บทที่ 140.1 คำขอบคุณอย่างสุดซึ้ง
บทที่ 140.1 คำขอบคุณอย่างสุดซึ้ง
ผู้แปล loop
ดงซูบินใช้พลังวิเศษของเขาทั้งหมดย้อนไป 7 นาที ทันทีโดยไม่ลังเล เขาได้ใช้การย้อนเวลาทั้งหมดที่เก็บสะสมมาตลอดอาทิตย์ไปจนหมด
“ทำไมรถบัสยังมาไม่ถึงกัน? รถติดรึเปล่า”
"ใครจะรู้? คิดว่ารถเมล์สองคันจะมาพร้อมกันไหม ถ้ายังไงก็เลือกนั่งที่หลังๆรถล่ะกัน”
การจราจรบนท้องถนนค่อนข้างติด และหลายคนที่ป้ายรถเมล์บ่นเรื่องการรอรถเมล์ เมื่อ 7 นาทีที่แล้ว ดงซูบินมีความคิดหลายอย่างอยู่ในหัวของเขา เขาพึงเห็นเสี่ยวหลานผ่านสายตาของเขาไปเมื่อไม่นานมานี้ตอนที่เขาทานอาหารกลางวัน แม่น้ำของเฉียนเบอยู่ไม่ไกลออกไปมากเท่าไรและเด็กน้อยคนยังไม่ตกน้ำแน่ๆ ยังมีเวลา!
ดงซูบินเปิดโทรศัพท์ออกมาทันทีและโทรหาเสี่ยวหลานทันที
ตีด……ตีด……ตีด……ตีด……
‘ช่วยรับหน่อยเถอะ……เร็วเขา……อย่าพึงกระโดดลงน้ำเลยนะ……
เสี่ยวหลานไม่รับสายของเขา โทรศัพท์ดังขึ้นมาค่อนข้างนาน แต่ไม่มีใครรับเลย ‘อึ! อึ! อึ! พี่เสี่ยวต้องโยนโทรศัพท์ของเธอไว้ริมตลิ่งและกระโดดน้ำเพื่อช่วยเด็กน้อยคนนั้นแน่ ไม่มี ...... บางทีเธออาจเห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นตกน้ำอยู่จากระยะไกลและรีบไปช่วยเธอ นั่นเป็นสาเหตุที่เธอไม่รับโทรศัพท์
‘ฉันควรทำอย่างไรดี? ฉันควรทำอย่างไรดี?’
ดงซูบินเกือบจะโยนโทรศัพท์ของเขาลงบนพื้นจากความกังวลของเขาที่มีต่อเสี่ยวหลาน
‘ไม่ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้พี่เสี่ยวตาย ฉันต้องช่วยเธอให้ได้!’
แม้ว่าดงซูบินไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้ากับมัน แต่ลึก ๆ แล้วดงซูบินก็มีใจให้เสี่ยวหลานแต่มันไม่ได้เกี่ยวกับข้องกับฉูหยวนเลย มนุษย์ทุกคนล้วนมีความต้องการทางเพศ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเมื่อดงซูบิน ได้ยินว่าเสี่ยวหลานกำลังจะตายนี้ในไม่ช้าเขาก็ละทิ้งทุกอย่าง เขาไม่สามารถใจเย็นได้อีกต่อไป เขาเริ่มวิ่งไปตามทิศทางของแม่น้ำและเรียกหาเสี่ยวหลานตามทาง
ติ้ง……. ติง……ติด……ไม่มีใครรับโทรศัพท์
‘เวรเอ๋ย! ดงซูบินสาปแช่งและวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ไปทางทิศตะวันออก’
‘รอฉันก่อน. ฉันจะไปถึงที่นั้นแล้ว รอก่อน!’
ดงซูบินไม้รู้ว่าเขาจะไปถึงทันเวลาไหม สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือวิ่งให้เร็วที่สุด 50 เมตร …… 100 เมตร …… 200 เมตร …… 300 เมตร ……ทันใดนั้นคำว่า 'สาหร่าย' ก็ปรากฏในใจของเขา ชายชราคนนั้นกล่าวว่าททุกคนที่เห็นเหตุการณ์ไม่ได้ลงไปในน้ำเพื่อช่วยพี่สาวเสี่ยวเป็นเพราะสาหร่ายทะเล แม้ว่าดงซูบินจะไปถึงที่นั่นทันเวลาเขาก็ไม่สามารถช่วยเธอได้ เพราะเขาเองอาจจมน้ำตาย เขามองไปรอบ ๆ ทันทีและเห็นร้านขายของชำเล็ก ๆ ใกล้ ๆ เขาพุ่งเข้าไปในร้าน
“เจ้าของร้าน!” ดงซูบิน โยนธนบัตรมูลค่า 100 หยวนไว้ที่เคาน์เตอร์ “เอามีดมาให้ฉันหน่อย!”
เจ้าของร้านคนนั้นตกใจและทำตัวไท่ถูก
ดงซูบินเองก็ไม่สามารถเสียเวลาได้อีกต่อไป เขาหยิบบัตรข้าราชการของเขาออกมาแล้วกระแทกมันไปที่เคาน์เตอร์ "ฉันเป็นตำรวจ! ขอมีดให้ฉัน!”
เจ้านายคนนั้นเห็นบัตรประจำตัวของดงซูบินและหยิบมีดผลไม้ออกมาจากใต้เคาน์เตอร์อย่างรวดเร็ว มันยังมีชิ้นส่วนของเปลือกแอปเปิ้ลอยู่ “เราไม่ได้ขายมีดที่นี่ อันนี้เป็นมีดที่บ้านของเราเอง……”
ดงซูบินคว้าบัตรของเขาและมีดขนาดเล็กแล้ววิ่งออกไป เขายังคงวิ่งไปที่แม่น้ำ
หลังจากเลี้ยวเข้ามุมดงซูบินก็ยังวิ่งต่อไป มีบ้านเรือนอยู่ระหว่างทาง ถนนสายหลักด้านนอกคึกคัก แต่ที่นี่เป็นหมู่บ้านและค่อนข้างเงียบสงบ แม่น้ำสายเล็กทางทิศตะวันออกนั้นค่อนข้างสกปรก มีขยะทุกประเภทและเต็มไปด้วยสาหร่ายทะเล พี่สาวเสี่ยวน่าจะต้องผ่านพื้นที่นั้นเพื่อไปยังถนนในฝั่งตรงข้ามดงซูบินประเมินสถานที่ที่เสี่ยวหลานจมน้ำตายและวางแผนเส้นทางในใจของเขาอย่างรวดเร็ว
‘ฉันต้องไปให้ทันเวลา!’
500 เมตร …… 600 เมตร …… 700 เมตร ……
เกือบ 3 นาทีผ่านไปแล้ว ในอีก 3 นาทีชายชราคนนั้นจะโทรหาเขาเพื่อแจ้งให้เขาทราบเกี่ยวกับการตายของเสี่ยวหลาน
เร็วเข้า! ดงซูบินทำไมนายช้าจัง วิ่งเร็วกว่านี้!
3 นาทีและ 15 วินาที……
3 นาทีและ 30 วินาที……
ทันใดนั้นดงซูบินสามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดของหมู่บ้าน ดงซูบินไปที่ถนน เขาเคยมาที่นี่หลายครั้งในช่วงทีเรียนมหาวิทยาลัย เขาเคยเดินบนเส้นทางนี้มาก่อนและรู้หลังบ้านเหล่านี้เขาจะไปถึงแม่น้ำ เขาใช้กำลังทั้งหมดของเขาเพื่อวิ่งด้วยความเร็วขึ้น
5 ก้าว…….
10 ก้าว…….
15 ก้าว……
20 ก้าว……
ในที่สุดดงดงซูบินก็ออกมาจากตรอก
เขามองไปที่แม่น้ำ ที่ไหน? เสี่ยวหลานอยู่ที่ไหน
แม่น้ำกำลังไหลไป มันอยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตรเด็กสาวที่กำลังตกน้ำกำลังไอ มีชายวัยกลางคน 3 ถึง 5 คนและชายชราตะโกนไปทางแม่น้ำอย่างใจจดใจจ่อ ผู้ชายคนหนึ่งมีขาข้างเดียวอยู่ในน้ำและเดินไปรอบ ๆ ด้วยไม้ไผ่
‘ตรงนั้นสินะ!’
ดงซูบินรู้สึกได้ว่าเลือดของเขาพุ่งไปที่ศีรษะแล้วตะโกนว่า
ผู้คนริมฝั่งแม่น้ำหยุดเคลื่อนไหวและมองดูไปที่ดงซูบินซึ่งกำลังวิ่งเข้าหาพวกเขา “ชายหนุ่มคุณกำลังทำอะไร มีสาหร่ายจำนวนมากในแม่น้ำ คุณจะตายได้ถ้าคุณลงน้ำตอนนี้”
ชายคนนั้นใช้เสาไม้ไผ่เพื่อแหย่ไปในน้ำในขณะที่ตะโกน:“รีบคว้าเสาไว้เร็ว!”
ดงซูบินมาถึงคนเหล่านั้นแล้ว “เอาเสานั้นออกไปให้พ้นทาง!” ก่อนที่พวกเขาจะทำตาม ดงซูบินก็กระโดดลงไปในน้ำพร้อมกับสวมเสื้อและรองเท้า ทุกคนริมฝั่งก็ตกใจ ชายวัยกลางคนนั้นรีบขยับไปพร้อมกับเสา เขาตะโกนไปที่ ดงซูบินว่ามันอันตรายในน้ำ แต่ ดงซูบินไม่ได้สนใจคำเตือนของชายคนนั้นอีกต่อไป
หนาว. น้ำมันเย็นมาก!
น้ำมีกลิ่นเหม็นด้วย แต่ไม่ขุ่นเท่าไร สาหร่ายได้ปกคลุมก้นแม่น้ำไว้
ขาของ ดงซูบินทั้งคู่ลงไปติดทันทีที่เขากระโดดเข้ามา แต่โชคดีที่เขาตอบสนองอย่างรวดเร็วและดึงขาขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ขาของเขาเข้าไปพัวพันกับสาหร่าย เขาลืมตาขึ้นและมองข้ามความเจ็บปวดที่กัดเขามาในดวงตาเขาเพื่อค้นหาเสี่ยวหลาน เขาหันไปทางซ้ายขวาล่าง…….
นั่นเธออยู่นั้น !!!!
ดงซูบินเห็นเสี่ยวหลานอยู่ในอีก 2 เมตรจากก้นเขาในแนวทแยงมุม ใบหน้าของเธอซีดและริมฝีปากของเธอเปลี่ยนเป็นสีม่วง ผมยาวของเธอยุ่งและตาเธอปิด เธอไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไปและดูเหมือนจะหมดสติไปแล้ว หัวใจของ ดงซูบินเต้นแรงมาก ฉันมาช้าไปหรอ? มันสายเกินไปแล้วเหรอ? แต่ดงซูบิน ไม่ใช้เวลาอย่างเสียเปล่า เขาว่ายน้ำเข้าหาเธอพร้อมกับอธิษฐานในใจ ‘พี่เสี่ยวคุณต้องไม่ตาย ทนอีกเดียว ผมจะพาคุณกลับไปที่ฝั่ง…….’
ดงซูบินว่ายไปตลอดทางจนถึงที่นั้น เขาใช้เรียวแรงของเขาทั้งหมด สิ่งที่สนับสนุนเขาคือความมุ่งมั่นของเขาที่จะเสี่ยวหลาน
1 เมตร……
2 เมตร…….
ดงซูบิน ว่ายน้ำแล้วคว้า เสี่ยวหลานไว้ที่เอวด้วยมือซ้ายของเขา เขาเริ่มเตะและใช้มือขวาพยายามว่ายน้ำไปที่ผิวน้ำ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถดึงเสี่ยวหลาน ขึ้นมาได้ เขามองลงไปและเห็นสาหร่ายสีดำมัดอยู่ที่ขาขวาของเธอ ‘เวรเอ๋ย!’ ดงซูบินรีบดำลงไปและหยิบมีดผลไม้ออกมาเพื่อตัดสาหร่ายที่ขาของเธอ
สาหร่ายถูกตัด
แต่เมื่อ ดงซูบินกำลังจะว่ายน้ำเข้าหาฝั่งเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างดึงขาของเขา หนึ่งในขาของเขาติดทะเล ยิ่งเขาดิ้นรนมากเท่าไรเขาก็ยิ่งติดสาหร่ายได้มากเท่านั้น เขารู้สึกว่าเขาใกล้จะตายแล้ว เขาไม่มีกำลังมากขึ้นและไม่สามารถกลั้นหายใจได้อีกต่อไป
ฉันจะตายที่นี่ไหม
ดงซบินใช้พลังพิเศษของเขาไปจนหมดและเขาไม่มีทางเลือกอื่น เขากัดฟันของเขาออกมาแล้วเรียกพลังสุดท้ายของเขาออกมาเพื่อดำไปตัดสาหร่ายที่ขาของเขา
อีกแปบเดียว……
ดงซูบินคอยบอกตัวเองต่อไปอีกพักหนึ่งในขณะที่เขาว่ายน้ำลงไปใต้น้ำด้วยร่างกายพร้อมร่างกายที่ไร้ชีวิตของเสี่ยวหลาน ในอ้อมแขนของเขา
1.5 เมตรสู่พื้นผิว……
1 เมตรสู่พื้นผิว……
0.5m เพิ่มเติม……
ฮ่า !!!! ในที่สุดดงซูบินก็ขึ้นไปที่ผิวน้ำแล้วก็อ้าปากค้างเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์
รอดแล้ว! ฉันยังมีชีวิตอยู่.
ดงซูบินหันมามองที่เสี่ยวหลาน เขาว่ายน้ำอย่างรวดเร็วไปที่ฝั่ง
ผู้คนริมฝั่งแม่น้ำก็ตกตะลึงด้วยความกล้าหาญของดงซูบินไม่มีใครคาดว่าดงซูบินจะพกมีดผลไม้ติดตัวไปด้วย
“ผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้าง”
“ช่วยเธอ! ช่วยเธอเร็วเขา! เธอยังมีชีวิตอยู่หรือป่าว”