอังเกา ตอบว่า:“ไม่ได้รับการบาดเจ็บเลย แค่โดนล็อกกุญแจเมืองเท่านั้น”

เฉิงไห่เหม่ย, เสี่ยวหยาน และหัวหน้าที่เหลือก็โล่งใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น หากเด็กได้รับบาดเจ็บจะไม่มีวิธีแก้ไขเหตุการณ์นี้ได้เลย

เตาะ เตาะ เตาะ

ผู้อำนวยการเจียนจากสำนักงานที่หกเข้ามาในสำนักงานตามด้วยเจ้าหน้าที่อาวุโส เขาเป็นคนหนึ่งที่นำทีมปล่อยนักเรียน

หัวหน้าเซงมองไปที่พวกเขา “แล้วพวกนั้นกลับไปแล้วหรอ”

เจ้าหน้าที่อาวุโสเช็ดเหงื่อและตอบว่า:“ผมพาคนของผมไปถึงที่นั้นแล้ว แต่เด็ก ๆ เหล่านั้นไม่ยอมออกไป พวกเขาต้องการคำอธิบายจากเรา พวกเขาต้องการรู้ว่าทำไมเราถึงจับกุมพวกเขา ผมต้องการที่จะปล่อยพวกเขา แต่เด็กพวกนั้นปฏิเสธและปิดรูกุญแจของกุญแจมือ พวกเขาอ้างว่ากุญแจมือนั้นเป็นหลักฐานและต้องการแสดงให้ครอบครัวของพวกเขาเห็น เราไม่กล้าใช้กำลังกับพวกเขา หัวหน้าเซงครับ พวกเราควรทำอย่างไรดี?”

ใบหน้าของเซงอังเกาเปลี่ยนไป “แค่เรื่องง่ายๆแค่นี้พวกคุณก็ไม่สามารถจัดการได้หรือยังไง”

เฉิงไห่เหม่ย, ปานปิง และคนอื่น ๆ ตื่นตระหนก นักเรียนต้องการที่จะใส่กุญแจมือและรอให้ครอบครัวของพวกเขามาเจอนี้นะ? มันจะทำให้สำนักงานเขตตะวันตกพบเจอปัญหาที่ใหญ่หลวงๆแน่ๆ!

เฉิงไห่เหม่ยพูดอย่างตรงไปตรงมา:“ไปเอากุญแจมือออกมาให้ได้ก่อน!”

“ผู้ตัดสินทางการเมืองเฉิง……” เจ้าหน้าที่อาวุโสตอบ “ผมขอให้เจ้าหน้าที่ของเราทิ้งกุญแจกุญแจไว้บนพื้น แต่พวกเขาก็ปฏิเสธที่จะถอดมันออก ผมก็……”

ผู้อำนวยการเจียนก็กล่าวเสริม:“เด็กพวกนี้นั้นดื้อมากและปฏิเสธที่จะฟังพวกเรา หากเราใช้กำลังในการถอดกุญแจมือพวกเขาอาจได้รับบาดเจ็บได้”

ปานปิงถึงกับขมวดคิ้ว:“แต่เราเองก็ไม่สามารถรออยู่นิ่งๆแบบนี้ได้ แล้วครอบครัวของเด็กพวกนั้นจะว่ายังไงล่ะ ถ้าครอบครัวของเด็กพวกนั้นเดินทางมาและเอาเรื่องกับทางสำนัก สำนักงานสาขาเขตคงต้องเสียชื่อแน่ๆในครั้งนี้”

“อย่างงั้นเราก็ลองเจรจากับเด็กพวกนั้นใหม่ล่ะกัน!” เซงอังเกามองไปที่เสี่ยวหบาน“หัวหน้าเสี่ยวคุณสามารถไปเจรจากับเด็กพวกนั้นดูได้ไหม”

เสี่ยวหยาน พยักหน้า

เฉิงไห่เหม่ยรู้สึกไม่สบายใจและลุกขึ้นยืน “อย่างงั้นผมขอไปด้วยคน”

ปานปิงก็จะติดตามไปด้วยเช่นกัน

เซงอังเกา กล่าวว่า “หลานเหล่ยอย่างงั้นนายไปกับพวกเขาด้วยและทำยังไงก็ได้ให้เด็กพวกนั้นออกไปโดยดี จำไว้ว่านักเรียนเหล่านั้นต้องออกจากสาขาของเราอย่างปลอดภัยภายในครึ่งชั่วโมง นอกจากนี้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครทำร้ายเด็กพวกนั้น” หลังจาก หยานเหล่ยจากไปแล้วเซงอังเกาก็ถูกมือของเขา เมื่อสมัยที่เขาอยู่ในแผนกสืบสวนเขา เขาก็เจอเรื่องยุ่งยากเช่นนี้เหมือนกัน เคสใหม่ๆถูกวางไว้บนโต๊ะของเขาเกือบทุกชั่วโมง แต่แม้แต่เคสที่ยุ่งมากเขาก็ไม่ได้ปวดหัวแบบนี้เหมือนที่เขากำลังเผชิญอยู่ ตั้งแต่วันที่เขาถูกย้ายมาที่สำนักความมั่นคงของรัฐ มันทำให้เขามีเรื่องปวดหัวได้ตลอดทั้งวัน จากปัญหามากมายทีเกิดขึ้นมาในแต่ล่ะวัน

เซงอังเกา มองออกไปนอกหน้าต่างที่ทางเข้าหลักของสาขา เขารู้ว่านี่มันเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนและต้องแก้ไขโดยเร็วที่สุด!

ภายในห้องเก็บของเล็ก ๆ ที่ประตูใหญ่นักเรียนสองสามคนยืนสูบบุหรี่

เสี่ยวหยาน และ เฉิงไห่เหม่ยปิดปากและไอจากควันบุหรี่ พวกเขามองไปที่นักเรียนและเสี่ยวหยานถามว่า:“หลิวซี คือคนไหน” นักเรียนสามคนหันไปมองเด็กผู้ชายคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบเสี่ยวหบานกล่าวว่า“หลิวซีฉันเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับลุงของเธอ เขาโทรหาฉันเพื่อมาตามเธอกลับบ้าน  รีบถอดกุญแจมือออก แล้วนี้อะไรกัน?” กุญแจมืออยู่บนพื้นและ เสี่ยวหยานหยิบกุญแจขึ้นมา

หลิวซี ขว้างก้นบุหรี่และปิดรูกุญแจมือ “คุณ ป้า ผมเองไม่เคยโดนทำอย่างนี้มาเลยตลอดชีวิต ผมไม่ยอมแน่!”

เสี่ยวหยานขมวดคิ้ว "ยอมแต่โดยดีเถอะ! อย่าปล่อยให้ลุงของเธอเป็นห่วงเลย!”

หลิวซีหันศีรษะของเขาออกไปและยืนนิ่งเงียบ

เฉิงไห่เหม่ยเห็นและมองนักเรียน เขาสังเกตเห็นนักเรียนคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง“คุณต้องเป็นเสี่ยวเหลียง? รีบหยิบกุญแจมือเหล่านั้นออกมา เธอไม่รู้สึกอึดอัดใช่ไหม บอกเพื่อน ๆ ให้ถอดกุญแจมือออกมา หยุดสร้างปัญหาทสักที ครอบครัวพวกเธอต้องการให้กลับบ้าน”

เสี่ยวเหลียง ปฏิเสธที่จะฟังและตะโกนออกมา:“เราสร้างปัญหาอยู่อย่างงั้นหรอ? เรากำลังยืนที่ถนนเพื่อรอใครบางคน สิ่งนี้ผิดกฎหมายหรือยังไงกัน? ทำไมคุณถึงจับพวกเราทุกคนมา? ทำไมเราถูกใส่กุญแจมือ? พวกเราเป็นอาชญากรหรือยังไง? คุณทุกคนเป็นคนเริ่มต้นเรื่องนี้! นี้เป็นครั้งแรกที่พวกเราเคยโดนจับ! ให้ตายเถอะ! เราจะไม่ออกไปตอนนี้แน่!  มีอะไรที่คุณไม่พอใจไหม?”

เฉิงไห่เหม่ยขมวดคิ้ว:“มันก็ไม่เป็นไรหรอกถ้าพวกเธอทุกคนไปรอคนของหน่วยงานรัฐบาลอื่น แต่เธอทุกคนก็น่าจะรู้ว่าสำนักงานการรักษาความปลอดภัยของรัฐทำอะไร เราไม่สามารถให้ใครออกไปพบพวกเธอได้ง่ายๆหรอก”

นักเรียนคนอื่นโต้แย้ง:“อย่างงั้นก็หยุดพวกเราให้ได้สิ! ผมเองก็จะรอที่นี้และให้พ่อของผมจัดการกับสำนักงานแห่งนี้!”

ติก, ติก, ติก หนึ่งในโทรศัพท์ของนักเรียนดังขึ้น

นักเรียนคนหนึ่งเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา "สวัสดี? พ่อ? ……ผมยังถูกใส่กุญแจมือและถูกขังอยู่ในห้องมืดเล็ก ๆ …….“นักเรียนคนนั้นพูดเกินจริงทั้งเหตุการณ์” เรายืนอยู่ตรงทางเข้ามาระยะหนึ่งและพวกเขาก็รีบออกมาจับเรา พวกเขาบิดแขนของผมจนเกือบหัก ตอนนี้เอวผมปวดมาก……. พ่อ! ไม่……พ่อสนใจผมหน่อย อา? อย่างงั้นบอกแม่ว่าผมมถูกรังแกโดยพวกคนเหล่านี้!” นักเรียนคนนั้นวางสายด้วยความโกรธ

หยานเหล่ย รู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่เขาจะได้สร้างผลงานสักที่ หากเขาสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ล่ะก่อ เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม “ทุกคนตอนนี้ใกล้ถึงมื้อเที่ยงแล้ว  ออกไปทานข้าวกลางวันด้วยกันดีกว่า คุณทุกคนสามารถเลือกร้านได้เลยและงั้นเรามาคุยกันเรื่องมื้อเที่ยงกันดีกว่า ตกลง?”

นักเรียนทั้งหมดดูนาฬิกาแล้วมองนักเรียนที่หล่อเหล่าคนนั้น “พี่เฮา……”

นักเรียนคนนั้นกำลังนั่งไขว่ห้าง “พวกนายหิวหรือเปล่า ส่วนฉันหรอไม่หิวโว้ย!”

หลิวซีกล่าวทันที:“ฉันไม่หิว!”

"ถูกต้อง! เรารอได้!”

หยานเหล่ยรู้เลยว่านักเรียนที่หล่อเหล่าคนนั้นน่าจะเป็นหัวโจ๊กและเขาหันไปหาเขา “ตายแล้ว อย่างงั้นก็ดื่มน้ำสักหน่อยไห?”

คนเรียนคนนั้นพึมพำออกมา“ฮืม!”  เขารู้ว่าหยานเหล่ยไม่ใช่ผู้นำในสาขาและเขาจึงไม่ได้ให้ความเคารพใด ๆ แก่หยานเหล่ย "นายคิดว่านายเป็นใคร?! นายคิดว่านายจะหลอกเราได้หรอ! ให้น้ำเราดื่มและอยากให้พวกเราเข้าห้องน้ำ?”

นักเรียนอีกคนโวยวายออกมา:“ชั่วเอ๋ย! นายนี้ชั่วเหลือเกิน!”

เสี่ยวหยาน ขมวดคิ้วและจ้องไปที่ หยานเหล่ย

หยานเหล่ยย้ายไปยืนอยู่ด้านหลังทันที

ปานปินบอกกับเด็กพวกนั้นว่าเขาเป็นเพื่อนกับผู้ปกครองของเด็ก แต่คำตอบที่เขาได้รับจากนักเรียนคนนั้นก็เหมือนกับเสี่ยวหยาน และ เฉิงไห่เหม่ย เช่นกัน นักเรียนเหล่านี้ทั้งหมดอยู่ในช่วงวัยที่ชอบต่อต้านและค่อนข้างจะมีเส้นสายเขาจึงไม่กลัวที่ใครเลย

‘เวรเถอะ!’

ตอนนี้ก็จะใกล้ถึงมือกลางวันแล้วก็ยังไม่สามารถโน้นน้าวเด็กพวกนั้นได้ดังนั้นเสี่ยวหยานจึงรายงานสถานณการณ์กับเซงอังเกา

ตอนนี้พนักงานหลายคนออกมาทานอาหารกลางวันและเห็นผู้นำหลายคนยืนอยู่ใกล้กับห้องเก็บของเล็ก ๆ พวกเขารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ‘เห้อ……สาขาตะวันตกนี้โชคไม่ดีเลยปีนี้ ครั้งก่อนหน้าคือการจับกุมหลานชายของหัวหน้าเจียงโดยมิชอบ ตอนนี้มันเป็นการจับกุมโดยมิชอบของญาติ ๆ ผู้นำรัฐบาลกลางหลายคน! สิ่งนี้ต้องส่งผลกระทบร้ายแรงแน่ะ! มันคงไปเรื่องที่รุนแรงมากจนหัวหน้าเซงอาจะรับมือไม่ไหวก็ได้’!

เซงอังเกาไม่สามารถนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป หลังจากได้ยินรายงานจาก เสี่ยวหยานเขาก็เดินไปที่ทางเข้า เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลองลงมาจัดการณ์เหตุการณ์นี้ด้วยตัวของเขาเอง

ณ ด้านนอกของห้องเก็บของ

“หัวหน้าเซงครับ ตอนนี้พวกเขาก็ยังปฏิเสธอยู่เช่นเดิมครับ……”

“เห้อ……พวกเขาไม่เชื่อฟังสิ่งที่เราบอกเลย!”

เซงอังเกาสูดหายใจลึก ๆ และเข้าไปในห้อง เขายิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวว่า“ฉันเป็นหัวหน้าสำนักงานสาขาเขตตะวันตก ญาติของเธอโทรมาหลายครั้งและเป็นห่วงพวกเธอมาก มันคงจะไม่ดีแน่ถ้าพวกเธอยังอยู่ที่นี้ เราควรไปหาที่นั่งคุยสบายๆสักแห่งจะดีกว่า”

นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า“หัวหน้าไม่ใช่เราไม่ให้เกียรติคุณ  แต่เรารับไม่ได้กับการกระทำเช่นนี้ เราทุกคนเป็นพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฎหมาย! ทำไมคนของคุณถึงจับเรา ผมไม่เคยรู้สึกต่ำต้อยเช่นนี้มาก่อนเลย!”

เซงอังเกา ยิ้ม:“เข้าใจแล้ว มันมีปัญหาเกิดขึ้นเล็กน้อยกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ฉันจะลงโทษพวกเขาให้เธอเอง!”

นักเรียนอีกคนพูดเพิ่มเติมขึ้นมาว่า:“การลงโทษไม่เพียงพอ พวกเขาต้องขอโทษและคำนับเรา นอกจากนี้ขอให้พี่สาวผมยาวที่เรากำลังรออยู่ออกมาพบ หลิวซีอยากชวนเธอไปทานข้าวด้วย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด