ตอนที่แล้วตอนที่ 46: ควักจองตายแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 48: ความโกรธกริ้วของลีแชริน

ตอนที่ 47: ควักจองยังไม่ตาย


ตอนที่ 47: ควักจองยังไม่ตาย

ภายหลังได้ยินชื่อของชายตรงหน้าที่บอกว่าชื่อควักจอง ใบหน้าของคังชอลอินก็หยุดนิ่งและแข็งทื่อไปราวกับก้อนหิน

“เสือดำ…คือควักจอง?”

คังชอลอินรีบตรวจสอบสี่สิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับควักจองกับผู้ชายคนนี้ในทันที

หนึ่งสูบบุหรี่จัด สองเป็นนักผจญภัย สามชื่อควักจอง และถ้าหากผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้มีอายุ 35 ปีจริง นั่นจะหมายความว่าชายคนนี้คือควักจองที่เขากำลังตามหา

เมื่อคิดว่าชายคนนี้เป็นควักของที่พยายามตามหามาตลอดหลายเดือนแต่กลับมาปรากฏอยู่ต่อหน้าอย่างง่ายดายเช่นนี้แล้ว มันให้ความรู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนได้เชื่อมโชคชะตาระหว่างเขาและควักจองให้มาพบเจอกันจนได้ในที่สุด

“ไม่มีทาง”

คังชอลอินพยายามคิดถึงความเป็นไปได้ที่ชายตรงหน้าเขาคนนี้จะเป็นควักจองที่เขาตามหาอยู่จริง ๆ

สิ่งอื่นใด ภาพของนักวิชาการและทหารดูไม่เข้ากับสภาพนักเลงที่ชายคนนี้กำลังเป็นอยู่โดยสิ้นเชิง

มันเหมือนกับว่าเขาเป็นความตรงข้ามกับลีกงมยองไปแบบสุดขั้ว

ที่ผู้คนทั่วไปมักเรียกลีกงมยองว่าอัจฉริยะนั้นเพราะเขาสามารถได้รับทุนการศึกษาอันทรงเกียรติเพื่อเข้าเรียนที่ฮาร์วาร์ด นั่นคือวิธีแสดงความฉลาดของเขา

ลีกงมยองไม่ได้ถูกยอมรับแค่เพียงความฉลาดเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงภาพลักษณ์ประจำตัวที่หลายคนพากันบอกว่าเขาเป็นตัวอย่างที่ดีของความสุภาพและอ่อนโยนเช่นเดียวกับความสามารถในการสงบสติอารมณ์และความใจเย็นได้กับทุกสถานการณ์

แต่สำหรับคนนี้…นักเลง?

ควักจองที่มีความฉลาดตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างลีกงมยองเป็นนักเลง? ที่มาพร้อมกับชื่อเล่นที่ฟังดูแล้วไม่ค่อยจะตลกเท่าไหร่อย่างเสือดำ?

‘ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้’

คังชอลอินส่ายหน้าไม่ยอมรับ

จากจำนวนประชากรทั้งหมด 51 ล้านคน คนเกาหลีที่ชื่อควักจองและอายุ 35 ปียังต้องมีอยู่ที่อื่นที่ไหนอีกสักแห่ง

ดูชิกได้ทำการตรวจสอบแค่รอบ ๆ โซลเท่านั้น หากออกค้นหาที่อื่นจะต้องมีคนที่ชื่อควักจองและอายุ 35 ปีอยู่อีกแน่นอน

“ควักจองงั้นเหรอ? หึ ปีนี้นายอายุเท่าไหร่?”

คังชอลอินแค่ลองถามเผื่อ

“หืมม...หยาบคายกันจัง”

เสือดำมองจ้องกลับมาที่คังชอลอินด้วยสายตาที่เหม็นสาบ

“ถึงจะมองฉันแบบนั้นแต่ฉันก็อยู่ในวัยสามสิบกลาง ๆ นายก็น่าจะรู้นี่ว่าการจะคุยกับผู้ที่มีอายุมากกว่าน่ะ ห้ามทำตัวไร้สุภาพนะ”

อายุของคังชอลอินเพียงยี่สิบปลาย ๆ ตามความคิดเห็นของเสือดำ แน่นอนว่าเขาจะต้องแก่กว่าคังชอลอินและมันก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น

“แต่...ไม่ว่านายจะอายุเท่าไหร่ แต่การที่นายนั่งพูดกับฉันที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้แบบนั้นมันดูไม่ค่อยเข้าทีเท่าไหร่เลยนะ ว่าไหม? ทั้ง ๆ ที่นายอ่อนดูกว่าฉันอย่างแน่นอน”

“นี่...เสือดำ” คังชอลอินเงยหน้าขึ้น

“บอกอายุนายมาทีสิ”

คังชอลอินถามพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ทำงานของดูชิก

“……!”

คังชอลอินที่มีความสูง 184 ซม.เริ่มมองลงไปที่ควักจองที่มีความสูงอยู่แค่เพียง 170 ซม. กลาง ๆ มันเป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกถูกมองอย่างดูหมิ่น

“ฟู่ววว”

กลุ่มควันบุหรี่จากปากของควักจองปกคลุมจนทั่วใบหน้าของคังชอลอิน

“ฟังนะ ไอ้ความหยิ่งทะนง...”

แต่ในขณะที่เขากำลังพูดนั้น....

ปั้ง!

คังชอลอินพลิกโต๊ะจนคว่ำแล้ววิ่งไปอยู่ประชิดตัวควักจองในทันใด

แคร่ก! แคร่ก!

โต๊ะสำนักงานขนาดใหญ่ถูกทุบจนเป็นเศษซากที่กระจัดกระจายไปทั่วทั้งสำนักงาน

“อึ่ก…”

“เสือดำ” ควักจองเองก็เกือบจะถูกบดขยี้ด้วยแรงกระแทก เขาคว้าข้อมือของตัวเองมากอบกุมและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

ข้อมือของควักจองเต็มไปด้วยเศษไม้ที่ทำให้เลือดไหลออกอย่างพรวดพราด

“เสือดำใช่ไหม?”

คังชอลอินเดินก้าวไปข้างหน้า

……!

ทันใดนั้นใบหน้าของควักของก็ขึ้นสีซีดด้วยความหวาดกลัว

‘ใครกัน...ไอ้ตัวประหลาดนี่มันเป็นใครกันแน่!?’

ความกลัวหรือสั่นประหม่าในตอนบุกเข้ามายังสำนักงานของดูชิกที่ไม่มีในตอนแรกได้กลายเป็นความสั่นกลัวที่แทรกซึมไปอยู่ทุกส่วนของร่างกายควักจองตั้งแต่หัวจรดเท้า ตอนนี้เขากำลังรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก ราวกับได้เผชิญหน้าอยู่กับสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่ง

“บอก.อา.ยุ.มา”

“แกเป็นใครถึงคิดจะมาดูถูกฉันได้วะ?!”

ควักจองเล็งเป้าเพื่อเตะต่ำเข้าใบหน้าของคังชอลอิน

“…..!”

แต่ผลสุดท้ายเขาก็ทำได้แค่เพียงเตะอัดอากาศ

“เร็วมาก?!”

“เสือดำ” ควักจองที่กำลังตกใจถูกเรียกชื่อขึ้นอีกครั้ง เขาไม่เคยเห็นใครที่จะสามารถหลบการเตะต่ำของเขาด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและแม่นยำขนาดนี้มาก่อน

“เดาว่านายคงจะไม่ฟังกันเลยสินะ ห๊ะ?” คังชอลอินพึมพำในขณะก้าวเข้ามาใกล้เพื่อปิดระยะห่างระหว่างพวกเขา

“…….!”

ควักจองรีบตั้งการ์ดขึ้นทันใดและพยายามที่จะวางระยะห่างระหว่างเขากับคังชอลอิน แต่อย่างไรก็ตาม...

พ้าว!

ความพยายามในการตั้งการ์ดป้องกันของควักจองล้มเหลวเมื่อมือขวาของคังชอลอินสามารถพุ่งทะลุคว้าที่ไหล่ของควักจองได้อย่างง่ายดาย

‘บ้าเอ๊ย เสียท่าจนได้!’

ควักจองคิดเมื่อเขาพลาดจากการควบคุมร่างกายของตัวเอง

ตู้ม!

“อึ่ก…”

เลือดสีแดงสดถูกพ่นออกจากปากของควักจองเพราะแรงกระแทกที่โดนไปถึงด้านใน

“แค่ก ๆ  ๆ!”

พยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แม้ตัวเองจะทำลายปอดไปมาก ในตอนนี้ควักจองดูเหมือนคนที่ไม่สามารถจะพูดอะไรได้รู้เรื่อง

“พูดมา”

คังชอลอินตรงเข้าเหยียบส่วนลำคอของควักจองอย่างเยือกเย็นพร้อมออกคำสั่งที่ดูเหมือนจะโกรธจนคลั่ง

“อายุเท่าไหร่?”

ราวกับว่าถ้าควักจองยังไม่ยอมบอกอายุเขามาสักทีเขาจะฆ่าทิ้งซะตอนนี้จริง ๆ

“ไอ้...ไอ้สารเลว แกจะอยากรู้...อายุของฉันไปทำไมนัก...?”

ควักจองสิ้นท่าพลางสมเพชกับตัวเอง มีใครที่คิดจะเอาชีวิตของคนอื่นเพียงเพราะต้องการรู้อายุแบบนี้อีกบ้างกัน? นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบคนที่แปลกประหลาดเช่นนี้

“ฉันยังไม่คิดยอมแพ้แบบนี้หรอกเว้ย!”

ควักจองยังไม่คิดยอมแพ้

“ฮึ ลองดูสิว่าจะยังเก่งกับสิ่งนี้ได้อยู่อีกหรือเปล่า!” เมื่อพูดแบบนั้นจบ ควักจองก็เริ่มแสดงพลังมานาที่เขามีในทันใด

ผลของมานานั้นเป็นมากกว่าการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหรือพลังงาน มันเป็นสิ่งที่สามารถเอาชนะใครบางคนที่ปกติไม่สามารถใช้มานาได้ มันสามารถพลิกกลับสถานการณ์ได้เกือบทุกประเภท

ชู่ ชู่ ...

ทันทีที่มานาเริ่มหลั่งไหลขึ้นในมือ ควักจองได้เล็กไปที่ข้อเท้าซ้ายของคังชอลอินเพื่อโจมตี

แต่ทว่าคังชอลอินกลับสามารถหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว และ...

“คุ่ก!…”

ด้วยความแข็งแกร่งที่ช่างน่าขัน เขาจับปกคอเสื้อของควักจองแล้วพูดอีกครั้ง

“อย่าแม้แต่จะลอง...”

คังชอลอินจับร่างของควักจองและอุ้มเขาเหมือนกับตุ๊กตาเศษผ้า

“ทดสอบ...”

จากนั้นก็โยนควักจองทุ่มลงพื้นไปอย่างแรง

แม้ควักจองจะกรีดร้อง…

“ความอดทน...”

แต่คังชอลอินที่ตอนนี้กำลังเดือดดาลจนเกินทนยังคงมุ่งมั่นเอาชนะเขาต่อไปให้ได้

“ของฉัน”

พ้าว!!

อีกครั้ง…

พ้าว!!

อีกครั้ง…

พ้าว!!

และครั้งสุดท้าย…

“อ๊ากกกกกก!!!”

ควักจองที่ซึ่งกำลังนอนราบอยู่กับพื้นในตอนนี้ตะโกนด้วยความเจ็บปวดอย่างหนัก

มานา?

หากคิดที่จะต่อสู้ก็จงเลือกฝ่ายตรงข้ามอย่างชาญฉลาด แม้เทคนิคมานาที่อ่อนแอเช่นนี้จะสามารถใช้ได้กับคนอย่างดูชิกแต่มันไม่มีทางใช้ได้ผลกับคนอย่างคังชอลอิน

“ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้าย”

คังชอลอินจ้องมองไปที่ควักจองด้วยแสงเยือกเย็นที่ปรากฏอยู่ในสายตา

ถ้าเขายังไม่ตอบ...?

ไม่ว่าจะเป็นควักจองจริง ๆ หรือไม่...เขาก็ไม่คิดปล่อยให้ลิงที่กล้ามาพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าเขาต้องรอดชีวิตกลับไป

“อึ่ก… ทะ ทำไม…แกอยากรู้อายุฉันนักวะ…? อั่ก!!”

ควักจองตระหนักได้ในที่สุด การจ้องมองคังชอลอินที่ไร้ซึ่งความลังเลใด ๆ ในดวงตากำลังบอกว่าถ้าเขายังไม่ยอมบอกอายุให้อีกฝ่ายได้รู้อยู่อีก คังชอลอินจะต้องฆ่าเขาอย่างแท้จริง

“สามสิบ...สามสิบห้า!!”

ควักจองขอยอมแพ้

“สามสิบห้า... ห๊า? แว่นแคว้นแดนใดบนแพนเจียที่นายกำลังทำงานอยู่?”

“ฉัน…”

ควักจองอ้าปากเตรียมที่จะพูดอย่างหมดแรง

“ตะวันออก…ส่วนหนึ่งของ….ลามาคอส...แค่ก ๆ”

ด้วยการไอในครั้งนี้ เลือดสดมากมายถูกพ้นกระจายออกมาจากปากของเขา

“ห๊ะ... เอ่อ?!”

ควักจองไม่สามารถประคองสติของตัวเองไว้ได้อีกต่อไปและล้มลงไปกับพื้นโดยไม่รู้ตัวในที่สุด

อย่างไรก็ตามคังชอลอินไม่คิดสนใจอาการของควักจองที่กำลังเป็นอยู่นี้เลยแม้แต่น้อย

“ควักจอง สูบบุหรี่ อายุ 35 เป็นนักผจญภัย”

ทุกสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับควักจองมีความเกี่ยวข้องกับชายคนที่เป็นลมอยู่ตรงหน้าเขานี้อย่างสมบูรณ์แบบ และเขาก็กำลังตื่นเต้นกับสิ่งนี้อย่างมาก

“… เขตตะวันออก ราชันย์แห่งลามาคอส ควักจอง นักยุทธศาตร์ของควอทโตร … โอ้พระเจ้า แม่* ให้ตายเถอะ”

เมื่อความคิดดังกล่าวจบลง คังชอลอินก็เดินเข้าหาควักจองอย่างรวดเร็ว

“ดูชิก” คังชอลอินส่งเสียงเรียก

“อึ่ก...ค ครับบอส?”

“นายทำได้ดีมาก”

“…….?”

“ไอ้เวรนี่น่าจะเป็นควักจองที่ฉันกำลังตามหา ไม่สิ มันมีโอกาสสูงมากที่จะใช่เลยต่างหาก”

“……!”

แม้ดูชิกจะประหลาดใจและรู้สึกมึนงง แต่คังชอลอินก็ไม่ได้สนใจอะไร เขากดสายเพื่อโทรออกหาชายชราควอนขึ้นมาแทน

[ว่าไง? เนื้อนั่นมันเยี่ยมไปเลยจริง ๆ ฮ่า ๆ ๆ พลังของฉันในตอนนี้น่ะสุดยอดมากเลยล่ะ... คิ ๆ ๆ]

“ฉันมีเรื่องจะขอร้องอีกอย่าง”

[ห๊า?]

“ฉันเพิ่งทำร้ายคนไป มีวิธีไหนบ้างไหมที่ฉันจะสามารถรักษาเขาได้บ้าง?”

[เฮ้อ… เธอเพิ่งจากไปได้ไม่นานแต่กลับไปเอาชนะคนที่น่าสงสารมาอีกแล้วงั้นเหรอ? เธอนี่ช่างมีบุคลิกไม่เหมือนใครซะจริง ๆ แต่จะรักษาเขา? ทำไมเธอไม่ให้ยาที่เธอมีให้เขากินไปซะล่ะ? ฉันว่ามันน่าจะมีประสิทธิภาพกับรอยฟกช้ำพวกนั้นอยู่นะ]

“มันไม่ใช่แค่รอยฟกช้ำ ฉันต้องการตรวจสอบที่แม่นยำด้วยว่าเขาเป็นมะเร็งปอดหรือไม่”

[มะเร็งปอด?] น้ำเสียงจากปลายสายอีกด้านหนึ่งเต็มไปด้วยความประหลาดใจ หลังจากต่อสู้จนเอาชนะใครคนนั้นมาได้แต่คังชอลอิลกลับต้องการรักษาเขาอย่างเต็มรูปแบบอย่างนั้นหรือ? นี่เขากำลังพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่?

“ฉันต้องการโรงพยาบาลที่เขาสามารถเข้ารับการรักษาและตรวจสุขภาพได้ เขาจำเป็นต้องถูกขังตัวให้ดีเพื่อไม่ให้ขยับไปไหนได้เป็นเวลาหนึ่งเดือน”

หากคน ๆ นี้เป็นควักจองที่คังชอลอินกำลังตามหาอยู่จริง ๆ เขาควรจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นของโรคมะเร็งหรือที่เรียกว่าขั้นแรก อย่างไรก็ตามเขาต้องการหลักฐานที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้

[อืม…ฉันเองก็มีโรงพยาบาลที่มีความสัมพันธ์อยู่เหมือนกัน เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่เราสามารถแยกเขามาไว้ที่ห้องวีไอพีได้]

“เขาเป็นนักผจญภัย”

[อะไรนะ?! ถ้างั้นการคุมตัวเขาก็คงไม่ง่ายเลยน่ะสิ]

“ถ้าฉันมีเวลาฉันจะเป็นคนคุมขังเข้าไว้เอง แต่ตอนนี้ฉันมีธุระอื่นต้องไปทำก่อน”

คำสัญญาที่เขาได้มอบให้กับลีแชรินคู่ค้าพันธมิตรที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

เขาไม่มีแผนจะปล่อยให้ข้อตกลงที่เขาทำร่วมกับเธอหรือตัวของควักจองหลุดลอยออกไปแม้แต่อย่างเดียว

[การ์ดสิบคน ไม่สิ การ์ดระวังยี่สิบคนพร้อมกับที่ล็อคไทเทเนียมเพื่อผูกขาเขาเอาไว้เท่านี้พอใจหรือยัง?]

“ให้พวกการ์ดพกปืนไว้ด้วย ถ้าเขาคิดที่จะต่อต้านก็ไม่สำคัญว่าจะเป็นแขนหรือขา ขอให้ยิงสกัดเขาไว้ได้เลย”

[เข้าใจแล้ว ส่งตำแหน่งที่ตั้งของนายมา แล้วเดี๋ยวฉันจะส่งลูกน้องให้ไปรับในทันที]

หลังจากสิ้นสุดการโทรกับชายชราควอน เขาจ้องควักจองที่กำลังนอนไร้สติตรงหน้า

“นี่เราทำเกินไปหน่อยไหมนะ?”

“แต่การคิดว่าชายคนนี้คือควักจองแล้ว…”

“ใช่ คงไม่มีทางเป็นไปได้หรอก... ใช่ไหม?”

เขายังมีเส้นฟางแห่งความหวังหลงเหลืออยู่ นั่นก็คือการตรวจสอบว่าควักจองคนนี้เป็นมะเร็งที่ปอดด้วยหรือไม่

หากคิดถึงใครสักคนที่มีศักยภาพเท่าลีกงมยองแต่กลับมีสภาพเป็นเช่นนี้...ไม่เหมือนอย่างนายทหารหรือนายพล

“เป็นไปไม่ได้หรอก... ใช่ไหม?” คังชอลอินคิด

จากนั้นไม่นาน ชื่อของผู้ที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ได้ปรากฏขึ้นภายในจิตใจของเขา

หานซิ่น

หานซิ่นเป็นขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ฮั่น เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เรียกได้ว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด ตั้งแต่อายุยังน้อยเขาเป็นเด็กกำพร้าและต้องขออาหารเพื่อความอยู่รอดไปวัน ๆ อีกทั้งยังต้องเผชิญกับความอัปยศอดสูของการถูกโจมตีโดยพวกอันธพาล

เมื่อเปรียบเทียบกับเขาแล้ว ควักจองยังไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดนั้น

เล่าปี่

อีกหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ เล่าปี่เป็นตัวละครหลักในช่วงเวลาของการต่อสู้ทั้งหมดและยังเป็นจักรพรรดิองค์แรกแห่งแคว้นจ๊กแต่ก็มีช่วงระยะเวลาหนึ่งในอดีตที่เขาต้องร้องขอหาอาหาร

ใช่…

ผู้คนมีการเปลี่ยนแปลง

คังชอลอินเองก็เป็นหนึ่งในชายหนุ่มยากจนที่กำลังมองหางานทุกประเภทเพื่อหารายได้ในทุกวิถีทางก่อนจะได้มาเป็นราชันย์ ควักจองที่เป็นนักเลงคนนี้เองก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นนักยุทธศาสตร์ควักจองที่เขากำลังมองหา

‘เอาล่ะ เดาว่าอีกไม่นานเดี๋ยวเราก็ได้รู้เอง’

อย่างน้อยในตอนนี้เขาก็พบคนหน้าสงสัยที่เข้าข่ายว่าจะเป็นควักจองมากที่สุดแล้วคนหนึ่ง

“ดูชิก”

“ครับบอส”

“เดี๋ยวลูกน้องของชายชราควอนจะมาที่นี่เพื่อมาเอาตัวเสือดำไป ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา”

“……..!”

แม้ดูชิกจะตกใจที่รู้ว่าลูกน้องของชายชราควอนกำลังจะมาที่นี่แต่ในไม่ช้าเขาก็กลับคืนความสงบนิ่งได้อีกครั้ง

“ครับบอส!”

“ตามหาคนที่ฉันบอกให้ทำต่อไปก่อน คน ๆ นี้อาจยังไม่ใช่ควักจองที่ฉันกำลังตามหาอยู่จริง ๆ ก็ได้”

“เอ่อ...คือพวกผมขอพักสักสองสามวันก่อนจะเริ่มออกตามหาใหม่ได้ไหมหรือครับ?”

“…เรื่องของแกเถอะ แล้วฉันจะกลับมาอีกหนึ่งเดือน”

คังชอลอินเริ่มเคลื่อนไหว

“จะไปแล้วหรือครับ?”

“ฉันมีสิ่งที่ต้องไปทำ”

การจัดการกับเรื่องของลีแชรินั้นเป็นเรื่องที่เร่งด่วน เขาต้องรีบกลับไปยังทวีปแพนเจียทันทีเพื่อให้ตรงเวลา

.

.

.

‘ชอลอิน เจ้ากำลังมาแล้วใช่หรือไม่?’

ในวันแห่งคำสัญญา ลีแชรินเฝ้ารอคังชอลอินอย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอการมาถึงของเขา

สถานการณ์ที่เป็นไปเริ่มไม่ดีขึ้นทุกวัน พวกเขาใช้กองกำลังไปหลายพันเพื่อยึดนีด้าเวลเลียร์กลับคืน และเมื่อพวกเขาคิดว่ากองกำลังของพวกเขายังไม่เพียงพอ ฝ่ายตรงข้ามก็ได้ใช้กลยุทธ์การรบแบบกองโจรเพื่อซุ่มโจมตีคนของพวกเขาและยังคงอยู่ในอาณาเขตใกล้เคียง

หากสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไป ดินแดนของนางจะต้องพังทลายลงมาอย่างแน่นอน หากนางไม่สามารถจัดการกับกองโจรที่มีกลยุทธ์เหล่านี้ได้ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าพวกเขาจะต้องบุกเข้ามาต่อสู้ในทันที อย่างน้อยพวกเขาก็จะไม่หิวโหยหรือตายอย่างล่าช้าจากการโจมตีที่ทรมาน

และในตอนนั้นเอง

“ท่านหญิงขอรับ?”

คนแคระที่ใบหน้าแข็งทื่อได้มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าลีแชริน

สามารถบอกทัศนคติจากวิธีการพูดของเขาได้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่คิดเคารพแก่ราชันย์ของเขาแต่อย่างใด

“ว่ามา ผู้ช่วยสเลจน์”

และผู้ที่ปฏิบัติต่อราชันย์ลีแชรินอย่างดูหมิ่นนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้ช่วยส่วนตัวของนาง

“มีคนต้องการขอพบท่านหญิงขอรับ”

“……!”

ลีแชรินลุกขึ้นยืนจากบัลลังก์ของนางในทันใด

.

.

สามารถกดติดตามเพื่อรับอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับนิยายได้ก่อนใครที่ทาง แปลได้แปลเถอะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด