GE458 นักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุด [ฟรี]
เมื่อหนิงฝานทาบฝ่ามือลงบนกระถางปรุงโอสถ ความเย็นราวกับน้ำแข็งแล่นผ่านมือ
เขากระตุ้นจิตวิญญาณสมุนไพร วังวนกลุ่มหนึ่งก่อตัว ดูดซับเอาปราณสมุนไพรที่หนาแน่นในกระถางเข้าสู่ร่าง
จิตวิญญาณสมุนไพรสีคราม ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำ หากจิตวิญญาณสมุนไพรเปลี่ยนเป็นสีดำโดยเหลือสีครามอยู่เพียงเสี้ยวหนึ่ง เมื่อนั้นเขาจะบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุด
นักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 จะมีจิตวิญญาณสมุนไพรเป็นสีคราม นักปรุงโอสถผันแปรที่ 6 มีจิตวิญญาณสมุนไพรเป็นสีดำ และนักปรุงโอสถผันแปรที่ 7 มีจิตวิญญาณสมุนไพรเป็นสีม่วง
หากจิตวิญญาณสมุนไพรของหนิงฝานเป็นสีดำโดยสมบูรณ์ เมื่อนั้นเขาจะบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 6 ซึ่งในโลกพิรุณมีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
และหากวิชาปรุงโอสถของเขาบรรลุระดับเดียวกันกับดวงจิต เขาก็จะมีสถานะเกือบจะเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก
ยามนี้เขารู้สึกทราบซึ้งในบุญคุณของกษัตริย์โอสถเป็นอย่างมาก และยิ่งทราบซึ้งในบุญคุณของหานหยวนจี๋เป็นเท่าทวี
เขาจะไม่ทำให้สิ่งที่หานหยวนจี๋ต้องแลก เพื่อให้กษัตริย์โอสถมาชี้แนะเขาต้องสูญเปล่า
“ดูดกลืน!” แววตาหนิงฝานเด็ดเดี่ยว และเร่งการดูดซับให้รวดเร็วขึ้น
เขาไม่รู้ว่าชายชราปรุงโอสถผันแปรที่ 6 โดยใช้กระถางปรุงโอสถนี้ไปมากมายเท่าไหร่ ถึงได้มีปราณสมุนไพรมากมายขนาดนี้
เมื่อดูดซับไปได้ถึง 1 ใน 20 ส่วน หนิงฝานเริ่มรู้สึกเจ็บที่จิตวิญญาณสมุนไพร ราวกับมันไม่อาจต้านปราณสมุนไพรที่ทรงพลังได้ แต่เขาก็ยังขบฟันดูดซับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อดูดซับเข้ามาได้ถึง 1 ใน 10 ส่วน เขารู้สึกราวกับว่าจิตวิญญาณสมุนไพรของเขากำลังจะระเบิด ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เขาขมวดคิ้วแน่น แต่ไม่ได้ปริปากกล่าวคำใดๆ
หนิงฝานยังคงกัดฟันดูดซับปราณสมุนไพรในกระถางเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง
“เด็กคนนี้อดทนได้ดีมาก...” ชายชราพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ชายชราพอใจในความสามารถและความอดทนของเขา ยามที่มองหนิงฝาน ทำให้ชายชรานึกย้อนกลับไปวัยเด็ก
เส้นทางของการปรุงโอสถนั้นไม่ง่าย หากไร้ซึ่งความอดทน ก็ไม่อาจก้าวไปยังจุดสูงสุดได้...
เมื่อยามที่กษัตริย์โอสถอายุได้ 7 ขวบ ชายชรายังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง ยามนั้นชายชราอยู่ท่ามกลางสงคราม รอบข้างมีเพียงเศษซากสงคราม เปลวเพลิงห้อมล้อม ต้องกินซากศพของผู้ที่ตายเพื่อประทังชีวิต
อยู่มาวันหนึ่ง บุรุษในอาภรณ์ม่วงได้ปรากฏแล้วยิ้มให้ชายชราด้วยควาามเมตตา
“เหตุใดเจ้าถึงกินซากศพคนเหล่านั้น?”
“ข้าไม่ได้อยากจะกิน!” ชายชรากล่าวตอบ
“เจ้าอยากจะติดตามข้าหรือเปล่า? ข้ามีวิชาปรุงโอสถจะถ่ายทอดให้ ทำให้เจ้าไม่ต้องกินซากศพของคนเหล่านั้น ทั้งยังยืนอยู่เหนือกว่าผู้คนนับหมื่น”
รอยยิ้มของบุรุษผู้นั้นประทับลงไปในใจของชายชรา ทำให้ชายชรารู้สึกอบอุ่นราวกับบุรุษผู้นั้นคือบิดาของตน
เมื่อยามนั้นชายชราไม่รู้ว่าบุรุษที่ยิ้มให้ตนนั้นคือกษัตริย์พิรุณรุ่นก่อน
กษัตริย์พิรุณผู้นั้นยกระดับพลังล้มเหลวจึงต้องตายไป ยามนั้นกษัตริย์โอสถโศกเศร้าเป็นอย่างมาก แต่ชายชราก็ยังยึดถือคำสอนของกษัตริย์พิรุณรุ่นก่อน จนทำให้ก้าวมาถึงทุกวันนี้ได้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา กษัตริย์โอสถไม่เคยรับผู้ใดเป็นศิษย์ เพราะยังไม่พบผู้ใดที่เหมาะสม
ในโลกพิรุณมีนักปรุงโอสถนับหมื่น แต่ผู้ที่เหมาะสมจะเป็นศิษย์ของกษัตริย์โอสถกลับไม่มี
ยามนี้ชายชราได้พบกับคนผู้นั้นแล้ว แต่น่าเสียดายที่คนผู้นั้นมีอาจารย์อยู่ก่อนแล้ว
“ไป!”
ชายชราขยับมือเป็นท่าทาง ก่อนลำแสงสายหนึ่งจะผสานเข้าไปในร่างหนิงฝาน ช่วยหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณสมุนไพรที่กำลังบวมเป่งของเขา
แม้ชายชราไม่อาจช่วยหนิงฝานลดทอนความเจ็บปวด แต่ชายชราสามารถรักษาจิตวิญญาณสมุนไพรที่เสียหายได้
ชายชรายังจดจำวันนั้นในอดีตได้ วันที่ชายชราดูดซับปราณสมุนไพรจากกระถางปรุงโอสถของกษัตริย์พิรุณรุ่นก่อน แม้จะได้กษัตริย์พิรุณช่วย แต่ชายชรายังดูดซับปราณได้เพียง 3 ใน 10 ส่วนเท่านั้น
ดังนั้นชายชราจึงตัดสินใจจะช่วยหนิงฝาน เหมือนกับอาจารย์ที่เคยช่วยเหลือตนในอดีต
แต่ในขณะที่ชายชรากำลังช่วยหนิงฝานอยู่นั้น ชายชรากลับสัมผัสพบดาราแก่นชีวิตสีดำของหนิงฝาน ที่กำลังเร่งการรักษาจิตวิญญาณสมุนไพรอยู่
แม้หนิงฝานจะมีดาราทมิฬช่วยรักษา แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงความช่วยเหลือของกษัตริย์โอสถ ทำให้เขาทราบซึ้งใจมาก
หนิงฝานขบฟันอดทนกับปราณที่ได้มา และความเจ็บที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม้จิตวิญญาณสมุนไพรของเขาจะปริแตก แต่กษัตริย์โอสถก็ช่วยรักษาให้
เพียงแต่ความเจ็บที่ยากจะทนทานนั้น ทำให้หนิงฝานต้องกัดฟันแน่น เส้นโลหิตบนหน้าผากปูดโปน
“ดูดซับ!” แต่ถึงจะเจ็บปวด หนิงฝานกลับไม่หวาดกลัว เขาเร่งดูดซับปราณสมุนไพรเหล่านั้นเข้ามาแล้วผสานเข้าจิตวิญญาณสมุนไพร จนมันเปลี่ยนเป็นสีดำไปถึง 3 ใน 10 ส่วนในเวลาไม่นาน
ยิ่งดูดซับหนิงฝานยิ่งมั่นใจว่าเขาจะสามารถทะลวงระดับนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุดได้ เพราะปราณสมุนไพรของชายชรามีมากเกินพอ
หนิงฝานตัดสินใจเด็ดเดี่ยว ชั่วพริบตานั้น อาภรณ์ขาวสวมกายกลายเป็นอาภรณ์ดำ แววตาแปรเปลี่ยนเย็นชา ราวกับไม่สนใจสิ่งใด
หนิงฝานเปลี่ยนเป็นร่างวิญญาณ เพื่อให้ทนกับความเจ็บปวดได้มากที่สุด
“ดูดซับ!”
ปราณที่อยู่ภายในกระถางปรุงโอสถของชายชราถูกดูดกลืนเข้าร่างหนิงฝานจนหมด
ความเจ็บเพิ่มพูนจนยากที่ร่างกายจะทนได้ กระทั่งระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิตสีดำ
แต่แล้วหมอกโลหิตเหล่านั้นก็ผสานกลับเป็นร่างของหนิงฝานขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับร่างไม่เคยระเบิดมาก่อน
ระเบิด...ก่อตัว ระเบิด...ก่อตัว เป็นเช่นนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระทั่งหนิงฝานค่อยๆดูดซับปราณสมุนไพรมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไม่นานนัก จิตวิญญาณสมุนไพรของหนิงฝานก็กลายเป็นสีดำเกือบจะทั้งหมด เหลืออีกเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้นที่ยังเป็นสีคราม
จิตวิญญาณสมุนไพรของหนิงฝานบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุดแล้ว
“ดีมาก!”
ชายชราที่คอยเฝ้ามองกล่าวชม เขาไม่ทำให้ชายชราผิดหวัง
ความอดทนของเขามากเสียยิ่งกว่ากษัตริย์โอสถซะอีก
“คราวนี้ลองใช้จิตวิญญาณสมุนไพรของเจ้าสร้างกระถางปรุงโอสถแห่งชีวิตขึ้นมา” ชายชรากล่าว
“ขอรับ!”
หนิงฝานหลับตา กระตุ้นเจตจำนงค์แห่งความทรงจำ หิมะที่โปรยปรายรอบข้างกลายเป็นสีดำทมิฬ
“นี่มัน!” ชายชราประหลาดใจ หนิงฝานมีทั้งเจตจำนงค์เทพ ปีศาจ และอสูร ทั้งหมดผสานรวมเป็นหนึ่งกระทั่งบรรลุถึงขอบเขตสมบูรณ์แบบ ที่แค่คิด หิมะรอบตัวก็กลายเป็นสีดำทมิฬ
หิมะแต่ละชิ้นแฝงด้วยพลังแห่งความทรงจำที่ทรงพลัง หนิงฝานไม่ได้ปิดบังใดๆต่อชายชรา เพราะชายชราก็เปรียบเสมือนอาจารย์ของเขาคนหนึ่ง
แม้ว่าที่กษัตริย์โอสถยอมถ่ายทอดวิชาให้เป็นเพราะหานหยวนจี๋ แต่หนิงฝานก็ยังรู้สึกทราบซึ้งใจอยู่ดี
ยามนี้ ในหัวของหนิงฝานนึกถึงแค่เพียงกระถางแยกโอสถ เขานำมันออกมาจากกระเป๋า
กระถางปรุงโอสถใบนี้เคยเป็นของหานหยวนจี๋ แม้ว่าระดับของมันจะไม่สูง แม้มันจะไม่เป็นประโยชน์กับเขายามนี้ แต่มันก็เปี่ยมไปด้วยความทรงจำในคราวที่ยังอยู่ในเมืองฉีเหม่ย
ดังนั้น หนิงฝานจึงอาศัยความทรงจำของมัน สร้างมันขึ้นมาเป็นกระถางปรุงโอสถแห่งชีวิตของเขา
“สหายข้า!”
หนิงฝานถ่ายพลังแห่งความทรงจำเข้าไปในกระถางแยกโอสถ จากนั้น ภายในทะเลสติของหนิงฝานค่อยปรากฏกระถางปรุงโอสถสีดำ
“ปรากฏ!”
กระถางปรุงโอสถสีดำปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหนิงฝาน ผสานกับพลังแห่งความทรงจำ ทำให้ได้กระถางที่ทรงพลังขึ้นมา
กษัตริย์โอสถได้เป็นประจักษ์พยานในการสร้างกระถางปรุงโอสถแห่งชีวิตของหนิงฝาน ชายชรายิ้มอย่างพอใจ
“กระถางของเจ้าสมบูรณ์แบบ แต่เหตุใดเจ้าถึงสร้างเลียนแบบกระถางปรุงโอสถนั้น ทั้งๆที่เจ้าสามารถสร้างเป็นกระถางอื่นก็ได้?”
“เพราะกระถางปรุงโอสถนี้เป็นของอาจารย์ข้า แม้ระดับของมันไม่สูงส่ง แต่มันมีความหมายกับข้ามาก”
“ดีมาก! เช่นนั้นข้าจะมอบให้ผลแห่งความฝันให้เจ้าเป็นอย่างสุดท้าย!”
ชายชรายื่นผลแห่งความฝันให้หนิงฝาน และนั่นก็ทำให้เขานึกถึงชายชราต้นไม้ และปีศาจสมุนไพรน้อยในนิกายกุ่ยเชว่
“ข้าขอถามผู้อาวุโส ท่านได้ผลไม้พวกนี้มาจากไหน?”
เหตุที่หนิงฝานถาม เพราะผู้ที่จะมีผลแห่งความฝันนั้น มีเพียงชายชราต้นไม้คนเดียวเท่านั้น
นอกจากสุสานในนิกายกุ่ยเชว่แล้ว ก็ไม่มีที่ใดที่มีผลแห่งความฝัน
“เมื่อยามที่ข้าไปเผ่าเขาคู่ ข้าบังเอิญได้มาจากการประมูล”
คำตอบของชายชราทำให้หนิงฝานประหลาดใจ เหตุใดเผ่าเขาคู่ถึงมีผลแห่งความฝัน
แต่หนิงฝานไม่มีเวลาให้ขบคิด เพราะชายชรานำหนิงฝานไปยังหุบเขาแห่งหนึ่ง สร้างถ้ำและลงผนึกป้องกันเอาไว้
หากเขากินพวกมันเข้าไป เขาจะนอนหลับไป 100 ปีในโลกแห่งความฝัน
ซึ่งชายชราก็ถือโอกาสนี้ ใช้วิชาแห่งความฝัน เข้าไปสอนวิชาปรุงโอสถให้
แม้จะกล่าวว่าหลับไหลไป 100 ปี แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงผ่านไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
หนิงฝานเชื่อว่าชายชราจะไม่ทำร้ายตน เพราะหากชายชราจะทำจริงๆ เขาก็ไม่อาจขัดขืน
เมื่อหนิงฝานเข้าสู่โลกแห่งความฝัน ชายชราก็เข้าสู่โลกแห่งความฝันของหนิงฝานเช่นเดียวกัน
ภายในโลกแห่งความฝันนั้น หนิงฝานยืนอยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่ง รอบข้างเต็มไปด้วยสมุนไพรราวกับไร้สิ้นสุด
ในโลกแห่งความฝันนี้ ไม่ว่าเขาอยากจะได้อะไร เขาก็จะได้ทุกอย่าง ซึ่งมันเหมาะกับการยกระดับการปรุงโอสถเป็นอย่างมาก
แม้ว่าที่นี่จะช่วยให้ยกระดับวิชาปรุงโอสถไปได้ แต่มันก็ไม่ใช่การปรุงโอสถจริงๆ
*ตึง*
หนิงฝานนำกระถางแยกโอสถขนาดยักษ์ออกมา นำสมุนไพรจำนวนมากในหุบเขาใส่ลงไปแล้วเริ่มปรุงโอสถ ไม่ไกลนัก กษัตริย์โอสถเฝ้ามองหนิงฝานราวกับไม่ยอมให้ผู้ใดมารบกวน
“แบบนั้นไม่ถูกต้อง เจ้ามีวิชาปรุงโอสถ 3 วิชา เจ้าต้องเลือกมา 1 เพื่อเชี่ยวชาญมันให้มากที่สุด...”
“อุณภูมิของเพลิงยังสูงไปนิด ลดลงอีก...”
“ใช้สัมผัสเทพสร้างโอสถแทนจิตวิญญาณสมุนไพร...”
เมื่อผ่านพ้นไป 100 ปี หนิงฝานก็ตื่นจากความฝัน
ตลอด 100 ปีที่ผ่านมาเขาได้ประสบการณ์และความรู้มากมายจากการปรุงโอสถ จนทำให้เขาบรรลุระดับนักปรุงโอสถผันแปรขั้นสูงสุด และยามนี้ ที่โลกภายนอกผ่านไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
หนิงฝานหันมองรอบๆ ยามนี้กษัตริย์โอสถไม่อยู่แล้ว ชายชราทิ้งไว้เพียงกระเป๋าใบหนึ่ง ซึ่งมีสมุนไพรทั้งหมดที่ชายชราใช้ตั้งร้านขาย
แม้ว่าสมุนไพรแสนปี 3 ชนิดที่เขาไม่สามารถรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของมัน ชายชราก็ทำลายการอำพรางของมันให้
นอกจากกระเป๋าแล้ว ชายชรายังได้ทิ้งแผ่นหยกเอาไว้ให้เขา
“ข้าจะท่องตระเวณไปทั่วโลกเพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจในวิชาปรุงโอสถ หากวันใดเจ้าบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 6 ข้าจะชี้แนะเจ้าอีกครั้ง ระวังตัวด้วย...”
หนิงฝานนิ่งเงียบก่อนจะเดินออกไปปากถ้ำแล้วป้องมือขึ้น
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ชี้แนะข้า!”
หากไม่ได้กษัตริย์โอสถช่วย เขาคงไม่อาจบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุดได้ง่ายขนาดนี้
ชายชราทั้งปลุกเนตรแห่งความจริง ช่วยให้เขาสร้างกระถางปรุงโอสถแห่งชีวิติ ถ่ายทอดวิชาดวงจิตต่อสู้ สอนการปรุงโอสถ และยังให้สมุนไพรล้ำค่าอีกมากมาย
หนิงฝานก้าวเดินมาในเส้นทางของเต๋าแห่งโอสถโดยลำพัง ไร้ซึ่งผู้ชี้แนะ จึงทำให้การปรุงโอสถของเขาไม่สมบูรณ์
แต่ด้วยการชี้แนะของกษัตริย์โอสถเป็นเวลา 100 ปี ทำให้การปรุงโอสถของหนิงฝานพัฒนาไปมาก จนนอกจากนักปรุงโอสถผันแปรที่ 7 แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสู้หนิงฝานได้
หนิงฝานยังคงไม่จากไป เขานั่งอยู่ภายในถ้ำต่อ เพื่อทำให้จิตวิญญาณสมุนไพรของเขาเสถียร และทบทวนสิ่งที่กษัตริย์โอสถได้สอนไป
ผ่านไป 20 วัน… เมืองหลวงของเผ่าปีศาจคึกครื้น
ภายในเมืองได้มีการสร้างเวทีสูงนับหมื่นจ้าง บนเวทีมีเสาขนาดใหญ่สี่เสา เป็นสมบัติของเกาะโอสถที่ให้เผ่าปีศาจยักษ์หยิบยืมใช้ในการจัดงาน
บนเวทีมีนักปรุงโอสถจำนวนมาก ชวี่ฉิง ตงสู่ ผู้นำและผู้อาวุโสใหญ่เกาะโอสถก็อยู่บนนั้นในบริเวณที่นั่งที่จัดเตรียมไว้เป็นพิเศษ
ผู้อาวุโสใหญ่ของเกาะโอสถเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูงสุด และเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ระดับสูง
ชายชราเป็นนักปรุงโอสถที่มีชื่อเสียง และมีความมั่นใจว่าจะผ่านเข้ารอบที่ 3 ได้
ที่ใจกลางเวที ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าปีศาจยักษ์ ทำหน้าที่จัดการการทดสอบในรอบแรก
นักปรุงโอสถที่ต้องการเข้าร่วมนั้น ต้องลงทะเบียน และเข้าสู่การทดสอบระดับนักปรุงโอสถโดยใช้สมบัติของเกาะโอสถ
หากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 1 จะทำให้เสาเปล่งแสง 1 สี
หากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 จะทำให้เสาเปล่งแสง 4 สี
และแต่ละสีนั้นก็จะมีมาตรวัดขนาดเล็ก เอาไว้ใช้เป็นเกณฑ์วัดระดับของการปรุงโอสถ
ทันทีที่นักปรุงโอสถตรวจสอบวัดระดับ ผู้อาวุโสใหญ่ก็จะบอกผลการทดสอบทันที
“นักปรุงโอสถผันแปรที่ 2 ไม่ผ่าน!”
“นักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ขั้นกลาง ผ่าน!”
“นักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ขั้นต้น ผ่าน!”
ผู้ที่ต่ำกว่านักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 จะถูกคัดออกทันที
ทุกครั้งที่มีนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ปรากฏตัว ผู้คนจะส่งเสียงโห่ร้องยินดี เพราะนักปรุงโอสถระดับนั้น นับว่าหาได้ยาก อย่างน้อย 5000 คนถึงจะมีสักคน
แม้ว่าจำนวนผู้เข้าร่วมงานจะมีมาก แต่ด้วยความเร็วในการทดสอบ คาดว่าไม่ถึงวันอาจทราบผลทดสอบของรอบแรก
“แตงกวาน้อยไปไหน? ได้ข่าวว่าเขาพบกษัตริย์โอสถ และได้เป็นศิษย์ของกษัตริย์โอสถ ถ้าเรื่องนั้นเป็นจริงคงดี หวังว่าเขาจะไม่เป็นอันตราย”
“น้องเขย...” แววตาของฉุ่ยเยวียนเผยความกังวล
“คุณชายซัวมีวิหารพิรุณและตระกูลซัวคอยปกป้อง ท่านต้องไม่เป็นอันตรายแน่...” เฟินซื่อกล่าว แต่นางก็ยังอดกังวลไม่ได้
“พี่เยว่วางใจเถอะ เดี๋ยวท่านพี่ก็มา...” ฉุ่ยหลิงกล่าว นางรู้จักนิสัยหนิงฝานดี ในเมื่อเขาบอกว่าจะเข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาต้องมาแน่
“เดี๋ยวนะ! นี่มัน!”
แต่แล้วบริเวณเวทีก็มีเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจดังขึ้น...