บาทที่ 5

บาทที่ 5

ในเมื่อศัตรูทำอะไรพวกเธอไม่ได้ พวกเธอจึงนำมันขึ้นมาจากทะเลและให้จินปิงใช้รัศมีของมันทำลายให้สัตว์อสูรพวกนี้สุก เพราะว่าพวกเธอต้องเดินรอบเกาะทำให้สัตว์น้ำเกือบครึ่งหนึ่งของเกาะตายจากพิษของสัตว์อสูรงูดาวทะเล และพวกเธอต้องใช้เวลาถึงสองวันในการจัดการกับพวกมันจนหมดสิ้น

แต่อย่างไรก็ตามเพราะว่าในตอนต้นนั้นมีชิ้นส่วนของพวกมันหลายชิ้นที่แหลกสลายจากการโจมตีของพวกเธอ ชิ้นส่วนเหล่านี้ส่วนหนึ่งได้ล่องลอยและจมลงสู่ทะเลลึก

ภัยพิบัติได้ผ่านพ้นไปแล้ว เกาะกลับคืนสู่ความสงบสุขเช่นเดิม และสุดท้ายเวลาหนึ่งเดือนครึ่งก็ครบกำหนด หงเซียวและชิวเยว่จะออกจากไข่มุกในวันนี้

พวกเธอได้ตระเตรียมเสื้อผ้าไว้ และไปเฝ้าคอยการออกมาจากไข่มุกของพวกเขา

ผิวของไข่มุกสีนวลใยเริ่มสลายตัวเผยให้เห็นคนสองคนในนั้น แต่ที่ทำให้ทุกคนต้องปากอ้าตาค้างก็คือ ชิวเยว่ไปขดตัวอยู่บนตักของหงเซียว พร้อมกับนึกในใจว่า พวกเธอได้ไปนั่งอยู่ในตักพี่ชายกันบ้างหรือไม่ในช่วงนั้น เพราะว่าไม่มีใครรู้ตัวเลย

เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น หัวใจของพวกเธอก็เต้นระรัว หน้าร้อนผ่าวอย่างอดไม่ได้

ร่างของชิวเยว่ขยับ เธอถูกแรงที่อ่อนโยนผลักออกมาจากไข่มุก เธอคลายสภาพจากการขดตัวกลายเป็นยืน

ร่างของเธอนั้นเปลี่ยนเป็นเช่นเดียวกับบรรดาหญิงสาวทั้งหลาย ผิวสีไข่มุก นวลเนียนไร้ตำหนิแม้แต่น้อย เส้นผมสีน้ำเงินงอกออกมาอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับขนคิ้ว เส้นสีทองขนาดเท่าเส้นผมปรากฏบนร่างกายของเธอ พร้อมกับจุดแสงสีฟ้าบนบางตำแหน่งของเส้นสีทองนั้น เช่นเดียวกับทุกคน

จินหลินนำผ้าเช็ดตัวที่เตรียมไว้โอบคลุมร่างชิวเยว่ไว้ และรออยู่ชั่วขณะกว่าที่ชิวเยว่จะลืมตาขึ้นมา

ก่อนที่ชิวเยว่จะทันได้พูดอะไร จินหลินก็ดึงมือเธอ กล่าวว่า “พวกเราไปกันเถอะ ก่อนที่พี่ชายจะตื่นขึ้นมา”

ชิวเยว่หน้าแดงขึ้นทันใด เธอนึกขึ้นได้ รีบปรับผ้าเช็ดตัวให้มิดชิด รีบสาวเท้าติดตามจินหลินไป

พวกเธอจะรู้ไหมว่า หงเซียวเห็นพวกเธอตลอดมาตั้งแต่ครั้งนั้น และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะหลับตาอยู่ก็ตาม

ขณะที่ทุกคนจากไป มวลสีฟ้าเรืองแสงก็เริ่มคลายตัวกลายเป็นไอและซึมซับเข้าไปในร่างของหงเซียวอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ลดตัวลงนั่งบนพื้นพร้อมกับลืมตาขึ้น

หยิบกางเกงว่ายน้ำมาสวม ก่อนจะค่อยเดินออกไปตามปกติ

ตอนนี้สี่หญิงสาวกำลังรุมล้อมหนึ่งหญิงถามเธอถึงชีพจรเซียนบนร่างอีกฝ่ายว่าเกิดขึ้นหรือไม่ พวกเธอทั้งหมดล้วนอยู่ในชุดว่ายน้ำ

“อื้อ แต่ว่าระดับลดลง จากระดับเก้าปฐมเซียนเหลือเพียงแค่ระดับหนึ่งปฐมเซียนเท่านั้น” ชิวเยว่ตอบ

“แย่เลย แต่ไม่ว่ายังไง ชิวเยว่ก็ต้องสร้างภูษาเซียนกับผึ้งเซียนได้แล้วละสิ” ซีชี่พูดอย่างตื่นเต้น

“คาถาสร้างของพวกนี้คืออะไร ไหนลองดูหน่อยซิ” ชิวเยว่ถามทุกคน

“พวกเรายังไม่มีใครรู้หรอก รู้แต่วิธีการโคจรพลังเซียนวิถีเก้าภูษา ถ้าอยากรู้ต้องถามพี่ชาย” ซิ่วจูกล่าว

“นั่นไง มาพอดี พี่ชาย ชิวเยว่ระดับลดลงเหลือเพียงแค่ระดับหนึ่งปฐมเซียนเท่านั้น ท่านทำอะไร ระดับเซียนของชิวเยว่จึงลดลงเยอะเลย” จินหลินกล่าวด้วยความไม่พอใจ

“อืม น่าจะเป็นเพราะว่าชิวเยว่ไม่ได้ใช้ชีพจรเซียนเดิมอีกต่อไป แต่ใช้การบีบอัดพลังเซียนสร้างเป็นชีพจรเซียนใหม่ ดังนั้นพลังเซียนเดิมของชิวเยว่จึงถูกบีบอัดเป็นชีพจรเซียนใหม่จนหมดนะแหละ” หงเซียวกล่าว

“อาจารย์ของชิวเยว่ต้องว่าแน่เลย” เหมยเหมยกังวลแทน

“ไม่เป็นไรหรอก อย่างมากก็แค่บ่นสองสามวัน” ชิวเยว่กล่าว

“พี่ชายสอนคาถาให้ชิวเยว่สิ พวกเราอยากเห็น” จินหลินกล่าว

“เอาสิ ต้องเริ่มจากคาถาภูษาเซียนก่อน เพราะว่าผึ้งเซียนต้องใช้ภูษาเซียนช่วยสร้าง” หงเซียวรับคำ

ภูษาเซียนนั้นเป็นอีกระดับหนึ่งที่เหนือยิ่งกว่าผึ้งเซียน มันมีชีพจรสามารถโคจรพลังปราณหรือพลังเซียนได้ตามรูปแบบที่ออกแบบไว้บนร่างของมัน สามารถร่ายคาถาเซียนได้ สามารถฝึกฝนตนเอง สร้าง ติดต่อสื่อสาร ออกคำสั่งกับผึ้งเซียนและปรึกษาหารือกับเจ้าของได้ด้วย สามารถเปลี่ยนรูปไปมาระหว่างรูปชุดกับรูปปกติของมันได้ หากสร้างภูษาเซียนขึ้นมาแล้วเจ้าของก็จะมีความสามารถพื้นฐานของภูษาเซียนนั้นติดตัว อีกทั้งยังสามารถนำมาสวมใส่บนร่างของเจ้าของเพื่อที่ให้เจ้าของสามารถใช้คาถาของมันได้ตามปรารถนา

“พี่ชาย ถ้าเรามีผึ้งแล้ว ไม่สร้างนางพญาผึ้งด้วยล่ะ” เหมยเหมยถาม

หงเซียวกล่าวว่า “นางพญาผึ้งเหรอ ถ้าจะว่าไปภูษาเซียนก็เปรียบได้เหมือนกับนางพญาผึ้งนั่นแหละ”

“อย่างงั้นรึ” พวกเธอพากันแปลกใจ

จากนั้นหงเซียวก็อธิบายให้ชิวเยว่ฟังถึงภูษาเซียน วิธีการสร้างภูษา วิธีการสถิตย์วิญญาณ และวิธีการปลุก

ชิวเยว่เริ่มลงมือสร้างภูษาเซียนผืนแรกของพวกเขา ส่วนจะเป็นผืนแรกของโลก ของจักรวาล หรือของอะไรก็ตามที ไม่มีใครรู้ ซึ่งอาจจะมีใครที่ไหนสักแห่งได้สร้างเอาไว้ก่อนแล้วก็เป็นไปได้

เพราะว่าพวกเธอนั้นอยากเห็นหน้าตาเป็นอย่างไร ชิวเยว่จึงกำหนดรูปร่างสีสันรูปทรงให้กับมัน เมื่อสาวๆพากันถกเถียงออกแบบหาหน้าตาที่ตนเองชอบ และสุดท้ายชิวเยว่จึงตัดสินใจออกแบบหน้าตาที่ตนเองชอบออกมา

ชิวเยว่ใช้วิชาเซียนประจำสำนักมาเป็นรูปแบบชีพจรให้กับภูษาเซียน และเพราะว่าภูษาเซียนนั้นต้องใช้วิญญาณจำนวนมาก ดังนั้นหงเซียวจึงต้องเปิดใช้งานกรงกักวิญญาณก่อนจะปลดปล่อยวิญญาณที่ถูกจับไว้ออกมา

ทุกขั้นตอนที่ชิวเยว่ทำนั้น พวกหงเซียวและบรรดาเด็กสาวต่างเห็นพลังเซียนได้ชัดเจน ในเมื่อเขาสามารถเห็นพลังเซียนนอกร่างได้ค่อนข้างดีแล้ว

วิญญาณถูกภูษาเซียนดึงดูดไปสร้างเป็นชีพจรอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักชีพจรทุกจุดก็ถูกเติมเต็ม ภูษาเซียนของเธอตัวนี้ถูกออกแบบมาให้มีหน้าตาเป็นดอกแดนดิไลออน มีขนาดใหญ่เท่ากับหนึ่งคนโอบ ดูนุ่มนวลบอบบางยิ่งกว่าปุยนุ่น และมีสีเทาเหมือนเมฆหมอก

ชิวเยว่ใช้พลังเซียนของเธอถ่ายทอดความรู้และปลุกมันให้ตื่นขึ้น มันลอยขึ้นตรงหน้าเธอ พร้อมกับกล่าวว่า

“เช้า นายหญิง”

ต่อจากนั้นหงเซียวก็อธิบายถึงการสร้างผึ้งเซียนอย่างไร เรียกวิญญาณมาสถิตย์อย่างไร ให้พลังแก่ผึ้งอย่างไร ออกคำสั่งให้กับผึ้งอย่างไร

ผึ้งเซียนนั้นไม่เหมือนกับร่างจิตเทียม ด้วยว่าจุดประสงค์ของร่างจิตเทียมขณะที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ในการต่อสู้และใช้ครั้งเดียวทิ้ง แต่หงเซียวได้นำมันมาประยุกต์ใช้ ส่วนผึ้งเซียนนั้นออกแบบมาเพื่อใช้ในการทำงานเป็นระยะเวลานาน

ร่างจิตเทียมนั้นจะมีความฉลาดระดับหนึ่งสามารถทำงานได้อย่างเป็นเอกเทศ แต่เขาจะต้องถ่ายทอดความรู้ให้ก่อน แต่ผึ้งเซียนนั้นแม้ว่าจะรับความรู้ตั้งต้นให้ก่อนเช่นเดียวกับร่างจิตเทียม แต่มีความสามารถในการคิดหาทางแก้ปัญหา พวกมันสามารถพูดคุยกันเอง เรียนรู้ได้เอง สามารถแก้ไขและร่วมมือกันทำงานให้สำเร็จได้ พร้อมกับความสามารถอื่นๆที่เหนือกว่า ความสามารถเหล่านั้นจะได้มาจากพลังเซียนที่ภูษาเซียนถ่ายทอดให้ และยังสามารถกำหนดให้ใช้คาถาจากพลังเซียนที่ได้รับหนึ่งบทด้วย

ชิวเยว่เริ่มลงมือสร้างผึ้งเซียนตัวแรก หน้าตามันเหมือนกับดอกแดนดิไลออนที่ฟูฟ่องและปลิวไปตามลมดอกเล็กๆ เมื่อมันลอยออกไปจากมือของชิวเยว่ไม่มีใครคิดว่ามันเป็นผึ้งหรืออะไรที่เกี่ยวกับผึ้งแม้แต่น้อย

“พี่ชาย ผึ้งเซียนพี่ชายคงต้องเปลี่ยนชื่อแล้วแหละ” จินหลินล้อ ทุกคนต่างพากันหัวเราะฮาเฮ

ชิวเยว่ สร้างตัวที่สอง ที่สาม ...ที่เก้า พวกมันปลิวว่อนไปทั่วเกาะ ดูแปลกตา

“พี่ชาย เราสามารถสร้างได้ทั้งหมดกี่ตัว” ชิวเยว่ถาม เมื่อเห็นว่าเธอสร้างตัวที่สิบไม่สำเร็จ

“เก้าตัวที่ระดับหนึ่งปฐมเซียน” หงเซียวกล่าว

“ว้า น้อยจัง” ชิวเยว่กล่าว

หงเซียวขัดว่า “บวกเก้าทุกระดับที่เพิ่มขึ้น”

“แปดสิบเอ็ดตัวเอง” พวกสาวๆยังคงไม่พอใจ

หงเซียวกล่าวต่อว่า “อย่าลืมว่าจำนวนนั้นคือต่อภูษาเซียนหนึ่งผืน ถ้าเรามีเก้าผืน เราก็จะมีถึง เจ็ดร้อยยี่สิบเก้าตัว”

“นั่นก็ยังไม่เท่าไหร่” จินหลินกล่าว

“ถ้าเราก้าวเข้าสู่ขั้นกลาง เราก็บวกเจ็ดร้อยยี่สิบเก้าตัวไปในแต่ละระดับและแต่ละวิถีด้วย ดังนั้นระดับหนึ่งขั้นกลางเราก็จะมีหนึ่งพันสี่ร้อยห้าสิบแปดตัว”

“ค่อยยังชั่ว” พวกเธอพากันพยักหน้า

หงเซียวอึ้ง พวกเธออยากได้ผึ้งเซียนกี่ตัวกัน พวกเธอรู้ไหมว่า ผึ้งเซียนแต่ละตัวนั้นไม่ได้มีพลังเท่ากับร่างจิตเทียมของเขาที่อยู่ที่เขตชีพจรปราณระดับหนึ่ง แต่ผึ้งเซียนแต่ละตัวนั้นมีพลังเทียบเท่ากับตัวคนผู้สร้างผึ้งเซียนเลยทีเดียว