ตอนที่แล้วตอนที่ 44: การค้าและพันธมิตร (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 46: ควักจองตายแล้ว

ตอนที่ 45: นักธุรกิจคังชอลอิน


ตอนที่ 45: นักธุรกิจคังชอลอิน

ลีแชรินตัดสินใจเดินทางกลับแพนเจียไปก่อนเพื่อรอคังชอลอินอยู่ที่นั่น

ห้าวันต่อมา

หลังจากแก้ตัวกับแม่ไปว่าเขากำลังอยู่ในช่วงวันหยุดพักผ่อน คังชอลอินก็ได้ใช้เวลาอยู่กับแม่มากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปพบกับชายชราควอนก่อนจะตัดสินใจไปพบกับลีแชรินอีกครั้งที่แพนเจียเพื่อหารือเกี่ยวกับการค้าที่เกิดขึ้นระหว่างโลกและทวีปแพนเจีย

“ในไม่ช้าเศรษฐกิจของดินแดนเราก็จะยิ่งเติบโตมากขึ้น”

ในขณะที่มุ่งหน้าไปยังซงซาน(หนึ่งในเขตของกรุงโซล) คังชอลอินได้คิดถึงสัญญาที่เขาได้ทำไว้กับลีแชรินพร้อมด้วยสายตาที่เปล่งประกาย

สัญญาที่สร้างร่วมกันนั้นยอดเยี่ยมมาก

มันเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ลีแชรินเองก็ยังพูดได้ถูกต้องเมื่อเธอบอกว่าพวกเขาทั้งคู่ต่างจะมีความสุขไปกับมัน

มันดีสำหรับเธอเพราะเธอจะได้รับการคุ้มครองจากคังชอลอินและมันก็ดีสำหรับเขาเพราะจะทำให้ศักยภาพทางเศรษฐกิจของเขาเพิ่มยิ่งขึ้น ถึงเวลาแล้วที่การผนึกกำลังทางเศรษฐกิจและกำลังทหารจะได้ร่วมมือกัน

เนื่องจากตอนนี้เขากำลังยากจนมากจนไม่สามารถใช้ความสามารถ "กองทัพจักรวาล" ของเขาได้ และแทนที่การขยายดินแดนหรือการซื้อหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างกองกำลังของดินแดนจะดำเนินต่อไปเขากลับต้องใช้เงินอันล้ำค่าไปกับการตามล่าหาตัวมังกรพีคอคแทน

แต่ด้วยความสามารถในการแก้ปัญหาต่อการร้องขอนี้ที่ผ่านไปได้ด้วยดี เขาจะสามารถตั้งเป้าหมายเพื่อครองที่ราบตะวันออกทั้งหมดได้ การมีอำนาจเหนือแคว้นแพนดิโมเนียมคือความสำคัญอันดับหนึ่งของคังชอลอินในตอนนี้

“เฮ้ เธอนี่เอง ดีจริง ๆ ที่เธอมาในวันนี้ ฮ่า ๆ ๆ”

ชายชราควอนทักทายเขาราวกับว่าพวกเขาไม่ได้พบเจอกันมากว่าสามสิบปี

“คุณชวนให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี”

เขาโบกมือ

“ชายชราที่ใกล้ตายอย่างฉันจะไปทำอะไรเธอได้กันล่ะ?”

เขาไม่ค่อยชอบใจนักที่มีคนทำตัวเข้ามาใกล้เกินความจำเป็นกับเขาแบบนี้

“เป็นเพราะฉันกำลังมีความสุขและรู้สึกขอบคุณเธออย่างมากยังไงเล่า! เนื่องจากแหวนที่เธอให้กับฉันมาฉันจึงสามารถเอาชนะการแข่งขันเทนนิสของมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุได้”

“…คุณไปมหาวิทยาลัยของผู้อาวุโสมา?”

“เพราะฉันเสียใจกับช่วงเวลาที่ฉันสามารถทำแบบนั้นได้แต่ไม่ยอมทำน่ะสิฉันจึงไปเข้าเรียนนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป”

“ไม่ใช่ภาคเรียนแบบปกติใช่ไหม?”

“ฮ่า ๆ สำหรับคนแก่แบบพวกเราแล้วจะให้ไปเข้าเรียนแบบเด็ก ๆ ได้อย่างไรกัน ทั้งหมดมันก็แค่เพราะว่าพวกเราเบื่อกันเกินไปเลยอยากออกไปข้างนอกบ้างก็เท่านั้น มันจะเป็นเช่นนี้เสมอเมื่อเธอเริ่มแก่ตัวลง”

แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและขมขื่น แต่ดูเหมือนว่าชายชราควอนจะมีความสุขที่ได้ไปมหาวิทยาลัยในตอนนี้

“มาคุยเรื่องธุรกิจกันเลยเถอะ”

แน่นอนว่าคังชอลอินไม่สนใจสิ่งที่ชายชราควอนกำลังทำในยามว่าง

“ได้สิ ฉันคิดว่าวันนี้เราคงจะได้เป็นพันธมิตรกันอย่างเป็นทางการสักที”

ดวงตาของชายชราควอนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

นักเดินทางข้ามมิติรวมไปถึงรายการไอเทมสิ่งของต่าง ๆ ที่มาจากแพนเจียได้รับความสนใจจากทั่วทุกมุมโลก เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตั้งความหวังกับคังชอลอินไว้สูงกว่าคนอื่น

"แต่ก่อนหน้านั้น…"

แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้พูดคุยถึงข้อตกลงร่วมกัน คังชอลอินตัดสินใจบอกคำขอและเงื่อนไขต่อชายชราควอนซึ่งเป็นเหมือนพื้นฐานของความร่วมมือกันเป็นอย่างแรกออกไปก่อน

“เอาล่ะ พูดมาสักที ฉันรู้สึกเวียนหัวไปหมดแล้วถ้าเธอยังไม่ยอมพูดอะไรออกมา ถ้าฉันตายไปเธอจะรับผิดชอบยังไง ฮึ?”

“นั่นคือชะตากรรมของคุณไม่ใช่ของฉัน ยังมีนักธุรกิจอีกมากมายให้ร่วมมือด้วย”

คังชอลอินตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ

“ฮึ่ม เธอจะดึงเชิงไปเรื่อยกับคนที่เป็นรุ่นพี่เธอแบบฉันน่ะหรอ?”

“ฉันสามารถทำสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าอาชญากรได้ด้วยซ้ำ”

“...เอาล่ะ มาฟังเงื่อนไขของเธอกันเลยเถอะ”

ชายชราควอนตัดสินใจยอมแพ้

“ฉันอยากได้บ้านและรถ”

“บ้านและรถ?”

“ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เป็นคฤหาสน์สักหลัง แต่มันคงไม่สะดวกที่จะหาบ้านแบบนั้นได้ในโซล มันต้องมีขนาดใหญ่กว่า 100 ตารางเมตรและอยู่ในเชตโซโช (เขตอื่นในกรุงโซล) ถ้าเป็นไปได้นะ... อืม เนื่องจากฉันไม่ได้พักอยู่ที่นั่นนานจึงไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่”

“อืม...ก็ไม่ได้ยากสักเท่าไหร่ ฉันยังมีคฤหาสน์ที่ว่างอยู่เปธอเช่าที่นั่นอยู่ไก็ได้ แต่ทำไมต้องอยากได้รถอีกล่ะ? รถที่เธอขี่ในตอนนี้คือมัสแตงใช่ไหม? มันไม่ใช่รถที่แย่เลยสักนิดนี่ ทำไมล่ะ? หรือเธอโดนคนขับแลมโบกินี่เมินมา?”

ชายชราควอนดูเหมือนจะพอรู้อะไรเกี่ยวกับรถยนต์มาบ้าง

“เมินมา? ฮ่า ๆ ๆ”

คังชอลอินระเบิดเสียงหัวเราะในทันใด

“มันก็แค่งานอดิเรกเท่านั้น”

“สะสมรถยนต์น่ะหรอ? ฮ้า… เป็นงานอดิเรกที่แพงมากทีเดียว...เธอเองก็ค่อนข้างฟุ่มเฟือยเหมือนกันนี่น่า … แล้วยังไง อยากได้รถแบบไหน? แอสตันมาร์ตินพวกนี้ไหม?”

“ไปบอกให้เจมส์บอนด์ใช้อะไรแบบนั้นเองเถอะ รถยนต์เหล่านั้นมีไว้ให้สำหรับพวกอันธพาลและโรคจิต”

“อะไรที่ทำให้นายคิดแบบนั้นกัน? แอสตันมาร์ตินน่ะเป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของรถซีดานและรถสปอร์ตเชียวนะ ไม่มีรถคันอื่นที่สามารถเป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษได้เท่ากับแอสตันมาร์ตินแล้ว! รถยนต์เหล่านั้นสมบูรณ์แบบราวกับชุดสูทที่เรียบเท่”

“ฉันไม่ชอบ”

คังชอลอินเป็นคนตรงไปตรงมากับรสนิยมส่วนตัวแม้ว่าเขาจะไม่รู้เหตุผลจริง ๆ ว่าทำไมแต่เขาไม่ชอบแอสตันมาร์ตินเลยสักนิดเดียว

“อืม...เนื่องจากเธอเป็นคนบอกมาเองว่าไม่ชอบมันจึงไม่มีทางเลือกอื่น บอกสิ่งที่เธอต้องการมาโดยตรงเลยเถอะ”

ชายชราควอนพูดอย่างหงุดหงิด

“จากัวร์ เอฟ-ไทป์ คูป”

“หืม...จากัวร์ เอฟ-ไทป์.. เธอรู้วิธีเก็บรถยต์อยู่เหมือนกันนี่น่า แล้วรุ่นปีล่ะ?”

“2013 ถ้าเป็นไปได้  และต้องเป็นสีดำ”

“และแน่นอนว่า…”

“5,000 cc”

“อยู่แล้ว ถ้าเธอเป็นผู้ชายก็ต้องอยากได้เครื่องยนต์ 5,000 cc”

“บ้านและรถทั้งหมดภายในสามชั่วโมงรวมไปถึงการขนสัมภาระของฉันต่าง ๆ สำหรับมัสแตง... บอกให้ลูกน้องคนหนึ่งของคุณย้ายมันไปที่บ้านหลังใหม่ให้ด้วยก็แล้วกัน”

“เฮ้อ … ทั้งหมดภายในสามชั่วโมง”

“ฉันไม่ชอบการเช่า”

“...”

คำขอที่ไร้สาระของคังชอลอินทำเอาชายชราควอนแทบพูดไม่ออกแต่เขาก็ไม่ได้คัดค้านอะไร

แม้มันจะดูเป็นเรื่องยากแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ พวกเขาไม่ได้เรียกชายชราควอนกันว่า “ราชาแห่งโลกใต้ดิน” ไปเพียงเรื่อยเปื่อยและคังชอลอินก็รู้ในเรื่องนั้นดี

“ผู้จัดการโอ”

“ครับบอส”

“ได้ยินแล้วใช่ไหม สามชั่วโมงเท่านั้นนะ”

“ครับ ผมจะรีบดำเนินการให้ในทันที”

ผู้จัดการโอเริ่มเคลื่อนไหวอย่างระวังเมื่อไปเอารถของคังชอลอินและขับออกไปข้างนอก

“พอใจแล้วใช่ไหม?”

“เริ่มกันเลยเถอะ”

คังชอลอินผงกหัวของเขาแล้วหยิบกระเป๋าใบใหญ่มาวางบนโต๊ะพร้อมกับเสียงดัง “ปั้ง!”

“ฉันนำสิ่งของมามากมายที่สามารถผลิตได้มากและหาได้ง่าย วันนี้เราจะพูดถึงสิ่งที่เราใช้กัน”

“อืม มันไม่เสียเปล่าเลยจริง ๆ ที่ซื้อจากัวร์ให้เธอ เยี่ยม มาเริ่มกันเลยเถอะ”

“พวกนี้”

หลังจากวางกระเป๋าลงบนโต๊ะเสร็จแล้วเขาก็พลิกมันคว่ำ ด้วยเสียงที่ทำให้นึกถึงโดมิโน สิ่งของต่าง ๆ จากทวีปแพนเจียต่างก็ทยอยออกมาในทันใด

“โอ้ สิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดมีความสามารถพิเศษด้วยใช่ไหม?”

“แน่นอน ตัวอย่างเช่น...สิ่งนี้ มันคือ'แหวนมืดบอด'”

คังชอลอินหยิบเอาแหวนสีขาวออกมาจากการกระเป๋า

“แหวนมืดบอด?”

“มันจะช่วยทำให้ศัตรูตาบอดได้อย่างแท้จริงไปสามวินาที แม้ว่ามันจะไม่ได้ใช้กับสัตว์ประหลาดมากนัก แต่ฉันคิดว่ามันมีประสิทธิภาพในการป้องกันตัวเองได้ดีทีเดียว”

“แล้วมันใช้ยังไง?”

“แบบนี้”

คังชอลอินว่าพลางสวมแหวนลงไปที่นิ้วชี้ของตัวเองแล้วชี้ไปยังลูกน้องของชายชราควอนคนหนึ่ง

พรึ่บ!

ดูเหมือนจะมีประกายไฟสีขาวจะโผล่ออกมาจากนิ้วชี้ของเขา

“อ๊ากก…”

ลูกน้องคนนั้นจับใบหน้าของตัวเองแล้วกลิ้งตัวลงไปมากับพื้นด้วยความเจ็บปวด

“อ๊ากก ตาฉัน ตาของฉัน!!”

เขากลายเป็นหนูทดลองเพียงเพราะบังเอิญอยู่ในสายของคังชอลอินเข้าพอดี ไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะเรียกคังชอลอินว่าเป็นนักเลงด้วยเหมือนกัน

“นี่เธอ…!”

“มันไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ก็นะ...มันจะมองได้เห็นภาพมากกว่าถ้าได้รับประสบการณ์โดยตรงนี่ จริงไหม?”

แม้ว่าชายชราควอนจะแปลกใจกับการแสดงความสามารถพิเศษจากสิ่งของโดยไม่ทันได้ตระเตรียมตัวมาก่อน แต่หลังจากนั้นอีกสามวินาทีต่อมาลูกน้องคนนั้นก็ดูเหมือนจะฟื้นสายตากลับมาเป็นปกติได้พร้อมด้วยความรู้สึกสับสน

“อืม…มันมีประสิทธิภาพจริงๆ แต่ฉันคิดว่ามันดูตะเกินจริงไปสักหน่อย”

“ฉันคิดว่ามันดีกว่าการใช้แก๊สน้ำตาเพื่อการป้องกันตัว”

“เธอพูดถูก...แต่สิ่งเดียวที่ดีเกี่ยวกับประเทศนี้คือการก้อปปี้และการรับ เนื่องจากปืน ดาบและอาวุธอื่น ๆ ถูกแบน รัฐบาลจะทำทุกอย่างที่แม้จะระยำตำบอนอย่างไรก็จะเอาของพวกนี้ไปจากพวกเราไม่ว่าจะต้องฆ่าหรือไม่ก็ตาม”

ถึงแม้ว่าเขาจะขายปืนให้กับองค์กรอาชญากรจากทั้งจีนและญี่ปุ่น แต่มันก็ฟังเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากถ้ามาจากชายชราควอน

“ก็นะ เพราะปัญหาต่าง ๆ ในอดีตที่ทำให้เกิดขึ้นแบบนี้นี่น่า”

คังชอลอินคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมาของเขาหลังจากชายชราควอนได้นำเสนอหัวข้อการขายออกไป

ตอนนี้มันเร็วเกินไป

เขาต้องการเวลามากกว่านี้

เมื่อข้อมูลจำเพาะและพลังของผู้เดินทางมิติเพิ่มขึ้น อันดับของรายการก็จะสูงขึ้นและการแทรกแซงจากรัฐบาลก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาทำลายโลกใบนี้ทิ้ง

“ถ้าอย่างนั้น...นี่ล่ะ”

เขาได้นำสิ่งของมามากมายหลายรายการและแม้ว่าบางรายการจะไม่ถูกใช้ในการโจมตีแต่ก็อาจมีบางอย่างที่สามารถผลิตได้จำนวนมาก

จากนั้นบทสนทนาก็เริ่มยาวมากขึ้นเรื่อย ๆ

“นี่อะไร?”

“หืม...ไม่เอาอันนี้”

“แพงมาก”

“ถ้าเธอขายสิ่งนี้เธอมีปัญหาแน่”

มีการพูดคุยกันมากมายเกิดขึ้น

“แล้วนี่อะไร? ไว้เพื่อสำหรับดื่มหรือนำไปใช้กับผิวหนังหรือเปล่า?”

ชายชราควอนหยิบขวดที่บรรจุของเหลวคล้ายนมไว้ข้างในแล้วก็เขย่า

“มันดูเหมือน”พวกนั้น“แน่ใจนะว่านี่ไม่ใช่ยา?”

คังชอลอินรู้ดีกว่าชายชราควอนกำลังคิดอะไร

ชายชราควอนกำลังคิดว่าสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นเป็นสิ่งที่คล้ายกับโปรโพฟอล (ยาที่ฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อกล่อมประสาท) แน่นอนว่าคนที่ได้ชื่อราชาแห่งโลกใต้ดินจะต้องรู้จักของสิ่งนี้เป็นอย่างดี

“เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ”

เขายิ้มเยาะ

“คนที่คุ้นเคยก็จะมองเห็นเป็นสิ่งนั้น”

“อะแฮ่ม ๆ”

ชายชราควอนเริ่มส่งเสียงไอปลอม ๆ พร้อมด้วยใบหน้าที่อับอาย

“นี่เป็นของเหลวสกัดจากต้นไม้พูดคุย”

คังชอลอินอธิบาย

“ต้นไม้พูดคุย? สกัด?”

“อย่างที่บอก มันเป็นของเหลวที่นำมาจากต้นไม้พูดคุย”

“แล้วต้นไม้พูดคุยคืออะไร?”

“ต้นไม้ที่พูดได้”

“...ไม่น่าเชื่อ”

“ไม่ใช่เพราะว่าพวกมันมีความคิดถึงพูดได้ พวกมันเพียงอ่านคลื่นสมองของมนุษย์ที่อยู่ใกล้ ๆ หลังจากนั้นทั้งต้นไม้และคนก็จะสามารถพูดคุยกันได้ดังนั้นผู้คนจึงตัดสินใจเรียกมันว่าต้นไม้พูดคุย”

“โอ้ แพนเจียช่างมีหลายสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจจริง ๆ น่าสนใจ ๆ …แล้วของเหลวนี้เอาไว้ทำอะไร?”

“คุณสามารถเรียนได้ทุกภาษา”

“อะไรนะ?!”

ร่างกายของชายชราควอนสั่นขึ้นมาในทันใด

“จ จริงเหรอ? ไหนอธิบายให้ละเอียดอีกทีสิ”

“หลังจากดื่มสิ่งนี้เข้าไปแล้วคุณจะสามารถนึกถึงภาษาต่าง ๆ ได้ มันก็เหมือนกับการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับภาษานั้น ๆ ผ่านทางร่างกาย หากคุณดื่มวันละหนึ่งครั้ง คุณจะสามารถเรียนรู้ได้หนึ่งภาษาภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์ หากเป็นสิ่งที่หลายคนพูดกันเช่นจีนหรืออังกฤษจะใช้เวลาประมาณ 3 - 4 วัน”

"นี่แหละ! อันนี้แหละ!”

“... ?”

“มาทำสิ่งนี้กันเถอะ!”

“อันนี้มันดีจริง ๆ น่ะเหรอ?”

"แน่นอนสิ! เกาหลีเป็นสวรรค์ของนักวิชาการเช่นเดียวกับการศึกษา สิ่งต่าง ๆ เช่น โทอิค (การทดสอบภาษาอังกฤษสำหรับต่างประเทศ) ทำให้มีคนต้องใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก ด้วยสิ่งนี้เราจะสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลเลยล่ะ!”

“... !”

จากคำพูดของชายชราควอน คังชอลอินดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้เช่นกัน

ใช่แล้ว เกาหลีใต้เป็นสวรรค์แห่งการศึกษาอย่างแท้จริง ที่นี่เป็นประเทศที่ผู้คนจะมีหนี้สินล้นตัวและเสี่ยงต่ออนาคตเพียงเพื่อให้ลูกหลานของพวกเขาได้รับการศึกษาที่ดียิ่งขึ้น การขายสิ่งนี้ให้กับประเทศเช่นนี้จะสามารถครองตลาดทางการศึกษาได้ และไม่ใช่แค่ที่เกาหลีแต่ยังรวมไปถึงประเทศอื่น ๆ ได้อีกเช่นกัน

“และไม่จำเป็นต้องไปกังวลเกี่ยวกับกฎข้อบังคับอีกด้วย ถ้ามันดีต่อการศึกษาของลูก ๆ พวกเขาจริง พ่อแม่ชาวเกาหลีทุกคนจะยอมให้ลูกตัวเองได้กินทุกอย่าง หากรัฐบาลพยายามเข้ามาควบคุมสิ่งนี้พวกเขาจะได้ลิ้มรสยาเป็นของตัวเองแน่นอน คิ ๆ ๆ”

ชายชราควอนพูดราวกับว่าเขาได้บรรลุความฝันของเขาไปเรียบร้อยแล้ว

“ฉันจะสร้างสถาบันการศึกษา ฉันจะให้นักเรียนดื่มของเหลวนี้และจัดทำหลักสูตรสำหรับพวกเขา!”

“เช่นเดียวกับธุรกิจสำหรับนักผจญภัย”

“ใช่แล้ว! ตอนนี้ฉันเข้าใจสิ่งที่เธอกำลังพูดถึงได้อย่างชัดเจนแล้ว ธุรกิจนี้จะเป็นธุรกิจดั่งห่านที่ออกไข่ทองคำได้อย่างแท้จริง! มีความเป็นไปได้ที่เราจะได้ไข่ทองคำมาโดยไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการให้ลองสัมผัสกับประสบการณ์การใช้ของเหลวนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้คน มันก็จะง่ายขึ้นเมื่อมีสินค้าใหม่ ๆ มาวางขาย”

“มันแค่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นนะคุณควอน คุณไม่จำเป็นต้องลองหรือเร่งรีบ”

“อย่างไรมันก็ต้องมีกฎระเบียบ แม้ว่าแผนโรงเรียนแบบนี้จะดีแต่ก็ต้องมีกฏและข้อบังคับในการต่อสู้อีกเช่นกัน”

เขาพูดถูก

มันจะเป็นการต่อสู้และเป็นการต่อสู้ที่ยากและยาวนานเสียด้วย

แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ชัดเจน การใช้ชีวิตของคนเราก็เหมือนกับการใช้ชีวิตในสนามรบที่โหดร้าย มันเป็นสังคมแห่งการต่อสู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อได้ออกมาจากท้องแม่แล้ว ทุกโอกาสที่เข้ามาล้วนแต่เป็นการแข่งขันไปโดยสิ้นเชิง

เริ่มจากการต่อสู้เพื่อให้ได้เข้าเรียนในวัยเด็กไปจนถึงการต่อสู้เพื่อให้ได้มีงานทำในวัยผู้ใหญ่ การต่อสู้เพื่อให้ได้งานหลังจากจบมหาวิทยาลัยและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเกาหลีในยุค 2020 ที่เป็นยุคแห่งการแข่งขันยิ่งทวีคูณถึงความโหดร้าย

เมื่อต้องอยู่ในยุคแบบนี้พวกเขาจำเป็นต้องทำสงครามด้วยทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้

“ฉันจะช่วยคุณเอง” คังชอลอินกล่าว

“อย่างไรก็ตามฉันจะไม่ทำทุกอย่างอย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่การต่อสู้ของฉันแต่เป็นของคุณ คนที่ควบคุมธุรกิจนี้จะเป็นคุณไม่ใช่ฉัน”

การต่อสู้ของคังชอลอินคือที่ทวีปแพนเจีย เขาไม่มีเวลามาทำสงครามกับพลเรือนบนโลก

“ฉันเข้าใจคำพูดของเธอดี”

ชายชราควอนกำมือที่มีแต่รอยเหี่ยวย่นจนแน่น

“ปล่อยให้ฉันจัดการเถอะ ฉันจะประสบความสำเร็จได้แน่”

“แน่นอนว่าคุณจะต้องประสบความสำเร็จ ถ้าหากคุณล้มเหลว…”

“เธอก็จะเปลี่ยนคู่ค้าทันที”

“คุณรู้จักฉันดี”

“การได้มองไปที่เธอก็เหมือนกับการได้มองพี่ชายของฉันที่เพิ่งเสียไปเมื่อปีกลาย”

“...?”

ชายชราควอนเริ่มพูดถึงอดีต

“เขาไม่ได้เป็นแค่นักธุรกิจแต่เป็นถึงจักรพรรดิ เขามีเสน่ห์มากกว่าใครและเข้มงวดในการบริหารจัดการอย่างมาก ฉันรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรถ้าฉันล้มเหลว แต่ฉันก็รู้ว่าเธอจะปฏิบัติต่อฉันอย่างไรหากพวกเราประสบความสำเร็จ”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ชายชราควอนก็พูดต่อว่า

“ขอบคุณ”

“...?”

“จากบทสนทนาในวันนี้ ฉันสามารถบอกได้เลยว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจและธุรกิจในอนาคตของเราจะเป็นไปเช่นไร ด้วยสิ่งนี้ฉันจะสามารถออกจากนรกและกลับคืนสู่ความใสสะอาดได้อย่างแท้จริง ในที่สุดความฝันของฉันก็ได้เป็นจริงสักที สำหรับการทำให้ฉันรอดพ้นจากชะตากรรมการเป็นอาชญากรมาได้นั้น ต้องขอบคุณเธอมากจริง ๆ”

คังชอลอินไม่ได้ตอบอะไรกลับเพราะเขาไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับบทสนทนาเหล่านี้มากสักเท่าไหร่นัก

“แล้วอย่าลืมเอาเนื้อนี่ไปกินด้วยล่ะ”

"นี่คืออะไร? มันเป็นสเต็กหรือเปล่า? เธอกำลังพยายามฟื้นฟูชายชราคนนี้อยู่ใช่ไหม?”

“เนื้อมังกร”

“...!”

“มันดีต่อสุขภาพของคุณ ไม่ต้องไปกินพวกโสมหรือไวอากร้าแล้วกินสิ่งนี้ไปแทน”

“ฉันไม่ได้กินไวอากร้าสัก...หน่อย…”

ชายชราที่พยายามหาข้อแก้ตัวแต่ในขณะเดียวกันโทรศัพท์ของคังชอลอินก็เริ่มส่งเสียงดังขึ้นแทรก มันคือข้อความที่มาจากปาร์คดูชิก

“...”

ทันทีที่ได้เห็นข้อความ ใบหน้าของคังชอลอินก็แข็งทื่อและแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งไปในทันที

.

.

สามารถกดติดตามเพื่อรับอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับนิยายได้ก่อนใครที่ทาง แปลได้แปลเถอะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด