บทที่ 8 : ฉันจะทำมันอย่างตั้งใจ เดินมาหาฉัน!
หลังจากใจเย็นลง ฉิงเทาเตือนคนรับใช้พร้อมมองจ้องและพูดเสียงต่ำว่า
“มันคืออะไร ว่านว่านไม่เชื่อฟัง.....”
แน่นอน หลินว่านว่านไม่ปล่อยให้พวกเขาได้ตอบอะไรไป
นอกจากการเพิ่มความไม่พอใจจาก เต๋าซินหยูแล้ว สาเหตุที่เธอสร้างฉากเช่นนี้ส่วนใหญ่เป็นเพราะเธอเห็นหลินฉิงเทา กลับมาแล้ว และเธอต้องการได้รับความสนใจจากเขา
ในด้านทักษะการแสดงของเธอ หลินว่านว่านไม่กลัวใคร!
“พ่อ.......”
เธอเงยหน้าขึ้นและมองหลินฉิงเทาผู้เป็นพ่อของเจ้าของร่างเดิม
เขามีขนคิ้วดกและดวงตาคู่โต เขาอาจถูกมองว่าเป็นชายหนุ่มที่รูปหล่ออีกคนในรุ่นเดียวกัน
“ว่านว่านเชื่อฟังมากและรู้เรื่องต่างๆ มากมาย เช่น ซักเสื้อผ้า กวาดพื้น ทำความสะอาดห้องน้ำ... ว่านว่านไม่กินอะไรมาก พ่อโปรดอย่างตีหนูเลย”
เด็กหญิงอายุสิบเจ็ดปี ผอมเพรียวและเธอดูน่าสงสารขดตัวเป็นลูกบอล
วิธีที่ดวงตาใสๆคู่นั้นมองดูเขาอย่างอ้อนวอน ทำให้หัวใจของหลินฉิงเทา อ่อนยวบลง
เมื่อเขาตระหนักว่าคนรับใช้ทั้งหนุ่ม แก่และผู้สติฟั่นเฟือน การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปทันที
มันเป็นความจริงที่เขาไม่ชอบลูกสาวที่โง่เง่าคนนี้ นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเต็มใจที่จะให้คนรับใช้มาพาลกับเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา!
“พวกแกกล้าดียังไง! เธอยังคงเป็นลูกสาวคนที่สอง ของตระกูลหลิน พวกแกกล้าที่จะตีเธอ? พวกแกเบื่อที่จะอยู่ที่นี่ใช่ไหม? ต้องการถูกไล่ออกใช่ไหม?”
“นายท่าน......” บางคนหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเผือด พวกเขามองไปที่ หลินฉิงเทา อย่างอ้อนวอน
เต๋าซินหยู เห็นว่า หลินฉิงเทา โกรธจริงๆ ทำอย่างไรเธอถึงจะกล้าออกหน้าให้กับคนรับใช้?
หลินฉิงเทา เรียก “พ่อบ้าน มาที่นี่เดียวนี้” ไล่คนเหล่านี้ออกไปแล้วส่งพวกเขาไปที่สถานีตำรวจเพื่อขังไว้!”
“นายท่าน ไม่นะ!” บางคนตัวแข็งเป็นหินไปแล้ว
ในเมืองนี้ ตระกูลหลินมีอิทธิพลอย่างมาก หลินฉิงเทาพูดคำเดียว และพวกเขาทั้งหมดสามารถถูกขังอยู่ในคุกอย่างง่ายดายเป็นเวลาสามปีห้าปีได้เลย
“เราไม่กล้าทำเช่นนี้อีก! นายหญิง โปรดช่วยพูดบางอย่างให้พวกเราด้วย! พวกเราผิดไปแล้ว พวกเราผิดไปแล้ว
น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของพวกเขา พร้อมกับคุกเข่าลง
หลินว่านว่าน ยิ้มเย็น อำนาจในการยกโทษให้นั้นเป็นของเจ้าของร่างเดิม
เธอแสดงความเมตตาแล้ว ที่ไม่ส่งพวกเขาไปตายที่เตียงมรณะ เพื่อพบกับเจ้าของร่างเดิม
“ไล่พวกมันออกไป!”
แม้ว่าบางคนไม่เต็มใจ ในที่สุดพวกเขาก็ถูกพ่อบ้านคุมตัวออกไป
เธอสังเกตว่าหลินฉิงเทา มองมาที่เธอ หลินว่านว่านส่งยิ้มอย่างไร้เดียงสาไปให้ โดยปราศจากความเขลา เธอเป็นเหมือนเด็กอายุหกเจ็ดขวบที่ทำให้หัวใจของใครบางคนอ่อนโยนลงได้อย่างง่ายดาย
“พ่อยอดเยี่ยมที่สุด”
หลินฉิงเทา มีสีหน้าที่อ่อนลง มันยากที่เขาจะเอ่ยออกมา
“ต่อไปให้มาบอกกับฉันถ้ามีคนรังแกเธอ”
“ฉิงเทา!” เต๋า ชิงหยู ไม่มีทางล้มเลิกความตั้งใจนี้และเตรียมพร้อมที่จะพูดเกินจริง
“ขอบคุณค่ะ พ่อ”
หลินว่านว่าน ใช้รอยยิ้มที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาเพื่อดึงดูความสนใจของ หลินฉิงเทาอีกครั้ง เธอไม่ลืมที่จะมอง เต๋าซินหยู และพูดว่า “มีแต่พ่อเท่านั้นที่ปฏิบัติกับว่านว่าน ดีที่สุดในบ้าน!”
อีเด็กน้อยนี่
เต๋าซินหยู รู้สึกคับอกคับใจ
เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของหลินว่านว่าน หลินฉิงเทา ทนไม่ได้ที่จะใจร้าย เขากล่าวอย่างอบอุ่นว่า
“ไม่มีอะไรแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”
“ใช่ ใช่!” หลินว่านว่านเดินขึ้นบันไดไปอย่างเชื่อฟัง
เมื่อมองย้อนกลับไป เต๋าซินหยูถึงกับขมวดคิ้ว เธอไม่แน่ใจว่ามันเป็นมารยาหรือไม่
แม้ว่าหลินว่านว่านจะยังคงเหมือนคนเสียสติ แต่เธอก็ไม่ได้ดูน่ารำคาญเหมือนเมื่อก่อน
เธอกล้าที่จะเริ่มพูดกับ หลินฉิงเทา และถ้วยชาที่ทำหกรดเธอนั่นอีก
แม้ว่าสิ่งที่เธอทำในวันนี้จะดูบ้าไปบ้าง แต่มันเป็นเรื่องบังเอิญ หรือตั้งใจ
ทันใดนั้นหลินว่านว่านก็หันมามองเธอ ในช่วงเวลาที่สายตาของพวกเขาสบกันนั้น เต๋าซินหยู คิดว่าเธอเห็นรอยยิ้มของหลินว่านว่าน ราวกับจะบอกว่าเธอเจตนาทำมัน