ตอนที่แล้วDTH ตอนที่ 24 โชคดีที่ข้าไหวตัวทัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDTH ตอนที่ 26 ใครเป็นคนทำ

DTH ตอนที่ 25 หลบหนีด้วยการเมา


เมื่อหลิน วานยี่มองไปยังอาหารข้างหน้าเขาก็ไม่รู้เลยว่าควรเริ่มจากจานไหนก่อนดี

ตอนนี้เขาจึงทำเพียงแค่ดื่มด่ำไปกับไวน์อย่างเงียบๆเท่านั้น

หลังจากจิบมันไปครู่หนึ่งคิ้วของเขาก็เริ่มผ่อนคลาย

เขาวางแก้วลงและต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง

“ท่านพ่อ ข้าว่าท่านควรจะเก็บเรื่องที่ต้องการจะพูดไว้หลังอาหารจะดีกว่า ส่วนอันนี้คือจานโปรดของข้าเอง” หลิน ฟานตักไข่ที่ไหม้และมะเขือเทศใส่ในจานของหลิน วานยี่

“อาวุโสวูท่านก็เช่นกัน”

หลิน ฟานดูกระตือรือร้นมากที่จะทำให้พวกเขาลืมเรื่องที่เขาไปแบ่งพื้นที่ให้พวกผู้ลี้ภัยในวันนี้

เขาจะไม่เป็นคนเริ่มพูดและจะไม่ปล่อยให้พ่อของเขาพูดถึงมันแน่

เขาต้องการจะใช้อาหารทำเองเหล่านี้โน้มน้าวใจพ่อของเขาและปล่อยให้ท่านเพลินเพลินไปกับความอร่อย

หลิน วานยี่และอาวุโสวูมองหน้ากันและกัน

จากนั้นเขาก็มองไปที่อาหารในจานที่ดูไม่เหมือนอาหารเลยแม้แต่นิดเดียวเดียว ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจตักมันขึ้นมาและลิ้มรสชาติ

ทันทีที่เขานำมันเข้าปาก ลิ้นของเขาก็หดตัวทันที

และเมื่อเขากลืนมันลงไป เขาก็รู้สึกราวกับว่าต่อมรับรสของเขามันจะระเบิด มันเป็นความรู้สึกที่น่าหวาดกลัวมาก

ดูเหมือนว่าการต่อสู้ระหว่างต่อมรับรสและอาหาร ฝั่งอาหารจะเป็นฝ่ายชนะ

หลิน วานยี่และอาวุโสวูไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาและพยายามกลืนอาหารที่กินลงไป

“ฟาน..”

แม้แต่วิธีการเรียกของเขาก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้เรียกหลิน ฟานว่าเจ้าเด็กไม่เอาไหนเหมือนแต่ก่อน

วิธีที่เขาเรียกลูกชายของเขาก่อนหน้านี้ค่อนข้างแย่  แต่ตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยความรัก

“ท่านพ่อกินก่อนแล้วค่อยพูด ข้าจะเทไวน์เพิ่มให้ท่าน” หลิน ฟานไม่เปิดโอกาสให้พ่อของเขาพูด เขาเติมไวน์และตักอาหารให้พ่อของเขาอย่างตั้งใจ

หลังจานนั้นไม่นานจานของหลิน วานยี่ก็เต็มไปด้วยอาหาร

“ความโกรธ +11”

หลิน ฟานไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้คะแนนความโกรธเพิ่มมา11คะแนน

เกิดอะไรขึ้นกัน?

มันมาจากไหนกัน?

ใครมันโกรธข้าอีก?

มันไม่มีทางเป็นพ่อของเขาอย่างแน่นอน

เพราะครั้งนี้ข้าทำอาหารด้วยความยากลำบาก ดังนั้นเขาจะโกรธข้าได้ยังไง?

ในขณะเดียวกัน

อาวุโสวูต้องการออกจากที่นี้ให้เร็วที่สุด

ทำไมข้าต้องมาทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดนี้?

อาหารพวกนี้มนุษย์สามารถกินได้จริงๆงั้นหรือ?

พวกมันทั้งเค็มและขมจนเกินทน

ประเด็นสำคัญเลยก็คืออาหารทั้งหมดที่เขากำลังกินมันไหม้

แม้แต่คนที่ไม่รู้อะไรเลยยังรู้ว่ามันน่ากลัว อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่านายน้อยจะไม่ได้รับรู้ถึงความจริงข้อนั้นและยังคงตักอาหารใส่จานให้พ่อของเขา

และเมื่อเขากวาดสายตาไปเขาก็สังเกตเห็นว่าท่านหัวหน้าตระกูลกำลังก้มหน้าก้มตากินอาหารอยู่

ทำไมท่านทำราวกับว่าท่านกำลังกินอาหารปกติอยู่?

สำหรับหลิน วานยี่เขาก็รู้สึกว่าอาหารพวกนี้มันกลืนยากจริงๆ แต่เขากลับไม่สนใจเพราะตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในหัวใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกชายทำอาหารให้เขา

แม้ว่ามันจะออกมาดูแย่เขาก็จะไม่ขมวดคิ้วและจะพยายามกินมันให้หมด

และทุกครั้งที่หลิน วานยี่ต้องการจะพูดหลิน ฟานก็บอกให้เขากินให้เสร็จก่อน

ทันใดนั้นหลิน วานยี่ก็ยกถ้วยซุปขึ้นมาและดื่มมันลงไป

อึก อึก!

เมื่อถ้วยว่างเปล่าเขาก็วางมันลงบนโต๊ะ

ลำคอของหลิน วานยี่สั่นเล็กน้อยราวกับว่าเขากลืนสิ่งที่ไม่ควรกินลงไป

“ฟาน”

ตอนนี้มันไม่มีอะไรเหลืออยู่บนโต๊ะอีกแล้ว

หลิน ฟานที่มาสามารถหาเรื่องอื่นได้จึงยกแก้วของเขาขึ้นมาและพูดออกมาว่า “ท่านพ่อ แก้วนี้ข้าของดื่มให้ท่าน”

ตั้งแต่เริ่มมื้ออาหารเขาไม่ได้กินอะไรที่เขาทำขึ้นมาเลยเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าอาหารที่เขาทำมันมีรสชาติยังไง

ท่านพ่อน่าจะรักเขาจริงๆไม่งั้นท่านคงไม่กินอาหารพวกนี้โดยไม่บ่นหรอก

นอกเหนือจากความตกใจที่เขาสัมผัสได้ก็ความรักนี้แหละที่สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน

ไม่ว่าอาหารมันจะรสชาติแย่แค่ไหนท่านก็สามารถกินมันได้ทั้งหมด

เอาล่ะข้าตัดสินใจแล้วว่าจะยอมรับเขาเป็นพ่อและในอนาคตข้าจะไม่ต่อต้านเขาอีก

หลิน ฟานดื่มไวน์ทั้งหมดในรวดเดียวจนใบหน้าที่ขาวสะอาดของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง

“ฟาน” หลิน วานยี่มีบางอย่างที่อยากจะพูด แต่เมื่อเขาคิดดูอีกทีสิ่งต่างๆมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว เช่นนั้นเขาจะทำอะไรได้อีก? เขามีลูกชายเพียงคนเดียวถ้าเขาไม่สนับสนุนลูกชายของเขาแล้วจะให้เขาไปสนับสนุนหมาที่ไหน?

“ท่านพ่อ ข้ารู้สึกเจ็บหัวและไม่สามารถดื่มได้อีกต่อไปแล้ว” เมื่อหลิน ฟานพูดจบเขาก็สลบไปเลย

บ้านทั้งหลังตกอยู่ในความเงียบ

ปากของอาวุโสวูเปิดกว้างเขาไม่คิดเลยว่านายน้อยจะเมาและสลบไปแบบนั้น

หลิน ฟานต้องการจะใช้การเมานี้หลบหนีจากปัญหา

“ความโกรธ +223”

ในตอนนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นว่าคะแนนความโกรธอยู่ๆก็ปรากฏขึ้นในเวลาที่ไม่ถูกต้อง

ตามปกติแล้วเมื่อพ่อเห็นเขาเมาท่านจะต้องพูดว่าเรื่องนี้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้และให้โกวชิพาเขากลับห้องไปนอนไม่ใช่หรือ

แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์มันไม่เป็นไปตามที่เขาคิดและพ่อของเขาก็กำลังโกรธ

ดูเหมือนว่าการแกล้งเมาในครั้งนี้ของเขาจะไปจุดประกายความโกรธของพ่อขึ้นมาอีกครั้ง

แผนการของเขาล้มเหลวและผลลัพธ์ที่เขาต้องเผชิญมันก็คือหายนะ

ในตอนนั้นอยู่อยู่ดีๆหัวของหลิน ฟานก็เด้งขึ้นมาราวกับลูกบอลยาง

เขาพยายามทำตัวเหมือนเพิ่งตื่นและเกาหัวของเขา “ท่านพ่อ ไวน์ขวดนี้มันแรงจริงๆข้าดื่มมันเขาไปรวดเดียวและเกือบจะสลบ แต่ท่านไม่ต้องห่วงเพราะตอนนี้ข้ารู้สึกดีขึ้นมาแล้ว”

เขายิ้มหลังจากพูดแบบนั้น

เขาอยากจะสื่อว่า

ท่านพ่อข้าไม่ได้แกล้งเมาแต่ความแรงของไวน์มันเกือบจะฆ่าข้า

“นายท่านไวน์มันค่อนข้างแรงและนายน้อยก็ไม่เคยดื่มมาก่อนดังนั้นมันอาจจะเป็นความจริงดั่งที่เขากล่าวก็ได้” อาวุโสวูพูด

นี่เป็นเพียงแค่ข้อแก้ตัวเท่านั้น ตราบใดที่เขามีสมองเขาคงจะไม่เชื่อคำแก้ตัวนี้แน่ๆ

แน่นอนถ้าพ่อของเขาต้องการเหตุผลสิ่งที่ถูกพูดก่อนหน้านั่นแหละคือเหตุผล

หลิน วานยี่ทำตาให้แคบลงและจ้องมองไปที่หลิน ฟานมันทำให้เขารู้สึกอึดอัด ทำไมเพียงแค่การมองของเขาถึงทำให้ข้ากลัวได้มากขนาดนี้?

หลังจากที่เขามองไปครู่หนึ่ง

เขาก็เปิดปากแล้วพูดออกมาว่า “ฟาน สิ่งที่เจ้าทำให้ข้าในวันนี้มันทำให้ข้ามีความสุขและประทับใจมาก มันแสดงให้เห็นว่าเจ้าโตขึ้นแล้ว”

แต่ก่อนที่หลิน ฟานจะตอบกลับน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป

“อย่างไรก็ตามสิ่งที่เจ้าทำในตอนเช้ามันทำให้ข้าโกรธและสิ้นหวังจริงๆ”

อาวุโสวูยืนขึ้นอย่างเงียบๆและเดินไปรอที่ประตู

ต่อไปนี้จะเป็นการสนทนาระหว่างพ่อและลูกชาย

เขาไม่ได้เห็นฉากแบบนี้มานานแล้ว

เพราะการที่นายน้อยสามารถอยู่เงียบๆฟังคำพูดของหัวหน้าตระกูลมันมีน้อยลงเรื่อยๆ

“ท่านพ่อ นี่...” หลิน ฟานต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ถูกพ่อของเขาหยุดเอาไว้

“เจ้าไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลของเจ้ากับข้า เพราะตราบใดที่เจ้าทำสิ่งที่เจ้าต้องการจะทำ เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจเหตุผลของผู้อื่น มันไม่เป็นไรที่ข้าจะไม่เข้าใจเหตุผลของเจ้า แต่ข้าของให้เจ้าจำเอาไว้อย่างหนึ่ง เจ้าห้ามทำอะไรที่เจ้ารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นเพียงความคิดที่โง่เขลาเด็ดขาด”

หลิน วานยี่ลุกขึ้นเดินไปที่หลิน ฟานจากนั้นก็ตบไหล่ของเขา

“เจ้าโตแล้ว และตระกูลยังคงต้องการให้เจ้ามาสานต่อ เจ้าเพียงแค่ต้องขยันฝึกฝนเข้าไว้เพื่อที่เจ้าจะได้สามารถทำสิ่งที่เจ้าต้องการได้ในอนาคต”

ทันทีที่พูดจบหลิน วานยี่ก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับอาวุโสวู

หลิน ฟานมองตามเขาไปจนเขาหายไปที่มุม

นั่นทำให้เขานึกย้อนกลับไปถึงงานเขียนของนักเขียนคนหนึ่ง

มันเขียนเอาไว้ดีจนทำให้เขาร้องไห้เมื่อเขาอ่านมัน

“ท่านพ่อไม่ต้องห่วง ข้าจะทำสิ่งต่างๆตามหัวใจของตนเองและจะไม่ให้ใครมาบังคับข้าได้” หลิน ฟานพึมพำกับตัวเอง

จากนั้นเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในที่สุดมันก็จบ

ท่านพ่อช่างเป็นคนที่มีเหตุผลจริงๆ

มันเยี่ยมมาก

เยี่ยมมากจริงๆ

“นายน้อยทุกอย่างมันจบแล้วงั้นหรือ?” โกวชิถาม

เขาคิดว่านายน้อยของเขาจะต้องถูกลงโทษแน่ๆแต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าทุกอย่างมันจะจบมาในรูปแบบนี้

“ใช่มันจบแล้ว เอาล่ะรีบไปทำความสะอาดและไปนอนได้แล้ว” หลิน ฟานพูด

คฤหาสน์ตระกูลหลิน ณ ลานด้านหลัง

“นายท่านดูเหมือนว่านายน้อยจะโตขึ้นจริงๆ” อาวุโสวูพูด

“โตขึ้น?” หลิน วานยี่ยิ้ม

เขาจะไม่รู้ความคิดลูกของเขาได้อย่างไร?

“เอาไว้พูดกันทีหลัง ตอนนี้ข้าอยากจะไปอาเจียนก่อนเพราะข้ารู้สึกอึดอัดที่ท้อง” หลิน วานยี่พูด

“นายท่านข้าก็จะไปกับท่านด้วยเช่น เพราะท้องของข้าก็รู้สึกอึกอัดเช่นกัน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด