GOI ตอนที่ 99 หุ่นเชิดตัวที่สอง! (3)
หลังจากส่งดรุณีหกคนออกไป ระลอกที่สามมาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า หัวใจของสมาชิกห้องคนเถื่อนที่ยังไม่ได้รับโอกาสเลือกหุ่นเชิดทะยานขึ้นสู่ลำคอ
ความรู้สึกคาดหวังสามารถทำให้ใครก็ได้รู้สึกตื่นเต้น
“เพราะไม่มีหุ่นเชิดธาตุน้ำแข็งบริสุทธิ์มากนัก พวกเราจึงไม่สร้างเป็นจำนวนมาก ข้าหามาได้แค่สามตัว”
“โซ่น้ำค้างแข็ง ทักษะเสริมความแกร่งธาตุน้ำแข็ง ทักษะเปิดใช้คือเกราะหนามน้ำแข็ง สามารถสร้างเกราะป้องกันที่ควบกลั่นจากน้ำแข็งล้วน สะท้อนการโจมตีระยะใกล้ในรูปแบบหนาม”
“ถุงมือน้ำค้างแข็ง สร้างมาจากขนของราชันย์หมาป่าน้ำค้างแข็ง เสริมแกร่งผลของธาตุน้ำแข็ง ทักษะเปิดใช้คือหัตถ์เหมันต์ ซึ่งสามารถแช่แข็งสิ่งใดก็ตามที่แตะต้อง”
“ไม้เท้าราชินีหิมะ ยกระดับความแข็งแกร่งธาตุน้ำแข็ง ทักษะใช้งานชื่อพิรุณหิมะ เมื่อเปิดใช้จะเรียกศรน้ำแข็งรอบข้างผู้ใช้ก่อนจะโจมตีศัตรูทั้งหมดในระยะหวังผล ข้าแนะนำให้เลือกชิ้นนี้”
ถึงแม้เขาจะเตรียมพร้อมมาตั้งแต่ต้น เฉินฮุยอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อได้ยินคำอธิบายของเฟิงอู๋เหินมันเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นหุ่นเชิดระดับม่วงเยอะขนาดนี้
หากไม่ใช่เพราะได้มาอยู่ในห้องคนเถื่อน ไข่มุกแช่หิมะอาจเป็นหุ่นเชิดระดับม่วงตัวเดียวในทั้งชีวิตของเขา...
“ข้าต้องการถุงมือน้ำค้างแข็ง”
ตัวเลือกของเฉินฮุยทำให้ทุกคนตกตะลึงเล็กน้อย แต่ไม่มีใครสามารถคัดค้านเขาได้เมื่อเขาเอ่ยคำต่อมา
“ข้าอยากทำให้หุ่นเชิดที่แม่ข้าทิ้งไว้ให้เป็นหุ่นเชิดสายโจมตีตัวเดียวตลอดไป ข้าจะไม่แทนที่มันด้วยหุ่นเชิดชนิดเดียวกันตัวอื่น”
แววตาของเฉินฮุยแฝงความไม่ยินยอม เป็นความมุ่งมั่นที่มิอาจถูกสั่นคลอน
“จิตใจมุ่งมั่นกตัญญูมากล้น ทุกคนในห้องคนเถื่อนล้วนไม่ธรรมดาจริงๆ”
เฟิงอู๋เหินเอ่ยในเวลาที่ประจวบเหมาะ ความสามารถด้านยกยอปอปั้นไม่ด้อยไปกว่าของป๋ายเสี่ยวเฟย
“ศิษย์จากสายลอบสังหาร ข้ามีหุ่นเชิดสองตัวให้เจ้าลองดู ตามจริงแล้วมีหุ่นเชิดมากมายสำหรับสายของเจ้า แต่เมื่อข้าได้เห็นสองตัวนี้แล้ว ข้ารู้ว่าเจ้าจะไม่พิจารณาตัวอื่น เจ้าถือได้ว่าโชคดีไม่น้อย!”
หวังหางรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อได้ยิน เขามองไปยังทิศทางที่เฟิงอู๋เหินชี้นิ้ว ที่นั่นมีแก่นหุ่นเชิดและรองเท้าธรรมดาหาได้ทั่วไปหนึ่งคู่
“รองเท้าประกายเงา ความภาคภูมิใจของนักสร้างหุ่นเชิดเทวะ ผี่นั่วเฉา ผลงานของเขาสร้างเพียงไม่เกินสามชิ้นต่อหนึ่งปี ความสามารถคือแฟลช เคลื่อนตัวไปยังพื้นที่ที่กำหนดพร้อมเข้าสู่สภาวะหายตัว!”
หายตัว!
หนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเชิดหุ่นสายลอบสังหารคือการอำพราง และมีอยู่ทั้งหมดสามชนิดในทวีปนี้ พวกมันคือ ลอกเลียน พรางตัว และหายตัว
ลอกเลียนถูกเรียกว่าจำลองเช่นกัน ผู้ใช้จะหลบหลีกสายตาผู้อื่นโดยการกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ แต่ความเร็วในการเคลื่อนไหวเมื่ออยู่ในสภาวะนี้จะเชื่องช้าเป็นอย่างมาก ทำให้มันเป็นลักษณะการอำพรางที่อ่อนด้อยที่สุดและง่ายที่สุดในการถูกค้นพบ
ในอีกด้าน พรางตัวคือการที่ผู้ใช้งานพึ่งพาอุปกรณ์พิเศษหลายอย่างเพื่อซ่อนตัวก่อนจะปล่อยการจู่โจมที่ถึงแก่ชีวิตในเวลาที่เหมาะสม!
ในระหว่างสามชนิดแห่งการอำพราง ดีสุดคือหายตัว ภายใต้สภาวะหายตัว เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกตรวจจับ อีกทั้งมือสังหารสามารถเคลื่อนตัวอย่างอิสระจนกระทั่งเวลาที่ทำการโจมตี!
นอกจากนั้น รองเท้าประกายเงาไม่เพียงทำให้ผู้ใช้งานเข้าสู่สภาวะหายตัว อีกทั้งยังมีทักษะแฟลช เรียกได้ว่าน่าหวาดหวั่น...
ความตกใจของบนใบหน้าของหวังหางเปิดเผยทุกความรู้สึก แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้
“ต่อไปคือแก่นวิถีมือสังหาร หลังใช้งานจะสามารถเลือกเป้าหมายและเมื่อจู่โจมจะลบล้างผลของโล่และเกราะบนตัวเป้าหมาย อีกทั้งยังเพิ่มพลังโจมตีตามโล่และเกราะที่สวมใส่โดยเป้าหมาย หลังจากประสบความสำเร็จในการสังหาร วิถีมือสังหารจึงจะสามารถเลือกเป้าหมายใหม่ได้!”
“พวกเราซื้อทั้งคู่!”
คนที่เอ่ยหาใช่หวังหางไม่ หากแต่เป็นป๋ายเสี่ยวเฟยที่ยืนอยู่ด้านหลัง สองหุ่นเชิดนี้ทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยมองเห็นถึงถ้วยชัยชนะในงานประลองศิษย์ใหม่
โดยไม่รู้ตัว หวังหางได้กลายเป็นมือสังหารอันดับหนึ่งในหมู่ศิษย์ใหม่! ไม่มีใครสามารถต่อสู้กับเขาได้!
แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นเสวี่ยอิ่งที่นั่งกลืนน้ำลายอึกใหญ่อยู่ข้างหลัง...
หลังจากหวังหาง คนต่อไปคือจูนั่ว ดรุณีน้อยประหม่าถึงกระทั่งกระโจนขึ้นจากโซฟา
“เจ้าให้ข้าเลือกหุ่นเชิดที่มีความสามารถฟื้นฟู ข้าจึงนำหุ่นเชิดของนักสร้างหุ่นเชิดระดับเทวะ ไป๋ฮัว มาให้”
“มงกุฏแห่งรุ่งอรุณ ทักษะเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ สหายร่วมกลุ่มที่กำหนดในระยะจะได้รับผลจากพรดาราซึ่งจะฟื้นฟูบาดแผลเป็นเวลาห้าวินาที”
แค่หุ่นเชิดตัวเดียวก็เพียงพอให้จูนั่วกลายเป็นผู้แข็งแกร่ง!
หลังจากซื้อหุ่นเชิดให้อีกสามคน ดรุณีระลอกสุดท้ายเดินเข้ามา
“สหายน้องหญิงจากสายจู่โจมรวดเร็ว รองเท้าของเจ้าเป็นเซ็ทจากเทพธิดาสงคราม ข้าหาชิ้นส่วนอื่นมาได้ ลองเลือกดู”
เมื่อเขาเอ่ยจบ ดรุณีสี่คนเผยสี่หุ่นเชิดที่ถูกสร้างมาจากวัตถุดิบคล้ายคลึงกับรองเท้าของจู๋ซือซือ เป็นปลอกแขน เกราะเบา หมวก และดาบสั้น
จู๋ซือซือราวกับเตรียมตัวมาตั้งแต่แรก นางเลือกปลอกแขนทั้งสองก่อนที่เฟิงอู๋เหินจะได้แนะนำ
ปลอกแขนเทพธิดาสงคราม ความสามารถ ทะลวงโล่!
ความสามารถรองคือลาก ซึ่งจะดึงผู้ใช้ไปยังเป้าหมาย และถ้าน้ำหนักของเป้าหมายน้อยกว่าผู้ใช้ จะเป็นการลากเข้ามาแทน!
หลังจากจู๋ซือซือก็เป็นฉิงหนานที่ได้รับโอกาส
ต่างจากจู๋ซือซือที่เป็นลูกคุณหนูร่ำรวยมีหุ่นเชิดระดับม่วงในครอบครอง หุ่นเชิดตัวแรกของฉิงหนานเป็นเพียงระดับเหลือง สิ่งที่เขาขอคือแก่นหุ่นเชิด
“ตั้งจิต เพิ่มพลังของลูกธนูมากสุดสิบเท่าจากเดิมโดยการสะสมพลัง”
“ขยาย พึ่งพาการสะสมพลังเช่นเดียวกัน แต่ความสามารถตรงกันข้ามกับตั้งจิต ศรปราณกำเนิดภายใต้ผลจากขยายจะเพิ่มขนาดเปลี่ยนการโจมตีหนึ่งเป้าหมายเป็นโจมตีแบบกลุ่ม”
“ปะทุ เพิ่มผลการระเบิดให้ศรที่ยิงออกไป หลังจากจู่โจมโดนเป้าหมาย ศรจะระเบิดออก ความแรงของระเบิดขึ้นอยู่กับปริมาณของปราณกำเนิดที่ใส่เข้าไปในศร”
ฉิงหนานตกอยู่ในภวังค์เมื่อฟังจบ
ปะทุเป็นสิ่งที่เขาต้องเลือกแน่ๆ ปัญหาคือเขาจะเลือกตั้งจิตหรือขยายดี อย่างแรกคือการโจมตีเดี่ยว อีกอย่างคือโจมตีกลุ่ม ซึ่งเป็นปัญหาที่นักเชิดหุ่นสายจู่โจมระยะไกลทุกคนต้องประสบ
“เลือกขยาย ฟางเย่เพียงพอสำหรับเป้าหมายเดี่ยวแล้ว และพลังทะลวงของศรของเจ้าไม่ต่ำ”
สุดท้ายเป็นป๋ายเสี่ยวเฟยที่แนะนำ ฉิงหนานครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะตกลง
หากไม่มีป๋ายเสี่ยวเฟย ฉิงหนานจะไม่ได้รับโอกาสในการเลือก เขาจึงต้องคิดถึงส่วนรวมในครานี้
คนสุดท้ายคือฟางเย่ที่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าดรุณีคนสุดท้ายถือถาดหุ่นเชิดของเขาอยู่!
“สหายน้อย เดาสิว่าใครเรียกข้าไปพบหลังจากข้ากลับไปที่สำนักงานใหญ่และเอ่ยว่ากำลังหาหุ่นเชิดตนที่สองสำหรับนักเชิดหุ่นสายไรเฟิล?”
เฟิงอู๋เหินปล่อยให้ทุกคนคาดเดาไปต่างๆ นานาเมื่อถึงตาฟางเย่
ฟางเย่เบิกตาโพลงเหม่อมองขณะที่เอ่ยคำสั้นๆ ด้วยริมฝีปากที่สั่นเทิ้ม
“หนาน...หนานอู๋เซิง?”