ระบบใช้จ่ายตอนที่ 50
ติดตามผลงานของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:แปลNiyay
บทที่ 50: สหาย ทำงานหนักไปแล้วนะ!
ในฐานะผู้ผลิตเพลงประกอบภาพยนตร์ เรื่อง ‘ผู้ติดตามสายลม’ ดิงเชียงเฉินจึงถูกลากไปที่คอนเสิร์ตนี้โดยชางเวินชีด้วย ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตของนักร้องที่ไม่รู้จัก เขาคิดว่า นี่จะต้องเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าชางเวินชีจะยกย่องนักร้องคนนี้ ว่าเธอนั่นเป็นดั่งนางฟ้าบนสรวงสวรรค์ แต่วงการบันเทิงก็เป็นเช่นนี้ การที่จะมีชื่อเสียงนั้น มันย่อมตัดสินจากความสามารถของตัวเธอเอง แล้วกับการที่นักร้องที่ไม่มีชื่อเสียงแบบนี้ได้พบกับลูกชายของเศรษฐีมันจะไปมีดีได้ยังไง
อย่างไรก็ตาม ชางเวินชียังกล้าปฏิเสธที่จะแชร์วิดีโอที่เขาบันทึกไว้และต้องการเก็บเป็นความลับอีก เขาแค่บอกให้ดิงเชียงเฉินรอดู
ดิงเชียงเฉินรู้สึกงงกับสิ่งที่ชางเวินชีพูดไว้ เวลาของเขามีค่าและภาพยนตร์เรื่อง
‘ผู้ติดตามสายลม’ อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการถ่ายทำ เขาไม่มีเวลาที่จะมาเล่นกับชางเวินชีหรอกนะ
แต่เมื่อเขาติดตามชางเวินชีมาแล้ว ชายผู้มีหนวดเคราคนนี้ก็ได้มาถึงที่จัดงาน จากนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
ถึงแม้ว่าลูกชายของเศรษฐีจะต้องการเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน แต่เขาก็ไม่น่าจะสร้างฉากขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ นี้เขาใช้รถยนต์ตั้ง 40 คัน และมีราคามากกว่า 30 ล้านหยวนเลยงั้นเรอะ
ดิงเชียงเฉินเริ่มให้ความสนใจกับคอนเสิร์ตที่ไม่ธรรมดานี้
เมื่อเพลงแรก "เปิดม่านลูกปัด" ได้จบลง ดิงเชียงเฉินก็ต้องตกตะลึง นี่ไม่ใช่เพลงที่น่าเบื่อเลยสักนิด เขาอยากจะฟังมันซ้ำอีก มันเป็นเพลงที่ควรฟังซ้ำแล้วซ้ำอีก
จากนั้นก็ตามมาด้วยเพลงที่สอง "ไล่ตามฝันหาอัสนีบาต" ดิงเชียงเฉินก็เหมือนถูกสะกดจิต เขาหลงใหลในบทเพลงนี้มาก
เมื่อเพลงจบลง ดิงเชียงเฉินตกตะลึงในความสามารถของเธอ เขายืนนิ่งอยู่เป็นนาที จากนั้นก็เริ่มตัวสั่น เขารีบไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสถานที่ " นี่ล่ะ นี่แหละ ใช่เลย นี่คือสิ่งที่ฉันกำลังตามหา! ยาม ยาม! ฉันเป็นโปรดิวเซอร์เพลง บริษัทเป็งหุยฟิล์ม ชื่อดิงเชียงเฉิน ด่วน พาฉันไปหาเจ้านายของคุณที ฉันต้องการพบกับผู้ที่จัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ฉันอยากเจอเขา! ตอนนี้! ตอนนี้เลย! "
ผู้คนต่างกำลังขานชื่อ "ลี่เนียนเหว่ย" อย่างเสียงดังจนเหมือนหิมะถล่ม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่สามารถได้ยินสิ่งที่ดิงเชียงเฉินพูดได้อย่างแน่นอน " คุณ คุณพูดว่าไงนะ? ฉันไม่ได้ยินคุณเลย! "
ดิงเชียงเฉินกระโดดอย่างกระตือรือร้น และตะโกนว่า " ฉันเป็นโปรดิวเซอร์เพลง บริษัทเป็งหุยฟิล์ม ชื่อดิงเชียงเฉิน ด่วน พาฉันไปหาเจ้านายของคุณที! "
ในสถานการณ์เช่นนี้ใคร ๆ ก็คงไม่สามารถได้ยิน โดยเขาไม่ได้คำนึงว่าเขาจะตะโกนดังมากแค่ไหน ผู้รักษาความปลอดภัยงงงวยและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่รู้จะทำอย่างไร และทันใดนั้นดิงเชียงเฉินก็คิดได้ว่า.. เขาต่อยไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกระชากคอเสื้อ
จากนั้นเขาก็ได้ถูกล้อมและโดนเตะโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคน จากนั้นก็โดนลากไป ...
…
หงต้าหลี่สนุกสนานมากและได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนร่วมชั้น พวกเขากินผลไม้และของว่างเยอะแยะไปหมด นอกจากนี้ยังได้เล่นกับสุนัขที่แพงที่สุดและน่ารักที่สุดด้วย พอผสมกับดื่มเครื่องดื่มที่หรูราอลังการสุด ๆ แล้ว พวกเขาทุกคนต่างก็สนุกสนานมาก ๆ
ส่วนเหล่าคนดูตอนนี้กำลังส่งเสียงเชียร์และฟังคอนเสิร์ตกันอยู่ แต่แล้วหัวหน้ารักษาความปลอดภัยของสนามกีฬาก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามาในห้อง เขาโค้งคำนับต่อหงต้าหลี่และกล่าวว่า " ท่านนายน้อยต้าหลี่ครับ มีผู้ชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นโปรดิวเซอร์เพลงจากบริษัทเป็งหุยฟิล์ม ชื่อของเขา คือ ดิงเชียงเฉิน และเขาต้องการพบท่านนายน้อยต้าหลี่ครับ "
หัวหน้ารักษาความปลอดภัยได้โค้งคำนับลง ต้าหลี่ได้มองใบหน้าของเขาแปลก ๆ ราวกับว่าพยายามที่จะไม่หัวเราะออกมาดัง ๆ
หงต้าหลี่ยักไหล่ " โอ้ ให้เขาเข้ามาสิ ถ้าแนะนำตัวแบบเนี่ย? เขาต้องการมาพบฉันหรอ? "
หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยพูดอย่างไร้จุดหมายว่า " ผมขอโทษครับ ผมกลัวว่าเขาจะไม่สามารถมาพบท่านนายน้อยต้าหลี่ได้ ท่านนายน้อยต้าหลี่ต้องไปพบเขาด้วยตัวเองแทนครับ "
เขาเป็นใครกัน? ทำไมถึงจองหองนัก? ฉันต้องไปพบเขาด้วยตัวเองอย่างนั้นหรอ?! หงต้าหลี่โบกมือของเขา "ไม่!"
หัวหน้ารักษาความปลอดภัยเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของเขา " เอ่อ…ไม่ใช่อย่างนั้นครับ…คนที่ชื่อ ดิงเชียงเฉิน บังเอิญว่าเขาได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ครับ ตอนนี้เขานอนอยู่บนเตียงพยาบาล ดังนั้นท่านจึงต้องไปพบเขา ... "
หงต้าหลี่พึมพำ " โอ้…ขอให้เขารอก่อน ตอนนี้ ฉันกำลังฟังน้องสาวเนียนเหว่ยร้องเพลงอยู่ "
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเดินออกจากห้องส่วนตัวของหงต้าหลี่ไป " โอ …โอเคครับ… "
โปรดิวเซอร์เพลงของบริษัทเป็งหุยฟิล์ม? หงต้าหลี่ทำหน้ามุ่ย “เขาเป็นใครกัน? ทำไมจองหองซะเหลือเกิน? เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแค่ไหนกันถึงไม่สามารถเดินมาหาฉันได้? ฉันต้องไปพบเขาอย่างนั้นหรอ? แปลกมาก ...”
ในขณะที่เขาไตร่ตรอง มีใครบางคนเคาะประตูอีกครั้ง หงต้าหลี่ตอบอย่างหงุดหงิด
" ใครอีก? คุณไม่รู้รึไงว่าฉันกำลังดูคอนเสิร์ตอย่างมีความสุขอยู่นะ? อย่ามารบกวนฉัน ถ้ามันไม่มีความสำคัญ คุณไม่รู้รึไงว่าฉันกำลังยุ่ง! "
ขณะที่เขากำลังพูด การเคาะประตูก็ยังดังอย่างต่อเนื่อง หงต้าหลี่พูดว่า “เสี่ยวหยี่ บอกให้เขาเงียบซะ!”
เมื่อเสี่ยวหยี่เปิดประตู ก็มีเงาวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับไม้ค้ำ " คุณคือท่านนายน้อยต้าหลี่หรือเปล่าครับ? ผมเป็นโปรดิวเซอร์เพลง บริษัทเป็งหุยฟิล์ม ชื่อดิงเชียงเฉิน นี่คือนามบัตรของผม! ผมขอทราบได้ไหมว่านักร้องบนเวที ลี่เนียนเหว่ยคนนั้นที่เป็นศิลปินภายใต้บริษัทของท่านใช่หรือไม่? "
หงต้าหลี่หันกลับมาและรู้สึกสนุกกับสิ่งที่เขาเห็น
ชายผู้ซึ่งอ้างว่าเป็นโปรดิวเซอร์เพลงของบริษัทเป็งหุยฟิล์ม นี้คือมิสเตอร์ดิงเชียงเฉิน ซึ่งตอนนี้ตัวเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและสิ่งสกปรก หัวของเขามีแต่สิ่งสกปรกเต็มไปหมด ใบหน้าของเขาถูกตีเป็นรอยคล้ำสีดำและสีน้ำเงิน แขนของเขาถูกพันผ้าพันแผลและขาของเขาอยู่ในเฝือก เขาดูตลกมากและอีกมือหนึ่งของเขาก็ใช้ไม้ค้ำอยู่ เพื่อนร่วมชั้นของหงต้าหลี่ทุกคนต่างก็หัวเราะกัน คนที่หัวเราะมาก ๆ บางคนพวกเขาถึงกับหัวเราะจนไปนอนกลิ้งอยู่ที่พื้น หงต้าหลี่เกือบพ่นน้ำใส่ปากของเขา " ลุง ลุงมาที่สตูดิโอผิดหรือเปล่า? เสื้อผ้าของลุงทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ? "
" ทั้งหมดนี้ คือ การได้มาพบท่านนายน้อยครับ ในตอนนั้น ไม่ว่าผมจะตะโกนมากแค่ไหน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ไม่ได้ยินผมเลย ในสถานการณ์ที่วิตกกังวลของผม ผมจึงชกเจ้าหน้าที่รักษาความความปลอดภัย " ดิงเชียงเฉินมองหาเก้าอี้ที่จะนั่งลง " และผมก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุบตี แต่มันก็โอเค หลังจากพวกเขาลากผมออกไป พวกเขาก็ได้ยินสิ่งที่ผมพูดสักที มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะได้พบท่านนายน้อย "
เมื่อได้ยินแบบนั้น หงต้าหลี่ก็ได้จ้องเขาด้วยความสับสน
ผู้ชายคนนี้ต่อยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและยอมจำนน เพียงเพื่อได้มาพบฉัน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างก็ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรในตอนนั้น เขาช่างดูไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน
ทันใดนั้นหงต้าหลี่ก็พูดว่า " ลุง ลุงพยายามเกินไปแล้วนะ! " เพื่อนร่วมชั้นของเขาต่างก็หัวเราะอีกครั้ง
ดิงเชียงเฉินไม่สนใจที่จะต้องอาย เขาคว้าแขนของหงต้าหลี่และจับไว้ เขาพูดอย่างกังวลใจว่า " ท่านนายน้อยต้าหลี่ ลี่เนียนเหว่ยเป็นนักร้องที่มีความสามารถและมีค่าที่สุด เป็นคนแรกในใจของผม! บริษัทของเราสร้างภาพยนตร์ไว้เมื่อเร็ว ๆ นี้ เรื่อง ‘ผู้ติดตามสายลม’ สิ่งที่เรายังขาดอยู่ตอนนี้ คือ บทเพลงสำหรับภาพยนตร์ หลังจากได้ยินลี่เนียนเหว่ยร้องเพลง "ไล่ตามฝันหาอัสนีบาต" มันเป็นเพลงที่ถูกใจผมมาก ท่านนายน้อยต้าหลี่ได้โปรดขายลิขสิทธิ์เพลงนี้ให้พวกผมได้ไหมครับ? บริษัทของเรายินดีจ่ายค่าธรรมเนียมและใบอนุญาตมากมาย ตราบใดที่ท่านเห็นด้วย 200,000 หยวน จะถูกโอนไปให้ท่านทันที! "
สองแสนหยวนสำหรับค่าลิขสิทธิ์เพลง สำหรับหนึ่งเพลงนั้นเป็นราคาที่ดี นั่นเป็นเพียงค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ไม่ใช่ค่าธรรมเนียมลิขสิทธิ์
" ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต " หมายความว่าบริษัทเป็งหุยฟิล์มสามารถใช้เพลงได้ แต่เพลงดังกล่าวยังคงเป็นของลี่เนียนเหว่ย หากมีการจำหน่ายลิขสิทธิ์สำหรับเพลงนั่น หมายความว่า แม้ผู้ที่เป็นคนแต่งเพลงต้นฉบับก็จะไม่สามารถใช้งานได้ในอนาคต
นี่คือความแตกต่างระหว่างค่าธรรมเนียมทั้งสอง แม้แต่นักร้องชั้นนำของโลกก็ยังนึกไม่ถึงเลยว่าจะได้รับ 200,000 หยวนสำหรับค่าลิขสิทธิ์เพลง
ในขณะที่เพื่อนร่วมชั้นของเขาต่างตกใจกับเรื่องที่ดิงเชียงเฉินพูด แต่ในทางกลับกันหงต้าหลี่ดื่มน้ำอย่างเงียบ ๆ และพูดว่า " ไม่ "