GE457 คราวเคราะห์ของเผ่าเนตรปีศาจ [ฟรี]
หนิงฝานขบคิดถึงสิ่งที่กษัตริย์โอสถจะสอนให้ บางทีอาจมีวิธีใช้จิตวิญญาณสมุนไพรรวมอยู่ด้วย
เพียงแต่สิ่งที่กษัตริย์โอสถแสดงให้ดูนั้น เป็นวิชาทั่วๆไปที่ผู้ครอบครองจิตวิญญาณสมุนไพรก็สามารถทำลายการอำพรางของสมุนไพรได้ วิธีนี้ซีหลานสอนเขาแล้ว
หนิงฝานหยิบสมุนไพรชนิดนั้นมา แต่เมื่อมองดูดีๆมันกลับไม่ใช่สมุนไพรที่เขากำลังตามหา ดังนั้นเขาจึงกระตุ้นจิตวิญญาณสมุนไพรของตนอีกครั้ง มันจึงเริ่มแปรเปลี่ยนรูปร่างอย่างช้าๆ
เหตุการณ์นี้ทำให้หนิงฝานได้เรียนรู้ว่า สมุนไพรไม่ได้ปิดบังอำพรางตนแค่ชั้นเดียว
ยกตัวอย่างเช่นสมุนไพรที่หนิงฝานถือ มันคือบุบผาชนิดหนึ่ง ซึ่งมันปลอมตัวเป็นเห็ดธรรมดา แต่มันก็ยังปลอมตัวเป็นรกหมื่นปีอีกชั้นเพื่อปิดบังอำพราง
ซึ่งหากนำมันไปปรุงโอสถโดยไม่ทราบว่ามันคือสมุนไพรชนิดใด จะทำให้การปรุงโอสถล้มเหลว และสมุนไพรชนิดอื่นๆจะสูญเปล่า
ดังนั้น การจะเลือกสมุนไพรต้องกระทำอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก
เมื่อชายชราเห็นว่าหนิงฝานเข้าใจ ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจพลางกล่าว
“ประโยชน์ของจิตวิญญาณสมุนไพรนั้น อย่างแรกคือสามารถทำลายการอำพรางของสมุนไพรได้... สมุนไพรนั้นไม่ได้มีการอำพรางแค่ชั้นเดียวเสมอไป ฉะนั้น ก่อนจะเลือกสมุนไพรใดๆ เจ้าต้องระวังให้มาก”
ชายชราขยับนิ้วเป็นท่าทาง ก่อนที่แสงสีม่วงจะยิงตรงเข้ากลางหน้าผากของหนิงฝาน
แม้จะประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน เพราะเขารู้ว่าชายชรากำลังถ่ายทอดวิชาให้ ซึ่งเมื่อแสงนั้นเข้าไปยังทะเลสติ มันก็กลายเป็นคำชี้แนะของชายชรา
“ดวงตาที่มองเห็นเต๋าแห่งสวรรค์นั้นเรียกว่า ‘เนตรส่องสวรรค์’... เนตรที่ทรงพลังมากพอให้พลิกผืนดินและมหาสมุทรได้นั้น เรียกว่า ‘เนตรคว่ำพิภพ’... เนตรที่มองเห็นซึ่งความจริงหรือสื่งลวง เรียกว่า ‘เนตรแห่งความจริง’ หากไร้ซึ่งเนตรเหล่านั้น ก็เป็นได้เพียงดวงตาธรรมดาทั่วไป ฉะนั้น ข้าจะช่วยเจ้าปลุกเนตรแห่งความจริง… นับเป็นครั้งแรกที่ข้าจะทำเช่นนี้ให้กับผู้อื่น” เสียงของชายชราดังก้องอยู่ภายในทะเลสติของหนิงฝาน
หลังฝานหลับตา โคจรปราณไปตามชายชราชี้แนะ ไม่นานเขาก็รู้สึกเจ็บที่หน้าผาก ก่อนจะมีดวงตาที่ 3 ปรากฏขึ้น
หนิงฝานตกตะลึง เขาเข้าใจบางสิ่ง ดวงตาที่ปรากฏกลางหน้าผากคือเนตรของเผ่าปีศาจ และชายชราได้กระตุ้นมันให้กลายเป็นเนตรแห่งความจริง
ไม่ว่าผู้ใดจะซ่อนอำพราง ก็ไม่อาจหลบเนตรนี้พ้น
หนิงฝานลองหันมองสมุนไพร ดวงตาเปล่งแสงสีดำส่องกระทบสมุนไพรอย่างรวดเร็วราวกับอัสนี สมุนไพรมากมายที่อำพรางกาย ค่อยๆเผยร่างจริงออกมาให้หนิงฝานเห็น จะยกเว้นก็เพียงสมุนไพรอายุ 3 แสนปีเท่านั้น
หากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ทั่วไปที่ครอบครองจิตวิญญาณสมุนไพร คนเหล่านั้นจะสัมผัสได้เพียงกลิ่น
ในที่สุดหนิงฝานก็พบสมุนไพรที่เขาต้องการ แต่เขายังไม่หยิบพวกมันทันที เขาหันกลับมาป้องมือให้ชายชราพลางกล่าว
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ถ่ายทอดวิชาให้ข้า”
“ฮ่าฮ่า… หากเจ้าไม่ได้ฝึกวิชาเนตรปีศาจมาก่อน ข้าก็คงช่วยปลุกเนตรให้เจ้าไม่ได้ง่ายๆขนาดนี้… เจ้าเก็บสมุนไพรที่เจ้าต้องการเถอะ แล้วข้าจะถ่ายทอดวิชา ‘ดวงจิตต่อสู้’ ให้ ข้าไปได้วิชานี้มาจากตำราโบราณเล่มหนึ่ง นับเป็นโอกาสดีที่ได้ถ่ายทอดให้เจ้า” ชายชราพยักหน้าเป็นเชิงให้หนิงฝานไปเก็บสมุนไพรที่ต้องการทั้งหมดมา
แต่ในขณะนั้นเอง กลับมีเสียงของผู้เยาว์คนหนึ่งดังขึ้น
“โอ้? คาดไม่ถึงว่านักปรุงโอสถต่ำต้อยอย่างเจ้าจะมีสมุนไพรหมื่นปี ห้าหมื่นปี และแสนปีด้วย! ดีๆ ข้าจะเหมาสมุนไพรของเจ้าทั้งหมดเลย! ฮั่นปา ไปเอามาให้หมด!”
“ขอรับ!”
ผู้เยาว์ในอาภรณ์ดำคนหนึ่งที่ยืนอยู่ทางขึ้นชั้น 5 กล่าวขึ้น มันให้คนของมันจำนวนหนึ่งกันคนเอาไว้ไม่ให้เข้า
ผู้เยาว์คนนั้นอยู่เพียงขอบเขตตัดวิญญาณ ร่างกายของมันแผ่กลิ่นอายของจิตวิญญาณสมุนไพร
บุรุษในเกราะดำคนหนึ่งเดินเข้าไปในศาลา ตรงไปหาหนิงฝาน ร่างกายแผ่กลิ่นอายของเขตกายทองคำ มันสมควรอยู่ขอบเขตกายทองคำที่ 1
“ไอ้หนู ไสหัวไปซะ! สมุนไพรในร้านนี้ทั้งหมดเป็นของคุณชายแห่งเผ่าเนตรปีศาจ เจ้าห้ามแตะ!”
หนิงฝานจ้องมองบุรุษผู้นั้นพลางขมวดคิ้ว ดูเหมือนพวกมันจะไม่รู้ว่าเขาคือซัวหมิง ไม่อย่างนั้นพวกมันคงไม่กล้ายั่วยุเขา
ผู้เยาว์คนนั้นมั่นใจในความแข็งแกร่งขององครักษ์ของมันมาก เพราะต่อให้ต้องเผชิญหน้าขอบเขตไร้ดัดแปลง องครักษ์ของมันก็เอาชนะได้ ดังนั้นผู้เยาว์ในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงย่อมไม่ใช่คู่มือของมัน
ผู้เยาว์ของเผ่าเนตรปีศาจเห็นว่าหนิงฝานเป็นเพียงผู้เยาว์ในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง ย่อมสู้กับคนของมันไม่ได้
แต่แล้วสิ่งที่มันคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น ในขณะที่บุรุษเกราะดำเอื้อมมือหมายจะคว้าตัวหนิงฝานฝาน หนิงฝานกลับกระชากแขนของมันจนขาด!
ผู้เยาว์คนนั้นไม่อยากเชื่อว่าองครักษ์ของมันจะถูกกระชากแขนจนขาด!
“บัดซบ! มันเป็นใคร อายุกระดูกแค่ 500 ปีทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ข้าเก็บตัวฝึกฝน 100 ปี คาดไม่ถึงว่าออกมาจากเผ่าครั้งแรกก็ยั่วยุผู้ที่ทรงพลังเข้า! ไปสืบมาว่ามันเป็นใคร!”
ผู้เยาว์คนนั้นขบฟันพลางเร่งมุ่งไปหาองครักษ์ของมัน แม้มันจะเคียดแค้น แต่มันก็รู้ว่าอีกฝ่ายทรงพลัง จึงป้องมือกล่าว
“ข้าคือคนของเผ่าเนตรปีศาจนาม ‘กุ่ยหาน’ ท่านทรงพลังและสั่งสอนองครักษ์ของข้าไปแล้ว ข้าขอให้ท่านพอแค่นี้เถอะ!”
“เผ่าเนตรปีศาจ...” หนิงฝานขมวดคิ้ว เขารู้ว่าเผ่าเนตรปีศาจทรงพลังไม่แพ้ตระกูลซัว
แม้หนิงฝานจะไม่พอใจที่องครักษ์ของมันจะเข้ามาทำร้าย แต่หากสังหารทั้งองครักษ์และผู้เยาว์คนนี้ต่อหน้าผู้คน คงได้กลายเป็นศัตรูกับเผ่าเนตรปีศาจ
ยามนี้ปัญหาของเผ่าปีศาจยักษ์ยังไม่หมด จึงไม่อยากหาปัญหามาเพิ่ม
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหนิงฝานจะกลัวเผ่าเนตรปีศาจ ในเมื่ออีกฝ่ายล่วงเกินเขาก่อน เขาย่อมต้องสั่งสอนมัน
“ข้าคือซัวหมิง ครั้งนี้ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า ไสหัวไปซะ!”
คำว่าไสหัวไปซะ มาพร้อมกับปราณสังหารที่น่าสะพรึงกลัว จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าดูเหตุการณ์ตกตะลึง
ผู้เยาว์คนนั้นและองครักษ์ของมันแทบสิ้นสติจากปราณสังหาร ปราณภายในร่างปั่นป่วน
พวกมันตกตะลึงในพลังและชื่อเสียงของหนิงฝาน
“ซัวหมิง! บิดาข้ากล่าวเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอย่างได้ยั่วยุมันเด็ดขาด” ผู้เยาว์ขบฟัน เมื่อได้รู้ว่าเป็นหนิงฝาน มันก็ไม่กล้าเย่อหยิ่งอีก
กุ่ยหานนับเป็นผู้มีชื่อเสียงในเผ่า และมันเกลียดที่มีคนกล่าวคำว่าไสหัวไปกับมัน
แม้มันจะหวาดกลัวหนิงฝาน แต่มันไม่ยอมให้ตนเองเสื่อมเกียรติ
วันนี้มันต้องเสียแขนขององครักษ์ ทั้งยังต้องเสื่อมเสียเกียรติอย่างยิ่ง
“นายน้อย พวกเราสู้มันไม่ได้ ครั้งนี้เราต้องอดทน ไว้มีโอกาสเราค่อยมาแก้แค้นมันทีหลัง!” องครักษ์ของมันกล่าวด้วยสัมผัสเทพ
“อืม!”
มันขบฟันแล้วพาองครักษ์ของมันจากไป
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา หากมันยังกล้าหาเรื่องเขาอีกรอบ เขาคงได้สังหารมันทิ้งจริงๆ
แม้ว่าหนิงฝานไม่ใช่ฝ่ายเริ่มก่อน แต่การที่จะปล่อยพวกมันกลับไปแบบนี้ เขาย่อมไม่สบายใจ
กษัตริย์โอสถแววตาแปรเปลี่ยนเย็นชา การที่มีคนมาหาเรื่องศิษย์ของสหายเก่าต่อหน้า ชายชราย่อมไม่นั่งดูเฉยๆ
“ข้ายังไม่อนุญาติให้เจ้าไป! มาก่อเรื่องที่นี่แล้วคิดจะจากไปเฉยๆงั้นเหรอ?”
กุ่ยหานและคนของมันชงักฝีเท้า แล้วหันกลับมามองชายชราด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยเจตนาสังหาร
“ฮึ่ม! นักปรุงโอสถต้อยต่ำอย่างเจ้ากล้าบอกให้ข้าชดใช้งั้นเหรอ? เจ้าเป็นใครถึงได้กล้ากล่าวเช่นนั้น! ฮั่นปา ฆ่ามัน!”
“ขอรับ!”
