บทที่ 11 : เล่นเกมกับฉันไหม (1) อ่านฟรี
บทที่ 11 : เล่นเกมกับฉันไหม1)
วันนี้ซินเจีย เจอกับกู่หยูเซิงอย่างไม่คาดฝันถึงสามครั้งสามคราในวันเดียวกัน
ครั้งแรกตอนเธอนั่งอยู่บนรถตอนออกจากสนามบิน และเขาก็ปิดหน้าต่างรถของเขาทันทีที่เขามองเห็นเธอ
ครั้งที่สองระหว่างงานเลี้ยงอาหารกลางวัน เธอเผลอทำไวน์ใส่แขนเสื้อของเขาด้วยความบังเอิญ เขาก็ลุกออกจากที่นั่งและออกจากงานเลี้ยงไปเลย แค่ความบังเอิญสองเรื่องแรกนั้นก็เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่าความเกลียดชังที่เขามีต่อเธอนั้นมันมากมายแค่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเหมือนจะไม่สงวนท่าทีและไว้หน้าเธอบ้างเลย
เมื่อคิดได้แบบนั้น เธอก็แทบอยากจะคลานกลับไปมุดอยู่ในรถตามเดิมซะเดี๋ยวนี้เลย
แต่ตอนนี้โจวจิงผู้ซึ่งขอให้เธอมารับที่วิลล่ากำลังโบกมือให้เธออย่างเอาเป็นเอาตาย ทันทีที่เธอมองเห็นว่าซินเจียยืนอยู่ข้างรถและตะโกนว่า “เสี่ยวโขว่ ฉันอยู่ตรงนี้........”
กู่หยูเซิงผู้ซึ่งกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ขมวดคิ้ว จากนั้นเหลือบสายตาไปมองตรงที่ที่ซินเจียกำลังยืนอยู่
แม้ว่าจุดที่เธอยืนอยู่จะห่างจากเขาพอสมควร แต่เธอก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่พอใจของเขาได้ ทันทีที่เขามองเห็นเธอ บรรยากาศรอบๆตัวเขาเปลี่ยนเป็นอึมครึมในแทบจะทันที
ซินเจียรู้สึกว่าชาหนึบๆที่หัวใจ จนทำให้เธอลืมแม้กระทั่งตอบกลับโจวจิง
โจวจิงเห็นว่าซินเจียไม่ขานรับสักที เธอก็ร้อนใจ จนเดินตุปัดตุเป๋ออกมาจากวิลล่าเองเพื่อมาหาเธอ
แต่เนื่องจากว่าโจวจิงดื่มไปมากพอสมควร เธอเลยไม่สามารถทรงตัวได้ดีนัก พอเดินมาถึงครึ่งทางเธอก็ล้มฟุบลงไปกับพื้นซะงั้น
เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วว่าซินเจียหวาดกลัวกู่หยูเซิงจนไม่กล้าจะเข้าใกล้ แต่วินาทีที่เธอมองเห็นว่าโจวจิงล้มฟุบลงไปกับพื้น เธอก็รีบวิ่งไปหาโจวจิงอย่างไม่ลังเลเลย
โชคดีว่าโจวจิงไม่ได้บาดเจ็บอะไร เนื่องจากเธอล้มลงไปบนสนามหญ้า ช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นนาทีระทึกขวัญสำหรับซินเจียมาก เนื่องจากกู่หยูเซิงยืนห่างจากเธอเพียงไม่กี่ฟุต เธอไม่กล้าแม้จะเหลือบตามองว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เธอทำได้แค่รีบประคองโจวจิงขึ้นยืน และปัดเศษดินที่อยู่ตรงขาของโจวจิงออก จากนั้นก็รีบพาโจวจิงออกจากวิลล่าแห่งนี้ให้เร็วที่สุด
แม้ว่าโจวจิงจะเมามาก แต่เธอก็ยังพอมีสติ “รอเดี๋ยว…กระเป๋าของฉัน…กระเป๋า…” และเธอก็ชี้ไปที่วิลล่าข้างหลังเธอ
เมื่อได้ยินแบบนั้นซินเจียก็หันหลังและเดินกลับไปที่วิลล่า พร้อมกับประคองโจวจิงไปด้วยกัน
ประตูทางเข้าเปิดกว้าง ในห้องตกแต่งอย่างสวยงามเหมือนเป็นห้องบอลรูมขนาดย่อมๆ ในห้องมีคนอยู่หนาแน่นพอสมควรและพวกเขากำลังเต้นรำกัน
“คุณวางกระเป๋าไว้ตรงไหน?”
โจวจิงชี้ไปที่บันไดเมื่อเธอได้ยินคำถามของซินเจีย
ซินเจียใช้แรงทั้งหมดที่มีของเธอเพื่อประคองโจวจิงขึ้นบันได เมื่อขึ้นบันไดไปถึงชั้นบนแล้ว จู่ๆโจวจริงก็ผลักเธอออกและรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ
ซินเจียรีบตามเธอไปที่ห้องน้ำ เมื่อเธอไปถึงก็เห็นโจวจิงกำลังนั่งกอดโถชักโครกและอ้วกอย่างเอาเป็นเอาตาย
ซินเจียค่อยๆลูบหลังให้เธอเบา เพื่อช่วยให้เธอรู้สึกสบายขึ้น เมื่อเธอดีขึ้นแล้วซินเจียจึงเดินกลับไปที่ห้องโถงเพื่อไปหยิบน้ำแร่มาให้เธอขวดหนึ่ง
เมื่อเธอเดินกลับไปที่ห้องอีกครั้ง โจวจิงก็ไม่ได้อยู่ในห้องน้ำแล้ว
ซินเจียขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะเดินย้อนกลับไปที่ห้องโถงอีกครั้งหนึ่งเพื่อตามหาโจวจิง
ในห้องโถงอัดแน่นไปด้วยผู้คน จึงทำให้ใช้เวลามากพอสมควรกว่าจะมองเห็นโจวจิงได้
เมื่อไหร่ก็ตามที่โจงจิงเมา เธอจะชอบทำตัวบ้าๆบอๆ ซินเจียพยายามห้ามเธอด้วยการดึงแขนให้เธอออกห่างจากฟอลเต้นรำ แจ่โจวจิงก็ไม่ให้ความร่วมมือเอาซะเลย เธอจับแขนของซินเจียแน่นและเริ่มโยกไปมาตามเพลง “เสี่ยวโขว่.... มา...มาเต้นรำกับฉัน.....มาเต้นกัน”
โจวจิงยกแขนของเธอขึ้นแล้วก็เริ่มเคลื่อนไหว
ซินเจียพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะดึงข้อมือของเธอออกจากการจับกุมของโจวจิงอีกทั้งก็ยังไม่ละความพยายามที่จะลากโจวจิงออกจากฟลอร์เต้นรำ
ด้วยว่าโจวจิงยังรู้สึกสนุกอยู่ เธอจึงพยายามขัดขืนซินเจียแต่เพราะเธอนั้นเมามากเธอจึงต้านแรงของซินเจียได้ไม่นาน
ขณะที่พวกเธอกำลังจะพยายามเดินแหวกฝูงชนเพื่อออกไปข้างนอก จู่ๆโจวจิงก็โดนชนเข้าอย่างจัง จนเธอล้มคะมำไปชนเข้าที่หลังของซินเจียอย่างเต็มแรง ซินเจียที่พึ่งโดนกระแทกมาเซถลาไปข้างหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว จนเธอไปตกอยู่ในอ้อมกอดของใครคนหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ
ซินเจียเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง และกำลังเตรียมจะเอ่ยคำขอโทษ แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าอันบึ้งตึงของกู่หยูเซิง เธอก็แทบจะสำลักน้ำลายตัวเองจนไม่สามารถพูดคำขอโทษออกมาได้
สำหรับซินเจียแล้วสายตาของกู่หยูเซิงตอนนี้เปรียบได้กับดาบคมๆของพวกอัศวินที่สามารถแทงเธอให้ตายได้ในดาบเดียวก็ไม่ปาน เขาคงฆ่าเธอด้วยสายตาไปหลายรอบแล้วในใจ
วินาทีนั้นเธอคิดว่ากู่หยูเซิงต้องจัดการเธอแน่ๆ แม้ว่าตอนนี้จะมีคนอยู่เต็มห้องก็ตาม
เธอกลัวมากจนไม่กล้าจะขยับตัวแม้แต่จะหายใจเธอยังไม่กล้าหายใจแรงๆเลย
โจวจิงผู้ซึ่งเมามายจนไม่ทราบถึงบรรยากาศอึมครึมรอบตัวนั้น เธอสะอึกสะอื้นและพูดต่อว่า "เสี่ยวโข่วเต้น! มาเต้นกับฉันสิ!"
ซินเจียหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเอง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังอยู่ในอ้อมกอดของกู่หยูเซิง เธอจึงรีบลุกขึ้นแล้วก็เบี่ยงตัวออกทันที
ทันทีที่เธอเดินออกมาจากเขาเขาก็เดินถอยหลังออกจากเธอเช่นกัน
แต่แตกต่างกันตรงที่ซินเจียยังคงยืนอยู่ที่เดิมแต่กู่หยูเซิงนั้นได้เดินออกจากห้องจัดเลี้ยงไปแล้ว
หลังจากเหตุการณ์นั้นจบลง ซินเจียก็ตั้งหน้าตั้งตาลากโจวจิงออกจากงานในทันที
ด้วยสภาพของโจวจิงตอนนี้จะพาขึ้นบันไดไปชั้นบนด้วยอีกคงไม่ได้ ซินเจียจึงฝากให้ลู่บันเฉิงดูแลเธอให้ชั่วคราวก่อนที่เธอถามโจวจิงว่าเธอวางกระเป๋าไว้ตรงไหน และวิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อหยิบกระเป๋าเองอย่างรวดเร็ว
กระเป๋าของโจวจิงนั้น วางอยู่ในห้องริมสุดทางทิศตะวันตกของวิลล่าบนชั้นสอง
ประตูห้องนั้นปิดอยู่เพียงครึ่งเดียว
ข้างบนนี้ช่างเงียบสงบมาก เมื่อเทียบกับชั้นล่างที่ตอนนี้จอแจไปด้วยผู้คนไปหมด
ซินเจียมองผ่านช่องประตูที่แง้มไว้ คิดว่าในห้องไม่น่าจะมีคนอยู่แล้วบนโซฟาตรงข้ามกับประตูนั้นมีกระเป๋าถือวางอยู่หลายใบ แต่เธอก็จำได้ทันทีว่าหลุยส์วิตตองสีแดงใบนั้นเป็นกระเป๋าของโจวจิง
หลังจากดูจนแน่ใจแล้วว่าเธอไม่ได้มาผิดห้องเธอก็ผลักประตูและวิ่งเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
เมื่อเธอเข้ามาถึงในห้อง เธอถึงเห็นว่าบนโซฟาตัวเล็กข้างในสุดกำลังมีคนนั่งเอนหลังอยู่
คนคนนั้นคือกู่หยูเซิง คนที่เธอเพิ่งจะเจอกับเขาที่ชั้นล่างเมื่อกี้
มันอาจเรียกได้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหากพวกเขาพบกันเพียงแค่ครั้งหรือสองครั้งในหนึ่งวัน แต่การบังเอิญที่เจอกันสามถึงสี่ครั้งติดต่อกันขนาดนี้ มันเหมือนกับโชคชะตากำลังเล่นตลกกับเธออยู่ยังไงก็ไม่รู้
อย่างไรก็ตามเธอได้เดินเข้ามาในห้องแล้ว ดังนั้นมันคงจะเป็นเรื่องแปลกถ้าเธอจะเดินหันหลังกลับไป
ซินเจียกัดริมฝีปากแน่นอย่างข่มอารมณ์ และก็แกล้งทำเป็นมองให้เห็นเขา จากนั้นก็รีบเดินไปที่โซฟา และยื่นมือไปคว้ากระเป๋าของโจวจิงมากอดไว้แน่นอย่างรวดเร็ว