บทที่ 202 เส้นทางสู่สวรรค์
“พวกมันมาแล้ว!”
ร่างเงาสามร่างกำลังนั่งอยู่บนต้นไม้ยักษ์ในขณะที่นักสู้กว่าสองพันคนกำลังยกทัพเข้ามาในป่าอาถรรพ์
เจียงอี้ลืมตาขึ้นและกล่าวเตือน สองคนที่เหลือก็ตื่นจากห้วงสมาธิพร้อมทั้งเผยจิตสังหารผ่านดวงตา
“เอาเหรียญของพวกเจ้ามาให้ข้า!”
เจียงอี้ยื่นมือไปรีบเหรียญตราจากทั้งสองคนเพื่อนำมาเก็บไว้ในไข่มุกวิญญาณเพลิง จากนั้นพวกเขาก็พากันมุดลงไปในอุโมงค์ใต้ดินที่เตรียมไว้
“ไปกันเถอะ จัดการพวกที่มาจากทิศตะวันออกก่อน!” เจียงอี้คำรามและวิ่งนำไป
เดิมทีการขุดอุโมงค์ในป่าอาถรรพ์แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เนื่องจากรากไม้จำนวนมากที่พันกันไปมาและปิดผนึกหน้าดินทั้งหมด
แต่โชคดีที่หยุนเฟยครอบครองกายวิญญาณพฤกษาซึ่งเสริมพลังให้กับศาสตร์เวทย์โบราณที่นางฝึกฝนทำให้สามารถควบคุมพืชพรรณได้ทุกชนิด
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นางควบคุมให้รากไม้ให้ขยับตามใจนึกและเปิดทางให้เจียงอี้ลงมือขุดอุโมงค์หลายแห่งจนกลายเป็นเขาวงกตใต้ดิน
“หยุด!”
หลังจากที่วิ่งมาได้ระยะหนึ่ง เจียงอี้ก็หยุดวิ่งและหันไปมองหยุนเฟย
“พวกมันมีจำนวนเท่าไหร่? มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวกี่คน?”
หยุนเฟยหลับตาลงและใช้ญาณจากกายเนื้อของนางในการสัมผัสสิ่งรอบตัว ภายในหัวของนางปรากฏจุดแสงสีเหลืองจำนวนมาก จากนั้นนางก็ลืมตาขึ้นและเอ่ยตอบ
“พวกมันมีประมาณเจ็ดถึงแปดร้อยคน ส่วนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวมียี่สิบหกคน”
“อืม”
เจียงอี้และจ้านอู๋ซวงลอบสบสายตากันก่อนที่จะกล่าว “อู๋ซวง ลงมือจัดการพวกที่อยู่ในขอบเขตเสินโหยวก่อนเถอะ ปล่อยพวกนักสู้ขอบเขตจื่อฝู่ที่เหลือให้ข้าจัดการ… ส่วนเจ้า หยุนเฟย ฝากเรื่องความปลอดภัยของพวกเราด้วย”
เกี่ยวกับแผนการ พวกเขาทั้งสามตกลงกันไว้นานแล้ว ไม่จำเป็นต้องกล่าวให้เปลืองน้ำลาย จ้านอู๋ซวงพยักหน้าและแยกตัวไปจัดการตามแผน
ทางทิศตะวันออกของป่าอาถรรพ์เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวเป็นแนวหน้า พวกเขาแยกกันค้นหาเจียงอี้โดยใช้เหรียญตราตลอดเวลา
แกร็บ! แกร็บ!
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวผู้หนึ่งกำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้า จู่ๆร่างเงาบางอย่างก็ร่วงลงจากเหนือศีรษะ ซึ่งทำให้ตัวเขาและเหล่าผู้ติดตามขอบเขตจื่อฝู่ตื่นตกใจ
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวผู้นั้นก็หาใช่พวกไร้ประสบการณ์ แม้ว่าจะตกใจอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ลนลานแม้แต่น้อย เขายกมือขึ้นเหนือศีรษะและปลดปล่อยคลื่นพลังดาบออกไป
ฟับ!
แต่บางสิ่งที่แปลกประหลาดก็บังเกิดขึ้น ร่างดังกล่าวที่ร่วงลงมานั้นถูกผูกติดไว้ด้วยเชือก! มันดิ่งลงมาเป็นเส้นตรงและถูกคลื่นดาบฟันเป็นสองส่วนอย่างง่ายดาย
“แย่แล้ว มันคือศพ!”
การแสดงออกทางสีหน้าของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวแปรเปลี่ยนไป ทันใดนั้นเอง พื้นโคลนใต้ฝ่าเท้าของเขาก็เกิดรอยแตกพร้อมกับร่างเงาสีเขียวที่กระโจนขึ้นมา
ดาบยาวสีดำที่อยู่ในมือตวัดใส่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวคนดังกล่าว มืออีกข้างของเขาถือหน้าไม้สีดำไว้และเหนี่ยวไกในเวลาเดียวกัน
“หืม?!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวคนนั้นเบี่ยงตัวหลบการโจมตีแรกได้อย่างหวุดหวิด แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ศีรษะของเขาถูกศรจากหน้าไม้สังหารเทพยิงทะลุไป
ร่างของเขาล้มลงกับพื้นพร้อมทั้งดวงตาที่เบิกกว้างเพราะความสับสนราวกับว่าไม่อาจทำใจยอมรับความตายได้
“มันคือเจียงอี้? ฆ่ามัน!”
นักสู้ที่อยู่ในละแวกนั้นทั้งหมดตื่นตัวและมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่เจียงอี้ปรากฏตัวขึ้นมา ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวหลายคนเองก็เริ่มเคลื่อนไหว
หลังจากที่เจียงอี้ลงมือสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยว เขาก็รีบมุดกลับลงไปในอุโมงค์ใต้ดินอย่างไม่ลังเล
นักสู้ขอบเขตจื่อฝู่สองสามคนที่ติดตามเจียงอี้มาอย่างกระชั้นชิดก็เตรียมที่จะพุ่งลงไปในอุโมงค์ แต่ทันใดนั้นเองเรื่องพิศวงก็บังเกิดขึ้น เพราะจู่ๆปากหลุมก็ถูกรากไม้ประหลาดชอนไชและปิดทางเข้าไว้
เช้ง! เช้ง!
นักสู้ขอบเขตจื่อฝู่ผู้หนึ่งเหวี่ยงดาบเพื่อหวังที่จะตัดรากไม้เหล่านี้ แต่นอกจากประกายไฟเล็กน้อยและเสียงกระทบกันของโลหะ รากไม้ดังกล่าวก็แทบจะไร้ความเสียหาย
“หลบไป ให้ข้าจัดการเอง!”
หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวกระโจนเข้ามาพร้อมกับปลดปล่อยแสงกระบี่รูปจันทร์เสี้ยวตรงไปยังรากไม้
ปัง!
เกิดเสียงดังสนั่นทั่วทั้งผืนป่า เศษฝุ่นควันตลบอบอวล ต้นไม้น้อยใหญ่สั่นคลอน แต่ผลปรากฏว่าสร้างได้เพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยบนพื้นผิวของรากไม้เท่านั้น!
ฟึ่บ!
ในเวลาเดียวกัน หน้าดินที่อยู่ไม่ไกลจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวก็แยกออก พร้อมกับร่างเงาที่สวมชุดเกราะสีดำร่างหนึ่งกระโจนออกมา กรงเล็บอินทรีของคนผู้นั้นคว้าร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวไว้และหวังที่จะฉีกร่างนั้นให้ขาดออกจากกัน
“เจ้าเหนื่อยที่จะมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?!”
ในจังหวะนั้น กริชอันแหลมคมก็ปรากฏขึ้นในมือของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวซึ่งกำลังควบแน่นแก่นแท้พลังอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นเขาก็ตวัดกริชในมือหมายที่จะตัดศีรษะของศัตรู
“อ๊าก—!”
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าคนผู้นั้นจะเมินเฉยต่อศาสตราวุธอันแหลมคมที่กำลังจะเอาชีวิตเขา กายเนื้อของเขาเปล่งแสงสีทองอร่ามพร้อมทั้งใช้กรงเล็บฉีกกระชากร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวเป็นสองส่วนได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าจะตายไปแล้ว แต่สีหน้าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวคนนั้นก็ยังเผยให้เห็นความไม่อยากจะเชื่อ
เขาเห็นกับตาว่ากริชของเขาฟันถูกศีรษะอีกฝ่ายแน่นอน แต่ผลที่ได้ออกมากลับไม่เป็นอย่างที่คิด กริชแหลมคมไม่สามารถเจาะทะลวงศีรษะของคนผู้นั้นได้ราวกับว่ามันไม่ใช่ศีรษะคนแต่เป็นเหล็กกล้า!
“เผ่าเทพสงคราม! จ้านอู๋ซวง!”
มีบางคนเริ่มตระหนักถึงตัวตนของคนผู้นั้น มีเพียงเผ่าพันธุ์เทพสงครามเท่านั้นที่ครอบครองเคล็ดวิชาแสงศักดิ์สิทธิ์เทพสงคราม ซึ่งทักษะวิชาดังกล่าวจะช่วยให้กายเนื้อแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและเปล่งแสงสีทองอันศักดิ์สิทธิ์ราวกับทวยเทพก็ไม่ปาน
ฟึ่บ!
หลังจากที่ลงมือสังหารไปคนหนึ่งแล้ว จ้านอู๋ซวงก็รีบกลับลงหลุมในทันที ในเวลาเดียวกันรากไม้สีเหลืองก็รีบเข้ามาปิดกั้นปากหลุมเช่นเดิม
ฟึ่บ!
ในขณะที่ฝูงชนกำลังตกตะลึงอยู่นั้น ร่างเงาอีกร่างก็พุ่งขึ้นมาจากอีกทาง คราวนี้ เขาพุ่งเข้าหาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวผู้หนึ่งราวกับภูตผีและปลดปล่อยเปลวไฟแผดเผาร่างของคนผู้นั้นจนเป็นเถ้าถ่านในทันที
“นี่…”
สีหน้าของนักสู้ขอบเขตจื่อฝู่หลายคนซีดเผือก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบเจอกับเหตุการณ์อันน่าสยดสยองเช่นนี้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวผู้เกรียงไกรก็ยังตกเป็นเหยื่อและถูกเข่นฆ่าราวกับเป็นผักปลา
เจียงอี้และจ้านอู๋ซวงประสานงานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฝ่ายศัตรูไม่สามารถสัมผัสถึงการคงอยู่ของทั้งสองคนผ่านเหรียญตราได้
นอกจากนี้พวกเขายังเคลื่อนไหวราวกับภูตผี ทำให้ฝ่ายศัตรูไม่สามารถอ่านทางได้และทำได้เพียงแค่ยืนมองด้วยความโง่งม
โจมตีสวนกลับก็ไม่ได้… ไล่ตามก็ทำไม่ได้… สรุปแล้วมีอะไรที่พวกข้าทำได้บ้าง?
“ขุดหลุม!”
หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวตะโกนขณะที่นำอาวุธออกมาเพื่อทำการขุดลงไปเบื้องล่าง ในเวลาเดียวกันคนอื่นๆต่างก็เริ่มตื่นตัว หากว่าพวกเขาสามารถขุดลงไปได้และล้อมกรอบเจียงอี้กับจ้านอู๋ซวงไว้ได้ ด้วยจำนวนคนที่ได้เปรียบ ทั้งสองคนนั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน
ปัง!
เจียงอี้และจ้านอู๋ซวงผลุบๆโผล่ๆอย่างต่อเนื่องและลงมือสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวไปหลายคน
ฝ่ายศัตรูเร่งมือขุดดิน แต่เมื่อขุดไปได้ไม่นานก็พบกับรากไม้สีเหลืองที่แข็งราวกับเหล็กซึ่งไม่อนุญาตให้พวกเขาขุดลงไปต่อ
“มีอุโมงค์อยู่ตรงนี้!”
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวที่เหลือกำลังถอดใจและคิดที่จะออกคำสั่งล่าถอย จู่ๆนักสู้ขอบเขตจื่อฝู่คนหนึ่งก็อุทานออกมาด้วยความปีติยินดี
ทันใดนั้นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวนับสิบก็รีบมารวมตัวกันและเตรียมมุ่งหน้าลงไปใต้ดิน
“พวกเราจะลงไปก่อน พวกเจ้าเองก็รีบลงมาและอย่าได้ออกห่างจากพวกเราเป็นอันขาด!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวลอบสบตากัน พวกเขาปลดปล่อยแก่นแท้พลังและระเบิดปากหลุม จากนั้นหนึ่งในนั้นนำสิ่งประดิษฐ์ระดับวิญญาณออกมาและนำลงไปใต้ดิน
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ทางสู่สวรรค์มีแต่ไม่เลือกเดิน ดันอยากจะลงนรก!”
เมื่อเหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวก้าวลงมาในอุโมงค์ น้ำเสียงอันเยือกเย็นก็ดังสะท้อนออกมา เจียงอี้เดินออกมาจากอุโมงค์อย่างช้าๆและจ้องมองคนเหล่านั้นราวกับกำลังมองคนที่ตายแล้วไป