บทที่ 146 สาขาตะวันตกลุกเป็นไฟอีกครั้ง
บทที่ 146 สาขาตะวันตกลุกเป็นไฟอีกครั้ง
ผู้แปล loop
ในวันถัดมา.
ดงซูบินเองรู้สึกได้ว่าทุกคนในสำนักงานมีท่าทีแปลกๆ เมื่อเขามาถึงสาขาเขตตะวันตก บางคนที่ใกล้ชิดกับหยางเหล่ยกำลังหัวเราะเยาะเขา ทุกคนในสาขารู้ว่าดงซูบินไม่ได้ถูกเลือกสำหรับโครงการแลกเปลี่ยนแม้ว่าเขาจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมก็ตาม แต่หยานเหล่ยผู้เป็นศัตรูของดงซูบิน ที่แทบจะไม่มีผลงานอะไรเลยกับได้รับเลือกในครั้ง เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าเซงกำลังลงโทษหัวหน้าซูบินอยู่ บางคนหัวเราะเยาะเขาและบางคนรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมต่อหัวหน้าซูบิน
ซึ่งเรื่องนี้นั้นเป็นประเด็นร้อนแรงที่ถูกหยิบยกมาพูดในทุกวงสนทนาของสาขา
ดงซูบินนั้นรู้สึกโกรธเมื่อเขาเข้าไปในสำนักงานกิจการทั่วไป
“หัวหน้าซูบิน!” วังซินซึ่งเป็นข้าราชการที่รับโอนมาใหม่ลุกขึ้นยืน ดวงตาของเธอแดง "มันเป็นความผิดของดิฉันทั้งหมด. ฉัน……. ฉัน……"
ดงซูบินสงบลงและพูดเบา ๆ “มันไม่ใช่ความผิดของเธอ เธอตั้งใจทำงานของเธอไปเถอะ”
“หัวหน้าซูบิน ฉันขอโทษค่ะ ฉันจะไม่สามารถปัญหาให้กับหัวหน้าอีกแล้ว” วังซินเธอรู้สึกผิดมาก หากหัวหน้าซูบินไม่ได้ช่วยเธอเขาคงจะได้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนอย่างแน่นอน อีกทั้งเขาก็จะไม่ถูกลงโทษจากหัวหน้าเซง มันทำให้วังซินคิดถึงเหตุการณ์ตลอดทั้งคืนและรู้สึกว่าเป็นความผิดของเธอ
ต้าหลินเหม่ยเองก็พูดด้วยความโกรธ:“พวกที่ตำแหน่งสูงนี้มันไร้เหตุผลจริงๆ หยานเหล่ยเป็นคนที่มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา แต่เขากับถูกเลือกให้ไปเที่ยวในวันหยุดเช่นนี้”
ฉางจ้วงเพิ่ม:“มันไม่ยุติธรรมเกินไป! หัวหน้าดงมีคุณูปการมากมายให้กับสาขา! หัวหน้าดงแก้ปัญหาได้กี่เรื่องสำหรับสาขา ตอนนี้หัวหน้าดงได้แก้ไขปัญหาทั้งหมดแล้วและคนที่สูงขึ้นก็แค่เตะเขาออกไปข้าง ๆ แสร้งทำเป็นไม่เห็นผลงานในอดีตของเขา? พวกเขาไม่สามารถทำตามที่พวกเขาพอใจ!”
หยานเก่าขมวดคิ้วและถอนหายใจ “มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ”
ทุกคนในสำนักงานกิจการทั่วไปนั้นรู้สึกโกรธมาก
จากการตัดสินใจครั้งนี้มันเหมือนว่าหัวหน้าเซงสั่งลงโทษโดยอ้อมต่อสำนักงานกิจการทั่วไป! เขาบอกทุกคนว่าสำนักงานกิจการทั่วไปนั้นไม่มีประสิทธิภาพและไม่ได้ให้การสนับสนุนการบริหารที่จำเป็นสำหรับเลขานุการของเขา! พนักงานทุกคนในสำนักงานถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ ! พวกเขาจะให้การสนับสนุนที่จำเป็นเมื่อหยานเหล่ย ไม่ได้พูดเมื่อเขาต้องการเอกสารนั้นได้อย่างไร! เขาเป็นคนที่ไร้เหตุผลและเริ่มด่าว่าและตะโกนในสำนักงาน! เกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าซูบินเขาเป็นคนตะโกนเสียงดังไม่ใช่หรอ? เพียงเพราะหยานเหล่ยเป็นเลขานุการของหัวหน้าสำนักสาขาและเขามีสิทธิพิเศษอะไรกัน? เขานั้นไม่มีเหตุผล? คนที่อยู่ในสำนักงานกิจการทั่วไปได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเซงอังเกา, เสี่ยวหยาน และคนอื่น ๆ ได้ฟังเพียงแค่เรื่องเล่าเพียงเท่านั้น
ดงซูบินรู้ว่าทุกคนรู้สึกอย่างไร แต่ในฐานะหัวหน้าเขาไม่อนุญาตให้พนักงานพูดสิ่งนี้ “เอาล่ะ รายการชื่อได้รับการยืนยันแล้ว เราจะไม่พูดเรื่องนี้อีกต่อไป กลับไปทำงานได้แล้ว.” หัวหน้าสาขา 'หมายเลขหนึ่งของสาขา' ได้ตัดสินใจไปแล้วและดงซูบิน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
หยานเหล่ย ‘เวรเอ๋ย!’
ดงซูบินโยนกระเป๋าเอกสารของเขาลงบนโต๊ะแล้วจ้องไปที่หน้าจอ
ติก, ต้อง, ติก โทรศัพท์ดังขึ้น. ดงซูบินรับโทรศัพท์ "สวัสดี."
“หัวหน้าซูบินนายรู้รึเปล่า ว่ามีปัญหาบางอย่างที่ทางเข้า” หลี่ชิงผู้อำนวยการเรียก “มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งอยู่ข้างนอก พวกเขาอยู่ที่นี่เมื่อวานนี้ตอนเย็นและยืนขว้างทางเข้า หัวหน้าเสี่ยว ขอให้ฉันไปไล่พวกเขาไป แต่พวกเขาไปก่อนที่ฉันจะไปถึง พวกเขาจะมาที่นี่อีกครั้งและฉันได้ยินมาว่าพวกเขากำลังมองหาข้าราชการหญิงผมยาว พวกเขาต้องการรพบกับข้าราชการคนนั้น……. นี้มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”
นักเรียนพวกนี้ชั้งกล้าเหลือเกิน ที่มาที่สำนักความมั่นคงของรัฐเพื่อขอพบหญิงสาวเพียงคนเดียว?
สมัยที่ดงซูบินนั้นยังเป็นนักเรียนอยู่เขาเคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้หลายอย่างเช่นนี้มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนักเรียนมาเพื่อรอหญิงสาวอยู่บริเวณหน้าหน่วยงานของรัฐบาล "ผู้อำนวยการหลี่ต้องการให้ผม……"
หลี่ชิงก็รู้ว่าหัวหน้าซูบินนั้นช่วงนี้อารมณ์ไม่ดี “บอกให้เกาแพนเหว่ยมารอฉันที่ชั้นล่าง”
ดงซูบินไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะทำงาน การตัดสินใจของหัวหน้าเซงทำให้เขาผิดหวังอย่างมาก เขาตอบรับคำขอและบอกให้เกาแพนเหว่ยลงไปชั้นล่าง เขาใช้เวลาที่เหลือในการตรวจงานและไปที่ห้องน้ำเพื่อสูบบุหรี่ เขาไม่ได้ขึ้นไปชั้นบนเพื่อตามหาหัวหน้าในวันนี้ ดงซูบินเองก็ยังโกรธและไม่อยากทำงานวันนี้เลย ในห้องน้ำเขาจุดบุหรี่และไอในขณะที่สูบบุหรี่ ในเวลาเดียวกันเขามองไปที่ทางเข้าของสาขาผ่านหน้าต่างของห้องน้ำ
มีนักเรียนเพียงเล็กน้อยที่อยู่นอกประตูหลัก แต่ดงซูบินไม่เห็นรูปร่างหน้าตาของเด็กนักเรียนเหล่านั้น แต่เขาจำชุดของพวกเขาได้ พวกเขามาจากโรงเรียนมัธยมหมายเลข 15 โรงเรียนมัธยมฉีดาฟูและโรงเรียนมัธยมหมายเลข 4 ดงซูบินสงสัยว่าทำไมนักเรียนเหล่านี้จึงมารวมตัวกันและมาที่หน่วยงานของรัฐเพื่อรอหญิงสาว
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่ชิง และ เกาแพนเหว่ยก็เดินไปที่ทางเข้า
“เฮ้พวกคุณรู้รึเปล่าว่ากำลังลุกล้ำเขตการทำงานของรัฐ” หลี่ชิงพูดอย่างจริงจัง “นี่เป็นหน่วยงานราชการ! ทำไมเด็กน้อยอย่างพวกเธอถึงยืนอยู่ที่นี่!”
เด็กชายหัวเราะและพูดว่า:“งั้นอะไรล่ะ? มันก็ไม่ผิดกฏหมายนิ”
เกาแพนเหว่ย ตะโกนว่า:“ผิดกฎหมาย! สถานที่แห่งนี้เป็นของความมั่นคงของรัฐ! รีบแล้วออกไป!” แม้ว่าสำนักงานสาขาเขตตะวันตกจะไม่มีป้ายใด ๆ แต่เป็นความลับที่เปิดเผยว่าสถานที่นี้ คือ สำนักงานความมั่นคงของรัฐ
เด็กชายจากโรงเรียนมัธยมหมายเลข 15 กล่าวว่า“โอ้ความมั่นคงของรัฐ? เหอหลิวกงผู้หญิงคนที่คุณชอบนั้นมาจากความมั่นคงแห่งรัฐ”
“ว้าวมันเป็นแผนกที่ดี เฮ้คุณช่วยฉันเรียกน้องสาวคนนั้นออกมาได้ไหม? เธอมีผมยาวดวงตาโตและริมฝีปากผอม”
“ไม่มีอะไรหรอก! รีบกลับไปโรงเรียนของคุณเถอะ!”
"หยุดโกหก. ฉันเห็นเธอแถวนี้เมื่อวาน”
“เธอต้องออกมาอย่างแน่นอน งั้นช่วยรออยู่ตรงนี้ก่อน”
หลี่ชิงพยายามโน้มนาวให้พวกเด็กผู้ชายพวกนั้นออกไป แต่เด็กชายเหล่านี้ดื้อและปฏิเสธเขา หลี่ชิงไม่ต้องการที่จะเสียเวลากับพวกเขาอีกต่อไปและรายงานสถานการณ์ให้ผู้บริหารระดับสูงทราบ พนักงานส่วนใหญ่มองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อดูสถานการณ์ภายนอก พวกเขาสังเกตเห็นนักเรียนเหล่านี้เมื่อวานนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สาขา ในอดีตผู้คนที่อยู่ข้างนอกจะกลับไปหลังจากที่คนจากฝ่ายกิจการทั่วไปไปพูดกับพวกเขา
เซงอังเกาถึงกับส่ายหัวหลังจากที่เขาได้รับรายงานของหลี่ชิง เขาเรียกสำนักงานความมั่นคงสาธารณะที่หกเพื่อขอให้พวกเขาจัดการเรื่องนี้
อีกไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ 5 ถึง 6 นายก็มาถึง
หันหน้าของเจ้าหน้าที่ชี้ไปที่นักเรียน:“พวกเธอกล้าที่จะปิดกั้นทางเข้าของสำนักความมั่นคงของรัฐหรอ? รีบออกไปไม่งั้นพวกเธอทุกคนเจอดีแน่!”
นักเรียนตกตะลึงเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่หยิบกุญแจมือออก ทุกคนหันมามองนักเรียนที่หล่อที่สุด คนนั้นดูเงียบๆและจะเป็นหัวโจก เขาจ้องมองที่เจ้าหน้าที่และพูดว่า:“ทำไมคุณถึงหยิบกุญแจมือออกมาล่ะ? เรายืนอยู่บนที่สาธารณะและเราก็ไม่ได้รบกวนใคร ทำไม? ทำไมต้องจับกุมเราด้วย?”
นักเรียนที่เหลือเข้าร่วม:“ถูกต้อง! เราไม่ได้ก่ออาชญากรรมใด ๆ !”
“มีปัญหาหรือยังไงที่เหล่านั้นยืนอยู่ตรงนี้? แม้ว่าคุณทั้งหมดจะมาจากสำนักความมั่นคงของรัฐ แต่คุณก็ไม่สามารถหยุดพวกเราได้หรอก”
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานความปลอดภัยสาธารณะที่หกเห็นว่านักเรียนเหล่านี้ประพฤติตัวเหย่อหยิ่งและมันทำให้พวกเขาโกรธมาก “ฉันขอให้พวกเธอทั้งหมดกลับไป!”
“เราจะไม่กลับ! แล้วคุณจะทำไม!”
"ใช้! เราจะไม่ออกไปจนกว่าเราจะเห็นพี่สาวคนสวย!” มีนักเรียนคนอื่นๆพูดแทรกเข้ามา
หัวหน้าของเจ้าหน้าที่ตะโกน: "ดี พวกเธอขอมันเองนะ!“เขาหันไปหาคนของเขาและพูดว่า:”จับพวกนั้นไว้!"
นักเรียนชิดาตะโกนว่า:“คุณกล้าที่จะจับกุมพวกเราเหรอ!”
นักเรียนอีกคนตะโกนว่า“เอ๋! ลองจับกุมเรา! ฉันจะทำให้แน่ใจว่าคุณทุกคนจะต้องเสียใจ!”
เจ้าหน้าที่จากสำนักความมั่นคงสาธารณะที่หกไม่สนใจและวิ่งไปข้างหน้าเพื่อใส่กุญแจมือพวกเขา หลังจากนั้นไม่นานนักเรียนทั้ง 6 คนถูกใส่กุญแจมือและถูกขังอยู่ในห้องด้านหลังป้อมปราการ เมื่อนักเรียนอยู่ในสถานที่พวกเขาถูกใส่กุญแจมือกับท่อโลหะ ไม่มีกงขังในสำนักงานสาขา ห้องนี้เป็นห้องเก็บของเพื่อเก็บขวดน้ำและของเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ
หัวหน้าของเจ้าหน้าที่มองไปที่นักเรียน:“พวกเธอไม่ต้องการออกไปใช่ไหม? ดีมาก! พวกเธอทุกคนจะได้อยู่ที่นี้ตามที่พวกเธอร้องขอ!”
นักเรียนเริ่มสบถและสบถ:“เวรเอ๋ย! ปล่อยเราตอนนี้!”
“นี่มันเป็นการทำผิดกฏหมายชัดๆ!”
เจ้าหน้าที่จากสำนักความมั่นคงสาธารณะที่หกเพิกเฉยและกลับไปที่สำนัก
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานความมั่นคงสาธารณะที่หกไม่ต้องการจับกุมนักเรียน พวกเขาเพียงแค่ทำให้นักเรียนกลัวเพียงเท่านั้น นักเรียนที่หยิ่งยโสเหล่านี้สร้างความรำคาญให้ผู้อื่นด้วยการยืนอยู่นอกทางเข้าสาขา เมื่อนักเรียนเหล่านี้กลัวพวกเขาจะได้รับการปล่อยตัว ด้วยวิธีนี้เจ้าหน้าที่จะสามารถตอบหัวหน้าเซงได้ถูกต้อง
แต่ไม่มีใครคาดว่าการจับกุมครั้งนี้จะทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่!
ไม่กี่นาทีต่อมา
โทรศัพท์ในห้องทำงานของหัวหน้าเซง ดังขึ้น
หยานเหล่ยรับสายและใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขารีบโทรศัพท์ไปหาเซงอังเกา อย่างรวดเร็ว
มันเป็นหัวหน้าเจียงจากสำนักเมือง “หัวหน้าเซงหัวหน้าสาขาเขตตะวันตกสินะ นายรู้อะไรไหมสิ่งที่สาขาต้องการคือความมั่นคง! เสถียรภาพ! นายช่วยหยุดสร้างปัญหาให้ฉันได้ไหม! พวกเขาเป็นแค่เด็ก ๆ ! ใครเป็นคนจับพวกนั้นไปใส่กุญแจมือไว้? ปล่อยทันที!”
เซงอังเกา ตกตะลึง “...... หัวหน้ากำลังพูดถึงนักเรียนที่มายืนปิดทางเข้าของสาขาของเราใช่ไหมครับ”
เซงอังเการู้สึกว่าไม่มีอะไรผิดปกติกับวิธีที่เขาจัดการกับสถานการณ์ สิ่งนี้แตกต่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลานชายของหัวหน้าเจียง หัวหน้าเจียงก็เข้าใจสิ่งนี้และตอบว่า:“หัวหน้าจากกระทรวงที่ดินและทรัพยากรโทรหาฉัน หนึ่งในนักเรียนคือหลานชายของหัวหน้าคนนั้น!”
เซงอังเกาเข้าใจสถาณการณ์ในทันที “ครับ……ผมจะปล่อยพวกเขาทันที!” ถ้านักเรียนมาจากครอบครัวของคนทั่วไปก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นญาติของผู้นำรัฐบาลกลางเรื่องนี้จะต้องได้รับการจัดการที่แตกต่าง เขาต้องปล่อยพวกเขาทันทีเนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก ถ้าสิ่งนี้ลุกล่ามมันจะรุนแรงมากขึ้น หลังจากวางสายแล้วเซงอังเกา ก็ตะโกนให้หยานเหล่ย “ไปที่สำนักงานที่หกและบอกให้พวกเขาปล่อยตัวนักเรียนทันที! เด็กคนหนึ่งเป็นญาติของผู้นำรัฐบาลกลาง!”
หยานเหล่ยกระโดดและวิ่งออกจากออฟฟิศ
ติก, ติก, ติก โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งเซงอังเกา ขมวดคิ้วและตอบ "สวัสดีครับ?"
“ฉันโทรจากกระทรวงการคลังของเมือง ฉันได้ยินมาว่าสาขาของคุณจับลูกชายของฉันไว้? อา? ลูกชายของฉันก่ออาชญากรรมอะไร ทำไมคุณถึงจับเขาไว้” สำหรับคนที่กล้าพูดว่าเขาโทรมาจากกระทรวงการคลังของเมืองเขาจะต้องอยู่ในระดับสูงมากๆ บุคคลนี้น่าจะเป็นอย่างน้อยรองหัวหน้าหรือหนึ่งในหัวหน้าแผนก!
ปลายสายอีกด้าน
เสี่ยวหยานได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมห้องของโรงเรียนเก่าของเธอ
“หัวหน้าเสี่ยว ฉันฌพี่หลิวจากสำนักงานตรวจสอบบัญชี ทำไมสาขาของคุณถึงจับหลานชายของฉันไว้ ฉันได้ยินมาว่าเขาใส่กุญแจมือหลานชายของฉันอีกด้วย! เขาเป็นเพียงเด็ก แม้ว่าเขาจะทำอะไรผิดก็ไม่จำเป็นต้องจับกุมเขาเช่นนั้น”
ในเวลาเดียวกัน.
ผู้แทนทางการเมืองเฉินได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนเก่าของเธอ
“น้องเฉิง ฉันได้ยินมาว่าสาขาเขตตะวันตกได้จับกุมลูกชายคนสุดท้องของเลขาธิการพรรคของเรา เด็กกลุ่มนั้นค่อนข้างมีเส้นสาย คุณปล่อยพวกเขาไปจะดีกว่าและอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่! ลูกชายของเลขาธิการพรรค ยังคงสบายดีใช่ไหม่ ฉันสนิทกับเขามาก……. นั่นคือทั้งหมดที่ฉันโทรหาเธอ! เธอควรปล่อยพวกเขาก่อนที่มันจะสายเกินไป!”
สายเรียกเข้าเริ่มเข้ามาและทุกคนในสาขาตื่นตระหนก
ดงซูบินผู้ที่สูบบุหรี่และดูจากหน้าต่างห้องน้ำรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติไป เจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่หกวิ่งกลับไปที่ห้องด้านหลังป้อมปราการดงซูบินสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีคนเข้าห้องน้ำ ดงซูบินมองดูคนๆนั้นและเป็นคนจากฝ่ายการเมือง เขาหยิบบุหรี่ให้คนๆนั้นแล้วถามว่า:“มีอะไรเกิดขึ้นบ้างหรอ?”
“โอ้ ขอบคุณครับหัวหน้าซูบิน” ชายคนนั้นได้รับบุหรี่และยิ้มอย่างอ่อนล้า “มันเป็นปีที่โชคร้ายสำหรับสาขาของเราเมื่อปีที่แล้ว แต่โชคดีที่ยังมีคุณ และเราพยายามหลบหนีจากอันตราย ผมคิดว่าปีนี้น่าจะดีขึ้น แต่เปล่าเลย……. เราเจอปัญหาอีกครั้ง นักเรียนข้างนอกทางเข้า ครอบครัวของพวกเขามีเส้นสาย พวกเขาเป็นญาติของหัวหน้าสำนักหรือลูกชายของรองหัวหน้าบางคน เฮ่อ!……รองหัวหน้าของผมยังคงเฝ้าดูสถานการณ์ข้างนอกหน้าต่าง หากเหตุการณ์นี้ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมสาขาของเราต้องเจอปัญหาอันใหญ่หลวงแน่ๆ”
ดงซูบินถึงกับพูดไม่ออก เขาหันมามองที่ห้องเล็ก ๆ ผ่านหน้าต่างห้องน้ำ ‘จับคนผิดอีกแล้วอย่างงั้นหรอ’
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่หกได้เข้ามาในห้อง
หัวหน้าของเจ้าหน้าที่รู้สึกโล่งใจที่เขาไม่ได้ตีนักเรียนเหล่านั้น ถ้าไม่ยังงั้นเขาคงจะมีปัญหาใหญ่กว่านี้ เขามองไปมี่นักเรียน “เอาล่ะ พวกเธอทุกคนสามารถกลับไปได้แล้ว” เขาหันไปหาเจ้าหน้าที่คนอื่น “ปล่อยพวกเขา!” เจ้าหน้าที่คนอื่นๆหยิบกุญแจออกมาและเดินไป
นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมหมายเลข 15 ก็โวยวายขึ้นมา:“กลับมาทำไหม ไอ้เวน! พวกคแกทุกคนเป็นคนที่จับพวกเรา! และแกต้องการให้ฉันกลับไปตอนนี้หรอ”
นักเรียนที่น่าตาหล่อยเหลาจับที่กุญแจมือแน่น “น้องชาย! อย่าปล่อยให้พวกเขาถิดกุญแจมือ! นี่คือหลักฐาน! หากพวกเขาไม่สามารถให้คำอธิบายที่ดีแก่เราได้เราจะไม่กลับไป!”
"ใช้! เราจะไม่กลับไป!เวรเถอะ!“นักเรียนจากฉีดา ผลักเจ้าหน้าที่ที่พยายามจะปลดกุญแจมือออกไป เขาจับที่ข้อมือ:” ทำไมแกถึงจับพวกเราทุกคน? เป็นอาชญากรรมหรอ ที่จะเดินไปตามถนน?”
นักเรียนคนอื่น ๆ ก็ตามหลังชุดสูทและป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ปล่อยกุญแจมือ “ฉันจะรอให้พ่อมา! ฉันจะไม่ยอมให้พวกแกทั้งหมดทำฉันอย่างนี้ฟรีๆหรอก!”
"ใช้แล้ว! ลุงของฉันกำลังเดินทางมาที่นี่! ฉันต้องการแสดงให้ฉันเห็นว่า พวกแกปฏิบัติต่อเราอย่างไร!”
นักเรียนสองสามคนนั่งบนขวดจ่ายน้ำและปฏิเสธที่จะออกไป!
เรื่องนี้มันไม่สามารถควบคุมได้แล้ว !!!