ตอนที่แล้วบาทที่ 9
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบาทที่ 11

บาทที่ 10


บาทที่ 10

มวลพลังเรืองแสงสีฟ้าพลันปรากฏขึ้นหนาปิดไข่มุกจนมิดและขยายต่อออกไปอีกจนเต็มบริเวณพื้นที่ว่างนั้น ส่วนกระแสพลังสีฟ้าที่เคลื่อนตัวแทรกอยู่ระหว่างต้นไม้นั้นพลันจางหายไปอย่างรวดเร็ว

สาวน้อยสี่คนเดินออกมาจากมวลพลังเรืองแสงสีฟ้านั้น หยิบแหวนมิติที่วางไว้บนพื้นบริเวณใกล้เคียงออกมาแล้วหยิบชุดออกมาสวม แล้วก็พากันยืนรออยู่บริเวณนั้น

มวลพลังเรืองแสงสีฟ้านั้นค่อยลดขนาดลงทุกขณะจนกลายเป็นไอละอองสีฟ้าก่อนถูกดูดเข้าไปในร่างของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ภายในและลดตัวลงมาจนถึงพื้น

เพราะว่าพวกเขาสร้างชีพจรเซียนสำเร็จ ทำให้ปราณเซียนไร้ลักษณ์ของเขาสูญหายไปสิ้น และเขาก็พบว่าชีพจรสถิตย์วิญญาณบนร่างนั้นก็สูญสลายไปเช่นกัน เมื่อไม่มีวิชาปราณผูกมันเข้าไว้กับชีพจร และด้วยเหตุนั้นวิชาต่างๆของนิกายเซียนปีศาจในร่างของพวกเขาก็สูญสลายสิ้นไปด้วยเช่นกัน ทั้งวิญญาณที่เก็บกักไว้ก็ไม่อาจที่จะรักษาไว้ได้อีก

ปกติแล้วผู้ที่สร้างชีพจรเซียนจุดแรกสำเร็จนั้น หากฝึกปราณอยู่ก่อนแล้วจะยังมีพลังปราณหลงเหลือ จนกว่าจะสร้างชีพจรเซียนจุดที่สองและสาม พลังปราณจึงจะลดทอนลงและสลายไป แต่ว่าชีพจรเซียนที่พวกเขาสร้างนี้เป็นชีพจรบริสุทธิ์ที่เกิดจากการกลั่นพลังเซียนขึ้นมาจัดสร้าง ดังนั้นจึงทำให้พลังปราณไม่อาจคงอยู่ได้ สูญสลายไปทั้งหมด

“เข้ามาในนี้กันได้แล้ว” ชายหนุ่มเรียกบรรดาหญิงสาวหลังจากที่สวมกางเกงว่ายน้ำเรียบร้อยแล้ว

“พี่ชาย” หญิงสาวทั้งสี่พากันส่งเสียงหวานเรียกเขาเมื่อเห็นหน้า ท่าทางของพวกเธอล้วนมีแต่ความยินดี

ชายหนุ่มพยักหน้า กล่าวว่า “เรามาเริ่มสร้างภูษาเซียนของเรากันเถอะ คิดไว้หรือยังว่าจะสร้างให้มีหน้าตาอย่างไร”

“พวกเราคิดไว้นานแล้วตั้งแต่ตอนที่ชิวเยว่สร้างภูษาเซียนแล้ว” จินหลินตอบแทนทุกคน

“ว่าแต่ชิวเยว่ไปนานมากในคราวนี้ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่” ซีชี่เผยความกังวล

“น่าจะไม่เป็นอะไร แต่อาจจะโดนอาจารย์ดุด่าแน่ ดูจากตอนที่เธอมาเพื่อเปลี่ยนวิชาเซียนเป็นแบบพวกเรา เห็นชัดๆว่าโกหก” เหมยเหมยพูดขึ้นมาบ้าง

“ชีวิตของเธอ เธอตัดสินใจเองน่ะถูกแล้ว จะให้อาจารย์คิดแทนได้อย่างไร ในเมื่อเธอเองที่ต้องเป็นคนอยู่กับสิ่งเกิดขึ้นนั้นตลอดชีวิต เมื่อคิดตัดสินใจเองดีแล้วก็จะได้ไม่เสียใจในภายหลัง” หงเซียวกล่าวอย่างจริงจัง “อย่างไรก็ตาม เรามาเริ่มสร้างกันเถอะ”

ทุกคนพยักหน้า ต่างก็เริ่มแยกย้ายไปสร้างภูษาเซียนของตนเองแบบลับๆ ไม่ให้ใครเห็น เพื่อที่จะได้นำมาแสดงให้ทุกคนดูในภายหลัง แต่เพราะว่าภูษาเซียนนั้นใช้วิญญาณถึงร้อยแปดดวง ซึ่งถึงแม้ว่าพลังเซียนจะมีความสามารถดึงดูดวิญญาณในรัศมีที่กว้างมาก แต่อย่างไรการหาวิญญาณถึงห้าร้อยกว่าดวงในทันทีนั้นก็ยังต้องใช้เวลาอยู่บ้าง

“เสร็จ” หงเซียวกล่าวเป็นคนแรกหลังจากเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ยิ้มละไม หญิงสาวทั้งสี่เงยหน้ามาดูชั่วแวบก่อนจะขะมักเขม้นทำของตนเองต่อไป

“เสร็จแล้ว” ซีชี่เป็นคนต่อไปที่พูด ดูเธอร่าเริงขึ้นมาก

“นี่ก็เสร็จแล้ว” ซิ่วจูพูดขึ้นบ้าง

“หึ ทางนี้ก็เสร็จแล้ว” จินหลินรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่า

สุดท้าย เหมยเหมยจึงค่อยพูดอย่างเหนียมอายว่า “ข้าเป็นคนสุดท้ายเหรอเนี่ย”

“เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนเสร็จแล้ว พวกเรามาเผยกันเถอะว่าภูษาเซียนของพวกเราเป็นอะไรกัน” หงเซียวกล่าวยิ้มๆ

“เปิดพร้อมกันเลยดีไหม” จินหลินกล่าวอย่างตื่นเต้น

“ข้าว่าค่อยเปิดทีละคนดีกว่าไหม จะได้ชื่นชมทีละตัว” เหมยเหมยเสนอ

“ข้าเห็นด้วย” ซิ่วจูกล่าว

“ข้าก็เห็นด้วย” ซีชี่กล่าว

“ถ้าเช่นนั้นให้ใครเปิดก่อน” จินหลินไม่ขัด

ทุกคนต่างหันไปมองหงเซียวในทันที “พี่ชาย”

“ฮะฮะฮะ เอาล่ะ ดูนะ” หงเซียวเอามือที่ซ่อนไว้ข้างหลังออกมา สิ่งที่อยู่ในมือเขาเป็นพัดสีขาวที่คลี่กางออกด้ามเปลือกหอยชิ้นเดียวไม่มีรอยต่อ หากมองดูให้ดีจะเห็นมีหมอกเลือนรางล้อมรอบพัดอยู่

“อะไรกันพี่ชาย เอาพัดปิดไว้ทำไม เปิดพัดเปิดพัด” จินหลินดูแล้วส่ายหน้า คิดว่าหงเซียวยังแอบซ่อนภูษาเซียนไว้หลังพัด

“เห็นด้วย” สามสาวพากันประสานเสียง

“เอ๋ พัดนี้ก็คือภูษาเซียนของพี่ชายไง” หงเซียวประท้วง ปล่อยมือให้พัดบินคว้างออกไปจากมือของเขา

“เอ๋ พัดเนี่ยนะ ภูษาเซียน ไม่คิดว่าสร้างเป็นของใช้ก็ได้ด้วย” จินหลินกล่าว ก่อนจะพูดต่อว่า “ต่อไปใครดี”

“เป่ายิ้งฉุบไหม” เหมยเหมยเสนอ ทุกคนพยักหน้า

ผลที่ได้ก็คือจินหลินเป็นอันดับแรก ตามด้วยซิ่วจู ซีชี่ และเหมยเหมย

“ดูนี่” จินหลินกล่าวอย่างภาคภูมิใจ พร้อมกับมังกรตัวยาวใหญ่สีทองก็เลื้อยปราดออกมาจากพุ่มไม้ด้านหลังของเธอ

“ว้าว จินปิงทำไมมาอยู่ที่นี่ เอ๊ะ นี่เป็นภูษาเซียนของเจ้าละสิ” ซิ่วจูกล่าว

สิ่งที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศนั้นคือมังกรสีทองตัวใหญ่ยาวกว่าสองวา

“สมกับเป็นจินหลิน” เหมยเหมยกล่าว

“ใช่หลินหลินชอบมังกรจริงๆ” ซิ่วจูเห็นด้วย

“อย่างนี้ต้องเรียกหลินหลินว่า ราชินีมังกรจินหลินหรือเปล่า” ซีชี่พูดบ้าง

“คงต้องเป็นอย่างนั้นใช่ไหม ท่านราชินีมังกร” หงเซียวหัวเราะ

“อย่างนั้นพี่ท่านต้องมาเป็นราชาให้ข้าล่ะ” จินหลินยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “ต่อไปตาเจ้าแล้ว เซียวจู”

ซิ่วจูพยักหน้า นกกระเรียนตัวหนึ่งพลันเดินออกมาจากพุ่มไม้ด้านหลังเธอ ก่อนจะมายืนข้างๆซิ่วจูและส่งเสียงร้องก้องกังวาลอย่างไพเราะ “นี่ของข้า”

“สง่าจัง” จินหลินอุทาน

“มีชีวิตชีวามากเลย” เหมยเหมยกล่าวชมเชย

“เข้ากับจูจูมาก” ซีชี่กล่าวเสริม

“ต้องตั้งชื่อว่า ราชินีปักษีซิ่วจู จะได้เข้ากับจินหลิน” หงเซียวกล่าวบ้าง ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

“ราชินีของพี่ชายด้วยใช่ไหม” ซิ่วจูหน้าแดงถาม

“แน่นอน” หงเซียวรับรองด้วยรอยยิ้ม

“ตาข้า...ใช่ไหม” ซีชี่กล่าวขึ้นมาเบาๆหลังจากนั้น

“ตาเซียวชี่แล้ว” จินหลินพยักหน้า

ซีชี่เปิดมือ แมลงปีกแข็งตัวสีเงินตัวขนาดเท่านิ้วโป้งก็บินออกมาจากฝ่ามือเธอ ขณะที่ทุกคนคิดว่ามันธรรมดามาก ทันใดนั้นใต้ท้องของมันก็เกิดก้อนแสงสว่างขยายตัวครอบคลุมไปทั่วทั้งตัวมัน กลายเป็นเหมือนดวงตะวันขนาดเท่าลูกมะพร้าว สว่างนวลใยราวกับเป็นจันทรา และชั่วขณะหลังจากนั้นมันก็ลดขนาดและดับลงเผยให้เห็นตัวแมลงตัวเท่านิ้วโป้งนั้น สลับติดดับต่อเนื่องกันไป

“หิ่งห้อย” จินหลินอุทาน

“สวยจังเลย” เหมยเหมยกล่าวอย่างเคลิ้มฝัน

“โดดเดี่ยว เด็ดเดี่ยว ท่ามกลางราตรีเงียบงัน ราชินีแห่งราตรีกาล” ซิ่วจูชมเชย

“ให้ชื่อว่า ราชินีรัตติกาลซีชี่ พอใจไหมน้องหญิง” หงเซียวกล่าวกับซีชี่ เธอพยักหน้าเอียงอาย

“ข้าอันดับสุดท้าย” เหมยเหมยกล่าว เธอยกมือขึ้น และปีกอันสวยสดงดงามกว้างใหญ่ก็กางออกมาจากด้านหลังเธอ จนดูเธอเหมือนกับแฟรี่ในเทพนิยาย

ปีกเป็นแผ่นกว้างใหญ่ ลวดลายสดใสลานตา มีลวดลายอยู่สองจุดที่ดูเหมือนกับดวงตาของหญิงสาวบนปีกคู่นั้น มีเส้นสีทองพาดผ่านดูสูงสง่า หลังจากนั้นชั่วขณะจึงค่อยบินออกมาจากหลังของเธอเผยให้เห็นตัวตนของแมลงอีกชนิดหนึ่ง

“ผีเสื้อ ว้าว สวยที่สุดเลย” ซิ่วจูตื่นเต้น

“เข้ากับพี่เหมยเหมยที่สุดเลย” จินหลินกล่าวยกย่อง

“คู่กันกับของข้านะพี่สาว พวกเราต่างก็เลือกแมลงเช่นเดียวกัน” ซีชี่หันไปกุมมือเหมยเหมย

“คู่กันกับ ราชินีรัตติกาลก็ต้องเป็น ราชินีทิวาเหมยเหมย” หงเซียวกล่าว พร้อมกับส่งสายตาและรอยยิ้มไปให้ เหมยเหมยหน้าแดงหลบตา เขากล่าวต่อว่า “อ้อ ยังขาดชิวเยว่นี่นา ให้เป็น ราชินีสายลมชิวเยว่ดีไหม”

“พี่ชายตั้งชื่อเก่งที่สุด” ซิ่วจูแสดงความประทับใจ

“ในเมื่อพี่ชายตั้งพวกเราเป็นราชินี ท่านก็คงต้องเป็นราชันย์ พวกเราจะให้ชื่อท่านว่าเป็นราชันย์อะไรดีนะ ช่วยกันคิดหน่อยซิ” จินหลินพูดอย่างสนุกสนาน แล้วกล่าวต่อทีเล่นทีจริงว่า “อย่างท่านนะ สำหรับข้าคิดว่าต้องเป็น หงเซียว จอมราชันย์นักรัก”

“เอ๋ เจ้าไปเรียนรู้ถ้อยคำแบบนี้มาจากไหนกัน” หงเซียวสะดุ้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด