ตอนที่แล้วระบบใช้จ่ายตอนที่ 59
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบใช้จ่ายตอนที่ 61

ระบบใช้จ่ายตอนที่ 60


ติดตามผลงานของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:แปลNiyay

บทที่ 60: เป็นเพราะสุนัข

สำนักงานใหญ่ อาคารเคียนจี เมืองเทียนจิง ชั้น 16

เลขานุการยืนอยู่ในห้องทำงานของหงเหว่ยกู ด้วยความรู้สึกที่ยินดีตามที่ต้องรายงาน: " ซีอีโอหงค่ะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะค่ะ เมื่อเร็ว ๆ นี้ปริมาณผู้เข้าชมของเครื่องมือค้นหา Sangle ของเราเพิ่มขึ้น 5% ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเราเพิ่มขึ้น 5% ค่ะ "

" โอ้? เป็นเรื่องที่ดีนะ " หงเหว่ยกูนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขาและถามอย่างยิ้ม ๆ ว่า " คุณรู้ไหมว่าทำไม? "

การแสดงออกของเลขานุการนั้นค่อนข้างสับสน ดูเหมือนว่าพอรวมอารมณ์เข้าด้วยกันมีทั้งความประหลาดใจ ความสุข ความเมตตาและความสับสน สรุปแล้วการแสดงออกของเธอดูแปลกมาก " เหตุผลก็คือ ... เพราะท่านนายน้อยต้าหลี่ได้เปิดคอนเสิร์ตเพื่อสนับสนุนนักร้องลี่เนียนเหว่ยยังไงละค่ะ จากนั้นเธอก็มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว ทำให้หลาย ๆ คนค้นหาข้อมูลของเธอ ดังนั้นมันจึงลงเอยแบบนี้ ... "

" ฮ่าฮ่าฮ่า ไอเดียเล็ก ๆ ของเจ้าลูกคนนี้ " หงเหว่ยกูพูดเหมือนว่าเขาได้พบสมบัติในขณะที่เขากำลังยิ้มอย่างมีความสุข จากนั้นเขาก็ส่ายหัวแล้วพูดอย่างไร้ประโยชน์ว่า

" เจ้าลูกเกเรคนนี้ เขาสามารถสร้างสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ ลี่เนียนเหว่ย เธอคนนี้ก็ทำให้ปริมาณผู้เข้าชมของเครื่องมือค้นหาของเราเพิ่มขึ้น 5% เส้นกราฟเป็นสีน้ำเงินนี้ดีจริง ๆ " แม้ว่าเขาจะพูดอย่างตั้งใจ แต่ในความเป็นจริงมูลค่าตลาดของเครื่องมือค้นหา Sangle มีอย่างน้อย 20,000 ล้าน ดังนั้นการเพิ่มขึ้น 5% เทียบเท่ากับมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งพันล้าน

สิ่งที่น่าหดหู่มาก ๆ ก็คือหงต้าหลี่ซึ่งเป็นผู้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนี้ มีจุดประสงค์เพียงเพื่อถลุงเงินในตอนแรกเท่านั้น

หากคนอื่นรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็คงซึมเศร้าจนถึงจุดที่ทำให้อาเจียนเป็นเลือดได้

คนอื่น ๆ ต่างใช้จ่ายเงินหยวนอย่างยากลำบากราวกับว่ามีอยู่แค่ 10 หยวนและพวกเขาก็จะดีใจมากเมื่อสามารถเก็บออมเงินได้ แต่หงต้าหลี่นี้สิ ทุกสิ่งที่เขาทำทุกวันๆ เป็นเพียงแค่ใช้เงินสิ้นเปลืองและเสียเงินไปวัน ๆ  แต่อย่างไรก็ตามเขาสามารถจัดการเพื่อเพิ่มมูลค่าตลาดของบริษัทในครอบครัวของเขาได้ โดยได้เงินเป็นพันล้านหยวน    โดยตัวเขาไม่ทราบเกี่ยวกับมัน โชคอยู่ในตัวเขาจริง ๆ และดูเหมือนจะไม่มีอะไรสามารถหยุดเขาได้

" ใช่แล้ว การพัฒนาของสี่แยกทิศตะวันตกเป็นอย่างไรบ้าง? " หลังจากหัวเราะได้ซักพักหนึ่ง หงเหว่ยกูก็ได้ถาม ดินแดนสี่แยกทิศตะวันตกได้รับความสนใจ  เนื่องจากผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลมันเป็นไปไม่ได้ที่จะขาดทุนเลย อย่างไรก็ตามระยะเวลาในการพัฒนายังคงต้องมีการหารือ มันสามารถพัฒนาได้ภายในครึ่งปีหรืออาจพัฒนาได้ภายในห้าปี ดังนั้นในความเป็นจริง หงเหว่ยกูเองก็ไม่ได้คิดว่ามันจะทำเงินได้มากนัก เหตุผลหลักที่เขาซื้อที่ดิน เพียงเพื่อให้หงต้าหลี่มีความสุข ท้ายที่สุดแล้ว สภาพร่างกายของหงต้าหลี่เปลี่ยนไปในทางที่ดี ดีกว่าเมื่อก่อน และเมื่อเร็ว ๆ นี้หงเหว่ยกูก็เชื่อว่าหงต้าหลี่โชคดีขึ้นเพราะการใช้เงินของเขา

บางครั้งแม้ว่าไม่มีใครเชื่อในโชคลางเลย แต่ก็ควรเชื่อที่จะเชื่อมันบ้าง ดีกว่าเชื่อว่ามันไม่มีอยู่จริง

" สำหรับสี่แยกทิศตะวันตก ... " เมื่อกล่าวถึงสี่แยกทิศตะวันตก การแสดงออกของเลขาฯ ก็แปลกไปอีกครั้ง " เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลายคนมาถามคนของเราจากที่นั่น เมื่อเราจะพัฒนาที่อยู่อาศัย ดูเหมือนว่าพวกเขาวางแผนที่จะซื้อที่ดินของพวกเขาด้วย "

" โอ้? เราเพิ่งซื้อที่ดินและมีคนถามว่าเมื่อไหร่เราจะสร้างบ้านจัดสรรเหรอ? " หงเหว่ยกูขมวดคิ้วและพูดว่า " ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? ฉันไม่เคยได้ยินคนที่จะรีบซื้อที่ดินแบบนี้มาก่อน แม้ว่าเราจะซื้อบ้านจากผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่น แต่ก็ไม่ควรจะเกิดขึ้นแบบนี้ใช่ไหมล่ะ? ประมาณกี่คนล่ะที่มีความตั้งใจที่จะแลกเปลี่ยนบ้าน? "

" อืม ... จำนวนมากเลยค่ะ ... " เหงื่อของเลขานุการเริ่มไหลลงมา " ตามสถิติประมาณ ... ประมาณ 30% และมากกว่านั้นของประชาชนที่อาศัยอยู่ในสี่แยกทิศตะวันตกใกล้กับเย่ไหลเซียง พวกเขาวางแผนที่จะแลกเปลี่ยนบ้านด้วย "

" 30%! เยอะมาก! " แม้ว่าหงเหว่ยกูเคยเห็นภูเขาถล่มต่อหน้าต่อตาของเขาและสีหน้าของเขาก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ได้ยินว่าภายในระยะเวลาอันสั้นนี้มีคนจำนวนมากที่วางแผนจะเปลี่ยนบ้าน แต่เขาก็ยังไม่เชื่อหูของตัวเอง " รู้ไหมว่าทำไมพวกเขาถึงอยากเปลี่ยนบ้าน? "

สำหรับประเด็นนี้ หงเหว่ยกูไม่สามารถที่จะประมาทได้

จากจำนวนผู้พักอาศัยในสี่แยกทิศตะวันตกมีบ้านอาศัยอย่างน้อย 10,000 หลังอยู่ใกล้เย่ไหลเซียง แม้ว่ามันจะเป็น 30% นั่นก็หมายถึงบ้าน 3,000 หลัง หลายคนอยากเปลี่ยนบ้านหรือ? ถ้าพวกเขาทำเช่นนั้น บ้านเก่าน่าจะถูกขายออกไปมากพอสมควร แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่ตั้งใจจะขายบ้าน แต่เพียงครึ่งเดียวก็หมายถึง 1,500 หลัง หากนับบ้านหนึ่งหลังเป็น 10,000 หยวน ถ้ามีบ้าน 1,500 หลัง ก็จะต้องใช้เงินทุน 150 ล้านหยวน

หงเหว่ยกูไม่กังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงิน สิ่งที่เขากลัวก็คือเมื่อผู้อยู่อาศัยจำนวนมากวางแผนที่จะขายบ้านในช่วงเวลาสั้น ๆ เขาจะต้องใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อทำธุรกรรมให้เสร็จ หากนี่เป็นแผนการสมรู้ร่วมคิดของคู่แข่งและเขาติดกับ เงินที่เขามีอยู่จะลดลงและมันอันตรายมาก ดังนั้นเขาต้องระวัง

