GE455 บุคคลลึกลับ [ฟรี]
เมื่อหนิงฝานจากไป เหยาเหลียนก็มุ่งหน้าไปหาบรรพบุรุษทั้ง 8 เพื่อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น
แต่สิ่งที่นางไม่รู้คือ หนิงฝานยังไม่ได้จากไป เขาแอบสะกดรอยนางอย่างลับๆ เพื่อจะได้รู้ว่าบรรพบุรุษทั้ง 8 อยู่ที่ใด
สถานที่ที่บรรพบุรุษทั้ง 8 อยู่นั้น เป็นสมบัติที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่ง หากไม่ได้รับอนุญาติก็เข้าไปในนั้นไม่ได้ หนิงฝานจึงเฝ้ารออยู่ข้างนอก
สถานที่แห่งนี้เป็นความลับที่สำคัญที่สุดของเผ่าปีศาจยักษ์
ภายในสมบัติแห่งนี้ รอบข้างเป็นสีดำสนิทไม่อาจมองเห็นได้ชัด มีพลังแห่งข่ายอาคมไหลเวียน
สิ่งที่พอมองเห็นได้จากภายในนั้นคือแท่งเสาศิลา 8 ต้น ที่เปล่งแสงเรืองรอง
บนแท่งศิลามีแผ่นศิลาอยู่ บนนั้นมีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังนั่งอยู่ 8 คน แต่ละคนมีกลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่ง แต่คนเหล่านั้นไม่ใช่มนุษย์
เงาร่างของคนที่เห็นเหล่านั้นคือบรรพบุรุษของเผ่าปีศาจยักษ์ที่ได้ตายไปแล้ว แต่ก็ยังคงสภาพร่างได้ในสถานที่แห่งนี้
สิ่งที่เหยาเหลียนรายงานไม่ได้ทำให้คนทั้ง 8 นั้นสนใจ เพราะคำถามนั้นไม่ได้เป็นภัยใดๆกับเผ่าปีศาจยักษ์
ในหมู่คนเหล่านั้น มีเพียงชวี่หยานเท่านั้นที่รู้สึกสงสัย หนิงฝานตั้งใจจะช่วยฉุ่ยเยวียน แต่เหตุใดคืนนี้ถึงออกมาพบเหยาเหลียน นับเป็นเรื่องแปลกและคาดเดาไม่ได้
สิ่งที่หนิงฝานกล่าวถามนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉุ่ยเยนียนแม้แต่น้อย หรือว่าจะยอมเชื่อฟังในสิ่งที่ชวี่หยานกล่าวเตือน
“หากไม่เพราะฉุ่ยเยวียน เหตุใดเด็กนั่นต้องมาหาเหยาเหลียน...” แม้ว่าชวี่หยานจะสงสัย แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกคิดไป
ยังไงซะ หนิงฝานก็ไม่ได้ล้วงเอาความลับของเผ่า ทั้งยังมีบุญคุณกับเผ่า มันจึงไม่ได้คิดสังหารหนิงฝาน
“เรื่องของซัวหมิงนั่นไม่ต้องสนใจ… เหยาเหลียน รายงานเรื่องงานปรุงโอสถมา” ข้างๆชวี่หยาน มีบุรุษผู้หนึ่งที่ทรงพลังยิ่งกว่าอยู่ ราวกับมันเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในคนกลุ่มนี้
เหยาเหลียนรายงานเรื่องงานปรุงโอสถไปทั้งหมด ก่อนที่นางจะกลับไปยังที่พักของตน
หนิงฝานกลับไปยังที่พัก นั่งขัดสมาธิคิดทบทวนสิ่งที่ได้รู้มา
เขาได้ความลับมาจากเหยาเหลียนมากมาย และได้รู้ว่าบรรพบุรุษทั้ง 8 นั้นทรงพลัง ในหมู่พวกมัน มีขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางอยู่ 6 คน และขั้นสูงอีก 2 ซึ่งหนิงฝานไม่อาจเอาชนะพวกมันได้เพียงลำพัง หากเขาจะช่วยฉุ่ยเยวียนจากมือพวกมัน เขาต้องแข็งแกร่งขึ้น
ในร่างกายของฉุ่ยเยวียนมีโลหิตของโม๋หลัว กว่าที่แผนการของพวกมันจะสำเร็จ อย่างน้อยๆก็ต้องใช้เวลาอีก 10 ปี
นั่นหมายความว่า ในช่วง 10 ปีนี้ นางจะยังปลอดภัยอยู่ภายใต้การปกป้องของพวกมัน
แต่ในอีก 10 ข้างหน้า หากหนิงฝานไม่แข็งแกร่งขึ้น เขาจะไม่มีทางช่วยนางได้อีก!
“10… อีก 10 ปีข้างหน้าสุราที่ข้าหมักไว้จะได้ที่ ไม่รู้ว่าปราณที่ได้จากมันจะทำให้ข้าบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงหรือเปล่า? แต่การทำให้ร่างกายบรรลุขอบเขตกายทองคำน่าจะง่ายกว่า ข้ามั่นใจว่าข้าต้องทะลวงขอบเขตกายทองคำในช่วง 10 ปีนี้ได้”
“ยังไงซะ ข้าที่เป็นน้องเขยของนาง จะยอมให้พวกมันแตะต้องนางไม่ได้!”
เท่าที่หนิงฝานรู้ เป็นไปได้มากว่าอนุสรณ์ปีศาจอาจจะอยู่ในมือพวกมัน เขาไม่รู้ว่าจะเข้าใกล้พวกมันเพื่อชิงอนุสรณ์มาได้หรือเปล่า
“เรื่องเข้าไปชิงอนุสรณ์ปีศาจอาจต้องคิดดูอีกที ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคืองานปรุงโอสถ การจะยกระดับพลังในช่วง 10 ปีนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือโอสถ”
หนิงฝานตระหนักดีว่าตัวเขาในยามนี้ยังแข็งแกร่งไม่พอ เขาสู้กับผู้ที่เคยฝึกฝนมาก่อนในอดีตไม่ได้… ความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้ยังน้อยเกินไปที่จะอยู่อย่างปลอดภัยในโลกพิรุณ
เขาต้องแข็งแกร่งจนเทียบเคียงหานเนี่ยเทียนให้ได้
เมื่อรุ่งเช้ามาเยือน หนิงฝานไปพบสตรีของตน บอกให้หลิงคงคอยดูแลคนอื่นๆ แล้วตัวเขาก็เก็บตัวเพื่อเตรียมตัวกับงานปรุงโอสถ
เขาต้องชิงอับดับ 1 ใน 3 ให้ได้ เพื่อจะได้มีโอกาสปรุงโอสถให้ฉุ่ยเยวียน
หนิงฝานยังไม่รู้ว่าต้องปรุงโอสถใดถึงจะรักษานางได้ แต่อย่างน้อยๆ เขาต้องได้เป็นคนปรุงโอสถให้นางกินด้วยตัวเอง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครทำร้ายนางได้ เขาไม่รู้ว่างานปรุงโอสถในครั้งนี้จะมีนักปรุงโอสถมากมายขนาดไหนเข้าร่วม
ภายในเมืองเหมันต์ มีสถานที่แห่งหนึ่งที่มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากรวมตัว เพื่อซื้อหาโอสถ สมุนไพร และตำรับโอสถ
สถานที่แห่งนั้น เป็นแหล่งหลักในเรื่องสมุนไพรของเผ่าปีศาจยักษ์ ทั้งยังเป็นได้เปิดพื้นที่บางส่วนให้นักปรุงโอสถได้นำสมุนไพร หรือโอสถของตนมาขายได้
ยิ่งใกล้จะถึงงานปรุงโอสถ นักปรุงโอสถและผู้เชี่ยวชาญต่างก็เริ่มรวบรวมสมุนไพร ตำรับโอสถ และเตาปรุงโอสถเพื่อเตรียมการ
แต่กับสมุนไพรบางอย่าง นักปรุงโอสถก็ไม่ได้ขาย จึงทำได้เพียงหาสิ่งของมาแลกเปลี่ยน
หนิงฝานท่องไปทั่วแคว้นเหมันต์และมุ่งมายังสถานที่รวมตัวของนักปรุงโอสถเพื่อซื้อหาสมุนไพร
หนิงฝานต้องการรวบรวมสมุนไพรที่ใช้ปรุงโอสถผันปีศาจเพื่อยกระดับร่างกาย
โอสถผันปีศาจคือโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูง ตอนนี้หนิงฝานสามารถปรุงมันได้แล้ว แต่ยังขาดสมุนไพรหลักไปอีก 3 ชนิด
ในจำนวนสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดนั้น หนิงฝานหาได้แล้ว 2 ชนิด เหลืออีกเพียงชนิดเดียวเท่านั้น
มันคือบุบผาหมื่นปีชนิดนี้ที่หายสาปสูญไปจากโลกพิรุณ แต่เป็นไปได้สูงว่าที่เผ่าปีศาจยักษ์แห่งนี้จะมีสมุนไพรชนิดนั้นอยู่
หนิงฝานเข้าพบผู้ที่รับผิดชอบสถานที่แห่งนั้น ผู้ที่รับผิดชอบเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด มันได้เห็นฉากที่หนิงฝานสังหารฉือคุณ จึงนับถือหนิงฝานเป็นอย่างมาก
มันได้รับคำสั่งจากชวี่ฉิง ว่าหากหนิงฝานมาที่นี่แล้วต้องการสิ่งใด ให้มอบให้โดยทันที
เมื่อเทียบกับความอยู่รอดของเผ่าแล้ว สิ่งของหรือสมบัติจะไปมีค่าอะไร?
เมื่อหนิงฝานทราบดังนั้น เขาจึงพยักหน้าและเดินหาสิ่งที่ต้องการ
สถานที่แห่งนั้นเป็นศาลาขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 5 ชั้น ชั้นแรกขายโอสถ ชั้นที่ 2 ขายกระถางปรุงโอสถ ชั้น 3 ขายตำรับโอสถ ชั้น 4 ขายสมุนไพร และชั้น 5 เป็นสถานที่เปิดเอาไว้ให้แลกเปลี่ยน
ผู้รับผิดชอบสถานที่ได้นำหนิงฝานไปยังชั้น 4 ระหว่างทางมันได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆให้หนิงฝาน จากนั้นก็เร่งคารวะแล้วจากไป เพราะมันไม่อยากรบกวนหนิงฝาน
หนิงฝานนั้นน่าสะพรึงกลัว มันไม่กล้ายั่วยุเขาแม้แต่น้อย
เมื่อได้เดินดูของที่อยู่ภายใน ไม่มีสิ่งใดทำให้หนิงฝานสนใจ แม้มีกระถางปรุงโอสถคุณภาพดีมากมาย แต่ก็ไม่เหมาะกับนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 อีกอย่าง หนิงฝานยังสามารถใช้สัมผัสเทพสร้างกระถางปรุงโอสถคุณภาพสูงขึ้นมาใช้เองได้
ส่วนตำรับโอสถส่วนใหญ่ที่อยู่ในศาลาก็ไม่เกินโอสถผันแปรที่ 4 ดังนั้นเขาจึงขอสมุนไพรที่ศาลาแห่งนี้มีทั้งหมดไปโดยไม่เกรงใจ
แม้สมุนไพรเหล่านั้นจะล้ำค่า แต่พวกมันก็ไม่กล้าเก็บหยกสวรรค์จากหนิงฝาน
หนิงฝานมุ่งขึ้นไปยังชั้น 5 ของศาลา ที่นั่นเป็นสถานที่แลกเปลี่ยน แต่กHไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเผ่าปีศาจยักษ์ นั่นหมายถึง หากหนิงฝานต้องการสิ่งใด ก็ไม่อาจบังคับเอาจากคนเหล่านั้นได้
ที่ศาลาชั้น 5 เป็นสถานที่ที่ตกแต่งหรูหรา เป็นโถงขนาดใหญ่ที่จุคนได้มากมาย มีนักปรุงโอสถนับหมื่นที่อยู่ภายใน บางคนตั้งโต๊ะรับแลกเปลี่ยนสมุนไพร โอสถ หรือกระทั่งตำรับโอสถ
ภายในชั้น 5 มีคนของเผ่าปีศาจยักษ์คุ้มกันนับ 100 คน แต่ละคนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลัง ผู้นำของคนกลุ่มนั้นคือผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูง ซึ่งสามารถขู่ขวัญให้นักปรุงโอสถเหล่านั้นไม่กล้าปล้นชิง
ในทะเลไร้สิ้นสุดนี้ ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูงนับเป็นตัวตนระดับสูง แค่ถูกสายตาที่เย็นชาจ้องมอง เหล่านักปรุงโอสถก็หวาดกลัวแล้ว
“คนผู้นั้นมีสายตาที่น่าหวาดกลัว มันเป็นใครกัน?” หนึ่งในนักปรุงโอสถกล่าวถาม
“สหายเต๋าไม่รู้เหรอ ว่าคนผู้นั้นคือองครักษ์ทวารทั้ง 8 ของเผ่าปีศาจ เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่องครักษ์ ได้ยินว่ามันเป็นผู้ที่ทรงพลังกว่าคนในระดับเดียวกันมาก” นักปรุงโอสถอีกคนกล่าว
“ว่าไงนะ! จริงเหรอ? แบบนี้ผู้ที่มาไม่กล้ายั่วยุคนผู้นั้นอย่างแน่นอน”
นักปรุงโอสถเหล่านั้นรับรู้ถึงความน่ากลัวได้ด้วยสัญชาตญาณ
แต่เมื่อหนิงฝานปรากฏตัวยังชั้น 5 บุรุษผู้ทรงพลังผู้นั้นกลับคุกเข่าให้หนิงฝานด้วยความเคารพ
“ข้าผู้นำองครักษ์ คาวระท่านหมิง! ขอบคุณท่านหมิงที่ช่วยเหลือเผ่าของเราไว้!”
ทันทีที่บุรุษผู้นั้นคุกเข่า กององครักษ์นับ 100 เร่งคุกเข่าตาม
“ไม่ต้องมากพิธีหรอก” หนิงฝานพยักหน้าให้
การที่บุรุษผู้ทรงพลังผู้นั้นคุกเข่าต่อหน้าคนผู้หนึ่ง ทำให้นักปรุงโอสถที่อยู่ในชั้นตกตะลึง แต่เมื่อพวกมันหันมองผู้ที่มา พวกมันก็เข้าใจทันทีว่าบุรุษผู้นั้นคุกเข่าให้ผู้ใด
บางคนที่มาไม่รู้จักหนิงฝาน จึงได้กล่าวถามคนที่อยู่ใกล้ๆ
“ผู้เยาว์อาภรณ์ขาวคนนั้นเป็นใคร? ทำไมถึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณคนนั้นคุกเข่าได้?”
“ว่าไงนะ? นี่เจ้าไม่รู้จักเขาเหรอ? นั่นท่านซัวหมิง ผู้ที่สังหารผู้ครองแคว้นฉือคุณ!”
“หา! นั่นท่านซัวหมิง! เขายังเยาว์มาก อายุกระดูกแค่ 500 ปี แต่กลับสังหารขอบเขตไร้ดัดแปลงได้!”
เสียงของคนผู้นั้นดังก้องไปทั้งชั้น 5 ทำให้ผู้ที่จำหนิงฝานไม่ได้นึกออก ว่าคนผู้นี่ไม่อาจยั่วยุได้
ท่ามกลางนักปรุงโอสถในชั้น 5 มีคนผู้หนึ่งในอาภรณ์ขาดวิ่นนั่งนิ่ง คนผู้นี้มีผมขาวยาวยุ่งเหยิง ที่เอวมีป้ายนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 แขวนอยู่ ราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มาจากภายนอกทะเลไร้สิ้นสุด
คนผู้นั้นมีพลังในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง คนผู้นั้นขายสมุนไพรราคาสูงจนไม่มีใครกล้าซื้อ
“เด็กนั่นหน่ะเหรอมีร่างต้านเพลิง? จิตวิญญาณสมุนไพรเองก็ไม่ธรรมดา บรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูง แต่หากจะบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 6 ยังอีกไกล...”
คนผู้นั้นส่ายหน้า ราวกับวิชาปรุงโอสถของหนิงฝานไม่ควรค่าให้กล่าวถึง
ชายชราผู้นั้นทรงพลัง แม้ไม่มีใครสัมผัสได้ แต่หนิงฝานสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าชายคนนั้นน่าจะอยู่ในขอบเขตไร้แบ่งแยก!...