แววตาขององครักษ์มันราวกับต้องการเอาความแค้นที่มีกับหนิงฝาน ไปลงที่ชายชราแทน
สำหรับมันแล้ว ชายชราที่อยู่เพียงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มนั้นไร้ค่า
แต่สิ่งที่พวกมันไม่รู้ คือผู้ที่มันกำลังยั่วยุนั้น น่ากลัวกว่าหนิงฝานซะอีก
“เอาแหละ ตอนนี้ข้าจะถ่ายทอดวิชา ‘ดวงจิตต่อสู้’ ให้เจ้า… ‘ฝ่ามือดวงจิต’!”
พลังจากจิตวิญญาณสมุนไพรของชาย หลั่งไหลออกมาจากร่าง ก่อนจะก่อตัวเป็นฝ่ามือสีม่วงซัดเข้าใส่ร่างของฮั่นปา
*ตูม!*
แม้ว่าฝ่ามือของชายชราจะทรงพลังจนทำให้ร่างของฮั่นปากลายเป็นเศษเนื้อ แต่การควบคุมฝ่ามือของชายชรากลับเหนือชั้น เพราะนอกจากฮั่นปาที่ได้รับผลกระทบแล้ว คนอื่นๆไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย
ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ตกตะลึงเป็นอย่างมาก ฝ่ามือของชายชราทรงพลัง และเปล่งอานุภาพในขอบเขตไร้แบ่งแยก
คนทั้งหมดรู้ว่าชายชราไม่ได้ใช้ปราณหรือสัมผัสเทพ ชายชราใช้เพียงแค่พลังของจิตวิญญาณสมุนไพร และนั่น คือวิชาที่เหนือชั้นของชายชรา
วิชาดวงจิตต่อสู้คือการใช้ดวงจิตต่อสู้ ซึ่งดวงจิตในความหมายของชายชราคือจิตวิญญาณสมุนไพร
“กษัตริย์โอสถ! กษัตริย์โอสถแห่งโลกพิรุณ! นี่ข้ายั่วยุซัวหมิง ซ้ำยังยั่วยุกษัตริย์พิรุณ! ข้านำหายนะสู่เผ่าแล้ว!”
กุ่ยหานทรุดเข่าและโขกหัวเพื่อขอความเมตตา
แม้ว่ามันจะเย่อหยิ่งจองหอง แต่มันก็รู้ดีว่ามันไม่อาจยั่วยุกษัตริย์ โอสถ ยิ่งฝ่ามือเมื่อครู่ที่สังหารฮั่นปาได้ในพริบตา มันยิ่งหวาดกลัว
“ข้าจะบอกเจ้าให้ ซัวหมิงนับเป็นศิษย์ของข้า ‘ลี่ฉางเทียน’ ครึ่งหนึ่ง ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะมีความแค้นอะไรกันมาก่อน แต่หากเผ่าของเจ้ากล้าล่วงเกินศิษย์ของข้าอีก ข้าจะทำลายเผ่าของเจ้าให้สิ้นซาก!”
ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะแผ่แรงกดดันในขอบเขตไร้แบ่งแยกไปทั่วทั้งแคว้นเหมันต์
เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในแคว้นเหมันต์ตกตะลึง พวกมันคาดไม่ถึงว่ากษัตริย์โอสถจะอยู่ที่นี่ ที่สำคัญ ยังออกหน้าปกป้องหนิงฝานด้วย!
เหล่า 8 บรรพบุรุษของเผ่าปีศาจยักษ์เองก็ตกตะลึง
“กษัตริย์โอสถ! มันมาที่นี่ได้ยังไง!”
กษัตริย์โอสถออกตัวว่าจะปกป้องหนิงฝาน กษัตริย์พิรุณก็ออกตัวว่าจะป้องหนิงฝาน แม้แต่ตระกูลซัวก็เช่นกัน นั่นหมายความว่า จะไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้องหนิงฝาน
คำกล่าวของชายชราทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้ไม่ต่างจากหยุนเทียนเฉว แต่หยุนเทียนเฉวเพียงเมตตาหนิงฝาน ผิดกับกษัตริย์โอสถที่กล่าวว่าหนิงฝานเป็นศิษย์ของตนครึ่งหนึ่ง
นั่นหมายความว่า ผู้ใดทำร้ายศิษย์องกษัตริย์โอสถ มันผู้นั้นตาย!
ยามนี้ ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกก็ไม่กล้าแตะต้องหนิงฝานแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเร่งมุ่งมายังศาลาที่หนิงฝานอยู่ เพราะอยากจะเห็นกษัตริย์โอสถด้วยตาของตน
แต่ชายชรากลับขมวดคิ้ว ชายชราไม่ชอบอะไรแบบนี้ จึงได้โบกมือ แผ่อำนาจของจิตวิญญาณสมุนไพรปกคลุมหนิงฝานและร้าน แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงผู้เชี่ยวชาญที่มุงดู และกุ่ยหานที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้น
มันหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จบแล้ว… ชีวิตของมันจบสิ้นแล้ว มันยั่วยุทั้งซัวหมิง ยั่วยุทั้งกษัตริย์โอสถ หากบิดาของมันรู้เข้า มันโดนจับถลกหนังแน่
“ทำไมซัวหมิงถึงได้โชคดีขนาดนั้น? ทำไมกษัตริย์โอสถต้องออกตัวปกป้องมัน!” กุ่ยหานทั้งเกลียดและอิจฉาหนิงฝาน แต่มันแค่เพียงตัดพ้อ ไม่กล้าล่วงเกินหนิงฝานอีก
ต่อให้มันต้องตาย มันก็ไม่กล้าลงมือกับหนิงฝาน ไม่อย่างนั้น เผ่าของมันย่อมถึงกาลอวสาน
ที่ยอดเขาหิมะแห่งหนึ่ง แสงสีม่วงปรากฏพร้อมกับหนิงฝานและกษัตริย์โอสถ
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยข้า!” หนิงฝานขอบคุณกษัตริย์โอสถจากใจ
หนิงฝานหาวิธีมากมายให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น แต่ไม่ใช่เพื่อปกป้องตนเอง แต่ปกป้องคนของเขา
เมื่อกษัตริย์โอสถกล่าวออกไปเช่นนั้น อย่าว่าแต่เผ่าเนตรปีศาจ ต่อให้เป็นโลกพิรุณก็ไม่มีใครกล้ายั่วยุหนิงฝาน
แม้ว่าชื่อเสียงของหยุนเทียนเฉวจะยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์โอสถ แต่กษัตริย์โอสถเป็นนักปรุงโอสถที่เกือบจะบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 7
นอกจากผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกของโลกพิรุณแล้ว ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกของโลกทั้ง 9 ย่อมต้องไว้หน้ากษัตริย์โอสถ เพราะด้วยอำนาจของกษัตริย์โอสถแล้ว ย่อมมีผู้ยอมเป็นกำลังให้ไม่น้อย
“ฮ่าฮ่า ก็แค่เรื่องเล็ก….” ชายชรายกมือปรามก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เมื่อครู่ที่ข้าใช้ฝ่ามือดวงจิต เจ้าเข้าใจหรือเปล่า?”
“ข้าเข้าใจ” หนิงฝานพยักหน้า โคจรเอาพลังจากจิตวิญญาณสมุนไพรออกมา ก่อตัวเป็นฝ่ามือสีดำ พุ่งตรงไปยังภูเขาที่อยู่ไกลออกไป
เสียงระเบิดดังสนั่น ภูเขาถูกทำลาย ฝ่ามือเมื่อครู่ทรงพลังเทียบเท่าการจู่โจมของขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง
“ยอดเยี่ยม เจ้าเข้าใจวิชาเป็นอย่างดี” ชายชราถอนหายใจราวกับเสียดายที่ไม่อาจนำหนิงฝานมาเป็นศิษย์ของตนได้
“ข้ามีตำราโบราณที่บันทึกวิชาดวงจิตต่อสู้เอาไว้ ตำราเล่มนั้นมีนามว่า ‘ผนึกดาราสวรรค์’”
“ตัวเจ้าที่มีวิชามากมาย สมควรเข้าใจวิชาดวงจิตต่อสู้ได้ไม่ยาก แต่ที่ข้าถ่ายทอดให้เจ้าไม่ใช่เพื่อให้เจ้านำไปเข่นฆ่าผู้ใด มันมีไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น… เมื่อยามที่นักปรุงโอสถปรุงโอสถอยู่นั้น ปราณและสัมผัสเทพจะใช้ไปกับการปรุงโอสถ ดังนั้น นักปรุงโอสถในสมัยโบราณจึงคิดวิชานี้ขึ้นเพื่อป้องกันตัวจากศัตรู โดยการนำพลังจากดวงจิตสมุนไพรออกมารับมือ”
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ชี้แนะ!”
หนิงฝานพยักหน้า กษัตริย์โอสถให้ความสำคัญกับการปรุงโอสถ จึงต้องมีวิชาที่สามารถปกป้องตนเองในยามปรุงโอสถได้
หนิงฝานรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ปรุงโอสถอย่างสงบทุกครั้ง และไม่สามารถนำทาสออกมาคุ้มกันได้ทุกครั้งเช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่นในงานปรุงโอสถครั้งนี้ เขาต้องปรุงโอสถต่อหน้าผู้คนมากมาย ในขณะที่ปรุงโอสถอยู่นั้น เขาไม่อาจแบ่งปราณหรือสัมผัสเทพออกมาปกป้องตัวเองได้ ดังนั้นวิชาดวงจิตต่อสู้จึงเป็นประโยชน์มาก เป็นวิชาที่เหมาะกับการปรุงโอสถเป็นอย่างมาก
กษัตริย์โอสถไม่เพียงช่วยเปิดเนตรแห่งความจริง แต่ยังสอนการใช้จิตวิญญาณสมุนไพร
ชายชรายื่นมือไปเบื้องหน้า ทำท่าคว้าจับ เจตจำนงค์เทพก่อตัวเป็นกระถางปรุงโอสถขนาดยักษ์
กระถางปรุงโอสถนี้ชายชราใช้มันปรุงโอสถมาเนิ่นนาน ภายในจึงมีปราณสมุนไพรอัดแน่นมหาศาล
“หนิงฝาน ข้าสัญญากับอาจารย์เจ้าว่าจะชี้แนะเจ้า 3 วิชา เมื่อครู่ข้าชี้แนะไปแล้ว 2 วิชา เหลืออีกเพียง 1 วิชาเท่านั้น... วิชาสุดท้ายนี้ ข้าจะสอนชี้แนะวิธีที่จะทำให้เจ้าบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 6... เจ้าจะยอมรับคำชีี้แนะของข้าหรือเปล่า?”
“ข้ายอมรับด้วยความเต็มใจ!” หนิงฝานป้องมือกล่าว
“ดี! นี่คือ กระถางโอสถพฤกษาเทพ เป็นกระถางปรุงโอสถที่สร้างขึ้นจากเจตจำนงค์เทพของข้า ข้าใช้มันปรุงโอสถมานับครั้งไม่ถ้วน จึงมีปราณสมุนไพรที่หนาแน่นอยู่ภายใน หากเจ้าดูดซับปราณสมุนไพรเหล่านี้ จิตวิญญาณสมุนไพรของเจ้าสมควรยกระดับไปมาก”
“แต่เจตนาที่แท้จริงของข้า คือข้าไม่ได้อยากให้เจ้าดูดซับปราณสมุนไพรเพียงอย่างเดียว ข้าอยากให้เจ้าสร้าง ‘กระถางปรุงโอสถแห่งชีวิต’ ของตนเองด้วย ข้ารู้ว่าเจ้ายังไม่มีกระถางปรุงโอสถแห่งชีวิตเป็นของตัวเเอง เพราะไม่มีอาจารย์คนใดสอนเจ้า เจ้าเพียงพึ่งพาตนเองจนก้าวมาถึงจุดนี้ จนแม้แต่ตัวข้าเองก็ยังทึ่งในความสามารถของเจ้า”
“ข้ามีผลแห่งความฝันอยู่ 2 ผล พวกมันจะช่วยให้เจ้าเข้าสู่โลกแห่งความฝันได้ 100 ปี และข้า… จะชี้แนะการปรุงโอสถให้เจ้า”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจะได้ชี้แนะคนรุ่นหลังอย่างจริงจัง หวังว่าเจ้าจะตั้งใจ”
“ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” หนิงฝานป้องมือพลางเดินไปยังกระถางปรุงโอสถของชายชรา
“ทาบฝ่ามือของเจ้าลงบนกระถาง จากนั้นกระตุ้นจิตวิญญาณสมุนไพรของเจ้าเพื่อดูดซับปราณสมุนไพร ด้วยระดับจิตวิญญาณสมุนไพรของเจ้า หากดูดซับได้ 1 ใน 10 ส่วนก็นับว่ามีพรสวรรค์แล้ว”
“1 ใน 10 ส่วน...” หนิงฝานไม่ยอม เขาจะทำให้จิตวิญญาณสมุนไพรของเขาดูดซับให้มากกว่านั้น เพื่อทะลวงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุด...