Chapter 29 - 30: ร้านขายหยกอี้ซุยและฉินอี้ฟาน, สิบล้านหยวน (อ่านฟรี)
Chapter 29: ร้านขายหยกอี้ซุยและฉินอี้ฟาน
ตอนนี้ถึงแม้ต้องขายมันในตลาดเธอก็พอใจแล้ว
เธอเจอร้านขายหยกเก่าร้านหนึ่ง 'ร้านขายหยกอี้ซุย' ด้วยประวัติอันยาวนานกว่าร้อยปี ร้านไม่ใหญ่มากนักแต่ค่อนข้างมีชื่อเสียง
เพราะเจ้าของร้านขายหยกอี้ซุยเป็นถึงนายกสมาคมหยกแห่งเมือง F หยกในร้านอี้ซุยเป็นที่รู้จักดีในด้านคุณภาพและราคาที่สมเหตุสมผล
ดังนั้นกู้หนิงจึงตัดสินใจไปที่ร้านขายหยกอี้ซุยที่มีประวัติร่วมร้อยปี
แม้ว่ากู้หนิงจะไม่รู้อะไรมากนักกับร้านอี้ซุยและยิ่งไม่รู้ว่ามันจะดีและมีราคาสมเหตุสมผลอย่างที่ในอินเตอร์เนตบอกไว้หรือไม่ แต่เธอไว้ใจร้านนี้มากกว่าร้านอื่น
ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ราคาของหยก ถ้าเธอไม่ได้ราคาที่พอใจเธอก็จะไม่ขาย
สาขาใหญ่ของร้านอี้ซุยอยู่ในตลาดขายของเก่าแต่ก็มีอีกหลายสาขาที่เปิดในห้างสรรพสินค้า
ตอนนี้กู้หนิงอยู่ในตึกขายของในเมือง เธอตัดสินใจจะไปร้านอี้ซุยทีหลัง
หลังจากหาข้อมูลเสร็จเรียบร้อย กู้หนิงก็เก็บมือถือและหยกใส่ในกระเป๋าเป้และหากินข้าวให้เสร็จ
หลังจากกินมื้อกลางวันเธอตรงไปที่ร้านขายหยกอี้ซุยทันที
ร้านอยู่บนชั้นสอง กู้หนิงใช้เวลาหาอยู่สักพัก ร้านอี้ซุยมีขนาดไม่ใหญ่มากและตกแต่งสไตล์เรโทร พนักงานของร้านต่างสวมชุดกี่เพ้า
นาทีที่กู้หนิงเดินเข้าไปข้างใน พนักงานของร้านเดินตรงเข้ามาหาเธอและทักทายอย่างสุภาพนอบน้อมถึงแม้เธอจะเป็นเพียงเด็กนักเรียนก็ตาม
"คุณหนูคะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ?" พนักงานหญิงเอ่ยถาม
"ไม่ทราบว่าหยกที่คุณภาพดีที่สุดของร้านคือชิ้นไหนคะ?" กู้หนิงตอบ
"ถ้าดีที่สุดของร้านจะเป็นหยกมรกตชิ้นนี้ค่ะ สีของมันออกสีเขียวจางๆ แต่ถ้าอยากได้สีม่วงซึ่งค่อนข้างหายากนิดหนึ่ง ถ้าคุณหนูต้องการสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ค่ะ" พนักงานหญิงเอ่ยตอบ
"ร้านนี้มีหยกราชันย์ขายไหมคะ? กู้หนิงถาม
พนักงานหญิงหน้าเจื่อนเล็กน้อยจากนั้นจึงพูดว่า "ต้องขอโทษด้วยค่ะ หยกราชันย์ค่อนข้างเป็นหยกที่หายาก ดิฉันอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มานาน ยอมรับว่ายังไม่เคยเห็นเลยค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นคุณรับซื้อมันไหม?" กู้หนิงสอบถาม
พนักงานหญิงประหลาดใจเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่ากู้หนิงต้องการจะทำอะไรกันแน่
"เรารับซื้อหยกคุณภาพสูงเท่านั้นและให้ราคาแปดในสิบของราคาตลาดค่ะ
แปดในสิบก็ยุติธรรมดี
"ขอพบผู้จัดการร้านได้ไหมคะ ฉันอยากขายหยกราชันย์ขนาดประมาณไข่นกกระทาค่ะ"
"อะไรนะ? หยกราชันย์?!!"
จู่ๆก็มีเสียงผู้ชายพูดแทรกดังขึ้นด้วยความตื่นเต้น
ชายหนุ่มหน้าตาดีอายุราวๆยี่สิบห้าปี สวมชุดสูท เดินเข้ามากู้หนิงจากประตูด้านใน เขาถามด้วยความตื่นเต้นและสงสัยว่า
"คุณหนูท่านนี้มีหยกราชันย์ขนาดเท่าไข่นกกระทาจริงๆเหรอ?!"
เมื่อได้ยินเสียงผู้ชายแทรกเข้ามา พนักงานหญิงก็หายตกใจ เธอเอ่ยทักเขาอย่างเคารพ "คุณฉิน"
"ใช่ค่ะ" กู้หนิงตอบ
"ขอผมดูหน่อยได้ไหม ถ้าจริงผมจะให้เท่าราคาตลาดเลย" ดวงตาของฉินอี้ฟานเต็มไปด้วยความคาดหวัง
แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อว่าเด็กนักเรียนจะมีหยกราชันย์ครอบครอง แต่ก็ไม่เสียหายอะไรที่จะขอดูสักหน่อย
หยกราชันย์เป็นของหายากเกินกว่าจะพลาดได้
"ต้องขอโทษด้วยค่ะ พอดีว่าฉันตั้งใจจะขายให้ร้านอี้ซุย ฉันจะขายให้คุณถ้าทางร้านไม่รับซื้อหยกของฉัน" กู้หนิงเอ่ยขอโทษฉินอี้ฟาน
กู้หนิงเองก็อยากจะขายราคาตลาดแต่เธอตัดสินใจและพอใจกับราคาของร้านอี้ซุยแล้ว เธอไม่อยากทำลายความตั้งใจของเธอเอง
ฉินอี้ฟานและพนักงานร้านพากันประหลาดใจที่กู้หนิงยึดมั่นกับความตั้งใจแรกของตน
ทุกคนมองกู้หนิงด้วยสายตาแบบใหม่
"เอ่อ คุณหนูคะ คุณฉินคือลูกชายเจ้าของร้านค่ะ คุณหนูสามารถคุยกับเขาได้โดยตรงค่ะ" พนักงานหญิงแนะนำ เธอยิ้มอย่างนอบน้อม
เขาคือลูกชายเจ้าของร้านอี้ซุย? กู้หนิงคาดไม่ถึง
"ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อฉินอี้ฟาน พ่อของผมเป็นเจ้าของร้านอี้ซุย" ฉินอี้ฟานแนะนำตัวเองกับกู้หนิงและยืนมื่อไปข้างหน้า
"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันชื่อกู้หนิง" กู้หนิงยื่นมือมาจับ
"ถ้างั้นขอผมดูหยกราขันย์ได้รึยังครับคุณหนู?" ฉินอี้ฟานถามขึ้นอย่างไม่รีรอ
"ได้ค่ะ" กู้หนิงเอ่ย เธอใช้กระเป๋าเป้เธอบังไว้ขณะที่ดึงหยกออกมาจากห้องลับในพื้นที่กระแสจิต
หยกของกู้หนิงไม่ได้ถูกห่อหุ้มหรือใส่กล่องแต่อย่างใด ฉินอี้ฟานและเหล่าพนักงานต่างตกใจอีกครั้ง
ถ้านี่คือหยกราชันย์จริง เธอไม่กลัวว่ามันจะมีรอยขีดข่วนเลยเหรอ?
ฉินอี้ฟานรับหยกมาและเริ่มประเมิน
ฉินอี้ฟานเกิดมาในครอบครัวนักขายหยก เขาจึงเติบโตมาพร้อมกับหยกทุกชนิดและเชี่ยวชาญในระดับหนึ่ง
แต่หยกราชันย์เป็นหยกที่หายาก เขาจึงไม่เคยเห็นมันมาก่อน
หยกราชันย์มีสีเขียวเข้มซึ่งเป็นสีที่มีมูลค่าสูงกว่าสีอื่นๆของหยก
ภายใต้แสงไฟ หยกราชันย์เปล่งประกายสีเขียวพิเศษ บางครั้งก็ดูเป็นสีน้ำเงินเข้มแล้วก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อน สีของมันเปลี่ยนไปตามแสงไฟที่ตกกระทบ
ใช้เวลาสักครู่ ฉินอี้ฟานแน่ใจแล้วว่าหยกชิ้นนี้คือหยกราชันย์ของจริง
ฉินอี้ฟานตื่นเต้นแทบจะเป็นลม มือเขาเขาสั่นระริก "นี่คือของจริง นี่คือหยกราชันย์ ขะ..ของจริง.."
"ถ้าเป็นของจริง โปรดบอกราคาของมันมาเถอะค่ะคุณฉิน" กู้หนิงมีเรียนต่อคาบบ่าย เธอไม่อยากเสียเวลากับที่นี่นานไปกว่านี้
Chapter 30: สิบล้านหยวน
"ไม่มีปัญหา" ฉินอี้ฟานต่างหากที่อยากจะจบการซื้อขายมากกว่ากู้หนิงซะอีก เขาต้องการครอบครองหยกราชันย์ไว้เพียงผู้เดียว
"ว่าแต่คุณหนูกู้ ผมขอถามที่มาของหยกชิ้นได้ไหม?
ฉินอี้ฟานจำเป็นต้องรู้ว่าหยกนี้ได้มาอย่างถูกกฎหมายหรือเปล่า เขาจะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง
กู้หนิงเข้าใจ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้รู้สึกถูกข่มขู่ "อย่ากังวลเลยค่ะ ฉันได้มาอย่างถูกต้อง" กู้หนิงตอบ
ได้ยินดังนั้นฉินอี้ฟานก็โล่งอก "จากขนาดและน้ำหนักของหยกชิ้นนี้ ราคาตลาดอาจมากกว่าสิบล้านหยวน แต่ผมให้คุณได้สิบล้าน คุณจะว่าอย่างไร คุณหนูกู้?"
ถึงแม้กู้หนิงจะพอทราบราคาอยู่บ้าง เธอยังต้องตกตะลึงกับราคาที่ฉินอี้ฟานเสนอมา
กู้หนิงสามารถขายได้ราคามากกว่านี้ในตลาด แต่เธอพอใจกับราคาของฉินอี้ฟานแล้ว
ถ้าเธอไปขายที่ร้านอื่นอาจไม่ได้ราคาดีแบบนี้
สิบล้านหยวนนั้นมากเกินกว่าที่กู้หนิงคาดไว้ เธอย่อมพอใจกับราคานี้
จากนั้นพวกเขาจึงทำสัญญาซื้อขายและโอนเงินเข้าบัญชี
เมื่อทั้งสองเซ็นชื่อในเอกสาร ไม่มีใครเสียใจกับการซื้อขายในครั้งนี้
เมื่อเสร็จเรียบร้อยกู้หนิงเตรียมจะจากไป
ฉินอี้ฟานเรียกกู้หนิงก่อนที่เธอจะเดินออกไป "คุณหนูกู้ นี่นามบัตรผม ถ้าหากคุณมีหยกชิ้นอื่นๆ โทรหาผมได้เสมอ"
จู่ๆฉินอี้ฟานก็มีความรู้สึกว่ากู้หนิงไม่น่าใช่นักเรียนมัธยมปลายธรรมดา นอกจากนี้กู้หนิงก็มีมารยาทดีซึ่งนั่นทำให้เขาประทับใจ
"ได้ค่ะ" กู้หนิงรับนามบัตรเขามาด้วยความเต็มใจ
เธอไม่ได้บอกเขาเรื่องเบอร์โทร เพราะเธอเขียนมันไว้ในสัญญาแล้ว
ฉินอี้ฟานยืนมองดูกู้หนิงเดินออกจากร้านจนลับสายตา เขาจึงหันมามองหยกราชันย์ในมือของเขา
"อย่าบอกเรื่องนี้กับท่านประธานล่ะ ผมต้องการเซอร์ไพรส์เขา" ฉินอี้ฟานพูดกับพนักงาน วันครบรอบวันเกิดหกสิบปีของพ่อเขากำลังจะมาถึงเร็วๆนี้ เขาอยากเจียระไนหยกราชันย์ให้เป็นรูปชิ้นเล็กๆและมอบมันเป็นของขวัญวันเกิดพ่อของเขา
พ่อของฉินอี้ฟานทำธุรกิจค้าหยกมานาน เขามีหยกเก็บสะสมไว้หลายแบบ ถึงอย่างนั้นหยกราชันย์ก็ยังเป็นของหายาก พ่อของฉินอี้ฟานจึงยังไม่มีสะสมไว้
แม้กู้หนิงจะแสร้งทำเป็นไม่ตื่นเต้น แต่เธอรู้สึกประหม่าอย่างแน่นอน
สองล้านหยวน บอกตามตรงเธอไม่เคยมีเงินมากขนาดนี้มาก่อนแม้แต่ตอนที่เป็นถังอันหนิง เธอถูกตะกูลถังจำกัดการใช้จ่าย
กู้หนิงตื่นเต้นและไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นจริง
เธอดูข้อความเงินเข้าหลายครั้งเพื่อให้ตรวจสอบให้แน่ใจ จากนั้นก็ลบข้อความทิ้งไปเผื่อกรณีมีใครเปิดดูแล้วเห็นมัน
ถึงแม้สองล้านหยวนจะมากสำหรับกู้หนิง แต่มันยังไม่พอที่จะใช้เริ่มต้นทำธุรกิจ
(ตกลงสิบล้านหรือสองล้าน ผู้แปลภาษาอังกฤษยังไม่แจ้งว่าแปลผิดหรือยังไง ก็เลยต้องแปลตามนี้ไปก่อนนะคะ)
เธอตัดสินใจว่าจะใช้สองล้านหยวนเป็นทุนในการซื้ออัญมณีมาขาย
กู้หนิงค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ตลาดค้าพลอยอยู่ในเมือง G ซึ่งอยู่ใกล้ๆเมือง F ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงบินไปถึงที่นั่น กู้หนิงตัดสินใจแล้วว่าจะไปเมือง G ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้
ไม่ต้องสงสัยกู้หนิงต้องการเริ่มธุรกิจจากการค้าขายพลอย เธอมีตาทิพย์และสามารถทำเงินได้โดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ
ธุรกิจค้าพลอยเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ส่วนธุรกิจอื่นๆจะตามมาอีกในอนาคตอย่างแน่นอน
ตระกูลถังทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และสิ่งบันเทิง กู้หนิงตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าร่วมในสองอุตสาหกรรมนี้ เธอจะต้องเอาชนะตระกูลถังให้ได้
กู้หนิงรู้ว่าเธอต้องค่อยเป็นค่อยไป การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้เธอต้องการทั้งเงินและทรัพยากร
ตัวอย่างเช่นหากเธอวางแผนที่จะก่อตั้งบริษัทค้าพลอย เธอต้องตระเตรียมหลายสิ่งหลายอย่างก่อน
อย่างแรกคือทรัพยากร จากนั้นก็ร้านค้า เธอต้องจดทะเบียนบริษัท หากเธอไม่รู้จักใครที่ช่วยรับผิดชอบเรื่องนี้ เธอไม่มีทางที่จะทำให้เสร็จภายในหนึ่งเดือนได้
และเหล่าพนักงาน เช่นนักออกแบบ ผู้จัดการ และนักเจียระไนก็จำเป็นเช่นเดียวกัน
ตอนนี้เธอเป็นเพียงเด็กนักเรียน เธอไม่สามารถจัดการบริหารร้านด้วยตัวเธอคนเดียวได้
เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ กู้หนิงพลันรู้สึกถึงภาระมากมายเบื้องหน้าแต่เธอก็รู้สึกสนุกกับมันไปด้วย
นอกจากนี้หลังจากที่เธอกลับไปบ้านด้วยเงินจำนวนมาก เธอจะบอกกู้ม่านว่าเธอได้เงินมาอย่างไร และจะซื้อบ้านให้กู้ม่านและกู้ชิง
เธอยังต้องการให้กู้ม่านลาออกจากงานที่ทั้งเหนื่อยและได้ผลตอบแทนน้อยเท่าเม็ดถั่ว
ถ้ากู้ม่านอยากจะเป็นแม่บ้านกู้หนิงก็ยินดี ถ้าแม่ของเธออยากจะทำอะไรเธอพร้อมที่จะสนับสนุนแม่ของเธอเสมอ
กู้ม่านสามารถเปิดร้านขายของเล็กๆได้และจ้างคนมาดูแลแทนเธอ เธออยากจะเข้ามาดูร้านเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เธอต้องการ สิ่งที่กู้หนิงต้องการทั้งหมดคือให้แม่ของเธอใช้ชีวิตสุขสบาย ไม่ต้องลำบากเหมือนที่ผ่านมา
สำหรับครอบครัวกู้ชิง กู้หนิงไม่ได้ช่วยพวกเขาเหมือนกู้ม่าน เธอเพียงคอยช่วยเหลือเรื่องเงินตามสมควร ถ้าพวกเขาต้องการ
ถ้าพวกเขาต้องการเปิดร้านหรือเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ กู้หนิงก็เต็มใจที่จะช่วยพวกเขาโดยไม่ต้องจ่ายเงินคืน
ยังมีเวลาเหลืออยู่ กู้หนิงจึงไปร้านหนังสือ เธอซื้อหนังสือเกี่ยวกับอัญมณีต่างๆหลายเล่ม จากนั้นก็เก็บหนังสือเข้าห้องลับในกระแสจิต หลังจากออกมาจากตึกขายของ เธอก็เรียกแท็กซี่กลับไปยังโรงเรียน
เมื่อกู้หนิงกลับมาถึงโรงเรียนก็เป็นเวลาบ่ายสองยี่สิบแล้ว เหลือเวลาอีกสิบนาทีคาบบ่ายก็จะเริ่ม
กู้หนิงกำลังจะขึ้นบันได้ไปยังชั้นบนก็บังเอิญเจอฉินเจิ้งและกู้เซียวเซียว
นาทีที่กู้เซียวเซียวเห็นกู้หนิง เธอก็เอามือคล้องแขนฉินเจิ้งเอาไว้และส่งสายตาเยาะเย้ยให้กู้หนิง
กู้หนิงหมดคำพูด นี่กู้เซียวเซียวคิดว่าเธอยังชอบฉินเจิ้งอยู่งั้นเหรอ?
บางทีในสายตากู้เซียวเซียว กู้หนิงคงจะชอบฉินเจิ้งมากในอดีตและมันไม่มีทางเป็นไปได้สำหรับเธอที่จะลืมฉินเจิ้งเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ
แม้ว่าฉินเจิ้งจะหักอกเธอ แต่มันก็ต้องใช้เวลาในการทำใจจากอาการอกหัก
แต่น่าเสียดายตอนนี้กู้หนิงเปลี่ยนไปแล้ว ฉินเจิ้งแทบจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ
กู้หนิงไม่สนใจพวกเขาพลางก้าวขาเดินขึ้นบันไดไป กู้เซียวเซียวหงุดหงิดที่กู้หนิงไม่ได้ดูเสียใจอย่างที่เธอคิด
แต่เธอยังเชื่อว่ากู้หนิงแกล้งทำเป็นสงบไม่รู้สึกรู้สาอะไร
ฉินเจิ้งกลับตรงกันข้าม เขาดูผิดหวังสุดๆ
ฺฺBig announcement!
ประกาศนิยายแปลเรื่องกำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจขอดรอปการแปลไว้ชั่วคราว
เพื่อไม่ให้ต้องรอนานผู้แปลขอเร่งแปล หมอสาวชาวนา! และ พี่ชายของฉันดีเกินไปแล้ว
ส่วนกำเนิดใหม่สาวนักเรียนผู้อ่านเข้าไปอ่านฉบับแปลอิ้งล่วงหน้าได้ก่อนนะคะ
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษคือ
REINCARNATION OF THE BUSINESSWOMAN AT SCHOOL
ต้องขออภัยนักอ่านทุกท่านที่ติดตามเรื่องนี้ด้วยค่ะ
ย้ำ! ไม่ได้เลิกแปลเรื่องนี้นะคะ ขอแปลเรื่องอื่นที่ตอนน้อยกว่าให้จบก่อนแล้วจะกลับมาแปลเรื่องนี้ต่อค่ะ
หมอสาวชาวนา
https://www.thai-novel.com/นิยาย/ดราม่า/หมอสาวชาวนา-godl…afford-to-offend/
ตอนนี้เรื่องหมอสาวชาวนาแปลอิ้งล่าสุดตอน 795 ทางผู้แปลขอเร่งแปลให้ทันกับทางอิ้งนะคะ
พี่ชายของฉันดีเกินไปแล้ว
What if My Brother is Too Good?
ร้อยกว่าตอนจบ
สามารถติดตามนิยายได้ที่