หลายครั้งที่ยามอยู่ในจุดสูงสุด การมีชีวิตอยู่ก็ยากจนสามารถพังลงมาได้ทุกเมื่อ แต่เมื่อพวกเขาล้มลง มันจะยากมากที่จะกลับขึ้นมาอีกครั้ง เขาจำเป็นต้องระมัดระวังและรอบคอบ ซึ่งจะต้องไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามการแสดงออกของเลขานุการนั้นแปลกกว่าที่ควรจะเป็นไปมาก " อืม…ซีอีโอหง เหตุผลนี้ก็คือ…เกี่ยวข้องกับท่านนายน้อยต้าหลี่ด้วยค่ะ ”

" เกี่ยวข้องกับต้าหลี่อีกแล้วหรือ? " หงเหว่ยกูไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี เขานั่งจิบชาแล้วถามว่า " สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับต้าหลี่ได้อย่างไร? บอกฉันเกี่ยวกับสถานการณ์ เขาต้องทำอะไรกับเรื่องนี้แน่ "

เลขานุการเช็ดเหงื่อของเธอ แล้วค่อย ๆ พูดว่า " สาเหตุของเรื่องนี้ก็เพราะ ... นายน้อยต้าหลี่เลี้ยงสุนัข…"

พรู้ดดด! … หงเหว่ยกูพ่นชาที่เขาดื่มออกมา " เธอกำลังหมายความว่าคนจำนวนมากกำลังวางแผนที่จะเปลี่ยนบ้าน เพราะต้าหลี่เลี้ยงสุนัขหรอ? เธอแน่ใจหรือว่าเธอไม่ได้เข้าใจอะไรผิด? "

" ไม่ ... ไม่มีข้อผิดพลาดค่ะ! " เลขานุการรู้สึกว่าคำพูดที่เขาพูดในวันนี้ฟังดูแปลก ๆ มันฟังดูเหมือนเรื่องราวจากนิทาน แน่นอนมันต้องเป็นเรื่องตลก นายน้อยต้าหลี่ดูเหมือนจะชอบสัตว์ตัวเล็ก ๆ โดยเฉพาะสุนัข ทุกวันเขาจะพาสุนัขออกไปเดินเล่น ปัญหาคือเขาซื้อสุนัขมากเกินไป มากกว่า 400 ตัว ยิ่งไปกว่านั้น เขาเลี้ยงพวกมันทั้งหมดไว้ด้วยกันเพื่อยกระดับ นั่นหมายความว่าทุกบ้านที่เราซื้อจะถูกใช้เพื่อเลี้ยงสุนัขอย่างน้อยห้าตัว "

" จากนั้น? " หงเหว่ยกูก็มีสีหน้าแปลก ๆ บนใบหน้าของเขา " เกิดอะไรขึ้น พูดต่อสิ? "

" แล้วก็ ... " เลขานุการพูดด้วยความยากลำบาก " สุนัขเหล่านั้นเห่าทั้งวัน ตราบใดที่สุนัขตัวหนึ่งเริ่มเห่า สุนัขที่เหลือก็จะเห่าตามมา ผู้อยู่อาศัยที่นั่นไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสงบสุขค่ะ "

“พวกเขาจึงตัดสินใจขายบ้านของพวกเขาไปอย่างนั้นหรือ? มันรุนแรงมากขนาดนั้นเลยเหรอ?” ดวงตาของหงเหว่ยกูโตขึ้น

เลขานุการกล่าวว่า " จริง ๆ แล้วเรียกว่าหนักโคตร ๆ ค่ะ ที่สำคัญผู้อยู่อาศัยเหล่านี้รู้ว่าสุนัขเหล่านี้เป็นของท่านนายน้อยต้าหลี่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าบ่น ในเวลาเดียวกันพวกเขาได้ยินว่า บริษัทของเราซื้อที่ดินค่อนข้างมากมายเพื่อพัฒนา ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่า ถ้าขายบ้านของพวกเขาให้กับท่านนายน้อยต้าหลี่ก็คงจะไม่สูญเปล่า พวกเขาจะได้ใช้เงินซื้อบ้านใหม่ที่เราสร้างขึ้นได้อีก มีเพียงแค่นี้แหละค่ะ  มันเหมือนกับการแลกเปลี่ยนบ้านเก่าของพวกเขา เพื่อบ้านใหม่…ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงมาถาม โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่วางแผนจะแต่งงาน พวกเขาเป็นจำพวกที่ขอมากที่สุดค่ะ ... "

ตอนนี้หงเหว่ยกูก็รู้แล้วว่าทำไมการแสดงออกของเลขานุการจึงแปลกไป “เธอกำลังจะบอกว่าปัญหายุ่งยากที่มีมานานจนทำให้เราต้องปวดหัวได้ถูกแก้ไขแล้ว ประเด็นคือมันจบลงเพราะสุนัขที่ต้าหลี่นั้นซื้อมาเพียงเพราะว่าเขาอยากถลุงเงินเนี่ยนะ!?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด