บทที่ 5 : คู่หมั้น (1/2)
บทที่ 5 : คู่หมั้น (1/2)
เหลียนเซ่อถึงกลับตกตะลึงตัวแข็งทื่อขณะที่เหลียนซีและเหลียนฟางชิงก็เช่นเดียวกัน
เหลียนฟางโจวรู้สึกอับอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ‘นี่เมื่อก่อนเจ้าของร่างเดิมไม่เคยทำงานบ้านพวกนี้เลยหรอ?’
เหลียนฟางโจวคนนี้ไร้สาระเกินไปแล้ว ยึดติดแต่กับเรื่องคู่หมั้นแล้วปล่อยให้เด็กเล็กๆพวกนี้ทำงานบ้านตามลำพังได้ยังไงกัน ไม่ไหวเลยจริงๆ
“งั้นพี่ขอไปเก็บผักในสวนแล้วกันนะ ชิงเออร์เจ้าอยากไปกับพี่ไหม?” เหลียนฟางโจวรู้สึกอึดอัดกับสายตาของเด็กๆนิดหน่อย ดังนั้นเธอจึงเสนอตัวขอออกไปเก็บผักแทน
“ไปๆ ข้าจะไปกับพี่ใหญ่” เหลียนฟางชิงตอบตกลงอย่างรวดเร็ว ก่อนเธอจะฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี
เหลียนซีก็รีบชิงบอกพี่ชายอย่างรวดเร็วว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะเป็นคนไปให้อาหารไก่ในเล้าเอง”
เหลียนเซ่อผู้ซึ่งยังคงตกอยู่ในภวังค์เพราะงุนงงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น ได้แต่มองพี่สาวแล้วก็น้องสาวตัวน้อยเดินที่กำลังถือตะกร้าออกไปเก็บผักด้วยสายตาปริบๆ
“พี่รองท่านรู้สึกไหมว่าพี่ใหญ่ของเราเปลี่ยนไป?”เหลียนซีค่อยๆเงยหน้าเล็กๆของเขาขึ้นมามองพี่ชาย
“อืม” เหลียนเซ่อพยักหน้ารับ ก่อนเขาจะยิ้มแล้วก็ลูบหัวน้องชายเบาๆ “แล้วเจ้าคิดว่าพี่ใหญ่ในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
เหลียนซีหยุดคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกมาดังลั่น “เยี่ยมสุดๆไปเลย!!”
“ถ้างั้นก็ดีแล้ว!!”เหลียนเซ่อหัวเราะผสมโรงกับเหลียนซีดังลั่น
สวนผักตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของบ้านและอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านมากนัก แม้จะดูไม่แย่เท่าไหร่ แต่สภาพแปลงผักก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควร ในแปลงมีผักที่ดูไม่ค่อยจะสมบูรณ์นักอยู่ราวๆหกเจ็ดแถวได้
เวลานี้เป็นช่วงปลายเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่ผักขาดแคลนมากที่สุดในรอบปี เมื่อถึงฤดูกาลนี้ดินก็จะยิ่งขาดแร่ธาตุและสารอาหาร และยิ่งมาประจวบกับเหลียนฟางโจวคนเก่าที่ไม่ค่อยได้ดูแลเอาใจสวนมากนัก อีกทั้งถ้าจะหวังพึ่งพวกเด็กๆก็คงไม่ได้เพราะพวกเขายังเล็กเกินกว่าที่จะรู้วิธีการดูแลผักพวกนี้ได้ เพราะฉะนั้นเธอเลยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสภาพสวนในตอนนี้ถึงได้ดูไม่จืดเลย
พวกพริก ถั่วแล้วก็แตงกวาต่างก็แห้งเหี่ยวตายไปหมด ขณะที่เถาแล้วก็ลำต้นของมันก็กำลังเริ่มเหี่ยวตายเป็นบางจุดแล้ว ใบเองก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแซมเขียวเป็นหย่อมๆผลนั้นก็เหี่ยวฝ่อจนหมดไม่สามารถจะเก็บไปกินได้
จากที่มองคร่าวๆของที่พอจะเก็บกลับไปทำอาหารได้ก็คงมีแต่มันเทศที่มีหัวโผล่พ้นดินมาครึ่งหนึ่ง และถ้าลองสังเกตดูดีๆจะเห็นได้ว่าใบของมันเองก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเหมือนกับต้นอื่นๆแล้ว
เมื่อเห็นภาพตรงหน้าซูเม่ยผู้ซึ่งเรียนจบภาควิชาเกษตรมาก็ได้แต่ละเหี่ยใจ เฮ้อ…แต่ลึกๆเธอก็แอบดีใจนะที่จะได้เอาวิชาความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาใช้สักที
จากที่เงียบมานานเหลียนฟางชิงที่ยืนอยู่ข้างๆเธอก็พูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่เราขุดมันเทศไปกินสักสองสามหัวกันเถอะ เมื่อเช้าข้าได้ยินพี่รองบอกว่าเย็นนี้เราจะกินโจ๊กมันเทศกัน!”
ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ จากที่มองดูทั้งสวนแล้วสิ่งที่พอจะกินได้ก็คงมีแค่มันเทศพวกนี้แหละ เหลียนฟางโจวถอนหายใจเงียบๆอย่างปลงตกในชะตากรรม “ได้!!”
มันเทศพวกนี้ทั้งหัวเล็กแล้วก็น้ำหนักเบา เธออนุมานได้ว่าอาจจะเป็นเพราะพวกเขาใช้วิธีปลูกแบบใช้มันเทศทั้งหัวแทนที่จะใช้ลำต้นหรือรากเหมือนกับที่พวกเธอใช้กันในโลกอนาคต และวิธีการที่พวกเขาใช้นี้นอกจากจะได้ผลที่ไม่ค่อยสมบูรณ์แล้ว ยังได้ผลผลิตที่น้อยอีกด้วย ว่าแต่ว่า…ตอนนี้คนที่นี่จะรู้จักการปลูกแบบปักชำหรือยังนะ.......
เธอคิดอยู่ในหัวเงียบๆในขณะที่มือก็ขุดมันเทศไปด้วยอย่างชำนาญ
เหลียนฟางโจวขุดมันเทศออกมาห้าหกหัว เสร็จแล้วก็เดินไปเก็บถั่วอีกกำมือหนึ่ง และก็ไม่ลืมที่จะเก็บพริกเม็ดเล็กๆที่กำลังจะตายพวกนั้นกลับไปด้วย
พวกต้นถั่วที่ตายเธอก็คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าถอนพวกมันทิ้ง ส่วนพวกพริกนั้นถ้าพรวนดินรอบต้นแล้วก็ใส่ปุ๋ยเพิ่มอีกสักหน่อย ไม่นานพวกมันก็จะน่ากลับมางอกงามจนออกดอกออกผลได้อีกครั้งซึ่งเธอตั้งใจว่าวันพรุ่งนี้จะกลับมาจัดการให้เรียบร้อย
เหมือนกับที่ป้าจางพูด ชีวิตมันต้องเดินต่อไป!! ไม่ใช่แค่เดินต่อ แต่เธอจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของน้องๆให้ดีขึ้นไปด้วย!!
ระหว่างที่เดินกลับบ้านเหลียนฟางโจวก็พยายามถามเรื่องสวนผักกับเหลียนฟางชิงไปด้วย แต่อาจจะเพราะเธอยังเด็กก็เลยตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง เหลียนฟางโจวเลยตั้งใจว่าไว้ไปถามเรื่องนี้กับเหลียนเซ่อน่าจะดีกว่า เพราะเขาอายุเยอะสุดน่าจะรู้เรื่องมากสุด
“อ้าว พี่ฟางโจว ชิงเออร์กลับมาแล้วหรอ ท่านแม่ให้ข้าเอาเมล็ดถั่วกับเมล็ดฟักเขียวมาให้ข้าฝากไว้กับเหลียนเซ่อแล้วนะ!!” เมื่อสองพี่น้องเดินมาถึงลานหน้าบ้าน ก็เจอกับเด็กสาวหน้ากลมที่เพิ่งจะเดินออกมาจากในบ้าน
เหลียนฟางโจวยิ้มและกล่าวขอบคุณ ในขณะที่เหลียนฟางชิงส่งเสียงร้องทักอย่างดีใจ “พี่ฮวน!!”
เหลียนฟางโจวรู้ได้ทันทีว่านี่คือลูกสาวของป้าจาง หลี่ฮวนนั่นเอง
“รบกวนป้าจางอีกแล้ว! ฝากขอบคุณป้าจางด้วยนะ!” เหลียนฟางโจวยิ้ม
“ไม่เป็นไรๆ พวกเราก็บ้านใกล้เรือนเคียงกัน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้ถือว่ารบกวนอะไรหรอก ถ้าอย่างงั้นข้าขอตัวกลับบ้านก่อนนะ” หลี่ฮวนยิ้มและเดินจากไป
“ค่อยๆเดินกลับดีๆนะ” เหลียนฟางโจวยืนมองหลี่ฮวนจนลับสายตา แล้วถึงพาน้องสาวเดินเข้าบ้าน