GOI ตอนที่ 80 รอคอยใครบางคน!
“ฮ่าๆ! เยี่ยม!!!”
ป๋ายเสี่ยวเฟยที่ข่มกลั้นอาการไว้ตลอดในศาลาบุปผาตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น ฟางเย่ไม่แตกต่างเท่าใดนัก ดูได้จากสีหน้าของเขา
มีเพียงเสี่ยวเอ้อที่อยู่ภายในอ้อมกอดของหันเชียนเย่ในฐานะ ‘ตัวประกัน’... ที่มีสีหน้าโศกเศร้า
เมื่อครู๋ หยุนจิงชวงพินิจพิเคราะห์แผนการที่ฟางเย่เอ่ยอยู่หลายครา เขารู้สึกว่าไม่มีปัญหาอันใดกับแผนการและตอบตกลงในที่สุด
หยุนจิงชวงจะเป็นผู้รับผิดชอบสิ่งต่างๆ ในอันดับบุปผา ส่วนป๋ายเสี่ยวเฟยและพวกจะจัดการเรื่องการดำเนินงานด้านอื่นๆ
พูดอีกอย่าง แค่มีคำตอบตกลงของหยุนจิงชวง ห้องคนเถื่อนเพียงแค่รอรับเงิน! แถมยังเป็นแค่หนึ่งในวิธีหาเงินของป๋ายเสี่ยวเฟยเท่านั้น!
วิธีใช้งานพวกคนใหญ่คนโตของป๋ายเสี่ยวเฟยไม่ได้จำกัดเพียงแค่อันดับบุปผา!
“กลับไปพักก่อน พวกเราจะทำตามแผนอีกทีพรุ่งนี้!”
หลังจากมาถึงหอพัก ป๋ายเสี่ยวเฟยสงบสติลงในที่สุด เขาและฟางเย่แยกย้ายกลับห้องไป
โม่ข่าและพวกที่ได้รอคอยการกลับมาของป๋ายเสี่ยวเฟย รีบเข้ามาล้อมรอบเขาทันที
“พี่ใหญ่เฟย! ท่านกลับมาแล้ว!”
พวกเขาทำตัวราวกับได้เห็นญาติพี่น้อง สิ่งที่ขาดหายไปจากฉากตรงหน้าคือน้ำตาที่ไหลริน ถึงแม้พวกเขาจะสามารถตกหลุมพรางได้ทุกเวลาหากติดตามป๋ายเสี่ยวเฟย แต่มันน่าเบื่อเกินไปถ้าไม่มีเขา
โดยไม่รู้ตัว ป๋ายเสี่ยวเฟยได้กลายมาเป็นตัวตนที่คล้ายกับสารเสพติด ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่ามันอันตรายแต่ก็มิอาจหักห้ามใจตนเองได้...
“รีบนอน พรุ่งนี้พวกเรามีเรื่องให้ทำเยอะ สำหรับหุ่นเชิดของพวกเจ้า ไม่ต้องกังวล ข้ายืนยันได้ว่าทุกคนจะพึงพอใจในหนึ่งเดือนอย่างช้าที่สุด”
หลังจากเอ่ยจบ ป๋ายเสี่ยวเฟยกระโจนเข้าสู๋เตียงนุ่ม ขณะที่โม่ข่าและพวกมีความคิดมากมายอยากจะเอ่ยอยู่บนหน้าพวกเขา
เมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยหลับลง การปลุกเขาให้ตื่นก็ไม่ต่างอันใดจากการอธิษฐานพรที่ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นจริง...
“ลืมไปเสีย นอนกันเถิด ไม่มีทางที่เจ้าจะปลุกพี่ใหญ่เฟยได้”
หวู่จื๋อตบบ่าโม่ข่า อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ
‘พวกเรารออย่างไร้ความหมาย...’
ดวงอาทิตย์ปรากฎกายในเวลาที่ถูกนัดหมาย โม่ข่าที่ไม่ได้นอนมากนักทั้งคืนกระโดดเหยงขึ้นมาจากเตียงทันที ในเวลานี้เขาคือคนที่คาดหวังต่อวันใหม่มากที่สุดในห้องคนเถื่อน เพราะเมื่อเขาได้หุ่นเชิดตัวที่สอง นั่นหมายความว่าเขาจะสามารถเปลี่ยนจากผู้สนับสนุนเบื้องหลังเป็นนักแสดงจริงในสนามรบ
เขาไม่อยากเป็นสายสนับสนุนอีกต่อไป!
“พี่ใหญ่เฟย! พี่ใหญ่เฟย! ได้เวลาตื่นแล้ว!”
โม่ข่าปลุกป๋ายเสี่ยวเฟยขึ้นด้วยความตื่นเต้น แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาคือฝ่ามือตบป้าบเข้าไปที่ศีรษะ
“เจ้านอนจนสมองฝ่อแล้วหรือ? วันนี้เป็นวันหยุด ไม่มีเรียน!”
นี่คือสิ่งที่หยุนจิงชวงเอ่ยบอกเขาเมื่อวาน มิเช่นนั้นไม่มีทางที่ป๋ายเสี่ยวเฟยผู้ที่ไม่ค่อยได้เรียนในสถาบันมากนักจะล่วงรู้
“ฮี่ฮี่ ท่านตื่นแล้ว พี่ใหญ่เฟย พวกเรามีงานให้ทำเยอะใช่หรือไม่!?”
ความคาดหวังของอนาคตอันสดใสทำให้โม่ข่าลืมเลือนความเจ็บปวด แค่เพียงป๋ายเสี่ยวเฟยไม่บอกว่าจะไม่ซื้อหุ่นเชิดให้เขา ก็ไม่มีอะไรที่เขาต้องเป็นกังวล
“ก็ไม่เยอะนัก พวกเราแค่รออยู่ในหอพัก!”
ป๋ายเสี่ยวเฟยนั่งบนเตียงมีสีหน้าไม่พอใจพลางลูบผมยู่ยี่ของเขา
“พี่ใหญ่เฟย ท่านอย่าเป็นเช่นนี้ ข้าขอโทษในสิ่งที่ข้าทำ แต่เราต้องหาเงิน!”
เสียงของโม่ข่าราวกับเขาแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
“ข้าไม่ว่างเล่นกับเจ้า ภารกิจในวันนี้คือการรอใครบางคน ไปเรียกต้าหมิงและคนอื่นมา พวกเราจะรอพร้อมกัน”
ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยเสียงจริงจัง ส่วนโม่ข่าตะลึงไปชั่วครู่
โม่ข่าสัมผัสได้ว่าป๋ายเสี่ยวเฟยไม่ได้ล้อเล่น แต่เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่ป๋ายเสี่ยวเฟยต้องการจะทำ เขาไม่อาจทนทรมานต่อความสงสัยของตนเองได้
“รอ? ใคร?”
“ไปเรียกคนอื่นมา สิ่งที่พวกเราต้องทำมีเพียงรอในหอพักโดยไม่ออกไปข้างนอก”
หลังจากพูดจบ ป๋ายเสี่ยวเฟยเริ่มล้างหน้าแปลงฟัน หวู่จื๋อและสือขุยไม่ได้เผยความสนใจมากนักเช่นกัน
ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่อยากรู้ แต่หากป๋ายเสี่ยวเฟยต้องการให้พวกเขาคาดเดาไปต่างๆ นานา พวกเราจะไม่มีทางได้รับคำตอบ...
เอ่อ... อาจมีเพียงหลินหลีที่เป็นข้อยกเว้น...
แต่ไม่ใช่กับพวกเขาแน่นอน!
“โม่ข่า พี่ใหญ่ให้เจ้าไป เจ้าก็ไป! ในเมื่อฝ่าบาทยังไม่ทรงพะวง เหตุใดขันทีเยี่ยงเจ้าต้องเป็นกังวลแทน?”
สือขุยไม่อาจทนมองได้อีกต่อไป เขาเอ่ยขัดโม่ข่าที่อยากจะสอบสวนป๋ายเสี่ยวเฟยให้ถึงที่สุด
“บัดซบ! เจ้าสิขันที! รอให้ข้ามีหุ่นเชิดตัวที่สองก่อน เจ้าจะได้เห็นว่าข้าอัดเจ้ายังไง!”
โม่ข่าตั้งใจจะบันดาลโทสะของตน แต่หลังจากเขาวัดระดับความแข็งแกร่งของสือขุยแล้ว เขาเลือกใช้วิธีก่นด่าแทน
สือขุยไม่มีทีท่าจะลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับโม่ข่า ท้ายที่สุดโม่ข่าได้เพียงเดินจากไปด้วยความอับอายเพื่อเรียกระดมคนอื่นมาที่ห้อง เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องทำที่ป๋ายเสี่ยวเฟยสั่ง...
ในไม่ช้า ศิษย์ชายคนอื่นจากห้องคนเถื่อนก็มาถึง และเพราะฟางเย่มีสิ่งอื่นต้องทำ ‘หน้าที่อันหนักหน่วง’ ของการซื้ออาหารเช้าจึงตกเป็นของหวังหาง...
“พี่ใหญ่เฟย พวกเรารอใครอยู่กันแน่?”
คนที่ถามในครานี้คือฉิงหนาน ป๋ายเสี่ยวเฟยได้ยินคำนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง
“ฟังสิ พวกเขามาแล้ว!”
ก่อนที่ป๋ายเสี่ยวเฟยจะทันได้ตอบ เสียงฝีเท้าหลายคู่ดังออกมาจากข้างนอก นอกจากป๋ายเสี่ยวเฟยที่มีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า ทุกคนมีสีหน้าฉงนสงสัย
‘เขารอใครอยู่กันแน่!?’
ปัง!
ประตูห้อง 807 กลายเป็นตัวสังเวยอีกครา สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที
หากประตูหอพักของพวกเขาถูกถีบกระเด็นเช่นนี้ในอดีต ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือรู้สึกหวาดกลัว แต่พวกเขาแตกต่างจากเมื่อก่อน ทุกคนล้วนกราดเกรี้ยว!
‘อะไรวะ!’
‘เจ้ากล้าถีบประตูของพวกเรา!? เหนื่อยหน่ายที่จะมีชีวิตแล้วหรือ!?’
ขณะที่พวกเขาคิดอยู่เช่นนี้ ทุกคนเคลื่อนไหวตั้งใจจะจัดการกับไอ้พวกไม่รักตัวกลัวตาย แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยรั้งไว้ก่อน
เป็นเวลานี้เองที่ผู้มาเยือนเผยตัวตน สามคนสวมใส่อาภรณ์ศิษย์ปีสองจากกระบี่พิฆาต
“ว่าไง ศิษย์น้องทั้งหลาย!
ศิษย์พี่ที่เป็นผู้นำมีเส้นผมยาวเพียงหนึ่งนิ้ว รอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าทำให้เขาดูเหมือนกับนักเลงหัวไม้ ยิ่งกว่านั้น สีหน้าของมันทำให้ทุกคนในห้องรู้ว่ามันไม่ได้มาดี
ในที่สุดโม่ข่าก็เข้าใจว่าป๋ายเสี่ยวเฟยกำลังรอใคร!
ปัจจุบันคืออาทิตย์แรกของเดือนนี้ ตามคำพูดของศิษย์พี่ที่เอ่ยตอนพวกเขาเพิ่งมาถึง พวกเขาจะต้องจ่ายค่าคุ้มครอง!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ โม่ข่าอดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มด้วยความสุข
‘พี่ใหญ่เฟยไม่ได้ลืมเรื่องหาเงินจริงด้วย!’
“ศิษย์พี่ สิ่งใดพาพวกท่านมาสถานที่บัดซบเช่นนี้?”
ป๋ายเสี่ยวเฟยยิ้ม ส่วนศิษย์พี่ทั้งหลายตกตะลึง
พวกเขาไม่ได้ตกใจเพราะสีหน้าผิดปกติป๋ายเสี่ยวเฟยและคนอื่น แต่เป็นเพราะจำนวนคนที่อยู่ในห้อง! นอกเหนือจากฟางเย่ ยังมีศิษย์อีกเก้าคนในห้องคนเถื่อน!
แต่พวกศิษย์พี่ตะลึงเพียงครึ่งวิเท่านั้นเพราะไม่ว่าจะมีมดมากเพียงใด สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นมด!
สำหรับศิษย์พี่แล้ว ศิษย์น้องพวกนี้ก็เป็นแค่ ‘ขยะ’ ในระดับกลาง เป็นเพียงมดปลวกที่พวกเขาสามารถบดขยี้เมื่อใดก็ได้!
“อย่ามาแกล้งโง่ หากข้าจำไม่ผิด มีบางคนในห้องเจ้าไม่ได้จ่ายค่าคุ้มครองเมื่อเดือนก่อน บวกกับดอกเบี้ยแล้ว พวกเจ้าแต่ละคนจะต้องจ่ายค่าคุ้มครองสำหรับเจ็ดคน!”
เสียงของศิษย์พี่โอหังเป็นอย่างมาก แต่ปฏิกิริยาที่เขาได้รับต่างจากที่คิดเหลือเกิน
ไม่มีความกลัวหรือความโศกเศร้า
มีเพียงความปลื้มปีติยินดี!
‘ไอ้ตัวบัดซบเอ๋ย ข้ารอให้เจ้าพูดเช่นนั้นนานแล้ว!’