ตอนที่แล้วGE451 ตุ๊กตาหิมะ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE453 เจ้าเป็นใคร [ฟรี]

GE452 น้องเขย อย่าทำข้า [ฟรี]


เมื่อตุ๊กตาหิมะหายไป หนิงฝานเร่งกระตุ้นเจตจำนงค์แห่งความทรงจำ ตามรอยของมันกระทั่งพบร่องรอย

เขาก้าวเท้าไปเบื้องบ้าง เงาร่างหายไปราวกับหมอกควัน ปรากฏยังยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะแห่งหนึ่ง

ภูเขาลูกนี้สูงเพียง 7000 จ้าง และที่ยอดเขาก็มีตุ๊กตาหิมะตั้งอยู่ มันกำลังเหนื่อยหอบราวกับวิชาเมื่อครู่ที่มันใช้ กินพลังและกำลังกายไปมาก

เมื่อหนิงฝานตามทัน ตุ๊กตาหิมะตัวนั้นก็หายไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ดูราวกับมันรีบร้อน จนทำม้วนบางอย่างตกไว้

หนิงฝานยิ้ม มันหนีได้เร็วมาก หากเป็นคนทั่วไปคงหาไม่พบ หรือต่อให้พบก็จับตัวไม่ได้ง่ายๆ

หนิงฝานไม่ได้เร่งไล่ตามนาง เขาหยิบสิ่งที่นางทำหล่นไว้พลางหัวเราะ

“รีบจนลืมว่าทำตกไว้...” แต่เมื่อหยิบสิ่งที่นางทำตกขึ้นมาดู แววตาของเขากลับแปรเปลี่ยนเย็นชา ในนั้นมีกลิ่นอายปราณปีศาจที่ทำให้โลหิตปีศาจของเขาเดือดพร่าน

สิ่งที่นางทำหล่นไว้คือม้วนหนังอสูรโบราณ

เมื่อเปิดดูภายใน เขาพบอักษรกู่ถัวที่ถูกสลักลงไปอย่างงดงาม จากลายมือสมควรเป็นลายมือของสตรี และดูจากความเก่าของอักษรแล้ว น่าจะถูกสลักเอาไว้ตั้งแต่สมัยโบราณ

หนิงฝานรู้สึกคุ้นเคยกับอักษรเหล่านี้มาก ราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่เมื่อนึกดูแล้ว มันเป็นลายมือเดียวกับที่สลักอยู่บนอนุสรณ์ใกล้ๆกับที่พักของเขา

“ผู้ที่สลักคัมภีร์นี้คือบรรพบุรุษของเผ่าปีศาจยักษ์”

เมื่อลองอ่านเนื้อหาภายใน เนื้อหาของมันคล้ายกับบางสิ่งที่หนิงฝานเคยอ่านมาแล้ว เมื่อลองขบคิดเขาก็นึกออกว่า เนื้อหาเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาที่ถูกสลักเอาไว้บนอนุสรณ์ปีศาจของเผ่าหกปีก

“เนื้อหาพวกนี้มันมาจากไหนกัน… ทำไมเหตุการณ์ประหลาดถึงไม่ปรากฏในเผ่าปีศาจยักษ์เหมือนกับเผ่าอื่น?”

“แต่ที่แน่ๆ คัมภีร์นี้ล้ำค่ามาก แต่ทำไมมันถึงไปอยู่กับนาง...”

หนิงฝานสลักเนื้อหาที่อยู่ในคัมภีร์ทั้งหมดลงในหยกอีกแผ่นเก็บไว้ ก่อนจะไล่ตามตุ๊กตาหิมะไป

หนิงฝานขบคิด หากเผ่าปีศาจยักษ์มีอนุสรณ์ปีศาจซ่อนไว้ เขาต้องชิงมันมาให้ได้

แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าตอนนี้ คือจับตัวนางให้ได้

หนิงฝานมุ่งไปยังหุบเหาแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปจากเดิมหมื่นลี้ ที่นั่นมีลิงหิมะเป็นจำนวนมาก แต่ละตัวแข็งแกร่งในระดับขอบเขตแก่นทองคำ

เมื่อตุ๊กตาหิมะไปถึงที่นั่นลิงเหล่านั้นก็เข้าล้อม ทำท่าจะจู่โจม

ตุ๊กตาหิมะตกตะลึง มันคาดไม่ถึงว่าจะต้องมาถูกอสูรล้อมที่นี่

ตุ๊กตาหิมะตัดสินใจหนีอีกครั้ง แต่เมื่อสังเหตุเห็นว่าลิงเหล่านั้นค่อยๆใกล้เข้ามา มันก็เริ่มหวาดกลัว

“กลัวเป็นด้วยเหรอ?”

หนิงฝานเดินเข้าไปในหุบเขาอย่างสงบ ไร้ซึ่งแรงกดดันใดๆ แต่เมื่อลิงพวกนั้นเห็นเขา พวกมันหยุดชงัก สีหน้าแปรเปลี่ยนหวาดกลัว แม้หนิงฝานยังไม่ได้แสดงพลัง แต่พวกมันหยั่งรู้ว่าหนิงฝานแข็งแกร่ง จึงได้เร่งหนีไป

หนิงฝานไม่ได้ไล่ตามพวกมันไป ไม่ใช่ว่าเขาเมตตา แค่ไม่อยากให้ตุ๊กตาหิมะตัวนั้นเห็นทะเลโลหิต

“ถ้าเจ้ายังหนีอีก ข้างหน้าอาจมีอันตรายและข้าก็จะไม่ช่วยเจ้า… กลับเถอะ ข้ามารับเจ้า...”

ตุ๊กตาหิมะชงักฝีเท้า น้ำแข็งบนร่างค่อยๆละลาย เผยให้เห็นสตรีที่อยู่ภายในนั้น

นางสวมอาภรณ์ขาว ดูราวกับเด็กสาวอายุ 15 ปี นางจ้องมองหนิงฝานสายตาที่หวาดกลัว เพราะนางสัมผัสได้ถึงปราณสังหารที่รุนแรงที่อยู่ในร่างหนิงฝาน

นางพยายามคงสีหน้าสงบ ไม่กล่าวคำ และยืนมองหนิงฝานนิ่งราวกับกำลังรวบรวมความกล้า

นางมีผมสีขาวยาวราวกับหิมะ ประดับด้วยขนสัตว์สีขาว ใบหน้าที่งดงามดูซีดขาว

เมื่อเห็นว่านางไม่หนี หนิงฝานก็ยิ้มพลางพยักหน้า แม้ว่าระดับพลังของนางจะไม่สูง แต่นางกล้าหาญจนฉุ่ยหลิงนับถือ

“เจ้าคือฟงฉุ่ยเยยียนใช่มั้ย?”

นางพยักหน้า

“เจ้ากลัวข้าเหรอ?”

นางกำลังจะพยักหน้า แต่ก็ส่ายหน้าแทน

“เจ้าไม่อยากพูดกับข้าเหรอ?”

นางพยักหน้าแล้วเบนสายตาหนี

ตัวนางในยามนี้เหลือพลังเพียงขอบเขตเปิดเส้นชีพจร ไม่มีสัมผัสเทพ จึงไม่อาจอาจพูดคุยเหมือนอย่างคนทั่วไปได้

แต่ถึงนางจะน่าสงสาร ที่หนิงฝานยอมมาก็เพราะฉุ่ยหลิงขอไว้

หนิงฝานจะพานางกลับไปยังเมืองเหมันต์ แต่นางกลับส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่อยากกลับ

“เจ้ากลัวว่าบุตรของชายฉือคุณจะข่มเหงเจ้าเหรอ?”

