GE465 อนุสรณ์ปีศาจชิ้นที่ 2 [ฟรี]
หนิงฝานปลอบประโลมจนฉุ่ยหลิงหายกลัว ก่อนจะพานางไปพักจนหลับ แล้วเขาก็ติดตามชวี่ฉิงไปพบบรรพบุรุษทั้ง 8
ฉุ่ยเยวียนได้ฟังที่บรรพบุรุษทั้ง 8 คุยกัน จึงได้เล่าเรื่องราวต่างๆให้หนิงฝานได้ฟังและอ้อนวอนไม่ให้เขาไป แต่ถึงอย่างนั้น หนิงฝานก็จะยังไปพบพวกมันอยู่ดี
ระหว่างทาง ชวี่ฉิงได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับบรรพบุรุษทั้ง 8 และเตือนว่าไม่ให้หนิงฝานบอกเรื่องนี้กับผู้ใด
ชวี่ฉิงเคยถูกบรรพบุรุษทั้ง 8 ล้างความทรงจำไปรอบหนึ่ง ทำให้ไม่รู้เรื่องที่พวกมันทำกับฉุ่ยเยวียน จึงทำให้ชวี่ฉิงยังคงเคารพในตัวพวกมันอยู่
ในบรรดาบรรพบุรุษทั้ง 8 มีขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงอยู่ 2 คน ขั้นกลางอีก 6 คน
หนึ่งในผู้ที่อยู่ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงคือบิดาของชวี่ฉิง อีกหนึ่งเป็นผู้นำของเหล่าบรรพบุรุษทั้งหมด
“ผู้นำของบรรพบุรุษทั้ง 8 คือบรรพบุรุษรุ่นแรก ‘ชวี่หลู่หวาง’ ประวัติของท่านไม่ค่อยดีนัก ท่านสังหารนักปรุงโอสถไปมากมาย และแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ที่สำคัญ ท่านเป็นคนโหดเหี้ยม เป็นผู้ที่ไม่น่ายั่วยุมากที่สุด”
“พวกท่านวางแผนจะทำสิ่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเป็นและความตายของเผ่า หากสิ่งที่พวกท่านทำไม่สำเร็จ เผ่าปีศาจยักษ์ของเราอาจจบสิ้น… การที่พวกท่านห่วงใยเผ่ามากขนาดนั้น ทำให้ข้านับถือเป็นอย่างมาก”
“การฟื้นฟูและทำเพื่อเผ่าเช่นนี้ นับเป็นผู้นำเผ่าที่แท้จริง” ชวี่ชิงบอกเล่าเรื่องราวของบรรพบุรุษทั้ง 8 ด้วยความนับถือ
แต่หนิงฝานไม่ได้นับถือด้วย และเขาก็ยังไม่บอกสิ่งที่เขารู้กับชวี่ฉิง เพราะต่อให้บอกไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร เขาจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง
ส่งเดียวที่เขาเป็นกังวลในยามนี้คือฟงฉุ่ยเยวียน เขาอยากจะช่วยนางให้พ้นจากมือพวกมัน
“อนุสรณ์ตะวันจันทราสามารถจบชีวิตมันได้ในพริบตา ต่อให้เป็นขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงสุดก็ยังบาดเจ็บสาหัสอถึงจะสังหารพวกมันไม่ได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ทำให้ข้าป้องกันตัวเองได้ ตราบใดที่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกไม่ลงมือด้วยตนเอง ข้าก็ไม่กลัว”
“พวกมันจะปกป้องนางไปอีก 10… ข้าต้องหาทางดูดซับโลหิตของโม๋หลัวให้ได้ภายใน 10 ปีนี้ ข้าจึงจะช่วยนางได้ ตอนนี้ข้าต้องทะลวงขอบเขตกายทองคำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และข้าต้องชิงอนุสรณ์ปีศาจที่อยู่กับพวกมันมาให้ได้!”
“ถ้าข้าไม่บรรลุกายทองคำ ก็ไม่อาจต่อกรกับขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงได้ซึ่งหน้า ถ้าข้าไม่บรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง ข้าก็เป็นได้เพียงมดปลวกในสายตาพวกมัน… กายทองคำจะทำให้ข้ารับมือกับพวกมันได้ง่ายขึ้น” หนิงฝานตั้งมั่นว่าจะทะลวงขอบเขตกายทองคำให้ได้
ในขณะะนั้นเอง จู่ๆแรงกดดันของหนิงฝานก็เพิ่มพูนในฉับพลัน จนทำให้ชวี่ฉิงตกตะลึง แต่มันไม่ได้กล่าวถามสิ่งใด
เมื่อมาถึงเบื้องนอกที่พักของพวกมัน ชวี่ฉิงก็นำหยกสื่อสารออกมา แล้วพูดคุยกับพวกมันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ประตูทางเข้าจะเปิดออกให้หนิงฝานได้ผ่านเข้าไป
ชวี่ฉิงไม่ได้รับอนุญาติให้ตามเข้าไปด้วย เพราะสิ่งที่พวกมันจะพูดคุยกับหนิงฝาน ชวี่ฉิงไม่จำเป็นต้องรู้
ภายในที่พักของพวกมัน รอบข้างมืดสนิท มองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้ยาก หนิงฝานสัมผัสได้ว่า ความมืดเหล่านี้ก่อตัวขึ้นจากวิชา แม้เขาจะกระตุ้นเนตรปีศาจ ก็มองเห็นได้ไม่ไกลนัก
เขายังสัมผัสได้อีกว่า ใต้ฝ่าเท้ามีพลังของข่ายอาคมอยู่ 6 ชั้น และรอบข้างมีข่ายอาคมอยู่อีก 8 ชั้น
นั่นหมายความว่า สถานที่มีข่ายอาคมที่ทรงพลังถูกวางเอาไว้ ซึ่งระดับของข่ายอาคม จัดอยู่ในระดับที่แดนสวรรค์ใช้กัน
ในขณะนั้น รอบข้างหนิงฝานปรากฏเปลวเพลิงสีเขียวขึ้น 8 จุด เผยให้เห็นเสาศิลาขนาดใหญ่ทั้ง 8 ต้น
บนเสาแต่ละต้นมีเงาดำอยู่ แต่ละเงาแผ่แรงกดดันในขอบเขตไร้ดัดแปลงที่น่าสะพรึงกลัว
ถัดจากเสาศิลาไปไม่ไกล หนิงฝานเห็นรูปปั้นขนาดใหญ่ ใกล้ๆมีสระโลหิต ประตู 8 บาน และเส้นทางอีก 6 สาย
หนิงฝานรู้ได้ทันทีว่าข่ายอาคมที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ คือ ‘ข่ายอาคมสมุทรปีศาจ 8 ประตู 6 เส้นทาง’
ข่ายอาคมนี้ทรงพลังและอัดแน่นไปด้วยพลังแห่งชีวิต
“เจ้าเหรอซัวหมิง?” เสียงของชายชราที่นั่งอยู่บนเสาศิลาแห่งหนึ่งดังขึ้น ลักษณะของมันเป็นชายชราที่ผอมแห้งหนังติดกระดูก ดวงตาสีเขียวมองแล้วน่าขนลุก
มันผู้นั้นสมควรเป็นชวี่หลู่หวาง แรงกดดันของมันทำให้หนิงฝานตระหนกเล็กน้อย
แต่ก่อนที่แรงกดดันของมันจะแผ่มาถึงตัวหนิงฝาน จู่ๆแรงกดดันของมันกลับหายไป หนิงฝานปลดปล่อยปราณสังหารที่รุนแรงเข้าต้าน และปกคลุมบรรยากาศโดยรอบ
นอกจากชวี่หยานและชวี่หลู่หวาง อีก 6 คนที่เหลือลมปราณปั่นป่วน
“นี่เหรอการต้อนรับของพวกท่าน?” หนิงฝานกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไร้ซึ่งความหวาดกลัว
ชวี่หลู่หวางประหลาดใจ มันสลายแรงกดดันพลางกล่าว “สหายน้อย ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่ง แต่ด้วยพลังของเจ้าตอนนี้จะข่มขู่พวกข้านั้นยังไม่พอ”
“พวกท่านบอกจะให้ข้าปรุงโอสถให้ แต่กลับล่วงเกินข้าแบบนี้ ต่อให้พวกท่านเป็นบรรพบุรุษของเผ่า ก็อย่าหวังว่าข้าจะปรุงโอสถให้” หนิงฝานยืนเอามือไพล่หลังกล่าวอย่างองอาจ
“สามหาว! ผู้เยาว์ขอบเขตตัดวิญญาณอย่างเจ้า อย่าได้จองหองกับพวกข้า” สตรีชายชรานางหนึ่งกล่าวพลางยกมือ เตรียมจู่โจมหนิงฝาน
ปราณหยินที่รุนแรงแผ่ออกมาจากร่างนาง แรงกดดันในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางปะทุ
บรรพบุรุษอีก 7 คนที่เหลือดูราวกับเห็นด้วยกับการกระทำของนาง เพราะหนิงฝานเป็นแค่ผู้เยาว์ แต่กลับกล้าสามหาวกับพวกมัน ย่อมต้องถูกสั่งสอน
แต่ก่อนที่นางจะทันได้ลงมือ หนิงฝานแผ่แรงกดดันของขอบเขตไร้แบ่งแยกออกมาจากตันเถียน จนทำให้พวกมันทุกคนตกตะลึง
“หุบปาก! ข้ากับชวี่หลู่หวางกำลังคุยกัน เจ้าอย่ามาสอด!”
พลังจากอนุสรณ์ตะวันจันทราถูกกระตุ้น เป้าหมายเล็งไปที่พวกมันทุกคน หากนางกล้าลงมือ หนิงฝานก็จะจู่โจมพวกมันทันที
“หยินชา หยุดเดี๋ยวนี้ อย่ายั่วยุสหายเต๋าซัว!” อีก 7 คนที่เหลือแตกตื่น พลางเร่งห้ามนางเป็นการใหญ่
พวกมันเริ่มหวาดกลัวหนิงฝาน เพราะรู้ว่าการจู่โจมที่เขาจะปล่อยออกมานั้นนั้น มากพอที่จะให้ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงสุดบาดเจ็บสาหัส และพวกมันคงไม่รอด ต่อให้เป็นชวี่หลู่หวางที่แข็งแกร่งที่สุดก็รับมือไม่ได้
พวกมันไม่อยากเชื่อว่าหนิงฝานที่พวกมันดูแคลน จะมีไพ่ตายที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้
ตอนนี้พวกมันเชื่อแล้วว่าจะยั่วยุหนิงฝานไม่ได้
แผนการที่พวกมันวางเอาไว้ว่าจะให้หนิงฝานปรุงโอสถ แล้วดูดกลืนจิตวิญญาณสมุนไพรต้องล้มเลิกไป
การตอบสนองของพวกมันก็ทำให้หนิงฝานคาดไม่ถึงเช่นกัน ว่าการที่เอาไพ่ตายออกมาเผยแบบนี้ จะทำให้พวกมันเปลี่ยนความคิดไปในทันที
ขนาดราชามังกรตะวันออกในหอคอยอัสนียังหวาดกลัวหนิงฝาน เหตุใดพวกมันทั้ง 8 จะไม่หวาดกลัว
น่าเสียดายที่อนุสรณ์ตะวันจันทราใช้จู่โจมได้ครั้งเดียว หากใช้จู่โจมได้มากกว่านั้น การสังหารพวกมันคงไม่ใช่ปัญหา
เหตุที่หนิงฝานกล้าเผยพลังของอนุสรณ์ตะวันจันทรา เพราะเขามีกษัตริย์โอสถเป็นอาจารย์ ย่อมไม่แปลกที่จะมีคนคิดว่า แรงกดดันที่หนิงฝานแผ่ออกมา เป็นสิ่งที่กษัตริย์โอสถมอบให้
สตรีนามหยินชาหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จนเงาร่างของนางสั่นไหว นางคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะมีไพ่ตายที่สยบพวกมันทุกคนได้ แบบนี้ต่อให้เป็นราชาสุสานบุบผาก็ไม่กล้ายั่วยุหนิงฝาน
“อย่าได้ยั่วยุข้า ไม่อย่างนั้น ข้าก็ไม่รับประกันความปลอดภัยของพวกท่าน” หนิงฝานกล่าวข่มขู่พวกมัน
ไม่ว่าพวกมันจะขัดขืนเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่ทรงพลังกว่า พวกมันก็ทำได้เพียงก้มหัวยอมรับ
เมื่อทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบ หนิงฝานก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“ข้าขอถามท่านชวี่หลู่หวาง ท่านต้องการให้ข้าปรุงโอสถใด? แต่ข้าขอบอกไว้ก่อนว่า หากเป็นโอสถที่ยาก สิ่งที่ข้าต้องการก็จะมีค่ามากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ เผ่าของท่านก็ต้องเป็นผู้เตรียมสมุนไพรให้ข้า หากในระหว่างการปรุงโอสถข้ามีสิ่งใดต้องการเพิ่ม พวกท่านก็ต้องจัดหามาให้ เพื่อช่วยให้ข้าปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น”
“ข้าชอบที่สหายน้อยกล่าวอย่างตรงไปตรงมา… ที่พวกข้าขอให้เจ้ามาก็เพราะต้องการโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุดอย่างน้อย 8 เม็ด เรื่องสมุนไพรพวกข้าเตรียมไว้แทบจะครบแล้ว จะเหลือก็เพียงสมุนไพรหลักอยู่ชนิดหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ส่วนในระหว่างการปรุงโอสถหากเจ้าต้องการสิ่งใดที่เป็นประโยชน์และยอมรับได้ พวกข้าจะจัดการให้… ส่วนเรื่องรางวัลของเจ้า ด้วยที่พวกข้าขอให้ปรุงโอสถระดับสูงให้ รางวัลที่เจ้าได้ก็ย่อมยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร หยกสวรรค์ หรือวิชาลับ หากเจ้าต้องการสิ่งใดขอแค่บอก หากให้ได้พวกข้าก็ไม่ลังเล...”
“ข้าต้องการอนุสรณ์ปีศาจ!”
“ไม่ได้!” ชวี่หลู่หวางปฏิเสธทันที
“วางใจเถอะ ข้าแค่อยากเอามาศึกษาแล้วคืนให้ ไม่ได้จะเอาไปถาวร… ข้าได้ยินว่าราชาสุสานบุบผาร่วมมือกับเผ่าเนตรปีศาจและเขาคู่ บุกเผ่าหกปีกเพื่อชิงอนุสรณ์ปีศาจ ข้าจึงอยากรู้ว่าอนุสรณ์ปีศาจมันมีหน้าตาเป็นยังไง นอกจากนี้ ข้ายังต้องการหยกสวรรค์พันล้าน สมุนไพร และตำรับโอสถทั้งหมดของเผ่าท่าน”
เมื่อได้ยินว่าหนิงฝานแค่ต้องการดูอนุสรณ์ปีศาจ พวกมันจึงขบคิด
พวกมันพยายามศึกษาอนุสรณ์ปีศาจมานานหลายปี แต่ก็ยังไม่เคยเข้าใจเนื้อหาของมัน ดังนั้น แค่หนิงฝานขอดูไม่กี่วันย่อมไม่วันเข้าใจ ดังนั้นเรื่องขอดูอนุสรณ์ปีศาจจึงกลายเป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องใหญ่สำหรับพวกมันคือส่งอื่นที่หนิงฝานขอ ทั้งหยกสวรรค์ สมุนไพร และตำรับโอสถ
ยามนี้พวกมันต้องการโอสถรักษาเป็นการเร่งด่วน พวกมันจึงไม่คิดจะปฏิเสธคำขอหนิงฝาน แต่เมื่อขบคิดและพูดคุยแล้วก็ได้ข้อสรุปมาดังนี้
พวกมันจะให้หนิงฝานดูอนุสรณ์ปีศาจ แต่ไม่ให้นำออกไปจากสถานที่แห่งนี้ หยกสวรรค์จากพันล้านลดเหลือ 500 ล้าน ส่วนตำรับโอสถและสมุนไพร พวกมันยกให้หมด
โอสถที่พวกมันจะขอให้หนิงฝานปรุงให้นั้นคือ โอสถทะเลวินาศ ยามนี้จะขาดก็แต่เฉพาะสมุนไพรหลัก ซึ่งเกิดอยู่ในพื้นที่ต้องห้ามของเผ่าเขาคู่ ดังนั้น พวกมันจึงขอให้หนิงฝานไปยังเผ่าเขาคู่เพื่อร่วมประมูลสมุนไพรเหล่านั้นมา
หนิงฝานขมวดคิ้วกับคำขอของพวกมัน เพราะไม่ใช่หน้าที่เขาที่ต้องไปซื้อสมุนไพรเหล่านั้นให้
แต่สุดท้ายหนิงฝานก็ตัดสินใจรับปาก แต่มีเงื่อนไขคือเผ่าปีศาจยักษ์ต้องจ่ายในสิ่งที่หนิงฝานจะประมูลจากเผ่าคู่ให้ด้วย
เมื่อทุกอย่างลงตัว หนิงฝานก็รับปากว่าจะไปเผ่าเขาคู่ เขานับว่าได้ประโยชน์สองต่อ ยังไงเขาต้องเดินทางไปเผ่าเขาคู่เพื่อหาอนุสรณ์ปีศาจอยู่แล้ว และคราวนี้ก็ยังมีคนจ่ายค่าประมูลให้ด้วย
เหตุที่หนิงฝานต้องยื่นข้อเสนอที่สูงแบบนั้นก็เพราะต้องการให้เรื่องที่จะขอดูอนุสรณ์ปีศาจกลายเป็นเรื่องรอง ไม่อย่างนั้น พวกมันจะสงสัยว่าเขามีเจตนาใดแอบแฝง
พวกมันอนุญาติให้หนิงฝานเข้าไปในห้องลับแห่งหนึ่งภายในสถานที่พัก ส่วนพวกมันเฝ้าอยู่หน้าห้องโดยไม่ยอมให้หนิงฝานนำอนุสรณ์ออกไป
หลังจากผ่านไปหลายวัน หนิงฝานออกมาจากห้องแห่งนั้น แล้วคืนอนุสรณ์ปีศาจให้พวกมัน สีหน้าดูราวกับไม่เข้าใจ เมื่อพวกมันรับอนุสรณ์คืน ก็ส่งหนิงฝานออกไปยังภายนอก
หลังจากหนิงฝานออกไป ชวี่หลู่หวางก็กล่าวด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“เด็กนั่นก็ไม่ต่างจากพวกเราที่มองความลับของอนุสรณ์ปีศาจไม่ออก”
พวกมันไม่รู้ว่าหนิงฝานได้ชิงปราณปีศาจจำนวนมหาศาลที่อยู่ภายในอนุสรณ์ปีศาจไปแล้วโดยที่พวกมันไม่รู้ตัว นอกจากนี้ อักษรที่สลักอยู่บนอนุสรณ์ เขาก็สลักเก็บเอาไว้ทั้งหมดแล้ว
หนิงฝานได้รู้ความลับต่างๆมากมาย ได้รู้การฝึกฝนปราณของเผ่าพันธุ์มนุษย์ การฝึกฝนสัมผัสเทพของเผ่าพันธุ์อสูร และการฝึกฝนโลหิตของเผ่าปีศาจโบราณ
เผ่าพันธุ์ปีศาจในปัจจุบันมีการฝึกฝนปราณเป็นหลัก แต่เผ่าพันธุ์ปีศาจในอดีตจะไม่ฝึกฝนปราณ พวกมันจะฝึกฝนแค่โลหิต และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เผ่าพันธุ์ปีศาจแตกต่างจากมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด
เนื้อความเกี่ยวการฝึกฝนโลหิตของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ไม่ได้ระบุไว้ในอนุสรณ์ปีศาจที่หนิงฝานได้มามากนัก หากเขาต้องการทั้งหมด น่าจะต้องรวบรวมอนุสรณ์ปีศาจให้ครบ
แต่ยามนี้ หนิงฝานยังไม่ได้สนใจในส่วนนั้นมากนัก เมื่อเขากลับไปยังที่พัก เขาไปพบสตรีทั้ง 3 พูดคุยกับพวกนาง
ฉุ่ยเยวียนเห็นหนิงฝานยังปลอดภัย ไม่ได้เป็นอันตรายจากบรรพบุรุษทั้ง 8 นางก็สบายใจ
แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้นางไม่พอใจ คือหนิงฝานยังไปหาบรรพบุรุษเหล่านั้นทั้งๆที่นางอ้อนวอนแล้ว นางจึงทำโทษหนิงฝานโดยการไม่คุยด้วย
หนิงฝานใช้เวลา 3 วันในการเข้าสู่โลกหยิน และเริ่มดูดซับปราณปีศาจที่ได้มา
เหตุที่เขายังไม่ดูดซับปราณปีศาจในทันทีในที่พักของพวกมัน เพราะไม่อยากให้พวกมันสงสัย
ปราณปีศาจที่ได้มา เทียบได้กับปราณดั้งเดิมถึงล้านเกราะ แต่กลับช่วยยกระดับร่างกายให้หนิงฝานได้เพียง 1 ใน 4 ส่วนของขอบเขตกายทองคำ
ปราณปีศาจที่ได้มาจากอนุสรณ์ปีศาจที่ 2 ก็ไม่ต่างกัน เมื่อดูดซับจนหมด ก็ทำให้เขายกระดับมาเพียง 2 ใน 4 ส่วนของขอบเขตกายทองคำที่ 1 แต่นั่นก็ทำให้ร่างกายของหนิงฝานแข็งแกร่งขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิม หากไม่ใช่ผู้บรรลุขอบเขตกายทองคำที่ 2 จะไม่มีผู้ใดสู้เขาได้
ยามนี้ แขนทั้งสองข้างหนิงฝานเปล่งแสงสีทองนับหมื่นสาย เมื่อลองกำหมัด เขาสัมผัสได้ถึงพละกำลังที่น่าสะพรึงกลัว ต่อให้ไม่ใช้ 7 หยกมังกรเหลือง ก็สามารถสังหารฉือคุณได้
“อนุสรณ์ปีศาจทั้ง 4 ได้มาแล้ว 2 เหลืออีก 2... ถ้าข้าได้ครอบครองพวกมันทั้งหมด ข้าต้องบรรลุขอบเขตกายทองคำแน่!”
“แต่ข้าสัมผัสได้ว่า การทะลวงขอบเขตกายทองคำที่ 1 ของข้าไม่ธรรมดา บางทีหากรวบรวมอนุสรณ์ปีศาจได้ทั้งหมด ร่างกายของข้าอาจทรงพลังเหนือขอบเขตกายทองคำทั่วไป”
หนิงฝานตัดสินใจว่าจะไปชิงอนุสรณ์ปีศาจจากเผ่าเนตรปีศาจและเขาคู่ให้ได้!...