บทที่ 11 : ฉันรู้มีใครบางคนซ่อนอยู่ นำตัวมาส่งให้ฉัน
กูโม ก้มศรีษะกล่าวขอโทษอย่างนอบน้อม และพาคนที่เหลือไปสำรวจร่างที่นอนเรียงบนพื้น
ถ้าหากถูกค้นพบว่าใครยังมีลมหายใจอยู่.... ปัง!
เสียงปืนจะดังขึ้นทันที
ลู่ซานเป่ย จิบไวน์ไปพลางๆ เมื่อเขามองไปยังฉากนองเลือดเบื้องหน้า รอยยิ้มเล็กผุดขึ้นในดวงตาราวกับว่าเขาเพลิดเพลินกับช่วงเวลานี้ ด้วยหน้าตารื่นรมย์
รอยยิ้มนั้นทำให้หลินว่านว่านรู้สึกตกใจมาก
ความรู้สึกชั่วร้ายสามารถสังเกตได้จากมุมปากของเขา นี่ไม่ใช่ชายตัวสูง เท่ห์ระเบิดคนนั้น ละทิ้งความทรงจำนั้นไปได้เลย
ชายคนนี้เป็น ลู่ซานเป่ย จริงๆหรือ?
หลังจากนั้นไม่นาน กูโม ก็เข้ามารายงาน
“ท่านครับทุกอย่างเรียบร้อย เราจะกำจัดขยะเหล่านี้ไหมครับ?”
ลู่ซานเป่ย มองเขานิ่งๆ
“นายถามคำถามนี้กับฉัน?” แน่นอนสิขยะพวกนี้จะต้องถูกทำลายอย่างสิ้นซาก ถ้าไม่ จะปล่อยให้เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม?”
“เข้าใจแล้วครับ”
กูโมส่งสัญญาณ ทุกคนก็มาย้ายศพไปที่รถบรรทุกที่จอดรออยู่อย่างรวดเร็ว จากนั้นรถฉีดน้ำจำนวนมากก็มาถึง
หลังจากฉีดล้างไปหนึ่งรอบ พื้นถนนก็กลับมาสะอาดเหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยของเลือด เหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย
“นายท่าน จะกลับเลยมั้ยครับ?”
“อืม” ลู่ซานเป่ย ตอบกลับแล้วผละออกไป
หลินว่านว่านที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
โชคดีที่ ลู่ซานเป่ย ไม่รู้ว่าเธอแอบสอดแนมพวกเขา ถ้าไม่งั้นเธออาจไม่รอดชีวิตเป็นแน่
หลินว่านว่านค่อยๆ ยืนขึ้นด้วยความระมัดระวังและเตรียมพร้อมที่จะย่องออกไปอย่างเงียบๆ
“โอ้! ใช่....”
เธอเพิ่งยืนขึ้น ก็มีเสียงของ ลู่ซานเป่ย พูดขึ้นว่า
“ฉันรู้มีใครบางคนซ่อนอยู่ พาเธอมาหาฉัน”
เอ๊ะ ใครบางคน?
ไม่นะ!
หลินว่านว่านคิดได้ดังนั้น ก็ออกวิ่งอย่างสุดชีวิต ก่อนที่เธอจะพ้นพุ่มไม้ไป คอเสื้อของเธอก็ถูกดึงไว้ได้
ราวกับเธอเป็นเด็กเหลือขอ ชายคนนั้นกระชากเธอยกขึ้นด้วยมือเดียว
เธอไม่ได้ต่อต้านและถูกลากไปที่เฮลิคอปเตอร์ซึ่งตอนนี้ลงจอดอยู่
ขณะที่เงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอก็สบกับดวงตายิ้มได้คู่นั้น
หลินว่านว่านตัวสั่นและฝืนยิ้มทั้งที่กำลังอยากจะร้องไห้
“สวัส...ลุงลู่ สวัสดีตอนเย็น!”
เพื่อความอยู่รอด เธอพร้อมที่จะทำตามเขาสั่ง
ลู่ซานเป่ย มองจ้องเธอจากบนที่นั่น
“ไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง พาเธอขึ้นมา”
หลังจากพูดเสร็จเขาก็หมุนตัวขึ้นไปที่ห้องโดยสาร
“รับทราบ!”
วิธีที่ลู่ซานเป่ยพูดกับเธอนั้นทำราวกับว่าเธอเป็นคนแปลกหน้า หลินว่านว่านได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
เมื่อเห็นว่าเธอไม่ขยับ กูโมจับคอเสื้อเธอไว้และผลักให้เธอออกเดินเพื่อไปขึ้นบันไดเครื่องบิน
“ฉันเดินเองได้!”
หลินว่านว่านดิ้น ขัดขืนสักพัก กูโมก็ไม่ไหวติงและพาเธอเดินไปนั่งด้านหน้าของ ลู่ซานเป่ย
“หลินว่านว่าน” ลู่ซานเป่ย เรียกชื่อเธอออกมา
“ตรงนี้!” หลินว่านว่านยืดตัวตรง กำหมัดแน่น
ลู่ซานเป่ย มองการแสดงออกโดยไม่รู้ตัวของเธอ เขามองมือที่กำแน่นของเธอ
แต่แล้ว เขาก็ก้มมองไวน์ที่กลิ้งตัวในแก้วและเม้มริมฝีปากเรียบเฉย
“บอกฉันมา เธอเห็นอะไรบ้าง?”
โอ๋......เธอจะตอบยังไงดี?
เธอควรบอกเขาว่าเธอเห็นทุกอย่างหรือไม่? ลู่ซานเป่ย อาจส่งเธอไปตายทันทีก็ได้
รึบอกว่าเธอไม่เห็นอะไรเลย? คงมีแต่ผีเท่านั้นละที่เชื่อ
แม้ในใจเธอจะดิ้นรนขนาดไหน หลินว่านว่านก็ยังแสดงท่าทีไร้เดียงสาและขาดเขลาเช่นเดิม
ลู่ซานเป่ย ไม่ได้เร่งเธอ เขาลิ้มรสไวน์แดงอย่างช้าๆ และเหลือบมองไปที่ริมฝีปากอันซีดเซียวของเธอ พร้อมกันเคาะนิ้วกับที่วางแขนเบาๆ
“เธอไม่มีคำตอบให้ฉัน ดังนั้น......”
เขายืนขึ้นและมองอย่างมีความหมาย
“กูโม”
“ครับนายท่าน?”
นี่จะให้เขาพาเธอไปฆ่าใช่ไหม!