ตอนที่ 79 : ทะเลแดนเหนือ
ในพื้นที่สุสาน
การต่อสู้อย่างเต็มกลืนระหว่างเทพปิศาจและไฮเดริกามิยังคงดำเนินต่อไป
แต่ที่ทำให้ไฮเดริกามินั้นหวาดผวาก็คือเขาได้สูญเสียเลือดชีเร็วกว่าเทพปิศาจ ถ้ามันยังเป็นต่อไปแบบนี้ เขาจะไม่เพียงแค่พ่ายแพ้ต่อเทพปิศาจ แต่จะถูกกลืนกินไปหมดสิ้นโดยเทพปิศาจอีกด้วย
เมื่อได้ตระหนักแล้ว ความโกรธแค้นที่หนักแน่นได้ไหลออกมาจากดวงตาของไฮเดริกามิ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนใจ งูโลหิตทั้งเจ็ดตัวปล่อยจากการกัดพร้อมกัน ในขณะเดียวกัน คอของเขาก็หมุนเป็นเกลียว กะโหลกหลุดออกจากร่าง
เลือดกระเด็ดไปบนอากาศ ไฮเดริกามิที่ไร้ศีรษะถอยหลังไปไม่กี่ก้าว จากนั้นร่างกายของเขาก็บิดเบี้ยวและบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นเลือดสีแดงเรืองแสง
“อ้ากก! ไฮเดริกามิ!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น เทพปิศาจเงยหน้าขึ้นและโยนหัวกะโหลกของไฮเดริกามิทิ้งไป จังหวะเดียวกัน เขากระโดดขึ้นและพุ่งตรงไปที่หมอกโลหิต
เขาต้องทนทรมานนับแสนปีเพื่อโอกาสที่จะได้สังหารไฮเดริกามิในวันนี้ เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ไฮเดริกามิหนีไปได้
เทพปิศาจเข้าใกล้อย่างรวดเร็ว เขาได้เปลี่ยนรูปแบบของมือขวาให้เห็นมือขนาดใหญ่บนอากาศและกดหมอกมืดนั้นลงมา
ในจังหวะที่มือกำลังจะปะทะกับหมอกโลหิตนั้น สนธิสัญญาของเกมก็ได้ปรากฏขึ้นในหัวของเทพปิศาจ เขาหยุดกลางอากาศและร่วงลงมาจากท้องฟ้า
ความสามารถในการกลับชาติมาเกิดตามสัญญาได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว เวลาที่จำกัดเอาไว้สามชั่วโมงในการใช้ร่างกายนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว
เมื่อกู่หยูกลับมาควบคุมร่างกายของเขาได้แล้ว เขาจ้องมองไปที่หมอกโลหิตนั้นด้วยความเศร้า
ในตอนที่เทพปิศาจสิงร่างเขานั้น เขาสัมผัสได้ถึงความโกรธลุกโชนอยู่ภายใน ความเกลียดแค้นที่เทพปิศาจมีต่อไฮเดริกามินั้นมันลึกเกินกว่าที่เขาได้จินตนาการเอาไว้เสียอีก
ถ้าเขาทำได้ กู่หยูก็ยินดีที่จะใช้เทพปิศาจได้ยืมร่างกายนี้อีกครั้งจนกว่าเขาจะสังหารไฮเดริกามิลงได้
แต่ในตอนนี้ ทุกๆอย่างมันสายเกินไปแล้ว หมอกโลหิตได้จากไปแล้ว และกู่หยูเองก็ตกลงสู่พื้นอย่างแรง
เมื่อไม่มีการสนับสนุนจากเทพปิศาจ หลอดเลือดของกู่หยูก็ลดลงไปกว่าครึ่ง
...
ในส่วนที่ลึกที่สุดของผาแห่งความสิ้นหวัง
เทพปิศาจตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่ง
เขาอยากจะพังทลายสิ่งที่ล่ามเขาเอาไว้ที่นี่และออกไปสู้ต่อ เขาไม่ยอมให้ทุกสิ่งมันจบลงไปแบบนั้น!
โซ่ทองคำหลายเส้นที่รั้งตรึงเทพปิศาจเอาไว้ แสงแห่งเกียนติยศส่องออกมาริบรี่จากความมืดที่ที่ล็อคแผ่นดินเอาไว้ นี่เป็นพลังแห่งการผนึกที่เทพปิศาจนั้นไม่สามารถต้านทานได้ ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนขนาดไหนก็ตาม
เขาเกือบจะชนะแล้ว แต่ก็ล้มเหลว อีกนานแค่ไหนที่เขาจะต้องรอคอยโอกาสในครั้งต่อไป? หมื่นปี? แสนปี?
ความรู้สึกด้านลบในตัวของเทพปิศาจพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ร่างกายของเขาเริ่มขยายตัว
ในตอนนี้โซ่ทองคำก็รัดแน่นขึ้นมาทันที ข่มพลังที่ขัดขืนของเทพปิศาจเอาไว้ ทำให้เทพปิศาจคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด
ที่จุดสูงสุดของยอดเขา เงาของชายแก่ผมขาวปรากฏขึ้นมาช้าๆ ชายแก่ก้าวไปที่ด้านข้างของเสาเจดีย์
ชำเลืองมองไปที่โครงกระดูกสีดำที่อยู่บนเสา โหยหาอิสระจากสายตาของชายแก่ เขาลูบที่เสาต้นนั้นอย่างอ่อนโยน
“เทพปิศาจ จงควบคุมพลังของเจ้า!”
เมื่อชายแก่พูดออกมา พลังก็ไหลออกมาจากแขนของเขาไปที่เสาต้นนั้น ทันใดนั้นโซ่ทองคำก็หยุดรัด
“ทะเลแดนเหนือ ข้าไม่ต้องการความเห็นใจจากเจ้า! ออกไปซะ!” สายตาสีแดงเลือดคู่หนึ่งปรากฏขึ้นบนยอดเขา
ข้าไม่เคยสงสารเจ้าเลย ข้าอยากจะฆ่าเจ้าด้วยซ้ำ!” ชายแก่หัวเราะออกมาในขณะที่มองไปที่สายตาสีเลือดคู่นั้นที่ก่อตัวขึ้นมาจากหมอกสีดำ
“หลายปีผ่านไปแล้ว ข้าไม่มีความเกลียดชังต่อเจ้าอีกแล้ว” ชายแก่พูดขึ้นอีกครั้ง
“ข้าไม่ต้องการเพื่อน! ข้าไม่ต้องการ! ออกไปซะ!” เทพปิศาจพูดออกมาเป็นฟืนเป็นไฟ
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย ใครกันจะเอาเจ้าเป็นเพื่อนและมาพูดคุยกับเจ้าถ้าข้าจากไปจริงๆ”
เมื่อเทพปิศาจได้ยินคำพูดนั้น เขาก็เงียบไป ความโกรธในใจเขานั้นลดลงทันที
“ทะเลแดนเหนือ ปล่อยข้าไป แล้วข้าจะมอบพลังที่ไม่มีสิ้นสุดให้กับเจ้า!” เทพปิศาจเริ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ้าอาจจะหลอกทุกคนได้ แต่เจ้าคิดว่าจะใช้มุกนี้กับข้าได้งั้นเหรอ?” ชายแก่เคาะไปที่เสา
จากที่เขาได้พยายามมาหลายครั้ง เทพปิศาจคุ้นเคยกับการปฏิเสธของชายแก่ดี หลังจากช่วงเวลาแห่งความเงียบผ่านไปสักพัก เขาก็เปิดปากพูดอีกครั้ง
“ทะเลแดนเหนือ ได้โปรดช่วยข้าด้วย!” คราวนี้เทพปิศาจลดเสียงต่ำลงอ้อนวอน
“ว่ามา!” ชายแก่เลียนแบบน้ำเสียงของกู่หยู
“พาชายคนที่ข้าครอบงำกลับมาให้ข้า!”
“เจ้าอยากจะครอบงำเขาอีกครั้งงั้นรึ?” ชายแก่ถามด้วยความงงงวย
“นี่เป็นสิ่งที่ข้าได้สัญญาเอาไว้ ข้าต้องรักษาสัญญา”
ชายแก่จ้องไปที่เขาด้วยตาที่เปิดกว้าง “นี่มันไม่เหมือนเจ้าเลย คนชั่วอย่างเจ้าจะรักษาสัญญาอย่างนั้นหรือ?”
เทพปิศาจจ้องไปที่ชายแก่ “เจ้าจะช่วยหรือไม่!?”
“ก็ได้ ในเมื่อเจ้าขอร้องข้า ครั้งนี้ข้าจะช่วยเจ้า”
ชายแก่ยิ้ม จากนั้นร่างกายของเขาก็ค่อยๆจางหายไป
...
ในสุสาน กู่หยูและซันฉีที่ตกลงมาบนพื้นพร้อมๆกัน พวกเขาจ้องหน้ากัน
“หัวหน้า? เทพปิศาจ?” ซันฉีเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างระมัดระวัง
กู่หยูตบไปที่หลังหัวของซันฉีและถามขึ้นมา “เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ!?”
“หัวหน้ากลับมาแล้ว?” ความปิติปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของซันฉีในขณะที่เขาค่อยๆปิดไลฟ์สตรีมที่กำลังเล่นอยู่ลง
ในคอมเม้น :
“แกมันชั่ว ไอ้ลูกหมา! หมายความว่าไงที่แกปิดการออกอากาศในตอนนี้ ข้ายังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น!”
“ลูกหมา แกเปลี่ยนไปนะ แกกล้าดียังไงถึงมาปิดสตรีม อย่าให้ฉันเจอแกข้างนอกล่ะ ฉันจะจับแกมาเป็นสัตว์เลี้ยงเลย!”
“ทำดีมากหมาน้อย มาดูกันว่าฉันจะหักขาแกไหมถ้าได้เจอกันข้างนอกนั่น!”
“อ้า เกิดอะไรขึ้น ทำไมเทพปิศาจถึงหายตัวไป? แล้วก็ ไฮเดริกามิดูเหมือนจะหนีไปได้ นี่อินวิสิเบิล_โลนลิเนสได้สติแล้วใช่ไหม หรือเขาจะถูกเทพปิศาจครอบงำอยู่? นี่มันจะยังเป็นสิ่งที่ลึกลับต่อไปอีกใช่ไหม?”
การปิดไลฟ์สตรีมทำให้เกิดการด่าทอขึ้นในช่องคอมเม้น
เมื่อกู่หยูกำลังจะตอบคำถามซันฉี แสงสีขาวก็ยกพวกเขาขึ้นจากพื้นดินและพาพวกมุ่งหน้าไปที่ผาแห่งความสิ้นหวัง
ภาพที่อยู่ตรงหน้าเขาเบลอขึ้นและเมื่อการมองเห็นของเขากลับคืนมา กู่หยูกับซันฉีก็ได้รู้ว่าพวกเขานั้นมาปรากฎอยู่ที่หน้าบ้านของชายแก่ผมขาวอีกครั้ง
ในเวลานั้น ประตูก็ได้เปิดออก
“พวกเจ้ามาทำอะไร? มาที่นี่ทำไมอีก?” ชายแก่ผมขาวมองไปที่สองคนนั้นด้วยความไม่พอใจ
กู่หยูที่กำลังตกตะลึงคิดอยู่สักพักและคิดว่าเทพปิศาจได้ซัมม่อนเขามาที่นี่ เขาจึงพูดออกมาว่า “เจ้าหมา แกอยู่นี่ก่อน ข้าคิดว่าข้าต้องไปบนยอดเขา”
“เอ๋ นายหมายถึงจะปีนขึ้นไปบนเขาเหรอ? ไม่ใช่ว่าข้าบอกเจ้าว่าไม่ให้ขึ้นไปรึไง?” ชายแก่ผมขาวดึงไม้เท้าของเขามาจากด้านหลังและดูเหมือนพร้อมจะต่อสู้
พวกเขาพูดไม่ออกไปสักพัก
“ชายแก่ ท่านได้ยินข้าผิดแล้วหล่ะ ข้าจะบอกว่าข้าลืมของเอาไว้ระหว่างทาง ข้าจึงต้องกลับไปตามหามัน ข้าจะทิ้งเจ้าหมาไว้กับท่านที่นี่ ข้าสัญญาว่าจะไม่ปีนเขา!”
เมื่อเห็นว่าชายแก่นั้นมีท่าทางไม่เชื่อ กู่หยูก็สัญญาอีกครั้งว่าเขาจะไม่ปีนเขาขึ้นไปและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากเห็นกู่หยูออกไป ซันฉีก็ชำเลืองมองไปที่ชายแก่ที่กำลังยิ้มแปลกๆอยู่
“เจ้าหมาโง่ หลบไป เจ้ามองอะไร?” ชายแก่ผมขาวยกเท้าขึ้นมาเตะซันฉีออกมาและปิดประตูไม้อย่างรวดเร็ว
ติดตามข้อมูลตอนใหม่ล่าสุดเพิ่มเติมได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/novelth/
________________________________________________________