คำกล่าวของหนิงฝานทำให้นางตกใจ หนิงฝานดูอายุเยอะกว่านางไม่มาก แต่เขากลับแข็งแกร่งกว่านางจนเทียบไม่ติด

ก่อนที่นางจะหนีออกมานั้น เป็นคืนที่นางเห็นบุตรชายของฉือคุณแอบเข้าไปในห้อง เมื่อนางสัมผัสได้ว่ามีคนแอบเข้ามา นางก็รีบหนีออกมาด้วยความหวาดกลัว

แม้ว่านางจะไม่ได้กล่าว แต่หนิงฝานก็มีวิชาที่ใช้อ่านใจนางได้ จึงรู้ว่านางกำลังคิดอะไร

“วางใจเถอะ เรื่องพวกนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว เจ้ากลับกับข้าเถอะ”

นางยังคงรั้งไม่ยอมกลับ แม้ว่าหนิงฝานจะอ่อนโยนกับนาง แต่เขาก็นับเป็นคนแปลกหน้า นางจึงไม่ยอมเชื่อ

“ข้าคือสามีของฉุ่ยหลิง ที่มาตามเจ้ากลับก็เพราะกลัวว่าเจ้าจะหิว” หนิงฝานนำรองเท้าของนางออกมา

“ยกเท้าขึ้น ข้าจะใส่ให้”

เมื่อกล่าวว่าเป็นสามีของฉุ่ยหลิง และนำรองเท้าของนางออกมา นางก็เริ่มเชื่อหนิงฝาน แต่ก็ยังไม่เชื่อสนิทใจ

นางจ้องมองหนิงฝานไม่วางตา ยิ่งจ้องมองก็ยิ่งคุ้น เหมือนกับภาพที่ฉุ่ยหลิงเคยเอาให้นางดู

ก่อนหน้านี้ฉุ่ยหลิงได้บอกเล่าเรื่องราวของหนิงฝานให้นางฟัง และให้ดูภาพเหมือนด้วย

ในที่สุดนางก็ตัดสินใจเชื่อ จึงได้ยกเท้าข้างขวาขึ้นเล็กน้อยให้หนิงฝานสวมรองเท้าให้

“ขอบคุณ...” นางกล่าวในใจ ตัวนางไม่สามารถเปล่งเสียงได้ ความกลัวในใจนางเริ่มลดลง แววตากลับมาสงบเหมือนก่อน

แววตาของนางคล้ายฉุ่ยหลิงมาก ไม่แปลกที่พวกนางจะมาเป็นพี่น้องกันได้

“ข้าได้ยินสิ่งที่เจ้ากล่าว… เมื่อครู่เจ้ากล่าวว่าขอบคุณใช่มั้ย?”

“เจ้ารู้ได้ยังไง...” นางกล่าวในใจ

“เป็นความลับ เอาไว้มีโอกาสข้าจะบอกเจ้า แต่ตอนนี้กลับกันก่อนเถอะ”

“รอก่อนน้องเขย… ข้าทำบางอย่างหาย...” นางขบริมฝีปาก สีหน้าเป็นกังวล เพราะม้วนหนังที่นางเก็บไว้หายไป

หนิงฝานตกตะลึง เป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกเขาว่าน้องเขย แม้นางจะพูดในใจก็ตาม

หนิงฝานจ้องมองนางด้วยสายตาที่อ่อนโยน และนำม้วนคัมภีร์ออกมาให้

“ข้าเก็บนี่ได้… กลับกันได้หรือยัง?”

“อืม… ขอบคุณนะ ข้ากำลังหิวอยู่พอดี” แล้วท้องของนางก็ส่งเสียงคร่ำครวญ บ่งบอกว่านางหิวจริงๆ

หนิงฝานขบคิด หากนางจะหิวแบบนี้ ถ้านางเก็บตัวฝึกฝนสักปีสองปี นางจะไม่หิวตายก่อนเหรอ?

ไหนๆนางก็เรียกเขาว่าน้องเขย เขาจึงคิดจะช่วยปรุงโอสถให้นาง อย่างน้อยให้ระดับพลังของนางกลับมาอยู่ที่ขอบเขตประสานวิญญาณ นางจะได้ใช้สัมผัสเทพได้ ไม่อย่างนั้นนางคงขาดใจก่อนแน่

หนิงฝานอุ้มนางแนบอก ก่อนจะพานางกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อผ่านพ้นเขตที่อากาศเย็นมากๆไป จู่ๆอุณหภูมิร่างกายของนางกลับสูงขึ้น

“น้องเขย ข้าเจ็บ...” นางกล่าวในใจด้วยน้ำเสียงร้อนรน

หนิงฝานขมวดคิ้วพลางเร่งแผ่สัมผัสเทพตรวจร่างกายนาง แต่เมื่อได้ทราบถึงสาเหตุอาการป่วยของนาง เขากลับโกรธ

“นี่มัน!”

หนิงฝานกระชับร่างของนาง คว่ำนางลง แล้วปลดอาภรณ์เผยให้เห็นแผ่นหลังที่ขาวกระจ่าง แค่ที่แผ่นหลังของนางกลับมีตราประทับรูปเพลิงอยู่ 8 แห่ง

ตราประทับรูปเพลิงแต่ละรูปใช้สำหรับผนึกผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง แต่นางกลับมีถึง 8 ตราประทับที่ผสานเข้าด้วยกัน ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกก็ถอนมันออกไม่ได้!

หากไม่ได้ตรวจร่างกายนางเหมือนที่หนิงฝาน ก็ไม่มีทางรู้ว่านางเป็นอะไร

หนิงฝานสัมผัสได้ว่า ตราประทับเหล่านี้ เกิดจากการนำโลหิตปีศาจเพลิงมาใช้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโลหิตปีศาจของโม๋หลัว เพียงแต่มันไม่บริสุทธิ์และทรงพลังเท่า

เมื่อตรวจร่างกายของนางดีๆ และพยายามทำความเข้าใจกับตราประทับ เขาก็เริ่มเข้าใจจุดประสงค์ของผู้ที่ทำ

ผู้ที่ประทับตรารูปเพลิง ได้ใช้โลหิตปีศาจเพลิงเป็นสื่อกลาง เพื่อค่อยๆเปลี่ยนโลหิตของนางให้กลายเป็นโลหิตปีศาจเพลิง ซึ่งหากโลหิตของนางถูกเปลี่ยนโดยสมบูรณ์ นางก็จะตาย ส่วนคนผู้นั้นจะได้โลหิตไป

ใครเป็นคนทำ?

ทำไมผู้ที่ทำถึงเลือกนาง?

หนิงฝานสวมอาภรณ์ให้นาง กุมมือน้อยๆของนางไว้พลางถ่ายปราณเข้าไปเพื่อให้นางรู้สึกดีขึ้น

แต่ในระหว่างที่ทั้งสองสัมผัสกายกัน ความรู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับความรู้สึกที่เขาได้จากเฟินซื่อ ก็ปรากฏขึ้นในใจอีกครั้ง ทำให้เขายิ่งมั่นใจในข้อสงสัยว่าเหตุใดผู้ที่ทำถึงเลือกนาง

“นางคือสนมปีศาจของเผ่าปีศาจยักษ์!”

ปราณของหนิงฝานช่วยทำให้ร่างกายของนางกลับมาเป็นปกติ และนางก็ค่อยๆได้สติกลับมา

เมื่อเห็นว่าตนอยู่ในอ้อมกอดหนิงฝานและถูกเขากุมมือเอาไว้ นางก็ตกใจ

“น้องเขย เจ้าอย่าทำอะไรข้าเลย...” นางเอามือปิดอกด้วยความหวาดกลัว

หนิงฝานส่ายหน้า ดูเหมือนเขาจะเป็นคนชั่วในสายตานางไปแล้ว...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด