GE462 วิชายกระดับโอสถ [ฟรี]
หนิงฝานเลิกสนใจโม่ฉุยและตั้งใจปรุงโอสถ
จิตใจของยังสงบ เขาแบ่งสติ 9 ส่วนไปกับการปรุงโอสถ และอีก 1 ส่วนเพื่อคอยระวังโม่ฉุย
หนิงฝานนำสมุนไพรหมื่นปีของตนออกมา ใส่ลงไปในกระถางแล้วเริ่มปรุงโอสถ
ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ สมุนไพรหมื่นปีหลายชนิดก็ค่อยๆแปรสภาพเป็นปราณสมุนไพร
สมุนไพรต่างชนิดกัน ย่อมต้องใช้อุณหภูมิความร้อนที่ต่างกัน สำหรับนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ทั่วไป การที่จะเผาและชำระสมุนไพรหมื่นปีให้บริสุทธิ์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หนิงฝานกลับชำระปราณสมุนไพรเหล่านั้นได้หลายสิบครั้งในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ
การปรุงโอสถที่ลื่นไหลราวกับสายน้ำของหนิงฝาน ทำให้ผู้ที่เฝ้ามองตกตะลึง
ก่อนหน้านี้มีเพียงไม่กี่คนที่คิดว่าหนิงฝานเก่งจริงๆ แต่ยามนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่กล้าสบประมาทเขา
นักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 และ 4 จำนวนมาก จ้องมองการปรุงโอสถของหนิงฝานด้วยแววตานับถือ ราวกับพวกมันได้ดูนักปรุงโอสถอาวุโสที่มีชื่อเสียงแสดงฝีมือ
หวางถิงสื่อและยี่หยางสื่อแอบมอ’หนิงฝานด้วยความนับถือเช่นกัน
“วิชาปรุงโอสถของเขาน่าทึ่ง จนทำให้ข้ารู้สึกอับอาย ข้านับถือเขาจริงๆ สมแล้วที่เป็นศิษย์ของกษัตริย์โอสถ!” หวางถิงสื่อยิ้มพลางกล่าว มันรู้อยู่นานแล้วว่าวิชาปรุงโอสถของมันต่างชั้นกับหนิงฝานมาก แต่ถึงอย่างนั้น มันจะยังแสดงฝีมืออย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้น้อยหน้ายี่หยุนสื่อและโม่ฉุย
หวางถิงสื่อเลือกปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูง นามว่า ‘โอสถดวงจิตทรงพลัง’ เป็นโอสถที่จะช่วยเพิ่มพลังให้กับร่างกายที่อยู่ในขอบเขตกระดูกหยกได้ 3 ใน 10 ส่วนในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็มีผลข้างเคียงคือหากโอสถหมดฤทธิ์ ร่างกายของผู้ที่ใช้จะเป็นอัมพาตไปถึง 10 ปี
แม้ตัวโอสถจะมีผลข้างเคียง แต่ก็มีคนนิยมนำไปใช้ในการต่อสู้ เพราะมันเป็นโอสถที่ช่วยชีวิตได้ดีเช่นเดียวกัน
เมื่อผู้คนเห็นหยางถิงสื่อปรุงโอสถดวงจิตทรงพลัง ดวงตาของคนเหล่านั้นเบิกกว้าง เพราะไม่ว่าผู้ใดล้วนต้องการที่จะซื้อ
ยี่หยุนสื่อปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูง นามว่า ‘โอสถนภาม่วง’ เป็นโอสถที่จะช่วยเพิ่มปราณให้กับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลางได้ถึง 200 เกราะ ทั้งการปรุงยังยากกว่าโอสถดวงจิตทรงพลัง
หากยี่หยุนสื่อปรุงโอสถได้สำเร็จ อันดับและผลการทดสอบของมันจะสูงกว่าหวางถิงสื่อ
หวางถิงสื่อส่ายหน้า มันรู้ว่าวิชาปรุงโอสถของยี่หยุนสื่อจะเหนือล้ำกว่ามันเล็กน้อย แต่มันจะปรุงโอสถของตนออกมาให้ดีที่สุด
ยามนี้ยังคงไม่มีผู้ใดทราบว่าโม่ฉุยมีแผนการอะไร เพราะมันก็กำลังตั้งใจปรุงโอสถเช่นกัน
เมื่อผู้คนเห็นโอสถที่โม่ฉุยปรุงล้วนตกตะลึง โอสถที่มันเลือกปรุงคือโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูง นามว่า ‘โอสถเล่ยเฉิง’ เป็นหนึ่งในโอสถล้ำค่า เพราะสามารถช่วยยกระดับดวงจิตสมุนไพรของนักปรุงโอสถได้
โอสถชนิดนี้หาได้ยาก ยากที่จะปรุงมันออกมา และมีระดับเกือบจะเทียบเท่าโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุด
หากโม่ฉุยปรุงโอสถชนิดนี้สำเร็จ ต่อให้คุณภาพของมันไม่สูงนัก แต่ก็มากพอที่จะเอาชนะยี่หยุนสื่อและหวางถิงสื่อได้
จากสีหน้าของโม่ฉุยยามนี้ มันยิ้มราวกับรู้ว่าชัยชนะอยู่ในมือของมันแล้ว
จะเหลือก็เพียงหนิงฝาน ที่มันยังไม่รู้ว่าปรุงโอสถอะไร
หนิงฝานเลือกปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้คนผิดหวัง เพราะพวกมันคิดว่าหนิงฝานจะปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุด
หนิงฝานเลือกปรุงโอสถผันปีศาจ เพราะเหมาะกับระดับร่างกายของเขา แม้ระดับของมันไม่ได้สูงเทียบเท่าโอสถเล่ยเฉิง แต่ฤทธิ์ของโอสถมากกว่า
หนิงฝานต้องปรุงโอสถผันปีศาจให้สมบูรณ์แบบเท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็ยากที่จะเอาชนะโอสถเล่ยเฉิงได้
“ดูเหมือนผู้ชนะในวันนี้คือจ้าววังโม่ฉุย...”
“วิชาปรุงโอสถของท่านหมิงไม่ธรรมดาก็จริง แต่ระดับพลังยังด้อยกว่าโม่ฉุยอยู่มาก” ผู้คนพูดคุยเกี่ยวหนิงฝานและโม่ฉุย
โม่ฉุยไม่คิดว่ามันจะแพ้ให้หนิงฝาน ต่อให้กระถางปรุงโอสถและเพลิงของหนิงฝานทรงพลังมากกว่า แต่มันเชื่อว่าจะไม่แพ้
“ดูเหมือนว่าต่อให้ข้าไม่ใช้แผนชั่วก็เอาชนะมันได้ ฮึ่ม! แต่หากไม่ใช้ ข้าก็ยังไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าจะเอาชนะและชิงเพลิงของมันมาได้ รอก่อนเถอะ ไว้เจ้าปรุงโอสถเสร็จเมื่อไหร่ ข้าจะให้เจ้าได้เห็นดี ฮ่าฮ่า!” โม่ฉุยกล่าวในใจ
หนิงฝานไม่ได้แสดงท่าทีว่ารู้แผนของมัน เพราะเขาเองก็เตรียมแผนไว้จัดการกับมันอยู่แล้ว
แม้ว่าโม่ฉุยจะปรุงโอสถที่มีระดับสูงกว่า แต่การปรุงโอสถผันปีศาจของหนิงฝานก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน
ผ่านไปครึ่งเดือน ปรากฏการณ์ที่เป็นสัญญาณบอกถึงการปรากฏของโอสถผันแปรที่ 4 ก็เกิดขึ้น
ชายชราผู้หนึ่งชูโอสถที่เพิ่งปรุงเสร็จขึ้นพลางกล่าวด้วยความตื่นเต้น “ข้าปรุงโอสถเสร็จแล้ว”
หากเป็นในแคว้นทั่วไป การที่นักปรุงโอสถ ปรุงโอสถผันแปรที่ 4 สำเร็จนั้นนับเป็นเรื่องสำคัญ แต่ในสถานที่แห่งนี้ ไม่ค่อยมีผู้ใดสนใจนัก
ไม่นานนัก ชายชราผู้นั้นก็นำโอสถของตนไปให้ผู้ตรวจสอบได้ตรวจวัดระดับ เมื่อตรวจสอบแล้วชายชราก็ได้โอสถคืน
หลังจากนั้นไม่นานนักก็มีนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ทะยอยกันเข้าตรวจวัดระดับ
แต่ก็มีนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 หลายคนที่ทำเตาปรุงโอสถระเบิด และต้องออกจากการแข่งขันไป
เมื่อผ่านไปถึงวันที่ 20 นักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ทุกคนปรุงโอสถเสร็จ ยามนี้เหลือเพียงหนิงฝาน และนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 เท่านั้นที่กำลังตั้งใจปรุงโอสถอยู่
หนิงฝานควบคุมเพลิงอย่างระมัดระวัง หลังจากได้เพลิงชีพจรพิภพมาใหม่ ระดับของเพลิงหนิงฝานก็เพิ่มพูนไปมาก แม้จะยังไม่ถึงระดับ 7 ขั้นสูง แต่ก็เป็นระดับ 7 ขั้นกลางที่ไร้ผู้ต้าน
ความเร็วในการปรุงโอสถของหนิงฝานเหนือกว่าโม่ฉุยและคนอื่นๆมาก จริงๆเขาปรุงโอสถเสร็จแล้วตั้งแต่วันที่ 10 ที่ผ่านมา แต่เหตุที่เขายังไม่ทำให้ปราณสมุนไพรเหล่านั้นกลายเป็นโอสถ เพราะเขามีแผน
*เปรี้ยง*
เสียงอัสนีฟาดผ่าดังสนั่น เป็นปรากฏการณ์การถือกำเนิดของโอสถผันแปรที่ 5
วังวนก่อตัวขึ้นภายในกระถางปรุงโอสถหนึ่ง ดึงดูดเอาปราณจากภายนอกเข้ามา ผสานกับปราณสมุนไพรเพื่อเตรียมจะกลายเป็นโอสถ
ผู้ชมทุกคนเฝ้ามองอย่างตั้งใจ เพราะโอสถผันแปรที่ 5 เป็นสิ่งล้ำค่า
อัสนีที่ปรากฏนั้นรุนแรงมากพอที่จะสร้างปัญหาให้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ ดังนั้นผู้ที่ปรุงโอสถสำเร็จผู้นั้น จึงต้องขอความช่วยเหลือเพราะมันไม่อาจรับอัสนีได้โดยลำพัง
ชวี่ฉิงและตงสู่เร่งทะยานขึ้นสู่ท้องนภา เอื้อมมือคว้าไปเบื้องหน้า ทำลายอัสนีสายนั้นจนย่อยยับ
ผู้คนมากมายตกตะลึงกับอัสนีที่ปรากฏ แต่ก็ถูกตงสู่และชวี่ฉิงจัดการได้อย่างง่ายดาย นั่นหมายความว่าทั้งสองสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน
นักปรุงโอสถผู้นั้นเร่งเอาโอสถไปทดสอบกับขวดเพลิง ผลที่ได้คือบนท้องนภาปรากฏเงาสีครามสูงนับหมื่นจ้าง
ไม่กี่วันถัดมา นักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 คนอื่นๆก็เริ่มปรุงโอสถสำเร็จ ชวี่ฉิงและตงสู่ก็คอยช่วยเหลือคนเหล่านั้นต้านรับอัสนี
เมื่อเวลาล่วงเลยไปถึงวันที่ 24 หยางกู่ หยุนเนี่ยนซูก็ปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นต้นสำเร็จ
หยางกู่จ้องมองหนิงฝานที่ปรุงโอสถอยู่ด้วยความนับถือ มันเลือกอาจารย์ไม่ผิด วิชาปรุงโอสถของหนิงฝานสูงส่งไร้ข้อกังขา
แม้หนิงฝานจะยังปรุงโอสถไม่เสร็จ แต่หยุนเนี่ยนซูรู้ดีว่าระดับการปรุงโอสถของมันยังด้อยกว่าหนิงฝานมาก
ทั้งสองนำโอสถไปตรวจสอบ ผลที่ได้คือได้เงาสูงถึง 13,000 จ้าง โอสถระดับนี้ทำให้ทั้งสองติดอันดับ 1 ใน 20 ของทั้งหมด
ไม่นานนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นกลางได้เอาโอสถของตนไปตรวจสอบ ผลที่ได้คือเงาสูงถึง 20,000 จ้าง
ยามนี้จึงเหลือเพียงหนิงฝาน หวางถิงสื่อ ยี่หยุนสื่อ และโม่ฉุยเท่านั้นที่ยังปรุงโอสถไม่เสร็จ
ในวันที่ 27 หวางถิงสื่อก็ปรุงโอสถเสร็จ กลิ่นหอมของโอสถลอยฟุ้ง อัสนีที่ทรงพลังปรากฏบนท้องนภา
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ยี่หยุนสื่อก็ปรุงโอสถเสร็จเช่นเดียวกัน
โม่ฉุยแหงนหน้ามองพลางชำเลืองมองหยางถิงสื่อและยี่หยุนสื่อเงียบๆ
มันกำลังรอให้หนิงฝานปรุงโอสถเสร็จ มันจะได้ใช้แผนการที่เตรียมมา
เมื่อสังเกตุเห็นว่าโม่ฉุยแอบมอง หนิงฝานแอบยิ้มมุมปาก “ในเมื่อเจ้าอยากใช้แผนชั่วกับข้า ข้าจะให้เจ้าได้สมหวัง.... ก่อโอสถ!”
หนิงฝานเอื้อมมือไปเบื้องหน้า ปราณสมุนไพรที่อยู่ภายในเตาก่อตัว บนฟ้าปรากฏอัสนีที่ทรงพลัง
ปราณจำนวนมหาศาลโดยรอบถูกดึงดูดเข้ามาในกระถาง ยกระดับโอสถให้มีฤทธิ์มากขึ้น
เมื่อฤทธิ์ของโอสถเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุด อัสนีที่ปรากฏบนท้องนภาก็หายไป โอสถก็ก่อตัวสำเร็จ
ผู้คนมากมายตื่นเต้นที่ได้เห็นโอสถผันแปรที่ 5 ถึง 3 เม็ด ย่อมตื่นเต้นเป็นเรื่องธรรมดา
สีหน้าชวี่ฉิงและตงสู่แปรเปลี่ยน การที่อัสนี 3 ชุดเกิดขึ้นพร้อมกัน ต่อให้เป็นทั้งสองก็รับมือลำบาก
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสนใจอัสนีที่ปรากฏ ไม่มีใครสังเกตุเห็นว่าโม่ฉุยยิ้มยกที่มุมปาก
“ก่อโอสถ!” ในขณะนั้น โม่ฉุยสัมผัสกระถาง วังวนปรากฏภายในกระถางโอสถ ดูดกลืนเอาปราณโดยรอบเข้ามา
อัสนีที่ทรงพลังปรากฏขึ้นบนท้องนภาอีกสาย ทำให้ผู้ชมตกตะลึง
ผู้คนคาดไม่ถึงว่าโม่ฉุยจะปรุงโอสถเสร็จในเวลาไล่เลี่ยกันแบบนี้ ซึ่งนั่นทำให้อัสนีที่ปรากฏผสานเข้ากับอัสนีก่อนหน้า ทำให้อานุภาพของพวกมันเพิ่มพูน
ในขณะเดียวกันนั้น หวางถิงสื่อและยี่หยุนสื่อสังเกตุเห็นความผิดปกติภายในกระถางของโม่ฉุย
ทั้งสองเห็นโม่ฉุยมือข้างหน้าสัมผัสกระถาง อีกข้างขยับนิ้วเป็นท่าทาง ปากขมุบขมิบราวกับร่างเคล็ดความ
วังวนที่ปรากฏอยู่ภายในกระถางของมันทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนดูผิดธรรมชาติ ราวกับจะดูดซับปราณจากโดยรอบทั้งหมดเข้าไป
เมื่อโดยรอบถูกดูดกลืนไปโดยฉับพลัน คุณภาพโอสถของหนิงฝาน ยี่หยุนสื่อ และหวางถิงสื่อก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
สีหน้ายี่หยุนสื่อและหวางถิงสื่อแปรปลี่ยนใหญ่หลวง “นี่มัน… วิชาลับโบราณ ‘วิชายกระดับโอสถ’ เป็นวิชาที่ดูดซับเอาปราณจากรอบข้าง เพื่อยกระดับโอสถของตน วิชานี้หายสาบสูญไปนานแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะอยู่กับมัน!”
“ฮ่าฮ่า! ข้าใช้วิชายกระดับโอสถ ช่วงชิงปราณสมุนไพรจากพวกเจ้าทั้งหมด ระดับโอสถของพวกเจ้าจะลดลง แต่โอสถข้าจะเพิ่มขึ้นจากโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงเป็นขั้นสูงสุด! รอบนี้ข้าชนะแล้ว!”
โม่ฉุยยิ้มอย่างมีความสุข เพราะวันนี้มันจะก้าวข้ามหนิงฝานและคนอื่นๆ
วิชายกระดับโอสถเป็นวิชาลับโบราณที่ไม่ปรากฏมานานแล้ว หากมันได้ใช้ ก็ไม่มีผู้ใดหยุดวิชาของโม่ฉุยได้
มันได้วิชานี้มาโดยบังเอิญ แต่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ยังไม่สมบูรณ์ และมันก็คิดว่าคนอื่นๆคงไม่มีวิชานี้
หวางถิงสื่อและยี่หยวนสื่อโกรธแค้น หากใช้ในยามที่ปรุงโอสถเองย่อมไม่มีใครว่า แต่โม่ฉุยใช้เพื่อมีเจตนาแย่งชิงปราณจากคนอื่น นับเป็นวิธีที่น่ารังเกียจ
“คาดไม่ถึงว่าจ้าววังสวรรค์แดงจะชั่วช้าขนาดนี้!”
“ฮึ่ม! ในโลกใบนี้ ผู้ที่อ่อนแอกว่าไม่มีสิทธิ์พูด… พวกเจ้ามันอ่อนแอเอง!” โม่ฉุยกล่าว
โม่ฉุยกระตุ้นวิชา ทำให้วังวนของมันดึงดูดปราณโดยรอบได้รุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้ปราณสมุนไพรที่อยู่ในกระถางของยี่หยุนสื่อ และหวางถิงสื่อถูกดูดซับออกไปอย่างรวดเร็ว
หากไม่มีปราณสมุนไพรมากพอ ทั้งสองก็ทำให้ปราณสมุนไพรกลายเป็นโอสถไม่ได้
แม้ทั้งสองจะโกรธ แต่ไม่อาจขัดขวางโม่ฉุยได้
แม้ว่าการกระทำของโม่ฉุยจะน่ารังเกียจ แต่ผู้คนก็คิดว่าโม่ฉุยกล่าวไม่ผิด ว่าผู้ที่แข็งแกร่งกว่าย่อมชนะ
แต่หนิงฝานในยามนี้กลับไม่โกรธเหมือนอย่างที่โม่ฉุยคิดไว้ จิตใจของเขายังคงสงบ เพราะเขามองวิชายกระดับโอสถของมันออก
โม่ฉุยหันมองหนิงฝานด้วยสายตาเย้ยหยัน “ท่านหมิง ดูเหมือนท่านจะพ่ายแพ้ให้ข้าแล้ว หลังจากการแข็งขันจบก็อย่าลืมส่งเพลิงทมิฬให้ข้าด้วย เอาไว้กษัตริย์โอสถและกษัตริย์พิรุณเอ่ยปากเมื่อไหร่ ข้าถึงจะคืนให้”
“งั้นเหรอ? เหตุใดข้าต้องยกเพลิงให้เจ้า?” หนิงฝานยิ้มมุมปาก ขยับมือเป็นท่าทาง ปากร่ายเคล็ดความ
ในชั่วพริบตานั้น วังวนภายในเตาปรุงโอสถของหนิงฝาน ทรงพลังพลังขึ้นยิ่งกว่าของโม่ฉุย ทำให้ปราณสมุนไพรจากกระถางของมัน ถูกดูดซับมายังกระถางของเขา
สีหน้าโม่ฉุยแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง หนิงฝานใช้วิชาได้ทรงพลังยิ่งกว่ามัน
“เป็นไปไม่ได้! นี่เจ้าช่วงชิงวิชาข้า เป็นไปไม่ได้!”...