บทที่ 6 : การถูกเหยียดหยามและยัยปีศาจแม่มด
“ไม่จำเป็น”
พร้อมกับที่เขามองตามร่างสีขาวค่อยๆหายไปจากสายตา ลู่ซานเป่ย เลิกคิ้วขึ้น ดวงตาคู่หมอกนั้นเผยรอยยิ้มที่มีความหมายพร้อมคำเปรยที่น่าสนใจ
“ไม่เพียงแต่เป็นคนโง่เท่านั้น แต่เธอยังเป็นคนบ้าด้วย”
กูโมรู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน เมื่อเห็นว่า ลู่ซานเป่ย ยังคงมองไปในทิศทางที่หลินว่านว่านเดินจากไป กูโมก็เริ่มมองหารอบตัวเขาทันที
“นายกำลังมองหาอะไร?”
“ประทัด”
“เอ๊ะ?”
“เพื่อฉลอง ที่ในที่สุดนายก็สนใจผู้หญิง! ฉันไม่ต้องกังวลแล้วว่านายจะบริสุทธิ์อีกต่อไป!”
ลู่ซานเป่ยชี้นิ้วไปที่เขาแล้วยิ้มอย่างไม่มีพิษมีภัย “มานี่สิ”
กูโมตั้งการ์ดป้องกันตัวและเอนตัวหนี ลู่ซานเป่ยเชิดหน้ามองมา ลักษณะการทำเช่นนั้นคือ
ตบ!
ด้านหลังศรีษะของเขาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นหน้าตาของคนที่ประทุษร้าย เขามีรอยยิ้มเล็กน้อย
“เป็นอย่างไงบ้าง?” มันเสียงดังเหมือนประทัดไหม?
กูโมได้แต่อึ้งไปเลย
หลินว่านว่านใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการเดินกลับไปยังบ้านตระกูลหลิน
ในช่วงเวลาของการเดินนั้น เธอพยายามเรียบเรียงความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมอย่างพินิจ เธอรู้สึกว่าไม่คุ้นเคยกับชื่อ ลู่ซานเป่ยเลย เธอคิดว่าไม่เคยพบกับเขามาก่อน
เธอมีเพียงคำเดียวที่จะอธิบายตัวเขาได้
มันน่ากลัว!
ในห้วงความคิดนั้น พ่อของเธอไม่ได้ชื่นชอบเธอและแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอก็ไม่ได้อยู่ด้วย แม่เลี้ยงของเธอเป็นแม่มดจอมวางแผนและพี่น้องของเธอปฏิบัติต่อเธอเหมือนเธอเป็นสิ่งของชิ้นหนึ่ง
แม้ว่าเธอเป็นลูกสาวคนที่สองของตระกูลหลิน แต่ตำแหน่งของเธอในหมู่พี่น้องนั้นต่ำกว่าคนรับใช้ซะอีก
หากแต่ว่า ผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้มีใบหน้าที่สวยงาม แม่เลี้ยงแต่งตัวให้แล้วฉีดยาที่เธอไม่รู้จักเข้าร่างเธอ เธอถูกส่งตัวไปให้ถังเฉินเพื่อแลกกับโอกาสความร่วมมือที่ตระกูลหลินจะได้รับ
ในที่สุดเจ้าของร่างเดิมก็ไม่สามารถที่จะตื่นขึ้นมาและถึงแก่ความตาย สิ่งนี้ทำให้เธอได้รับประโยชน์
“เฮ้อ!”
หลินว่านว่านในปัจจุบัน ชีวิตก่อน เธอเป็นนักแสดงชื่อดัง หลินเสี่ยว เธอได้แต่ถอนหายใจ
เธอไม่แน่ใจว่าถ้าพระเจ้าทรงสงสารเธอและทำให้เธอมีชีวิตอีกครั้งในร่างอีกร่าง เป็นเหตุจากการที่เธอตายในขณะที่ช่วยชีวิตเด็กให้รอดจากรถชน
เจ้าของร่างเดิมได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี จากช่วงเวลาที่ผ่านมา
แม้ว่าหลินเสี่ยว ซึ่งถือเป็นนักแสดงหญิงที่อายุน้อยที่สุดในวงการบันเทิง ก็คิดว่าสิ่งที่จะได้เจอต่อไปมันช่างน่าปวดหัว
“คุณหนูสองกลับมาแล้ว”
เธอเดินไปที่ประตูบ้านของตระกูลหลินโดยไม่รู้ตัว คนรับใช้บางคนที่อยู่ระหว่างทำความสะอาดส่งเสียงร้องและส่งเสียงเชียร์ทันที
“โอ้วช่างเป็นปาฏิหาริย์! จริงๆ ที่พบว่าเธอกลับบ้านได้ ฉันคิดว่าเธอถูกลักพาตัวและจะไม่กลับมาแล้วซะอีก!”
“ใครจะลักพาตัวคนพิการทางจิต เธอไม่มีค่าพอที่จะขายได้ด้วยซ้ำ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า......”
เจ้าของร่างเดิมคงคุ้นชินกับการถูกเยาะเย้ยเช่นนี้
หลินว่านว่านไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนจากคำพูดจาของพวกเขา มีโอกาสในอนาคตอีกมากมายที่จะดูแลความไร้หัวใจที่ได้รับนี้
ด้วยท่าทางหยิ่งผยอง หลินว่านว่านมองตรงไป และเดินข้ามไปถึงส่วนของห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นนั้นดูงดงามและแสดงให้เห็นถึงสถานะอย่างเศรษฐีใหม่
เธอเห็นยายแม่มด ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของเธอ เต๋าซินหยู นั่งบนโซฟาทำจากหนังแท้ กำลังดูโทรทัศน์อยู่
เต๋าซินหยู หันขวับมามองที่เธออย่างรวดเร็วและใบหน้าที่ได้รับการดูแลอย่างดีก็มีร่อยรอยของความพ่ายแพ้
“ทำไมเธอกลับมาเร็วขนาดนี้ ถังเฉินได้สัมผัสเธอยัง?”
หลินว่านว่านก้มหน้าลงและไม่เอ่ยอะไรออกมา แสดงความกลัวแบบเดียวกับที่เจ้าของร่างเดิมเคยทำ
“ลืมไป มันไร้ประโยชน์ที่จะถามเธอ”
เต๋าซินหยูกรีดนิ้วมือของเธอและแสดงให้เห็นถึงความไม่ไส่ใจ
“อะไรคือประโยชน์ของตระกูลหลินที่จะยกระดับจากคนโง่อย่างเธอ? ไม่มีอะไรที่เธอรู้นอกจากเป็นตัวปัญหา เธอไม่สามารถรับใช้ผู้ชายได้ดี! เธอไม่มีความสามารถที่เย้ายวนใจใดๆ นอกจากร่านเหมือนแม่!