ตอนที่แล้วระบบใช้จ่ายตอนที่ 34
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบใช้จ่ายตอนที่ 36

ระบบใช้จ่ายตอนที่ 35


บทที่ 35: การได้เล่นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็น่าสนใจดี

‘การเป็นคนมีชื่อเสียงนี้มันก็ช่างจะยุ่งยากจริง ๆ เนาะ’

เมื่อได้ยินหงต้าหลี่พูดอย่างนี้ ผู้จัดการหญิงสาวก็แทบจะสำลักออกมาเลย

แต่หงต้าหลี่นั้นเป็นความหวังสุดท้ายของเธอ เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจได้

เธอจึงได้แต่รีบอธิบายว่า " ท่านนายน้อยต้าหลี่ ท่านเข้าใจผิดแล้วค่ะ มันเป็นเพราะน้องสาวของฉันไม่ต้องการปฏิบัติตามกฎก็แค่นั้นแหละค่ะ ฉันจึงได้มาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากท่าน หากน้องสาวของฉันเต็มใจที่จะปฏิบัติตามกฎนั้น ฉันคงไม่ต้องมาพบกับท่านหรอก จริงไหมคะ? ”

สำหรับศิลปินที่ยังไม่ค่อยดังแล้ว มีคนที่ไม่กล้าปฏิบัติตามกฎอยู่งั้นเหรอ? ทุกวันนี้ยังมีศิลปินที่หายากแบบนั้นอยู่ด้วย?

หงต้าหลี่เริ่มสนใจขึ้นมาเล็กน้อย เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า " อืม.. ศิลปินแบบนี้ค่อนข้างจะหายากเลยทีเดียว เอาล่ะ บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น?"

" โอเค ได้ค่ะ! " เมื่อได้ยินหงต้าหลี่พูดเช่นนั้น ดูเหมือนว่าเธอจะผ่อนคลายลงเล็กน้อย ผู้จัดการหญิงสาวก็โล่งใจ เธอเริ่มอธิบายสถานการณ์ " น้องสาวของฉัน ชื่อลี่เนียนเหว่ย เธอมีเสียงที่ไพเราะตั้งแต่เธอยังเด็ก เธอร้องเพลงได้ดีมากและเธอก็เป็นคนที่สวยมาก ดังนั้นเธอจึงเป็นที่นิยมในหมู่เพื่อนนักเรียนของเธอเสมอ เธอตั้งใจจะเข้าสู่วงการบันเทิงตลอดและเธอก็ได้ศึกษาที่มหาวิทยาลัยเทียนจิง สาขาสื่อภาพยนตร์ เมื่อเวลาผ่านไป น้องสาวของฉันได้รับการคัดเลือกโดยแมวมองระดับ 1 จากหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์และได้เซ็นสัญญากับพวกเขา จากนั้นฉันก็ได้มาเป็นผู้จัดการของเธอ "

" โอเค แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น? ผู้อำนวยการบริษัทของเธอจับตาดูเธอและต้องการอะไรบางอย่างจากเธอใช่ไหม? " หงต้าหลี่ก็ได้คิดในใจ มันเป็นอุตสาหกรรมบันเทิง เพราะฉะนั้นปัญหาพวกนี้มันจึงเป็นเรื่องธรรมดามาก

" เฮ้อ ใช่ค่ะท่าน " ผู้จัดการหญิงสาวถอนหายใจอีกครั้ง " จริง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมของเรา ทุกคนเข้าใจมัน แต่น้องสาวของฉันเหมือนตายทั้งเป็น ตอนแรกฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปยุ่งในเรื่องนี้ แต่น้องสาวของฉัน เธอเป็นคนดีมากและเราก็มีช่วงเวลาที่ดีที่เราได้ร่วมทำงานด้วยกัน ถ้าเธอไม่เต็มใจ ฉันก็จะไม่แนะนำให้เธอทำค่ะ”

“แต่ไม่มีใครคิดเลยว่าผู้กำกับของเรา เขา…เขาขู่ว่าจะหยุดกิจกรรมต่าง ๆ ของเธอ ถ้าเธอไม่ยอมปฏิบัติตาม ไม่เพียงแค่นั้น เขายังเข้าไปยุ่งกับครอบครัวของเธอ พ่อของเธอเป็นเพียงผู้จัดการแผนกในบริษัทเล็ก ๆ และตอนนี้เขาถูกไล่ออกเพราะผู้อำนวยการของเรา ถ้าฉันไม่ช่วยเหลือเธอ ในไม่ช้า ฉันก็กลัวว่าเธอจะไม่สามารถรับแรงกดดันและเธอก็จะยอมแพ้ไป ...”

" ในวันนี้ ฉันได้ยินจากคนอื่นว่าท่านนายน้อยต้าหลี่ได้ซื้อไนท์คลับแห่งนี้และจะมีงานเลี้ยงที่นี่คืนนี้ ฉันเลยคิดว่าอาจจะได้พบท่านที่นี่ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญเพื่อขอความช่วยเหลือจากท่าน ท่านนายน้อยต้าหลี่ได้โปรดช่วยเหลือน้องสาวของฉันด้วย ฉันขอร้องล่ะค่ะ "

เมื่อผู้จัดการสาวพูดเสร็จ ดวงตาของเธอก็แดงก่ำ

ในตอนนี้หงต้าหลี่ก็เข้าใจสถานการณ์ที่ผู้จัดการสาวได้เข้ามาพบและขอความช่วยเหลือเขาแล้ว

สาเหตุของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันเข้าใจง่ายมาก น้องสาวของเธอชื่อ ลี่เนียนเหว่ย เธอเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยและจิตใจดี เธอเป็นศิลปินของบริษัทหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์และเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่บริษัทกำลังปั้น แต่ผู้อำนวยการบริษัทของเธอต้องการเธอ  เธอถูกข่มขู่และโดนยัดเยียดให้เป็นในสิ่งที่เขาอยากจะให้เป็น แต่ลี่เนียนเหว่ยปฏิเสธ ผู้อำนวยการของเธอจึงไม่พอใจและได้จัดการไล่พ่อของลี่เหนียนเหว่ยออกจากบริษัทแห่งหนึ่ง ผู้จัดการสาวคนนี้จึงทนไม่ได้อีกต่อไปที่เห็นน้องสาวโดนทำร้าย ดังนั้นเธอจึงมาขอความช่วยเหลือจากเขา

ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก แต่มันดูน่าสนใจทีเดียว นี่เป็นโอกาสทองที่จะถลุงเงิน เขาจะพลาดได้อย่างไร!

หงต้าหลี่พยักหน้าและพูดว่า " ใช่ เรื่องนี้น่าสนใจเลยทีเดียว หัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์ นี้อยู่ที่ไหน? "

ผู้จัดการสาวตอบทันที " มันตั้งอยู่บนชั้น 12 ของอาคารเทียนฟู ที่ศูนย์กลางของสี่แยกทิศตะวันตกค่ะ "

หงต้าหลี่โบกมือให้หลิงเซียวอี้ซึ่งยืนอยู่อีกด้านหนึ่งให้มาหาและได้ถามว่า " พี่สาวเซียวอี้ พี่เคยได้ยินเรื่องบริษัทหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์นี้มาก่อนบ้างไหม? และอาคารเทียนฟูแห่งนี้อยู่ที่ไหน? "

ทันใดนั้นหงต้าหลี่ก็ได้คิดในใจว่า.. ผู้จัดการสาวคนนี้มาหาเขาในนาทีสุดท้ายแบบนี้ แสดงว่าเธอไม่มีความสัมพันธ์หรือพันธะใด ๆ กับ บริษัทของเธอแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องกลัว ไม่ตกกังวลอะไรทั้งนั้น สงสัยก็ถามตรง ๆ ได้เลย แม้ว่าจะขอข้อมูลจากคนอื่นมาแล้วก็ตามทีเถอะ

" ฉันเคยได้ยินเรื่องของพวกเขามาก่อนค่ะ หัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์เป็นบริษัทภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง พวกเขาคอยดูแลคนดังที่มีชื่อเสียงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ผลงานของพวกเขาในวงการภาพยนตร์และเพลงเรียกได้ว่าไม่เลวเลย " หลิงเซียวอี้เป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง เธอพูดข้อมูลทั้งหมดนี้ได้อย่างง่ายดาย " อาคารเทียนฟูอยู่ห่างจากที่นี่ประมาณสามกิโลเมตร เป็นอาคารสำนักงาน 15 ชั้น หัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์ได้เช่าชั้นที่ 12 ของอาคารไว้ "

" โอเค " หงต้าหลี่ลูบคางของเขา " การที่จะเล่นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์แบบนี้ มันก็น่าสนใจนะ…เราจะซื้อหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์นี้ได้เลยไหม? ราคาเท่าไร? "

เมื่อได้ยินคำพูดของหงต้าหลี่ ผู้จัดการหญิงสาวก็รู้สึกว่าอากาศเย็นได้ไหลผ่านร่างกายของเธอและทำให้ตัวสั่นเทา

ท่านนายน้อยต้าหลี่คนนี้น่ากลัวจริงๆ เขาต้องการซื้อบริษัทบันเทิงทั้งหมดเพียงเพราะเหตุนี้จริง ๆ หรอ?

แต่คราวนี้ หลิงเซียวอี้กลับส่ายศีรษะไป " นี่อาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะซื้อค่ะ ธุรกิจของหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์กำลังเป็นที่นิยม แม้ว่าท่านต้องการที่จะซื้อมัน แต่พวกเขาอาจไม่เต็มใจขาย ยิ่งไปกว่านั้น มันจะไม่ใช่ราคาถูก ๆ อย่างแน่นอน "

" โอ้ " ถ้าหลิงเซียวอี้บอกว่ามันไม่ถูก ก็คงเป็นอย่างนั้น มันอาจไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถซื้อได้เพียงแปดหรือสิบล้านหยวน มันอาจจะต้องใช้เงินหลายร้อยล้านหยวนหรือมากกว่านั้น ซึ่งมันไม่คุ้มอย่างแน่นอนที่จะใช้เงินมากมายเพื่อช่วยเหลือคนแปลกหน้าแบบนี้ ดังนั้นหงต้าหลี่จึงเปลี่ยนเป้าหมายของเขา " อย่างนั้นเราจะซื้ออาคารเทียนฟูนี้ได้ไหม? "

แต่คราวนี้ หลิงเซียวอี้ก็ส่ายหัวอีกครั้ง " แม้ว่าอาคารเทียนฟูแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ แต่ที่ตั้งของมันอยู่ที่ศูนย์กลางของสี่แยกทิศตะวันตก ราคาจะค่อนข้างสูงและก็มีมูลค่าไม่มากนักพอที่จะคุ้มกับการลงทุนค่ะ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์ แต่ราคานั้นอาจจะสูงเกินไป ครอบครัวของท่านนายน้อยอาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ค่ะ "

แม้ว่าหงต้าหลี่จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะทำอะไรแบบสุ่มเสี่ยง หากเขาต้องการซื้ออาคารเทียนฟูแห่งนี้ ก็น่าจะมีราคาสิบหรือหลายร้อยล้านหยวน อีกประเด็นที่ต้องพิจารณา คือ เนื่องจากหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์ได้เช่าพื้นที่ในนั้นไปแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ในอาคารเทียนฟูก็น่าจะมีคนเช่าอยู่เช่นกัน แม้ว่าจะมีเงินที่สามารถทำได้โดยการขายอาคาร แต่เจ้าของอาคารก็คงไม่จำเป็นต้องขาย

" ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว พี่สาวเซียวอี้ พี่มีคำแนะนำที่ดีๆ บ้างไหม? " หงต้าหลี่ถาม

เนื่องจากเธอเป็นหัวหน้าผู้ติดตามของหงต้าหลี่ ในตอนนี้หลิงเซียวอี้ก็อาจถูกมองว่าเป็นที่ปรึกษาครึ่งหนึ่งของเขา หลังจากคิดบางอย่าง ทันใดนั้นหลิงเสี่ยวหยี่ก็ยิ้มให้แล้วเธอก็พูดว่า " ท่านนายน้อยค่ะ ท่านไม่คิดจะซื้อเนินเขาเล็ก ๆ นั่นแล้วหรอ? ตอนที่เรากำลังเดินเล่นกับสุนัข ฉันพบโดยบังเอิญว่า 200 เมตรทางทิศใต้ของเนินเขาเป็นอาคารสำนักงานที่รู้จักกันในชื่ออาคารเฉินหุย มันมีทั้งหมด 16 ชั้นและมีรถยนต์ไม่กี่คันที่ชั้นล่าง ไม่มีโลโก้ของ บริษัท ต่างๆ ในแต่ละชั้น ธุรกิจดูเหมือนว่าจะค่อนข้างแย่ เจ้าของอาคารเองก็อาจต้องการขายมันด้วย"

โอ้? เป็นที่ที่ดีอย่างนั้นหรอ? ภารกิจของเขาเองก็ยังต้องการให้เขาใช้จ่าย 15 ล้านหยวนภายในหนึ่งเดือน การจัดตั้งบริษัทสื่อบันเทิงแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เงินของเขาก็จะถูกผลาญเหมือนน้ำที่กำลังไหลรินเลย แถมเขายังสามารถทำตามความฝันของตัวเองได้อีก การได้มาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ยังไงล่ะ เขาจะได้มาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์แล้ว!

หงต้าหลี่ดีใจมากและรีบพูดว่า " พี่สาวเซียวอี้ พี่ยอดเยี่ยมมาก ฮ่าฮ่า นี่รู้ทุกเรื่องดีมากเลยนะ งั้นฉันก็ตกลงที่จะซื้อ ฉันวางแผนที่จะเปิดบริษัทภาพยนตร์และถ่ายทำภาพยนตร์ในราคาถูกเพื่อถลุงเงินดีกว่า ช่วยติดต่อเจ้าของอาคารด้วย เราจะได้ดูว่าสามารถซื้ออาคารเฉินหุยทั้งหมดได้โดยตรงเลยไหม?"

" รับทราบค่ะ ท่านนายน้อย " หลิงเซียวอี้พูดอย่างเห็นด้วยกับท่านนายน้อยต้าหลี่ จากนั้นเธอก็โทรไปหาที่บ้านของเขา

" เอ่อ ท่านนายน้อยต้าหลี่ เรื่องน้องสาวของฉัน…? " ผู้จัดการหญิงสาวถามด้วยความร้อนใจ

" น้องสาวของเธอเหรอ? " หงต้าหลี่จับที่จมูกของเขาอย่างเมินเฉย " ฉันวางแผนที่จะเปิดบริษัทภาพยนตร์เพื่อสู้กับบริษัทอื่น ๆ และฉันจะงดใช้จ่ายของที่ไม่จำเป็นหรือซื้อของตามที่เราต้องการเพื่อสนองความต้องการของฉันเอง ฉันเลยลืมเรื่องช่วยเหลือน้องสาวเธอไปสนิทเลยแฮะ

“ยังไงก็เถอะ เรียกน้องสาวของเธอมาที่นี่ตอนนี้เลย โอกาสทองน่ะมาถึงแล้ว! บอกให้เธอร้องเพลงสักหนึ่งหรือสองบทเพลงให้ฉันได้ฟังก่อน จากนั้นค่อยว่ากันอีกที”

ติดตามผู้แปลได้ที่ แฟนเพจ:แปลNiyay 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด