ตอนที่ 48 เอ้าเจี้ยน
ที่จุดสูงสุดของภูเขาเสื้อซ่อนซึ่งตั้งอยู่ที่ชายแดนของประเทศมังกร
มีสองเงายืนอยู่ท่ามกลางเมฆขณะที่จ้องมองกันและกัน
ชายคนหนึ่งแต่งตัวด้วยชุดสีเขียว ถือดาบยาวภูเขาเขียวในมือของเขา เขาจ้องไปไกลไร้จุดหมายด้วยออร่าเด็ดเดี่ยวทะนงตัว
ส่วนชายอีกคนสวมชุดคลุมสีดำ เขามีปลอกดาบสีแดงด้านหลังของเขา ในมือของเขามีดาบยาวสีดำ ซึ่งโบกสะบัดไปตามก้อนเมฆรอบภูเขา
“เอ้าเจี้ยน ฉันชนะอีกครั้ง!”
เลือกหยดลงจากข้อมือของชายในชุดสีเขียวก่อนที่เขาจะคลายกำมือของเขาและปล่อยดาบยาวภูเขาเขียวลงสู่พื้น
“ระหว่างการต่อสู้ในปีนั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจฆ่าพ่อของคุณ มันเป็นความผิดของฉันและฉันเข้าใจความต้องการของคุณที่ต้องการแก้แค้น อย่างไรก็ตามความสามารถของคุณในวิถีดาบยังขาดอยู่เมื่อเทียบกับฉัน มันจะไม่สร้างความแตกต่างใดๆ แม้ว่าคุณจะฝึกอีกสิบหรือยี่สิบปีก็ตาม คุณจะไม่มีคุณสมบัติเป็นคู่ต่อสู้ของฉัน” ชายชุดดำพูดขณะที่มองไปที่เอ้าเจี้ยน
“ความสามารถงั้นเหรอ?” การแสดงออกของชายชุดเขียวค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นความทุกข์
เพื่อที่จะแก้แค้น เขาทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลังและทุ่มเทชีวิตของเขาในการพัฒนาดาบให้สมบูรณ์แบบ การครอบงำจิตใจของเขาเพื่อจะมุ่งสู่การพัฒนาดาบให้สมบูรณ์แบบในที่สุดก็ไร้ประโยชน์หรือไม่?
เอ้าเจียนถูกครองงำด้วยความไม่เต็มใจ เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง โดยคราวนี้สีหน้าของเขาดูดุร้าย เขาเอื้อมมือออกไปคว้าดาบยาวภูเขาเขียวยกมันขึ้นสู่อากาศก่อนที่เขาจะกำรอบดาบไว้แน่น
“มาสู้กันอีกครั้ง”
ประกายไฟบินจากการต่อสู้อันแรงกล้าบนยอดเขา ซึ่งแม้กระทั่งมองผ่านทะลุเมฆก็ยังเห็นได้ แสงแวววับของใบมีดพัวพันไปทั่วบริเวณ
“เอ้าเจียน คุณไม่มีวิญญาณดาบที่มั่นคง หากคุณยังคงต่อสู้ต่อไป ระวังการหลงทางในวิถีดาบ”
“คุณจะต้องตาย”
ดวงตาของเอ้าเจี้ยนเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มและเขาก็กลายเป็นบ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์ในขณะที่เขาเหวี่ยงดาบยาวของเขา ปีศาจในตัวเขาเติบโตอย่างไม่หยุดหย่อน
“ปัง”
เสียงดังสั่นสะเทือนไปทั่วบรรยากาศ ชี่ดาบที่อยู่บนยอดเขาแยกย้ายกันทันทีราวกับว่าแหล่งกำเนิดชี่ดาบถูกทำลาย ในขณะที่ดาบยาวภูเขาเขียวเริ่มร้าว
หลังจากเสียงดังสนั่น เอ้าเจี้ยนก็คุกเข้าลงก่อนที่จะพ่นเลือดเต็มคำออกมาจากปาก
“เฮ้ออ เอ้าเจี้ยน คุณแน่วแน่อยากมากในวิถีดาบ แต่ตอนนี้ เพราะวิถีดาบ คุณเปลี่ยนไปเป็นตัวประหลาด สำนึกผิดและรักษาชีวิตตัวเองไว้เถอะ มันถึงเวลาแล้วที่คุณต้องปล่อยดาบของคุณ”
เอ้าเจี้ยนไม่ตอบสนอง เขาจ้องมองไปที่ดาบยาวที่ถูกทำลายด้วยดวงตาที่ไร้วิญญาณราวกับว่าวิญญาณของเขาไม่มีเหลืออยู่แล้ว
“เฮ้อ...”
วูชิงถอนหายใจอีกครั้งก่อนที่เขาจะเก็บดาบและจากไป
ไม่นานเมฆก็กลับมาปกคลุมยอดภูเขาอีกครั้ง เอ้าเจี้ยนก็เหมือนร่างไร้วิญญาณที่ยังคงจ้องไปยังดาบที่ถูกทำลาย
หนึ่งปีต่อมา มันมีฝนตกปรอยๆเมื่อเอ้าเจี้ยนปรากฏตัวขึ้นบนถนน ซึ่งปูด้วยกระเบื้องหินชนวนสีน้ำเงินในเมืองเก่า
เขาเดินตามทางแยกเพื่ออกจากเมืองก่อนที่เขาจะเดินทางไปตามถนนที่เต็มไปด้วยโคลนไปยังจุดสูงสุดของภูเขา
เมื่อเขาไปถึงยอดเขา เอ้าเจี้ยนมองไปที่สองหลุมฝังศพที่ตั้งอยู่เคียงข้างกัน พวกมันเกือบถูกปกคลุมด้วยวัชพืช แล้วจากนั้นไม่นานเขาก็เดินจากไป
เขาหมกหมุ่นอยู่กับวิถีดาบราวกับว่าชีวิตของเขาติดอยู่กับดาบ เขาเสียสละจำนวนมากในกระบวนการลับคมดาบของเขา
เขาไม่เสียใจแม้ว่าเขาต้องผ่านความเจ็บปวดและความเศร้าโศกที่ยากจะทนหลังจากภรรยาและลูกสาวของเขาตาย
เอ้าเจี้ยน เป็นชื่อที่มีความหมายว่าดาบคู่บารมี เขาเกิดมาเพื่อดาบ ดังนั้นจึงได้รับการตั้งชื่อเช่นนี้
นี่คือสิ่งที่พ่อของเขาบอกเขา ดังนั้นเขาไม่เคยหยุดฝึกการดาบของเขา
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ เอ้าเจี้ยนรู้สึกหายไปอย่างสมบูรณ์
พ่อของเขาถูกฆ่าโดยไม่ตั้งใจโดยวูชิงในการต่อสู้ แม้จะมีความจริงที่ว่าเขาสละทุกสิ่งเพื่อฝึนฝนดาบ แต่เขาก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นคู่แข่งที่คู่ควรกับวูชิง คนที่ฆ่าพ่อของเขา
เขาไม่รู้ควรทำอะไรต่อไป เขาไม่รู้ว่าจะไล่ตามสุดยอดวิถีดาบที่ลึกซึ้งได้อย่างไร
เอ้าเจี้ยนยังคงเดินทางต่อไปด้วยความสับสนและความสิ้นหวังโดยไม่มีทิศทางและวัตถุประสงค์ สิ่งที่เขาต้องการก็คือสุดยอดวิถีดาบที่จะตราตรึงอยู่ในใจของเขา
ในวันนี้เอ้าเจี้ยนหยุดที่มุมถนน ซึ่งตัวเขามีลักษณะดูเงียบเหงาและซึมเศร้า
เมื่อชายหนุ่มสองคนเดินผ่านเขา เขาได้ยินบทสนทนาของพวกเขา
“เพื่อนรัก คุณได้ยินเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างเดโมลิชั่นออฟฟิเซอร์และการ์เดี้ยนแองเจิ้ลในป่าเมื่อวานนี้ไหม? มีนักฆ่าที่เล่นเหมือนเบอร์เซิร์กเกอร์และเขายังอยู่ยงคงกระพัน เขาจะต้องเชี่ยวชาญดาบในชีวิตจริงแน่นอน ฉันหวังว่าฉันสามารถเป็นศิษย์ของเขาและเรียนรู้จากเขา...”
เมื่อได้ยินการสนทนานี้ หมอกที่ซ่อนอยู่ในมุมดวงตาของเอ้าเจี้ยนก็กระจายออกไป เขายืนขึ้นอย่างกระทันหันและหยุดอยู่หน้าชายหนุ่มที่กำลังพูดอยู่ เขาเอื้อมมือออกไปจับแขนชายหนุ่มคนนั้น
“ผู้เชี่ยวชาญดาบเหรอ? เขาอยู่ไหน? บอกฉัน”
“เอ๊าะ คุณกำลังทำให้ฉันเจ็บ” ใบหน้าของชายหนุ่มแสดงความเจ็บปวด เขาปกป้องตัวเองโดยการสะบัดมือของเอ้าเจี้ยนออกไป
“บอกฉัน ผู้เชี่ยวชาญดาบอยู่ที่ไหน?”
“แบทเทิ้ลออนไลน์ เขาอยู่ในเกม แบทเทิ้ลออนไลน์ ชื่อของเขาคือมู่เจี่ยเกอร์...”
นี่เป็นครั้งแรกที่เอ้าเจี้ยนใช้อุปกรณ์เสมือนจริง เขาจัดทรงชุดของเขาให้ดูดีและสวมใส่ชุดหูฟังเสมือนจริงก่อนที่เขาจะเข้าสู่ระบบแบทเทิ้ลออนไลน์
เอ้าเจี้ยนประหลาดใจกับโลกเสมือนจริงที่เหมือนจริงต่อหน้าดวงตาเขา
เขาเติบโตขึ้นมาในเมืองโบราณที่อยู่ไกลความเจริญ ตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เขาทุ่มเทเวลาทั้งหมดของเขาในการฝึกฝนดาบอย่างไม่สนใจสิ่งใด นั่นอธิบายว่าทำไมนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับอุปกรณ์ไฮเทค
โชคดีที่เกมนี้มีคำแนะนำเพื่อสอนผู้เล่นเมื่อพวกเขาสร้างตัวละครใหม่ ด้วยความช่วยเหลือของคำแนะนำ เขาจึงเลือกเบอร์เซิร์กเกอร์ที่มีดาบและเข้าร่วมเกมอย่างเป็นทางการ
เอ้าเจี้ยนผู้ซึ่งเชี่ยวชาญดาบได้มาถึงอาณาจักรไมโครคอสซึม ดังนั้นจึงมีความรู้สึกไวต่อความแตกต่างระหว่างความเป็นจริงและเสมือนจริง อย่างไรก็ตามตัวเขาเองสงสัยว่าทุกอย่างที่อยู่ต่อหน้าต่อตาเขาเป็นจริง
จุดประสงค์เดียวของเขาที่นี่คือมองหามู่จิวเกอร์เพื่ออยากเห็นการดาบของเขา
เขาไม่ได้ฆ่ามอนสเตอร์สักตัวตลอดการเดินทาง สิ่งที่เขาทำคือถามและค้นหาที่อยู่ของมู่จิวเกอร์
ในที่สุดเขาก็ได้พบกับมู่จิวเกอร์จากกิลด์เดโมลิชั่นหลังจากการค้นหามาเกือบครึ่งวัน
“ฉันต้องการท้าทายคุณ” เอ้าเจี้ยนกล่าวในขณะที่เขาพบกับมู่จิวเกอร์
เมื่อมองไปที่เลเวลศูนย์เหนือหัวของเอ้าเจี้ยน มู่จิวเกอร์ส่ายหัวก่อนที่เขาจะหัวเราะเบาๆและพูดว่า “กลับมาอีกครั้งหลังจากที่คุณมีเลเวลสูงแล้ว”
“คุณกลัวที่จะยอมรับการท้าทายจากฉันเหรอ? กฎข้อแรกในการฝึกวิถีดาบคือต้องกล้าหาญ คุณไม่สมควรที่จะฝึกฝนการเป็นนักดาบ” หลังจากถูกปฏิเสธโดยมู่จิวเกอร์ เอ้าเจี้ยนส่ายหัวในขณะที่เขาเดินจากไป
ในทำนองเดียวกัน มู่จิวเกอร์ได้อุทิศชีวิตของเขาในการต่อสู้ด้วยดาบในความเป็นจริง ดังนั้นคำพูดของเอ้าเจี้ยนก็ทำให้เขาโมโหอย่างแน่นอน
“คุณไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นกับฉัน คุณมันอวดดี ได้ ฉันจะต่อสู้กับคุณถ้าคุณเรียกร้อง” มู่จิวเกอร์โต้กลับ
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาในเวลานี้ เอ้าเจี้ยนหันกลับมาก่อนที่เขาจะเริ่มชักดาบยาวของเขา
ไม่เหมือนผู้เล่นอื่น มู่จิวเกอร์ซื้อดาบยาวจากร้านค้าแทนอาวุธที่ทรงพลังที่อาจเป็นประโยชน์ต่อเบอร์เซิร์กเกอร์เช่นดาบยาวหรือขวานรบ
พวกเขามีเลเวลห่างกัน 26 เลเวล แต่มู่จิวเกอร์ก็ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ในช่วงเริ่มต้นของการต่อสู้
ความเชี่ยวชาญดาบและทักษะที่เอ้าเจี้ยนแสดงนั้นไม่เหมือนที่มู่จิวเกอร์เคยเห็นมาก่อน เอ้าเจี้ยนเหมือนรวมเป็นหนึ่งกับดาบ มู่จิวเกอร์รู้สึกราวกับว่าเขากำลังต่อสู้กับดาบยาวที่แหลมคม
ด้วยเพียงสามลมหายใจ มู่จิวเกอร์ก็ถูกโจมตีมากกว่าสิบครั้ง อย่างไรก็ตามดาบของมู่จิวเกอร์ไม่ได้แตะเอ้าเจี้ยนเลยสักครั้งเดียว
มู่จิวเกอร์เชื่อว่าเขาจะพ่ายแพ้แล้วหากมันไม่ใช่ระดับที่สูง คุณลักษณะที่ดี และอุปกรณ์ป้องกันของเขา