ตอนที่แล้วGOI ตอนที่ 74 หุ่นเชิดตัวที่สอง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGOI ตอนที่ 76 นั่นเป็นสิ่งที่ข้าคิด!

GOI ตอนที่ 75 โอกาสทางธุรกิจมาเคาะถึงหน้าประตู !


“แต่พวกเราไม่มีวิธีหาเงิน!”

หวู่จื๋อเอ่ยปัญหาอย่างตรงไปตรงมาไม่มีความคิดจะหลบเลี่ยง

“วิธีคือสิ่งที่คนเป็นผู้คิดค้น หากเจ้าพึ่งพาคนอื่นเมื่อเผชิญหน้ากับปัญหา เจ้าจะต่างอันใดกับขยะ? ห้องคนเถื่อนไม่สรรสร้างขยะ!”

ท่าทีของป๋ายเสี่ยวเฟยเด็ดเดี่ยว ถึงแม้วิธีหาเงินจะยังไม่ได้ถูกคิดขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรม

“เช่นนั้นเราจะทำตามแผนเดิมหรือ?”

ต้วนอีอีถามเสียงเบา โดยส่วนใหญ่นางจะนั่งอยู่มุมห้องและถึงแม้นางจะไม่ได้เขินอายแบบเมื่อก่อน เสียงของนางก็ยังไม่เปลี่ยนไป

แต่นางประสบความสำเร็จในความดึงความสนใจของทุกคน

แผนที่นางเอ่ยถึงเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ป๋ายเสี่ยวเฟยทำเมื่อเช้า ห้องพวกนั้นเป็นเพียงก้าวแรก แต่เป้าหมายที่แท้จริงของป๋ายเสี่ยวเฟยคือทั้งหมดของ ‘บริเวณสามัญชน’ !

ด้วยความขัดแย้งที่เขาประสบพบเจอ ป๋ายเสี่ยวเฟยค้นพบว่าผู้คนที่มาหาเรื่องเขาคือคนที่มีชื่อเสียงเป็นรากฐาน พูดอีกอย่างก็คือพวกเขาสามารถหาหลายคนหลายกลุ่มมาจัดการเขา

ยิ่งกว่านั้นสำหรับป๋ายเสี่ยวเฟยแล้ว เหตุการณ์เช่นนี้จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อหลบเลี่ยงการเป็นคนที่ถูกฝูงชนทุบตี เขาตัดสินใจจะเป็นฝ่ายทุบตีผู้อื่นด้วยฝูงชนแทน!

ก้าวแรกคือการหาลูกสมุน!

แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยทำได้เพียงมีลูกสมุนเป็นศิษย์ใหม่ เขาจึงวางแผนที่น่าตื่นตะลึง

แผนที่จะสยบศิษย์ใหม่ทุกคนใน “บริเวณสามัญชน” ! และเขาถึงกับไม่ปล่อยให้พวกที่ถูกสถาบันรับเป็นศิษย์ผ่านไปหากมีโอกาส!

“แน่นอน เพราะสิ่งนี้จะช่วยเรื่องเงินได้!”

ขณะที่ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ย เขาพลันนึกถึงสิ่งที่โม่ข่าและพวกได้บ่นกับเขาตอนเจอกันครั้งแรก

การกดขี่ข่มเหงของศิษย์พี่!

หากป๋ายเสี่ยวเฟยสามารถจัดการกับมันได้ ค่าคุ้มครองจาก 8000 คน ต่อให้เขารับแค่ครึ่งหนึ่งของเงินปกติ อย่างน้อยเขาก็จะมีถังที่เต็มไปด้วยทอง!

เมื่อมีเงินเข้ามาเกี่ยว ทุกคนพลันเต็มไปด้วยพลัง พวกเขาทั้งหมดลุกขึ้นยืน

“เช่นนั้นพวกเราจะรออันใดอยู่? เริ่มเลย!!!”

สือเฉินสมแล้วที่เป็นนักเชิดหุ่นสายพิฆาตเพราะความกระตือรือร้นของนางเมื่อจัดการกับอะไรบางอย่างไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นในห้องคนเถื่อนเปรียบเทียบได้

“ไม่ต้องรีบ และพวกเราต้องยืนยันให้แน่ใจก่อนว่าพวกเรามีคุณสมบัติมากพอ! เป็นไปไม่ได้ที่จะทำแผนนี้ให้สำเร็จถ้าพวกเราจัดการแค่คนที่อยู่ในระดับเดียวกับเรา!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ย สายตาเจิดจรัสด้วยแสงจ้า

เป็นครั้งแรกที่เขาคาดหวังต่อการมาถึงของพวกศิษย์พี่โง่เขลาพวกนั้น!

ราวกับสวรรค์ได้ยินคำปรารถนาของเขา เมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยและพวกเดินผ่านทางเข้าของบ้านร้อยรส มีสหายเก่าผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น

ป๋ายเย่!

“น้องเฟย!!!”

เพราะเหตุผลอันใดไม่ทราบ ป๋ายเย่ที่พ่ายแพ้ให้กับป๋ายเสี่ยวเฟยทำตัวราวกับคนในครอบครัวเดียวกันเมื่อเขาเห็นป๋ายเสี่ยวเฟย นี่ทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยเหม่อมองประหลาดใจอยู่บ้าง

“โอ้ พวกเจ้าทั้งหมดอยู่ที่นี่ด้วยหรือ? กินมาหรือยัง? ให้ข้าเลี้ยงถ้าพวกเจ้ายังไม่ได้กิน!”

ป๋ายเย่ลูบอกพลางเอ่ย สีหน้าเจ้าเล่ห์ปรากฎบนใบหน้าของเขา ศิษย์ห้องคนเถื่อนทุกคนมองเขาอย่างเหยียดหยาม

‘พวกเราเพิ่งออกมาจากบ้านร้อยรส เจ้าคิดว่าเรายังไม่ได้กิน?’

“ถ้าเจ้าเป็นคนเลี้ยง ข้าสามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้”

ทั้งสีหน้าทั้งเสียงเต้นหัวใจของป๋ายเสี่ยวเฟยสงบราบเรียบเมื่อเอ่ยคำเหล่านี้ แตกต่างจากเสี่ยวเอ้อที่เห่าด้วยความตื่นเต้น และป๋ายเย่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาเหงื่อไหลออกมาทันที

‘สวรรค์! ใครจะไปเลี้ยงพวกเจ้าสองคนไหว!?’

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง! กินเยอะเกินไปไม่ดีต่อร่างกาย...”

ป๋ายเย่ปาดเหงื่อเย็นเยียบจากหน้าผากก่อนจะรีบขัดขวางไม่ให้ป๋ายเสี่ยวเฟยเดินกลับเข้าไปในบ้านร้อยรส มิเช่นนั้นค่าอาหารการกินของเขาอีกหลายเดือนต้องหมดไปแน่...

“เจ้าคงไม่มาหาข้าหากไม่มีเรื่องจะเอ่ย พูดมา มีปัญหาอะไร? โม่ข่าจับเวลาไว้”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยเสียงเรียบ ส่วนป๋ายเย่ตะลึง

“จับเวลา?”

“ใช่ ทุกนาทีที่เจ้าทำให้ข้าเสียเวลาจะต้องจ่ายหินชิงหลัวสิบก้อน หากไม่ถึงนาทีก็ตีเป็นหนึ่งนาทีเช่นกัน”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเผยรอยยิ้มน่ารังเกียจของพ่อค้าออกมา

“สิบหินชิงหลัวต่อนาที!? ทำไมเจ้าไม่ไปปล้นคนอื่นเล่า!?”

ป๋ายเย่โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที ชี้นิ้วไปยังหน้าป๋ายเสี่ยวเฟย ก่อนที่เขาจะทันได้บันดาลโทสะ ใจเขาเย็นเยียบลงเมื่อสังเกตเห็นหลินหลี เขาทำได้เพียงมองป๋ายเสี่ยวเฟยด้วยสีหน้าเกลียดแค้นชิงชัง

“จะคิดว่าปล้นก็ตามใจ ยี่สิบวินาทีผ่านไปแล้ว”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยอย่างไม่เร่งรีบพลางนวดคอตัวเอง สีหน้าของเขามีคำว่า ‘เจ้าโดนแน่หากไม่จ่าย...’

“หลังจากนางกลับมา ฉินหลิงหยานบอกศิษย์ชายทุกคนที่รังควานนางว่าพวกเขาต้องได้รับการยินยอมจากป๋ายเสี่ยวเฟยก่อนหากทำไม่ได้ไม่ต้องมาหานาง มิเช่นนั้นนางจะไม่พิจารณาพวกเขาไม่ว่าพวกเขาจะโดดเด่นเพียงใด”

ป๋ายเย่เปลี่ยนร่างเป็นปืนกล พูดหลายอย่างในหนึ่งชั่วลมหายใจ

สีหน้าของศิษย์ห้องคนเถื่อนได้แต่สลดลง

‘ไม่ใช่ว่านางบอกว่าจะไม่หาเรื่องพวกเราแล้วหรอกหรือ?’

‘อะไรวะ!?’

‘กลับคำพูดไวปานนี้เชียว!?’

ทุกคนล้วนมีความคิด่างๆ นานาอยู่ในใจ มีเพียงป๋ายเสี่ยวเฟยที่เผยรอยยิ้มครึ่งวิต่อมา...

หากลองวิเคราะห์ดูดีๆ แล้ว คนพวกนั้นไม่ได้ต้องสั่งสอนป๋ายเสี่ยวเฟยแต่ต้องได้รับการยอมรับต่างหาก ซึ่งหมายความว่าป๋ายเสี่ยวเฟยสามารถกำหนดท่าทีของคนที่มาหาเขาได้!

เมื่อเขารับรู้ถึงแผนของฉินหลิงหยาน ไม่เพียงป๋ายเสี่ยวเฟยไม่โกรธ เขากลับยินดีอยู่ลึกๆ ในใจ

หมอนจะปรากฎให้กับผู้ที่ง่วงนอน และเส้นทางสู่การเงินจะเปิดขึ้นเมื่อมีใครคิดถึงมัน!

“เฮ้? ป๋ายเสี่ยวเฟย? เวลาที่เจ้าครุ่นคิดไม่นับใช่หรือไม่?”

ป๋ายเย่เป็นกังวลถึงขั้นกระทืบเท้า อย่างไรเสียเวลาคือหินชิงหลัวสำหรับเขา!!!

“ข้าจะไม่เก็บสักก้อนหากเจ้าจากไปตอนนี้”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยพลางมองไปยังป๋ายเย่

“เอาล่ะ! บอกข้า! ข้าต้องทำอย่างไรถึงเจ้าจะยอมรับข้า!”

ป๋ายเย่กัดฟันกรอดเผยความตั้งใจของเขาเพราะหินชิงหลัวสิบก้อนต่อหนึ่งนาทีก็ยังดีกว่าเลี้ยงอาหารป๋ายเสี่ยวเฟย!

“หาได้ยากที่ศิษย์พี่หญิงหลิงหยานจะเชื่อใจข้า ข้าจึงต้องคิดให้ดีๆ มาหาข้าอีกทีตอนค่ำ และข้าจะให้คำตอบ”

ป๋ายเสี่ยวเฟยพูดอย่างไม่เร่งรีบ ป๋ายเย่แทบจะระเบิดโทสะออกมา แต่เขาข่มกลั้นมันเอาไว้

‘บัดซบ! ข้าจะทำอะไรได้อีกในเมื่อข้าเอาชนะพวกมันไม่ได้!?’

“ก็ได้! เอาตามที่เจ้าบอก!”

ป๋ายเย่รีบหันหลังกลับเดินจากไป แต่เสียงของป๋ายเสี่ยวเฟยดังมาอย่างเหมาะเจาะ

“สองนาทียี่สิบวินาที สามสิบก้อน”

เมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยจบ ฟางเย่ก้าวออกมาในมือมีตราหยก

“เจ้าอย่าให้ข้าผิดหวังก็แล้วกัน!”

หลังจากเค้นคำพูดดุดันอย่างยากลำบาก ป๋ายเย่ยอมมอบหินชิงหลัวแต่โดยดีก่อนจะจากไปราวกับวิ่งหนีอสูรร้ายที่ชื่อป๋ายเสี่ยวเฟย

“พี่ใหญ่เฟย ท่านมหัศจรรย์เหลือเกิน! ไม่นานท่านก็หาหินชิงหลัวได้สามสิบก้อนแล้ว!”

ฟางเย่ยิ้มอย่างชอบอกชอบใจ นิสัยบ้าเงินของเขาค่อยๆ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

“นี่แค่สามสิบ จะมีมากกว่านี้ในอนาคต!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยยิ้ม แผนยิ่งใหญ่เพื่อหาเงินก่อตัวขึ้นในใจเขา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด