ไซตามะต่างโลก Ep.1 - หลงทางในโลกโจรสลัด
ไซตามะต่างโลก Ep.1 - หลงทางในโลกโจรสลัด
ฮีโร่
คือคำที่มักจะใช้กับผู้ที่ก้าวออกมายืนหยัด ช่วยเหลือยามเมื่อเหล่าผู้คนถูกกดขี่ ถูกข่มเหง ยามเมื่อผู้คนต้องเผชิญกับโชคชะตาอันแสนเศร้าที่มิอาจต้านทานได้
…
‘แอ๊ด’
เสียงประตูบานพับของบาร์ถูกผลักเปิดออก ตามด้วยชายหัวโล้นที่สวมใส่เสื้อผ้าที่ดูเรียบง่ายและถุงมือพลาสติกสีแดงเดินเข้ามา
“สวัสดี คือเอ่อ .. ฉันมีเรื่องอยากจะรบกวนถามหน่อยน่ะ”
ชายหัวโล้นกวาดสายตามองการตกแต่งที่ดูแปลกตาภายในบาร์ และเอ่ยถามหญิงสาวที่ดูน่าจะเป็นเจ้าของร้านออกไป “พอดีว่าฉันบังเอิญพลัดหลงกับเจนอสน่ะ รู้สึกตัวอีกทีรอบตัวก็รายล้อมไปด้วยทะเลแล้ว เธอพอจะรู้ไหมว่าเมือง Z ต้องไปทางไหน?”
เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของชายหัวโล้น สะท้อนไปตลอดทั้งบาร์ที่ว่างเปล่า
น้ำเสียงที่เปล่งออกมาช่างเฉยเมย คล้ายกับว่าได้สูญสิ้นไปแล้วซึ่งอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมด
“เมือง Z งั้นหรอ?”
มือที่กำลังค่อยๆบรรจงเช็ดแก้วของหญิงสาวได้หยุดลง
ในฐานะเจ้าของร้านที่พบปะกับผู้คนมามากมาย มากิโนะกวาดสายตามองขึ้นๆลงๆ พยายามสังเกตชายที่แลดูสามัญธรรมดาตรงหน้า แต่ไม่ว่าอย่างไรก็นึกไม่ออก เขาไม่คุ้นหน้าเธอเลย
มองเข้าไปในดวงตาที่ราวกับไร้วิญญาณ เครื่องแต่งกายที่ดูประหลาดตา แต่ขณะเดียวกันก็ดูจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์โดยสิ้นเชิง คล้ายดั่งสายลมเอื่อยที่พัดผ่านมวลหมู่เมฆ
หลังจากลองขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มากิโนะก็ส่ายหัว กล่าวด้วยความเสียใจ “ขอโทษนะ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องของเมือง Z มาก่อนเลย คุณหลงทางหรอ?”
“อ่า น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ”
ชายหัวโล้นถอนหายใจด้วยท่าทีเศร้าๆ “นี่มันเป็นปัญหาจริงๆ … ระหว่างทางฉันก็ถามทุกคนที่เดินผ่านแล้วนะ แต่พวกเขาก็พูดเหมือนกันกับเธอเลย ถ้ายังกลับไปไม่ได้ ฉันอาจจะพลาดรายการอาหารลดราคาในวันพรุ่งนี้ …”
ขณะที่กำลังสนทนากันอยู่นั้นเอง เสียง ‘โครก’ ก็ดังออกมาจากท้องของชายหัวโล้น
“อา ..”
ชายหัวโล้นก้มหน้าลง บ่นพึมพำกับตัวเอง “พอดีว่าวันนี้ฉันตื่นสายเกินไปหน่อย เลยลืมกินอาหารเช้ามาน่ะ”
มองไปยังท่าทีของชายหัวโล้น มากิโนะก็ผุดรอยยิ้มจางๆออกมา
แล้วจู่ๆเธอก็คิดว่าชายหัวโล้นตรงหน้านี่ก็ดูน่ารักดีเหมือนกันนะ
เธอหันกลับไปหักแท่งขนมปังส่วนหนึ่งที่อยู่หลังโต๊ะบาร์ และยื่นมันให้แก่ชายหัวโล้น “เอาไปสิ นี่น่าจะช่วยรองท้องคุณได้นะ ถึงฉันจะไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเมือง Z มาก่อน แต่คิดว่ามันน่าจะอยู่ในอาณาจักรใด อาณาจักรหนึ่งนี่แหละ เพราะยังไงซะ แต่ละอาณาจักรก็รายล้อมไปด้วยทะเลอยู่แล้ว”
“โอ้ .. มันก็ฟังดูมีเหตุผลดี ขอบคุณมากนะ”
ชายหัวโล้นเดินไปที่โต๊ะบาร์ รับเอาขนมปังขึ้นมากัดมันคำหนึ่งและกล่าว “ช่วยได้มากเลย ฟังจากคำพูดของเธอ หมายความว่าเมืองนี้กับเมืองของฉันมันอยู่คนละอาณาจักรกันสินะ ถ้าอย่างงั้นบางทีฉันอาจจะต้องลองเดินทางไปอาณาจักรอื่นดู”
มากิโนะยิ้มจนตาหยี “ฉันก็พูดไปเท่าที่จะพอนึกออกนั่นแหละ แต่บอกตามตรงนะ ว่าฉันไม่เคยเห็นคนที่แต่งตัวแบบนี้มาก่อนเลย คุณ ...”
“อ้อ ขอโทษทีที่ยังไม่ทันได้แนะนำตัว ฉันชื่อไซตามะ”
ไซตามะยิ้มมุมปาก และยกนิ้วโป้งชี้ขึ้นมาที่ตัวเอง “และมีงานอดิเรกเป็นฮีโร่”
ชั่วพริบตานั้นเอง
บนใบหน้าที่เดิมนิ่งงันดั่งปลาตาย บัดนี้เบ่งบาน พลันเปล่งประกายขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจ!
“เอ๋? เป็นฮีโร-”
ทว่ามากิโนะยังไม่ทันได้ประหลาดใจ ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ประตูไม้ทางเข้าบาร์ก็ถูกเตะด้วยเสียงดัง ‘ปัง!’
ตามด้วยกลุ่มของชายฉกรรจ์ที่แต่งตัวแลดูป่าเถื่อนเดินเข้ามา
“รบกวนหน่อยนะ~!”
ขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงไร้ซึ่งความจริงใจ ชายที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำก็เดินตรงมายังโต๊ะบาร์ ก่อนจะเหวี่ยงเท้าข้างหนึ่งขึ้น แล้ววางกระแทกมันลงกับโต๊ะ “สวัสดียามบ่ายนะคุณผู้หญิง~ อย่างที่เห็น พวกเราน่ะเป็นโจรภูเขา อ๊ะๆๆ แต่ไม่ต้องกังวลไป วันนี้พวกเราไม่ได้มาปล้น แต่มี ‘1 เบรี’ มาจ่าย ช่วยขายเหล้าสักสิบถังให้กับพวกเราหน่อยซี่ ฮี่ฮ่าฮ่า”
ในเวลาเดียวกัน เหล่าโจรภูเขาดูเดินตามเข้ามาก็ส่งเสียงหัวเราะโห่ร้องทันที ตลอดทั้งบาร์เกิดเสียงดังสนั่น
สีหน้าของมากิโนะมืดมนลงเล็กน้อย
1 เบรีน่ะ มันไม่สามารถซื้อได้แม้กระทั่งเม็ดกระดุมด้วยซ้ำ แต่พวกเขากลับขอใช้มันซื้อเหล้าถึงสิบถัง!
ยังไงก็ตาม ถ้าไม่ปฏิบัติตามโจรกลุ่มนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงตนเอง กระทั่งคนจรไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างไซตามะก็คงจะโดนลูกหลงไปด้วย
มากิโนะฝืนยิ้มออกมา และพยักหน้า “เข้าใจแล้ว รอก่อนนะ ฉันจะไปหยิบเหล้ามาให้เดี๋ยวนี-”
แต่เธอยังไม่ทันจะเอ่ยจนจบประโยค ชายหัวโล้นที่เห็นถึงเหตุการณ์ทุกอย่างก็เอ่ยขัดออกมาเสียก่อน
“ขอฉันพูดอะไรหน่อยสิ”
ไซตามะชี้ไปทางรองเท้าเปื้อนโคลนของโจรภูเขาด้วยความไม่พอใจและกล่าว “ทำแบบนี้ มันเป็นการสร้างปัญหาให้กับคนอื่นนะ”
“โต๊ะบาร์ตัวนี้ ไม่ได้มีไว้ให้นายใช้ทำแบบนั้น ถ้านายต้องการจะดื่มจริงๆ ก็นั่งลงให้มันเรียบร้อยสิ”
คำนี้ช่างแสนสามัญธรรมดา แต่ทุกคนที่ฟังราวกับได้ยินถึงเสียงของสายฟ้าฟาด!
คู่ดวงตาของมากิโนะเบิกกว้าง เธอรีบดึงตัวไซตามะ เตือนเขาอย่างร้อนรน “ไซตามะซัง ไม่ต้องสนใจเรื่องของฉันหรอก อย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย รีบหนีไ-”
ขณะเดียวกัน หัวหน้าโจรที่กำลังวางเท้าพาดโต๊ะก็เบิกตากว้างเช่นกัน เขาทำท่าทีราวกับไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
“เมื่อกี้แกบอกว่า .. ให้ฉันทำตัวเรียบร้อยงั้นหรอ?”
“ฮะ .. ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า!”
หัวหน้าโจรภูเขาหัวเราะคลั่ง และหันกลับไปตะโกนกับทางลูกน้องของตัวเอง “พวกแกเห็นไหม! ไอ้หัวล้านนี่กำลังสั่งสอนฉัน ฮ่าฮ่าฮ่า”
เหล่าโจรทั้งหัวเราะ ทั้งผิวปาก บรรยากาศกลายเป็นครื้นเครงไปชั่วขณะหนึ่ง
แต่วินาทีถัดมา สีหน้าของผู้นำโจรภูเขาก็เปลี่ยนไปทันที!
ใบหน้าที่แต่เดิมยิ้มร่า บัดนี้ฟุ้งไปด้วยความเดือดดาลและน่าหวาดกลัว!
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ว่าแกน่ะพลาดซะแล้วไอ้หนู ..”
ผู้นำโจรภูเขาเอื้อมมือเข้าไปในเสื้อ คว้าจับใบค่าหัวออกมา และยื่นมันไปหยุดไว้ต่อหน้าของไซตามะ ปากเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงลึกล้ำ “ลองตั้งใจดูให้ดีซิ! เห็นเงินค่าหัวของฮิกุมะผู้นี้ไหม? 8ล้าน! ค่าหัวตั้ง 8 ล้านเบรีเชียวนะ! แล้วก็รู้ไว้ซะด้วยว่าคนคึกคะนองแบบแกน่ะ ถูกฉันฆ่าตายไปตั้ง5-6 คนแล้ว!”
ไซตามะยังคงไว้ซึ่งคู่ดวงตาดั่งปลาตาย ปากขยับพึมพำ “โอ้ อย่างงั้นหรอ?”
ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่บรรยากาศในบาร์ตอนนี้ จู่ๆก็แลดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างกระทันหัน
หลังจากนั้นสักพัก
“ไอ้บ้าเอ๊ย!”
ฮิกุมะชักดาบยาวออกมาวางพาดลงบนคอของไซตามะและกล่าวด้วยความโกรธ “แกรู้ไหมว่าฉันน่ากลัวขนาดไหน ถ้าแกทำให้ฉันโกรธอีกแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ ฉันจะ-”
เปรี้ยง!
ยังไม่ทันขาดคำ หนึ่งหมัดของไซตามะก็เสยเข้าปลายคางของเขา ส่งอีกฝ่ายบินขึ้นไปบนท้องฟ้า!
เฝ้ารออยู่นานกว่าตั้งอีก10นาทีต่อมา ร่างของฮิกุมะจึงค่อยร่วงลงจากอากาศ และตกกระแทกกับพื้นบาร์อีกครั้ง
พริบตานั้นตลอดทั้งบาร์พลันเงียบงัน หากมีเข็มหล่นลงมาก็คงจะสามารถได้ยินถึงเสียงของมันได้อย่างชัดเจน!
โจรภูเขาทั้งหมดต่างจ้องมองมายังฉากนี้ด้วยความตกตะลึง พวกมันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบอสที่แสนจะร้ายกาจของตน จะถูกฆ่าตายอย่างไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมด้วยหมัดตรงง่ายๆในหมัดเดียว!
ฉากเขย่าขวัญเบื้องหน้านี้ ส่งผลให้เหล่าโจรภูเขาที่ภายนอกทำทีเป็นดุร้าย แต่ภายในใจเสาะแสนเปราะบาง ท่วมไปด้วยความหวาดกลัวทันที
หลังจากกรีดร้องน่าสมเพช พวกโจรภูเขาทั้งหมดก็เตลิดหนีออกไปจากบาร์อย่างรวดเร็ว
บาร์เล็กๆกลับกลายเป็นว่างเปล่าอีกครั้ง
“อา ขอโทษที”
ไซตามะชักกำปั้นของเขากลับ และเอ่ยปากกับมากิโนะที่กำลังสับสนด้วยความเสียใจ “ฉันเผลอพังหลังคาของเธอไปซะแล้ว ไว้ฉันจะทำงานชดใช้ให้นะ”
“ไม่ต้องหรอก ..”
แต่เดี๋ยวสิ! นั่นไม่ใช่ประเด็นสักหน่อย!
มากิโนะเรียกคืนสติจากอาการช็อค หันไปพูดตะกุกตะกักกับไซตามะ “เขา … เขาเป็นโจรภูเขาที่มีค่าหัวกว่า 8 ล้านเบรี แต่คุณกลับจัดการเขาได้ด้วยหมัดเดียว ..”
“เอ๋? เจ้าหมอนั่นมันแข็งแกร่งมากเลยงั้นหรอ?”
ไซตามะนิ่งค้างไป ก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัว “แปลกจัง ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกอะไรเลยอีกแล้วนะ ก่อนหน้านี้ก็เหมือนกัน เจอใครก็หมัดเดียวจอดกันหมด .. เมื่อกี้เธอบอกว่าเขามีรางวัลค่าหัว 8 ล้านเบรีใช่ไหม ถ้าอย่างงั้นฉันพอจะใช้เงินที่ว่านั่นเป็นค่าชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ไหม มันพอรึเปล่า?”
“นั่นมันมากเกินไปด้วยซ้ำ ..”
มากิโนะกวาดสายตามองขึ้นๆลงๆไซตามะอย่างรอบคอบ แต่ไม่ว่ายังไงลักษณะของเขาก็ไม่เหมือนกับคนแข็งแกร่งที่สามารถฆ่าโจรภูเขาตายได้ในหมัดเดียวอยู่ดี
“ไซตามะ …”
สีหน้าของมากิโนะกลายเป็นซับซ้อน ปากอ้าเอ่ยถาม “คุณเป็นใครกันแน่ … เป็นคนของกองทัพเรือ? หรือว่านักล่าโจรสลัด?”
ไซตามะส่ายมือปฏิเสธ ขณะเดียวกันก็หันหลังกลับเตรียมจะเดินออกจากบาร์ไป
“เปล่า ฉันเป็นฮีโร่”
ยามเมื่อประตูถูกเปิดออก แสงแดดในยามบ่ายและสายลมจากภายนอกก็พุ่งเข้ามา ส่งผลให้เงาของเขาทอดยาวไปไกล พร้อมกันกับผ้าคลุมสีขาวที่โบกสะบัด
เมื่อเผชิญหน้ากับแสงแดดอันอบอุ่น ดวงตาดั่งปลาตายของชายหัวโล้นก็แปรเปลี่ยนเป็นมั่นคงและหนักแน่น รอยยิ้มจางๆผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเขา
หนึ่งแขนเงื้อมสูงขึ้น มือที่สวมถุงมือสีแดงค่อยๆหุบเข้าหากันเป็นกำปั้นที่แลดูทรงพลังและแข็งกร้าว
ปากอ้าขยับอย่างแผ่วเบา ทิ้งท้ายไว้เพียงประโยคเดียวก่อนจะจากไป
“ไม่สิ ต้องบอกว่ามีงานอดิเรกเป็นฮีโร่ต่างหากล่ะ!”