บทที่ 137.1 10 นาทีระทึกขวัญ
บทที่ 137.1 10 นาทีระทึกขวัญ
ผู้แปล loop
ในเวลากลางคืน.
ณ อพาร์ตเมนต์ของฉูหยวน
ฉูหยวนกำลังแปะที่แขวนไว้กับผนัง เธอต้องแต่งห้องนั่งเล่นของเธอด้วยสีแดงและทอง โดยบนโต๊ะกาแฟมีขนมเนยถั่วอยู่หนึ่งชุด นอกจากนี้ยังมีช็อคโกแลตหนึ่งแก้วและลูกอมอีกหนึ่งฉามเนื่องจากปีใหม่ของจีนเข้ามาถึงเร็วกว่าเดิมเล็กน้อย ในอีกไม่กี่วันมันจะเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นี่คือเวลาที่ทุกคนในประเทศจีนเริ่มตกแต่งบ้านของพวกเขา
ประตูเปิดออกและมีคนเข้าไปในห้องของเธอ
ฉูหยวนรู้ดีว่าคนๆนั้นคือให้เธอจึงไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา “นายไปทานอาหารเย็นกับหัวหน้ามาไม่ใช่หรอ แล้วนายยังหิวอยู่รึเปล่า?”
"หิวสิ. ฉันอยากจะกินเธอใจจะขาด"
“กินหัวนายสิ! หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว! นายอยากจะมีอะไรกับฉันอีกแล้วนะสิ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า……” ดงซูบินไม่สนใจว่าฉูหยวนกำลังทำอะไรและเดินไปส่งเธอขึ้นไปที่โซฟา เขายังหมุนไปรอบ ๆ พร้อมกับเธอในอ้อมแขนของเขา ดงซูบินไม่สามารถแสดงความสุขของเขาอย่างเปิดเผยเกินไปในอพยาทเม้นท์ของเขาเพราะเขากลัวคนอื่นอาจนินทาเกี่ยวกับเรื่องของเขาได้ ตอนนี้เขากลับบ้านแล้วและสามารถแสดงความสุขและความตื่นเต้นของเขาอย่างเปิดเผยได้ “ฉูหยวนฉันได้รับคำชื่นชมเมื่อตอนที่ฉันไปทานข้าวกับพวกหัวหน้าด้วยแหละ ฉันได้รับคำชื่นชมเยอะเลย ฉันคิดว่าทางฝ่ายการเมืองคงจะต้องติดต่อฉันมาแน่ๆในอีกไม่กี่วัน”
ฉูหยวนกำลังจ้องไปที่ซูบินด้วยความรอบคอของเขาขณะที่ฟังเรื่องเล่าของดงซูบิน “ทำไมพวกเขาต้องมามองหานายด้วย”
ดงซูบินหัวเราะ “มันเกี่ยวกับการเรื่องตำแหน่งของฉันนะ ฉันจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าแผนก!”
ฉูหยวนรู้สึกประหลาดใจ เธอบีบดงซูบินเบา ๆ :“อย่าพยายามหลอกฉัน คุณจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งจริงๆหรือ”
ดงซูบินหัวเราะ “ถ้าเป็นเช้าที่ผ่านมาฉันมีโอกาส 50% ที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งนี้ แต่ตอนนี้ฉันแน่ใจ! ฮ่าฮ่าฮ่าเธออาจไม่รู้ แม้ว่าจะมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่ง เช่นจำนวนขั้นต่ำของปีการทดลองหรือผลการทำงานไม่ต่ำกว่าสองปี แต่เรื่องพวกนี้ขึ้นอยู่กับหัวหน้า โอ้ฉันไม่ได้บอกเธอเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันทำตั้งแต่ฉันเข้ามาทำงานสินะ ฉันไม่สามารถนับจำนวนครั้งที่ฉันได้รับคำชื่นได้เลย เธอไม่แปลกใจหรอทำไหมฉันถึงได้เลื่อนตำแหน่งเร็วอย่างนี้”
"จริงๆหรอ?"
"แน่นอน. ทำไมฉันต้องโกหกเธอด้วย?”
“แล้วตอนนี้นายจะรออะไรอยู่อีกล่ะ” ฉูหยวนลุกขึ้นจากแขนของดงซูบินและจูบเขาที่หน้าผากของเขา “นายยอดเยี่ยมมาก อย่างงี้ต้องมีการฉลองกันแล้ว ฉันจะไปซื้อเหล้าสักหน่อย”
ดงซูบิน ตอบกลับ “เธอต้องการให้ฉันทำลายระเบียบอย่างงั้นหรอ แผนกของฉันห้ามไม่ให้เราดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปแล้วฉันก็เมาง่ายด้วย”
“อย่างงั้น……ไปที่ร้านอาหารกันเถอะ”
"ฮะ? ฉันเพิ่งทานอาหารเย็นไป ฉันก็ส่งเอสเอ็มเอสให้เธอแล้วนิ”
ฉูหยวนเริ่มบ่น “การขึ้นเป็นหัวหน้ามันยากมาเลยนะ บ้างพึงได้เป็นรองหัวหน้าส่วนตอนอายุ 40 ปี และกว่าจะได้เป็นหัวหน้าส่วนก็อายุ 50 ปี ตอนนี้นายอายุเท่าไรแล้ว นายทำงานมากี่ปีเอง เราไม่ควรฉลองเหรอ? เรายังไม่มีโอกาสได้ฉลองตอนนายได้เป็นรองหัวหน้าสำนักงานก่อนหน้านี้เลย”
ดงซูบินรู้สึกว่าการเลื่อนขั้นครั้งนี้เป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญในอาชีพของเขา เขาเพิ่งได้รับผลประโยชน์ของหัวหน้าส่วน แต่ไม่ได้รับตำแหน่ง ด้วยการเลื่อนนี้เขาจะได้รับการพิจารณาให้เป็นข้าราชการที่แท้จริง มันไม่แปลกที่จะต้องมีการฉลอง “เอ่อ……ฉันอิ่มอยู่ ทำไมเราไม่ทานข้าวเย็นที่ร้านหวังฟูหลังเลิกงานพรุ่งนี้ล่ะมันน่าตื้นเต้นมากถ้าเรารอลุ้นผลวันพรุ่งนี้ วันนี้เราก็ไปหาหนังดูกัน”
ฉูหยวนบีบจมูกดงซูบินอย่างสนุกสนาน "ตกลง. วันนี้ฉันจะเชื่อฟังนายวันหนึ่งล่ะกัน”
ดวงตาของดงซูบินเริ่มสั่นไหวและมองไปที่ฉูหนวนที่มีผมยาวสลวย “วันนี้ฉันขอเลือกชุดนอนให้เธอนะ”
ฉูหยวนเขินและปกปิดหน้าอกของเธออย่างรวดเร็ว เธอจ้องที่ดงซูบินและดุเขา “นายนี้มัน นายนี้พยายามแกล้งฉันอีกแล้วหรอ?” เธอเอื้อมมือไปจับมือของดงซูบินแล้วพาเขาไปที่ห้องนอน เธอเปิดไฟและดึงม่าน จากนั้นเธอก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเธอ:“ฉันอารมณ์ดีในวันนี้และฉันจะยอมทำตามนาย แต่นี่เป็นครั้งเดียวเท่านั้น หากนายมีคำขอแปลก ๆ ในอนาคตฉันจะจัดการนาย! ที่นั่น เสื้อผ้าของฉันทั้งหมดอยู่ในนั้น นายสามารถเลือกสิ่งที่นายต้องการที่อยากให้ฉันใส่ได้”
ดงซูบินลูบมือของเขาอย่างตื่นเต้น ทุกคนมีความชอบของตัวเองและความชอบก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ตัวอย่างเช่นเมื่อดงซูบินอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเขาชอบดูเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงที่ชอบใส่กระโปรงสั้น แต่เพื่อนร่วมชั้นของเขาต้องสวมเครื่องแบบในโรงเรียนเท่านั้น ดังนั้นยามสุดสัปดาห์เท่านั้นที่เขาจะสามารถเห็นเพื่อนของเขาแต่งอย่างงั้นได้ แต่ตอนนี้ดงซูบินชอบแต่งตัวที่เป็นผู้ใหญ่และฉลาด เขารู้สึกว่าผู้หญิงที่แต่งตัวแบบนี้ดูเป็นผู้หญิงและน่าดึงดูดมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ดงซูบินตื่นเต้นมากในการเลือกเสื้อผ้าให้กับฉูหยวน
ดงซูบินตัดสินใจที่จะเริ่มเลือกเสื้อผ้าด้านในๆ เขาก้มลงและเปิดลิ้นชักที่มีเสื้อในและกางเกงในฉูหยวน
ฉูหยวนเขินอายทันทีและเอื้อมมือไปดึงหูของดงซูบิน “นายเลือกเสื้อผ้าพวกนั้นไม่ได้นะ ฉัน……ฉันเพิ่งจะเปลี่ยนมันเมื่อเช้านี้”
ดงซูบินหันมามองเธอ “เธอบอกว่าวันนี้เธอจะยอมทำตามที่ฉันต้องการทุกอย่างนิ”
“...... แต่นายไม่ห้ามเลือกเสื้อในและกางเกงใน”
“อ่า……มีอะไรน่าอาย เธอเขินอยู่หรอเนี่ย”
“นายอยากโดนฉันฉีกปากหรือไง?”
ดงซูบินชอบที่จะหยอกล้อฉูหยวนไม่ว่าเธอจะคัดค้านมากแค่ไหนเขาก็เริ่มค้นหาผ่านลิ้นชักมองหาชุดชั้นในและกางเกงในที่เขาชอบ ฉูหยวนหตีเขาสองสามครั้งบนหลังของเขาและเห็นว่าเขายังคงดำเนินต่อไปเธอก็ยอมแพ้
“โอ้.” ดงซูบินหยุดและถามว่า:“ฉูหยวนตอนนี้เธอใส่บราสีอะไร?”
ฉูหนวน จ้องมองเขาด้วยความโกรธ “สีขาว”
ดงซูบิน ยิ้มอย่างอาย ๆ “เธอช่วยเปิดให้ฉันดูหน่อยสิ?”
“นายอยากตายอย่างงั้นหรอ!”
“เอ่อ……เพียงแค่ครั้งเดียวเอง ถ้าฉันไม่รู้ว่าเธอใส่อะไรอยู่ตอนนี้ฉันจะเลือกชุดให้เธอได้อย่างไรกัน”
หลังจากเจรจาต่อรองไประยะหนึ่งฉูหยวนก็ยอมแพ้ในที่สุดเธอกดเขาสองสามครั้งแล้วยกขึ้นด้านบนของเธอเป็นเวลาหนึ่งวินาที เธอเขินและปกปิดตัวเองอย่างรวดเร็ว “ตอนนี้นายพอใจแล้วหรือยัง?”
ดงซูบินพยักหน้า ที่จริงแล้วเขาไม่สนใจสิ่งที่ ฉูหยวนใส่ เขาเพียงต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของเธอ หลังจากค้นหาในลิ้นชักสักพักหนึ่งเขาหยิบชุดชั้นในลูกไม้และกางเกงชั้นในลูกไม้คู่ที่ตรงกันแล้วมอบให้เธอ
ฉูหยวนรีบคว้ามันจากเขาและพูดว่า:“ฉันจะเปลี่ยนหลังจากที่นายออกไป”
ดงซูบินจะไม่ทำเช่นนั้น “เปลี่ยนตอนนี้เลย ฉันอยากจะดู”
“ใครจะเชื่อนายกันล่ะ”
“เธอไม่ได้บอกว่าเธอจะฟังฉันเหรอ? ทำไมเธอถึงเปลี่ยนใจเร็วอย่างงี้?”
“……” หลังจากลังเลเป็นเวลาหนึ่งนาทีฉูหยวนก็ถอดเสื้อผ้าของเธอเมื่อดงซูบินหันกลับมาเลือกเสื้อผ้าของเธอ
ดงซูบินก็มองผ่านมุมตาของเขา จากนั้นเขาก็ยังคงเลือกถุงน่อง เขาเลือกถุงน่องสีผิว “ใส่นี่ด้วย”
ฉูหยวนผู้ซึ่งอยู่ในชุดชั้นในและกางเกงในของ เธอปิดปังหน้าอกด้วยแขนของเธอและจ้องมองเขา:“นายต้องการให้ฉันสวมกระโปรงในหน้าหนาวนี้นะ”
“เธอกำลังพูดถึงกระโปรงอะไร?”
“แล้วทำไมนายถึงขอให้ฉันใส่ถุงน่องล่ะ”
ดงซูบินหน้าแดง “เอ่อ……มันเป็นความชอบส่วนตัวของฉัน” ดงซูบินชอบความนุ่มนวลของถุงน่อง เขารู้สึกว่าถุงน่องเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่และคนสวยอย่างฉูหยวนแม้ว่าถุงน่องสีดำจะเซ็กซี่กว่า แต่ก็ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่มีดีเช่นฉูหยวน ถุงน่องสีผิวจะรู้สึกอบอุ่นและอ่อนโยนกว่ามาก
ฉูหยวนยิ้มเห็นฟันแล้วนั่งลงบนเตียงเพื่อสวมถุงน่อง เธอแกล้งทำเป็นไม่เห็นดงซูบิน ทั้งๆที่เธอรู้ว่าดงซูบินแอบมองเธออยู่
หลังจากนั้นครู่หนึ่งฉูหยวนที่แต่งตัวจนเสร็จก็อยู่ตรงหน้าดงซูบิน
ฉูหยวนมัดผมเป็นมวยพร้อมกับทาลิปและแต่งหน้าเบา ๆ เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสีดำคับ เธอดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าปกติดงซูบินได้แต่เดินไปรอบ ๆ ชื่นชมเธอและพยักหน้าสองสามครั้ง
“ฉันสวยไหม?”
"ใช่. เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเห็น "
ฉูหยวนยิ้มและกลอกตา “นายแค่พูดอย่างนี้เพื่อทำให้ฉันมีความสุขสินะ”
ดงซูบินกลืนน้ำลายของเขาและพูดว่า:“การเห็นเธอช่นนี้ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ทำไมเราไม่ฉลองกันบนเตียงล่ะ?”
ฉูหยวนตบหัวของดงซูฐินและคว้าเสื้อของเธอ “หยุดเรื่องไร้สาระของนาย ไปกันเถอะ.”
ขณะเดินออกจากห้องเขาพบกับป้าหลิวที่เป็นเพื่อนบ้านของเขาเดินขึ้นบันไดพร้อมกับน้ำมันถั่วหนึ่งขวด เธอเห็นฉูหยวน และดงซูบินก่อนที่เธอจะยิ้ม:“ซูบิน, น้องฉู สองคนกำลังออกไปข้างนอกเหรอ?”
ฉูหยวนเงียบ ๆไป และขยับห่างเล็กน้อยจากดงซูบิน ก่อนจะตอบกลับไปว่า "ใช่. นี้มันก็จะปีใหม่แล้ว หนูจะไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต มันน่าจะหนักและหนูไม่น่าจะถือมาไหว หนูเลยขอให้ซูบินมาช่วยยกของนะคะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ .”
ป้าหลิวหัวเราะ:“หู้ว เธอควรหาสามีได้แล้วนะ มันจะแย่ถ้าไม่มีใครอยู่แถวๆนี้”
ฉูหยวน พยักหน้า “ตอนนี้หนูก็กำลังหาอยู่เหมือนกันค่ะ”
หลังจากที่ทั้งคู่เดินออกจากอพาทเมนท์ดงซูบินก็สบตาฉูหยวน “เธอนี้โกหกเก่งจริงๆเลย โกหกไปซื้อของเนี่ยนะ?”
ฉูหยวนเห็นว่ามืดแล้วและไม่มีใครอยู่แถวนั้น เธอขยับเข้ามาใกล้และจับมือของดงซูบินเบา ๆ :“งั้นฉันควรจะพูดยังไงดีล่ะ?”
“แค่บอกว่าเราจะออกไปเดทกันก็พอ”
"จะบ้าหรอ! ฉันยังไม่ได้ตกลงที่จะเป็นแฟนกับนายสักหน่อย”