บทที่ 13 : ถ้ามองไม่เห็นค่าของฉัน อย่ามาทวงถามถึงมันอีก
“เธอจะไม่เอามันไปด้วยเหรอ?”
“.......”
เอามันไปด้วยนี่นะ คุณมัน!
งั้นก็ดี! คุณไม่มีใจที่ซื่อสัตย์และฉันไม่สามารถละทิ้งความขุ่นข้องใจจากคุณ! ดังนั้นฉันจะไป คุณจะทำอย่างไร?
หลินว่านว่าน ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความอดทนและการควบคุมทั้งหมดได้หายไปจนหมดสิ้น
“ไม่ต้องพบต้องเจอกันอีกเลยนะ!”
หลังจากพูดแบบนั้น เธอลุกขึ้นยืน เตรียมสาปส่งเขา
“กลับมา”
ลู่ซานเป่ย จับข้อมือของเธอ ดึงมันเบาๆ ทำให้หลินว่านว่านเสียการทรงตัวล้มลงที่ตักของเขา
บังเอิญเธอนั่งทับบนเป้าของเขา
พลันหน้าของเธอก็แดงก่ำขึ้น และเริ่มดิ้นรนขัดขืนโดยสัญชาตญาณ
ลู่ซานเป่ยจับเอวเธอไว้แน่นและยิ้มพราย
“ฉันแค่ล้อเธอเล่น”
ล้อเล่น?
หลินว่านว่าน มองท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ของชายหนุ่มแล้วอยากกัดให้จมเขี้ยวเลย!
ถ้าเธอไม่ได้นั่งอยู่ตรงกลางหว่างขาของเขาเธอจะเชื่อสนิทใจเลย!
“คุณ....”
เธออยากตะโกนด่าเขาเหลือเกิน แต่เมื่อตระหนักว่าท่านี้อาจทำให้เธอตกเป็นรองเขาได้ เธอได้แต่เก็บปากเงียบไว้
“แล้วฉันละ?”
“คุณไม่สบายรึเปล่า?
ลู่ซานเป่ย กระพริบตาทั้งสองข้าง
ราวกับหลินว่านว่านไม่รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดและพยายามถามด้วยน้ำเสียงของเด็กหกขวบ
“คุณมีอาการป่วยหรือค่ะ บางทีคุณก็มีท่าทางเหนียมอาย แต่บางทีคุณแปลงร่างอย่างกระทิงเปลี่ยว”
“......”
ริมฝีปากของ ลู่ซานเป่ยกระตุก
มันไม่ง่ายที่จะเข้าใจว่าเธอกำลังพยายามบอกเป็นนัยว่าเขาเป็นไบโพล่า พวกสองบุคลิก
เป็นเรื่องยากที่จะตีความให้ดีกว่านี้ได้
“นั่งตรงนั้น” เขาชี้ไปที่นั่งถัดจากเขา และไม่ได้คิดที่พูดคุยเรื่องใดๆอีก
“OK” หลินว่านว่านเลื่อนไปนั่งตรงที่เขาบอกอย่างสบายอกสบายใจ
ลู่ซานเป่ย ยืนขึ้นเพื่อสวมกางเกงอย่างเป็นตัวของตัวเอง
เขากลับมานั่งที่เดิม และชำเลืองมองหลินว่านว่าน ทำตัวเย็นชาและดูห่างเหินทันที เมื่อนั่งลง
“เธอมาทำอะไรที่นี่คนเดียว?”
หลินว่านว่านแต่งเรื่องขึ้นทันทีว่า
“หลังจากทานข้าวเสร็จ ฉันก็เดินเล่นมาเรื่อยๆ แล้วฉันหลงทาง......”
ฉับพลัน เธอก็เปลี่ยนเรื่อง
“ใช่แล้ว ลุง ฉันต้องการสิ่งที่ลุงบอกจะให้!”
ลู่ซานเป่ย ยกกรามของเขาขึ้นส่งสัญญาณให้เธอพูดต่อ
หลินว่านว่านนึกถึงการแสดงและมองเขาอย่างร้องขอ
“ฉันอยากเรียน”
ลู่ซานเป่ย ไม่ได้ถามถึงเหตุผลที่เธอคิดอยากจะเรียนเอาตอนนี้ หรือดูหมิ่นไอคิวของเธอ เขาเพียงแค่ทำเป็นรับรู้ในสิ่งที่เธอพูด
“ต้องการเรียนที่ไหนละ?”
“โรงเรียนมัธยมอิมพีเรียล แคปปิตอล”
“ตกลง เธอไปรายตัวให้ตรงเวลาด้วย 8.00 น. พรุ่งนี้”
นี่มัน? หลินว่านว่านพบว่ามันน่าเหลือเชื่อ
โรงเรียนมัธยมอิมพีเรียล แคปปิตอล เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในเมืองเซี่ย และเกณฑ์การคัดเลือกนักเรียนนั้นเข้มงวดมาก
ในแต่ละปีมีนักเรียนเพียงไม่กี่รายที่ได้เข้าเรียนและแต่ละคนก็เป็นลูกผู้นำระดับแนวหน้าของเมือง
เธอถือว่าเป็นคนฉลาดในสายตาประชาชน เธอจะไม่ผ่านการคัดเลือกเลยรึ
แต่ทว่า เพียงคำเดียวจาก ลู่ซานเป่ย ก็สามารถแก้ปัญหาที่ยากลำบากได้เลย
พื้นหลังของชายคนนี้คือ?
“ขอบคุณค่ะ มันจะเป็นครั้งแรกที่ฉันเข้าโรงเรียน มันค่อนข้างน่ากลัวสำหรับฉัน” หลินว่านว่านแสดงท่าทางตื่นตระหนกและกระพริบตาปริบๆ
ลู่ซานเป่ย ไม่แสดงออกใดๆและพูดว่า “ยังมีโอกาสเหลืออีกสองครั้ง”
โอ้ นับอีกแล้ว!
ลู่ซานเป่ย แสร้งมองไม่เห็นที่เธอทำหน้าตาดูถูก และสั่งให้กูโม ส่งเธอกลับ
หลินว่านว่าน เดินไปไม่กี่ก้าวก็นึกได้ เธอหันกลับไปและถามด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา “คุณลุงลู่ มันสายเกินไปแล้วนะ ลุงมาทำอะไรที่นี่ในพื้นที่ห่างไกลเช่นนี้”
หากเธอไม่ได้ความจำเสื่อม มีเพียงครอบครัวเดียวที่อยู่ใกล้บ้านของเธอ
คิ้วของ ลู่ซานเป่ย เกร็งขึ้นอย่างช้าๆ เขามองเธอด้วยความเย็นชามากยิ่งขึ้น
เขาไม่มองกลับมาที่ หลินว่านว่านเลย เมื่อเขากำลังจะจากไป เขาตอบอย่างเฉยชา ว่า “เมื่อไม่เห็นค่าในสิ่งที่ฉันให้ ก็อย่ามาถามถึงมันอีก”