บทที่ 3 : ลูกสาวคนโตของบ้านเหลียนเปลี่ยนไป (1/2)
บทที่ 3 : ลูกสาวคนโตของบ้านเหลียนเปลี่ยนไป (1/2)
เด็กผู้ชายที่ตัวโตสุดขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าตาก็เริ่มบึ้งตึง ก่อนเขาจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแกมโมโหว่า “ข้าจะออกไปจัดการผู้หญิงปากเสียงพวกนั้นเอง!!”
“เดี๋ยว!ช้าก่อน” ซูเม่ยรีบคว้าตัวเด็กน้อยไว้ ก่อนเธอและเขาจะนั่งฟังต่อ
ยิ่งนั่งฟังไปมากเท่าไหร่คิ้วของเธอก็ยิ่งขมวดเป็นปมแน่นขึ้นเท่านั้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็กสาวเจ้าของร่างเดิมถึงได้โมโหและคับแค้นใจจนตาย ก็ดูคำพูดแต่ละคำของนางหลิวสิ ช่างต่ำช้าและหยาบคาย เด็กสาวอายุแค่นั้นจะรับไหวได้อย่างไรกัน
อันที่จริงอย่าว่าแต่เด็กสาวเจ้าเลยที่ทนฟังไม่ได้ เพราะขนาดเธอเองที่อายุอานามขนาดนี้ แถมมีวุฒิภาวะมากกว่าเธอตั้งเท่าไหร่ก็ยังทนฟังแทบไม่ได้เลย แล้วทำไมเธอต้องทนต่อล่ะ!?
ทันใดนั้นเองซูเม่ยผู้ซึ่งอารมณ์ครุกรุ่นได้ที่ก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะยกอ่างน้ำที่บนโต๊ะแล้วก็เดินมุ่งหน้าออกไปหานางหลิว “โอ๊ะ โอ มือลั่น!”
“กรี๊ดดด.....”นางหลิวที่กำลังยืนเท้าสะเอวตะโกนด่าคนบ้านเหลียนอยู่ถึงกลับกรีดร้องดังลั่น เมื่อจู่ๆมีน้ำจากไหนก็ไม่รู้สาดเข้าที่หน้าของเธอเต็มๆ จนน้ำพวกนั้นเข้าตา จมูก ปาก ของเธอไปหมด ก่อนนางหลิวจะเริ่มหนาวสั่นจนได้ยินเสียงกรามกระทบกัน อีกทั้งเธอยังเริ่มหายใจติดขัดๆ
เหตุก็มาจากตอนนี้เป็นช่วงปลายเดือนกันยายนที่อากาศค่อนข้างจะหนาวเย็นจึงทำให้ง่ายต่อการเป็นหวัด แล้วยิ่งมาโดนสาดด้วยน้ำเย็นๆในวันที่อากาศหนาวแบบนี้แล้วละก็ไม่น่าจะรอด…
“ใคร มันเป็นใครกัน ทำไมถึงกล้าทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้...... ฮัดชิ้ว!ฮัดชิ้ว!”นางหลิวทั้งตกใจแล้วก็โกรธในเวลาเดียวกัน และในขณะที่พูดนางก็พยายามเช็ดน้ำที่เกาะอยู่บนหน้าออกไปด้วย
“ย่าของเจ้าไง!!” ซูเม่ยวางอ่างน้ำที่ตอนนี้ไร้ซึ่งน้ำลงกับพื้น ก่อนจะชี้หน้านางหลิวและตะโกนด่าเสียงดังลั่น “ถ้าครั้งหน้าเจ้ายังกล้ามายืนตะโกนด่าข้าที่หน้าบ้านอีก ข้าจะไม่สาดแค่น้ำเย็นแบบนี้นะ! แต่ข้าจะสาดเจ้าด้วยน้ำปุ๋ยคอกเหม็นๆแทน!ถึงแม้ว่ามันจะไม่เหม็นเท่าปากเจ้าก็ตามเถอะ”
“เจ้า- เจ้า –เจ้า-” นางหลิวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เด็กสาวที่กำลังยืนด่าเธอฉอดๆในตอนนี้คือลูกสาวคนโตของบ้านเหลียนที่แสนจะขี้ขลาดคนนั้นจริงหรือ? นางไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม?
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นก็ต่างก็พากันมามุงดูละครฉากนี้ด้วยเช่นกัน บางคนก็พากันหัวเราะเยาะและสมน้ำหน้านางหลิวที่ตกอยู่ในสภาพน่าสมเพศ ในขณะที่บางคนก็ชี้นิ้วมาที่ซูเม่ยและทำท่ากระซิบกระซาบกันไปด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็ประหลาดใจเหมือนกับนางหลิวเมื่อตอนที่เห็นท่าทางแข็งกร้าวของเธอ ใครกันจะไม่แปลกใจ ก็จู่ๆเด็กสาวที่อ่อนแอขี้ขลาดในวันนั้น มาวันนี้กลับกลายเป็นแม่เสือสาวที่ดุร้ายไปซะแล้ว
‘ลูกสาวคนโตบ้านเหลียนวันนี้อารมณ์ช่างเกรี้ยวกราดเสียจริง!’
แต่ก็อย่างว่าล่ะ ถ้าเป็นใครโดนแบบนี้ก็คงทนไม่ได้ ถ้าจะตำหนิ ก็ต้องตำหนิที่คำพูดของนางหลิวนั้นชั่วร้ายเกินไป
“เจ้ากล้าสาดน้ำใส่ข้างั้นหรือ!!” นางหลิวกรีดร้อง ก่อนจะพุ่งเข้าหาซูเม่ยอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะเอาคืน
ซูเม่ยเองก็เตรียมตั้งรับอยู่แล้ว เธอยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนเบี่ยงตัวหลบอย่างคล่องแคล่ว
ในขณะเดียวกันเด็กทั้งสามที่กลัวว่าพี่สาวจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ก็พากันวิ่งไปเอาท่อนฟืนและไม้กวาดมา ก่อนพี่ชายคนที่โตสุดจะตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง “อย่ามารังแกพี่สาวข้านะ!!”จากนั้นพวกเขาทั้งสามก็วิ่งกรูเข้าไปหานางหลิวทันที
นางหลิวตกใจจนเผลอเดินถอยหลังโดยที่ไม่รู้ตัว และเพราะไม่ทันได้ระวังนางจึงลื่นล้มจนก้นจ้ำเบ้า “โอ้ย” ร่างของนางหลิวกระแทกลงบนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำอย่างแรง ดังนั้นเนื้อตัวของนางจึงเปรอะเปื้อนด้วยโคลนเต็มไปหมด
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”ด้วยภาพลักษณ์ที่น่าอับอายนั่น ทำให้พวกชาวบ้านหัวเราะนางหลิวอีกครั้ง
ซูเม่ยแล้วก็พี่น้องตระกูลเหลียนเองก็อดที่จะขำไปด้วยไม่ได้ โดยเฉพาะฟางชิง เด็กสาวตัวน้อยที่หัวเราะลั่นอย่างชอบอกชอบใจ ทำให้รอบๆบริเวณบ้านในตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงใสราวกับระฆังแก้วของเด็กน้อย
นางหลิวรู้สึกอับอายและโกรธเป็นอย่างมาก ใบหน้าที่อวบอูมของนางเริ่มแดงก่ำเพราะโมโหถึงขีดสุด และในขณะที่นางกำลังพยายามจะลุกขึ้นยืน ซูเม่ยที่ยืนอยู่เบื้องหน้านางก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาปนรังเกียจว่า “หยุด!! อย่าเอาร่างสกปรกๆของเจ้าเข้ามาใกล้บ้านข้าเดี๋ยวเสนียดมันจะติดบ้านข้า ส่วนเรื่องถอนหมั้น ถ้าอยากให้ถอนนัก พวกเจ้าก็จ่ายมาสิ แล้วข้าจะคืนหนังสือหมั้นหมายให้ ที่นี่ก็กลับไปได้แล้ว!”
นางหลิวโกรธจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด นางอยากจะด่าเหลียนฟางโจวอย่างหยาบๆอีกซักสองสามประโยค แต่อนิจจาจู่ๆปากมันก็หนักขึ้นมาซะอย่างนั้น แม้กระทั่งคำด่าก็ยังนึกไม่ออก
หลังจากที่พยายามอย่างหนัก ในที่สุดนางหลิวก็ลุกขึ้นยืนได้ ก่อนนางจะตะโกนกลับเสียงดัง “ฝากไว้ก่อนเถอะ!” พอพูดจบนางก็รีบวิ่งกระเผลกๆหนีไปทันที
เหลียนฟางโจวโค้งคำนับให้ทุกคนที่มาชมเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างสุภาพ “ท่านลุง ท่านป้าทั้งหลายก็คงจะเห็นแล้วว่านางหลิวนั้นหยาบคายแล้วก็ร้ายกาจแค่ไหน พวกเราพี่น้องไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลุกขึ้นสู้ หากว่าบ้านฮัวต้องการที่จะเอาเรื่อง ขอท่านลุง ท่านป้าทั้งหลายโปรดช่วยเป็นพยานให้กับพวกเราพี่น้องด้วย”
ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย และทุกคนต่างก็คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่พวกเขาพี่น้องจะดูแลกันเองได้โดยปราศจากพ่อแม่คอยเลี้ยงดู