ตอนที่แล้วบทที่ 198 ป่าอาถรรพ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 200 กองหนุนที่ไม่คาดฝัน

บทที่ 199 การเดินทางที่ยาวไกล


"พื้นที่เขาวงกตเกิดขึ้นเอง?"

เจียงอี้ยังรู้สึกงุนงงกับความจริงที่ว่าคนพวกนี้เป็นบ้าไปเพียงเพราะพวกเขาออกไปไม่ได้? นี่ผ่านมาเพียงสิบวันหลังจากการเริ่มต้นสงครามอาณาจักร พวกเขาไม่ควรคลั่งเช่นนั้นหลังจากโดนขังอยู่เพียงไม่กี่วันหรอกมั้ง?

หลังจากนึกครุ่นคิดอยู่หลายครั้ง หากเขาทำลายเขาวงกตนี้ออกไปเขาก็จะไม่สามารถหาคำตอบและอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่หากเขาไม่ทำลายเขาวงกตออกไป เขาอาจจะถูกขังอยู่ที่นี่และจบด้วยการวนเวียนอยู่ที่นี่ ซึ่งเหมือนกับการรอคอยความตาย

หากเขาต้องแหกออกจากที่นี่ เขาต้องเผาต้นไม้สีเหลืองที่ยากลำบากเหล่านี้ให้หมด หากเขาต้องเผาเพื่อหาทางออก เขาจะต้องใช้เพลิงโลกาหมดไปจำนวนมากอย่างแน่นอน

หากปราศจากเพลิงโลกา เขาอาจไม่สามารถหลุดพ้นจากการถูกกักขังและต้องยอมแพ้ต่อชะตากรรมของเขา หินวิญญาณเพลิงน่ากลัวยิ่งกว่าเพลิงโลกา แต่เขามีมันอย่างจำกัด เขาจะสามารถใช้มันฆ่าได้อีกกี่ครั้งกัน?

ข้าไม่ควรใช้มันตอนนี้และหาวิธีอื่นเพื่อออกจากที่นี่!

เจียงอี้ขี่หมาป่าจันทราสีเงินและวิ่งอย่างทุทักทุเลในขณะที่ทิ้งรอยไว้บนต้นไม้ด้วยดาบเกล็ดทมิฬและพยายามที่จะออกจากเขาวงกตนี้ ระหว่างทาง เขาพบกับคนบ้าอีกสามคน และหนึ่งในนั้นอยู่ขอบเขตเสินโหยว เขาอาจได้รับเหรียญตราเพิ่มอีกหลายโหล แต่นั่นก็ทำให้เขารู้สึกสับสนมากขึ้น ป่าอาถรรพ์นี้มีพลังเวทย์มนตร์ที่ไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งอาจทำให้ใครๆกลายเป็นคนบ้าหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง?

"ฮู่ว ฮู่ว ..."

ในไม่ช้าเจียงอี้ก็รู้คำตอบ ก่อนที่เขาจะรู้ตัว ป่านี้ก็มีสายลมที่พัดโชยนี้แล้ว เมื่อลมพัดผ่านใบไม้สีเหลือง มันจะส่งเสียงดังราวกับว่าใบทั้งหมดทำจากโลหะ

ในตอนแรกเขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร อย่างไรก็ตามเมื่อลมพัดแรงขึ้นเสียงแกร๊งๆก็ดังขึ้นเช่นกัน เจียงอี้ยังคงฟังต่อไปจนกระทั่งดวงตาของเขารู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่น แม้แต่หมาป่าจันทราสีเงินก็หยุดขณะที่ดวงตาเย็นยะเยือกกลับกลายเป็นสลึมสลือ

"บุฟ"

ไข่มุกวิญญาณเพลิงของเจียงอี้สว่างขึ้นในขณะนั้น และถ่ายโอนพลังงานห่อหุ้มดวงจิตของเขา มันเปล่งประกายด้วยแสงสีทองและทำให้เขากลับมารู้สึกตัวทันที เขามองไปรอบๆใบไม้ที่สั่นไหวและฟังเสียงกระทบที่เหมือนกับยมทูตกำลังร้องเรียกหา ซึ่งทำให้ใบหน้าของเขาซีดเผือด

"หมาป่าจันทราสีเงิน กลับเข้าไป!"

หลังจากเห็นหมาป่าจันทราสีเงินกำลังอยู่ในภวังค์ เจียงอี้ก็รีบดึงมันกลับเข้าไปในเครื่องรางสัตว์วิญญาณ ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงคลั่งกันไปหมด ป่าอาถรรพ์นี้มีความสามารถในการปล่อยคลื่นเสียงที่ทำให้วิญญาณเข้าสู่ภวังค์และเกิดอาการประสาทหลอนทำให้พวกเขาเสียสติ

"ฮู่!"

ขณะที่ลมแรงพัดเข้ามาแต่ไกล เสียงประหลาดนั้นก็ดังขึ้น และเจียงอี้ก็ปลดปล่อยความโล่งใจ คราวนี้เขาไม่ลังเลอีกต่อไป เขาต้องการใช้เพลิงโลกาเพื่อเผาป่าอาถรรพ์ทันทีและหลบหนีออกจากที่นี่ หากเขาสามารถทำลายป่าอาถรรพ์ได้ จะไม่มีใครตายจากการเป็นบ้า และมันก็เป็นการกระทำที่ถูกต้องสำหรับเขาเช่นกัน

ไม่ นี่มันไม่ถูกต้อง!

เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับผู้คนที่จะเข้ามาในสถานที่นี้ เจียงอี้ก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็ว ทำไมเขาต้องทำลายป่าอาถรรพ์ด้วย? ไม่ใช่ว่าเขาถูกติดตามหรอกหรือ? ไม่ใช่ว่าจะต้องมีคนกลุ่มใหญ่มาไล่ล่าเขาและล้อมฆ่าเขาหรอกหรือ? ไม่ใช่ว่าป่าอาถรรพ์นี้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการเริ่มการต่อสู้หรือ?

ด้วยไข่มุกวิญญาณเพลิง เขาไม่จำเป็นต้องกลัวการโจมตีทางวิญญาณใดๆ และเขาก็จะปลอดภัยที่นี่ หากมีคนมาที่นี่ เขาแค่ต้องล่อพวกนั้นไปซักพักก่อนที่ทุกคนจะเริ่มคลั่ง และทำให้เขาฆ่าพวกนั้นทั้งหมดได้อย่างง่ายดายใช่ไหม?

ดี! ข้าเดินทางอย่างยาวไกลเพียงเพื่อค้นหาสถานที่แห่งนี้หลังจากพยายามมามากมาย!

เจียงอี้ได้สำรวจภูมิประเทศที่ดีที่สุดซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเขา ตอนนี้เขาปักหลักอยู่ในป่าเพื่อดูลาดเลาของป่าอาถรรพ์ซึ่งเป็นภูมิประเทศที่เหมาะที่สุดสำหรับเขาที่จะเริ่มการต่อสู้ครั้งนี้

มาสำรวจพื้นที่รอบๆนี้ก่อนเถอะ!

เจียงอี้ตื่นเต้นมากจนร่างกายสั่นไหว ความคิดที่หมุนไปมาในใจของเขาออกมาเป็นรูปแบบและแผนการต่างๆ ด้วยภูมิประเทศที่ดีเช่นนี้ เขาต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ได้เปรียบทั้งหมดและใช้ทรัพยากรของเขาเพื่อการต่อสู้ที่สามารถพลิกแพลงสถานการณ์ได้

จิตใจของเขาไม่มีความตั้งใจที่จะนอนหลับ ขณะที่เขาขี่หมาป่าจันทราสีเงินเพื่อสำรวจรอบๆป่า หลังจากเดินไปเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง เขาทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในป่าก่อนที่จะหยิบเชือกจำนวนมากออกมาเพื่อจัดสถานที่

หลังจากยุ่งมาเป็นเวลาสี่ชั่วโมง เจียงอี้ก็โผล่ออกมาจากรูใต้ดิน เขาใช้เพลิงโลกาเผารากที่แข็งแรงได้อย่างง่ายดายและขุดหลุมตื้นๆไม่กี่หลุม จริงๆแล้วเขาสามารถทำให้หลุมลึกลงไปได้อีก แต่มันก็เกี่ยวพันกับรากของต้นไม้ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเข้าไปลึกได้มากขนาดไหน เจียงอี้ไม่ต้องการที่จะเสียเพลิงโลกามากเกินไปและทำได้แค่เพียงปล่อยมันไว้

เกือบเสร็จแล้ว ข้าจะปล่อยให้ความเป็นความตายขึ้นอยู่กับสวรรค์แล้วกัน!

เจียงอี้มองดูการจัดการโดยรอบและปรบมืออย่างพอใจ เขากระโดดขึ้นไปบนต้นไม้แล้วนอนหลับอย่างสนิท

การนอนหลับนี้ใช้เวลาไปแปดถึงสิบชั่วโมง เจียงอี้ไม่ต้องกังวลกับศัตรูและหลับได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็กระโดดลงมาจากต้นไม้แล้วลาดตระเวนบริเวณนั้นก่อนจะกระโดดกลับขึ้นไปบนต้นไม้ เขานั่งบนต้นไม้และขบเคี้ยวอาหารเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของเขา

"บ่มพลัง!"

หลังจากที่เขาอิ่มแล้วเขาก็นั่งขัดสมาธิบนต้นไม้และเริ่มฝึกฝน เมื่อฝึกฝนไปไม่กี่ชั่วโมง เขาก็เริ่มฝึกฝนเพลงดาบเงาวายุก่อนที่เขาจะฝึกฝนแก่นแท้พลัง

เจียงอี้ใช้เวลาไปกับวันที่เงียบสงบในผืนป่า ในช่วงเที่ยงคืน สายลมอ่อนๆเริ่มพัดผ่านป่า สายลมค่อยๆกลายเป็นลมที่รุนแรงและเสียงที่น่ากลัวดังก้องไปทั่วภูติพฤกษา เจียงอี้ผู้ซึ่งได้รับการคุ้มครองจากไข่มุกวิญญาณเพลิงสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความสลึมสลือเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งทำให้เขาโล่งอกอย่างสมบูรณ์

วันรุ่งขึ้น เขาตื่นขึ้นท่ามกลางการฝึกฝนของเขา ดวงตาของเขาสังเกตเห็นรอยที่ถูกทิ้งไว้บนต้นไม้ทางด้านซ้าย เจียงอี้กระโดดไปทางซ้ายทันทีและเรียกหมาป่าจันทราสีเงินออกมากลางอากาศก่อนที่จะวิ่งไปทางซ้าย

จอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่?

เจียงอี้เจอคนที่มาที่นั่นอย่างรวดเร็ว มันเป็นจอมยุทธตัวจิ๋วที่ทำตัวลับๆล่อๆ เมื่อเขาเห็นเจียงอี้ขี่หมาป่าจันทราสีเงิน ทันใดนั้นเขาก็พุ่งเข้าหาเจียงอี้ด้วยแววตาอันชั่วร้าย

เจียงอี้ไม่ขยับและยืนนิ่งเหมือนคนโง่ เมื่อขวานยักษ์ผ่าลงมาราวกับแสงไฟที่ไหลอยู่ในมือของศัตรู ดาบเกล็ดทมิฬก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาและเหวี่ยงเบาๆ ไปข้างหน้าเขา

"ฟึ่บ ฟึ่บ!"

ขวานยักษ์นั้นกลายเป็นขวานไม้ที่ถูกแยกออกจากกันอย่างง่ายดายด้วยฝีมือดาบเกล็ดทมิฬ คนผู้นั้นถอยหนีทันที แต่แสงสีดำส่องแสงลอดออกมาจากปลอกแขนของเจียงอี้ หน้าไม้สังหารเทพถูกยิงออกไปและฆ่าเขาอย่างง่ายดาย

ดูเหมือนว่ากลไกจะได้รับความเสียหายเล็กน้อย ข้าอาจต้องจัดแจงใหม่

หลังจากรอครึ่งวัน ผู้โชคร้ายอีกคนก็เข้ามาและถูกเจียงอี้กำจัดอย่างง่ายดาย เมื่อเขาเตรียมที่จะนอนหลับและเสริมกำลังของเขา กลไกในป่าอาถรรพ์ก็ถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง กลไกถูกเปิดใช้งานในเวลาเดียวกัน!

พวกมันอยู่ที่นี่?

เจียงอี้ยังคงนิ่งเงียบและไม่เรียกปีศาจหมาป่าออกมา เขากลับอยู่ในที่ของเขาแทน

"กรุ๊งกริ๊งๆ!"

ใบไม้กำลังไหวอยู่ตลอดเวลาขณะที่คนกลุ่มนั้นกำลังเริ่มเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว เจียงอี้กลั้นหายใจขณะที่ร่างกายหดเกร็ง สามสิบนาทีต่อมาเขาหยิบเหรียญตราออกมาเพื่อสำรวจด้วยความเร็วสูงและประหลาดใจ

มีผู้คนไม่มากนัก ซึ่งมีประมาณสี่สิบหรือห้าสิบคน ในขณะที่มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวเพียงแปดถึงเก้าคน พวกเขาไม่ควรมาจากกองกำลังของสุ่ยเชียนโหรว เนื่องจากหอดาราสุ่ยเยว่ส่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวมากว่าห้าสิบคน

"ฟึ่บ!"

เขากระโดดลงมาอย่างรวดเร็วและเข้าไปในรูใต้ดินหลุมหนึ่งและซ่อนตัวอยู่ในหลุมเพื่อรอให้ศัตรูมาถึง

"ตึกๆๆๆ!"

คนกลุ่มนั้นมาถึงอย่างรวดเร็วและเจียงอี้ก็ตะลึงงันเมื่อพวกเขาหยุดอยู่ห่างจากเขาไปหลายร้อยเมตร เสียงที่คุ้นเคยก็ดังออกมา "เจียงอี้ ออกมา ข้าจ้านอู๋ซวง!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด