ตอนที่แล้วChapter 23 - 24: ถูกนักเลงดักกลางทาง! (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 27 - 28 : ถ้าฉันไม่อยู่ที่นี่แล้วจะให้ฉันอยู่ที่ไหนล่ะ?, หยกราชันย์ (อ่านฟรี)

Chapter 25 - 26: ชายผู้ไม่ธรรมดา, เลิ่งเชาถิง (อ่านฟรี)


Chapter 25: ชายผู้ไม่ธรรมดา

ถึงแม้ว่านักเลงกลุ่มนี้จะยอมรับว่าเด็กสาวนักเรียนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขามีรูปร่างหน้าตาที่งดงาม

พวกเขาเล่นสนุกกับนักเรียนหญิงมามากมายแต่ไม่มีใครสวยเท่ากู้หนิงมาก่อน

อีกด้านตอนนี้กู้หนิงโมโหสุดๆ

ยัยบ้านั่นจ้างคนให้มาขมขื่นเธอและถ่ายวิดีโอไว้เพื่อประจาน จ้าวเฟยเฟยครั้งนี้เธอล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว!!

"ฝันไปเหอะ ไอ้พวกหน้าโง่!!" กูหนิงหงุดหงิด เธอเตะผ่าตรงเข้าไปหว่างขาของนักเลงคนหนึ่ง

นักเลงคนนั้นไม่ทันคิดว่ากู้หนิงจะจู่โจมเขาและยังรวดเร็วขนาดนี้ จนเขาไม่สามารถหลบได้ทัน เขาถูกเตะเข้าไปที่ของลับอย่างจัง

เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นท่ามกลางคืนที่มืดมิดและเหน็บหนาว

นักเลงคนนั้นกางเข่าออกแล้วล้มลงไปบนพื้นอย่างเจ็บปวดทรมาน เขากุมของลับไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง เหงื่อผุดเป็นเม็ดๆรอบหน้าผาก

นักเลงอีกสองคนตกใจกลัวและอยากจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ทันที พวกเขาปลอบใจตัวเองว่ามันอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญขนาดนาฬิกาที่พังแล้วยังเผอิญบอกเวลาได้ตรง นับประสาอะไรกับกู้หนิง เธอเป็นเพียงนักเรียนหญิงม.ปลายเท่านั้น

จากนั้นสองคนที่เหลือจึงสบถใส่กู้หนิงแล้วพยายามชกเข้าที่สะโพกของเธอ

กู้หนิงเขวี้ยงกระเป๋าเป้ใส่หน้าของชายคนแรกอย่างเต็มแรง ชายคนแรกเสถลาล้มใส่รถตู้และน้อคลงไปนอนกับพื้น

วินาทีเดียวกันนั้นกู้หนิงก็ยกเท้าขึ้นถีบนักเลงคนที่สอง นักเลงคนที่สองสูงกว่ากู้หนิงมาก เธอเกือบพลาดเสียจังหวะขณะที่เธอถีบไปที่ต้นขาของเขา

เธอจึงรีบหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วเหวี่ยงไปที่ศีรษะนักเลงคนที่สอง เขาถูกกระเป๋ากระแทกศีรษะอย่างจังแล้วล้มไปบนพื้น

ขณะนั้นเองนักเลงคนแรกก็หยิบท่อเหล็กจากในรถตู้แล้ววิ่งมาที่กู้หนิง เธอขับเท้าถอยตัวออกมา

ก่อนที่เธอจะตอบโต้กลับ จู่ๆก็มีเงามืดโผล่ออกมาจากมุมๆหนึ่ง เงามืดที่ว่านั้นเป็นผู้ชาย เขาตีไปที่ท้ายทอยของนักเลงทั้งสามอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล ส่งผลให้นักเลงพวกนั้นหมดสติไปอย่างไม่รู้ตัว

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ถึงแม้กู้หนิงจะมองเห็นอย่างชัดเจนแต่เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าชายผู้นี้สามารถทำอย่างนั้นได้อย่างไร

กู้หนิงได้กลิ่นสะอิดสะเอียนของเลือดจากตัวชายหนุ่ม เธอไม่เห็นหน้าเขา แต่สงสัยว่าเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บ

วินาทีต่อมากู้หนิงก็เห็นใบหน้าชายคนที่เข้ามาช่วยเธอ

นาทีที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาในสายตาเธอ กู้หนิงนิ่งตะลึงไปกับรูปลักษณ์ของเขา

ชายผู้นี้ช่างหล่อเหลาเกินมนุษย์ปุถุชนทั่วไป ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ

เขาอาจจะหล่อที่สุดที่เธอเคยพบผู้ชายมา

เขาสวมสูทสีดำสูงประมาณหกฟุตสามนิ้ว อายุราวๆ25ปี หน้าตาหล่อเหลางดงามเปล่งประกาย มีเพียงสีผิวของเขาที่ขาวซีดเล็กน้อย

บางทีอาจเป็นเพราะเขาเสียเลือดมาก เขาจึงดูซีดเซียว

แม้ว่าชายผู้นี้จะบาดเจ็บแต่เธอยังรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันตรายจากเขาอยู่ โดยเฉพาะดวงตาสีดำเข้มที่มองเธออย่างข่มขู่

แข่งแกร่งเกินไปแล้ว!!!

ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน!!

"เธอขับรถเป็นไหม?" ทันใดนั้นเขาก็เอ่ยถามขึ้นเสียงเย็นแต่สุภาพ

"เป็น" กู้หนิงตอบกลับ

"ขับไปส่งฉันที่เฟิ่งหัวแมนชั่น นี่รางวัลตอบแทนของเธอ" ชายหนุ่มพูดพลางหยิบหยกสีเขียวขนาดเท่าไข่ไก่ให้กู้หนิง

เมื่อเห็นว่าเป็นหยก กู้หนิงใช้ตาทิพย์ของเธอสำรวจทันที จากนั้นเธอก็ประหลาดใจอีกครั้งเพราะมีหมอกสีขาวหนารอบหยก

กู้หนิงมีความรู้เรื่องหยกเพียงน้อยนิด แต่เธอสามารถบอกได้ว่าหยกชิ้นนี้มีราคาแพง ดูจากพลังของมันแล้ว

ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีแน่!!

"ดี ตกลง"

กู้หนิงตอบอย่างไว เธอรีบคว้าหยกมาก่อนที่เขาจะบอกมูลค่าของมัน

ชายผู้นั้นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่กู้หนิงไม่ลังเลเลยสักนิด เธอจะรู้ได้ไงว่าหยกนี่ของแท้หรือของปลอม?

ถ้าเธอรู้ว่าหยกนี้เป็นของโบราณเพียงแค่เห็นครั้งแรก เธอต้องเป็นเด็กสาวที่พิเศษมากอย่างไรก็ตามชายคนนั้นทำข้อตกลงกับกู้หนิง

นอกจากหยกจะเป็นของแท้แล้ว มันยังมีมูลค่าหลายล้านหยวน

ข้อตกลงนี้ต่างฝ่ายต่างพอใจ

ถึงแม้กู้หนิงทำข้อตกลงกับเขาเพียงเพราะเธอต้องการหยก ขายหนุ่มก็ไม่ได้ถากถางเธอแต่อย่างใด เพราะเธอได้รับมันมาอย่างถูกต้อง

ชายหนุ่มหมุนตัวเดินไปที่รถ เขาไม่กังวลว่ากู้หนิงจะเสียงใจทีหลังหรือไม่ที่รับหยกชิ้นนั้นไป

เมื่อเขาหมุนตัวเดินไปที่รถตู้ กู้หนิงก็เก็บหยกไว้ในห้องเก็บของลับในตาทิพย์

นาทีที่หยกถูกเก็บในห้องเก็บของ ทุกอย่างดูชัดเจนขึ้น เธอรู้สึกผ่อนคลาย

หยกชิ้นนี้ช่วยเธอได้มากทีเดียว

ตอนนี้กู้หนิงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะรวบรวมหยกมากขึ้น แต่เธอต้องรอจนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์

กู้หนิงเดินไปที่รถตู้สีดำโดยไม่ลังเล เธอสตาร์ทรถและขับออกไป

นักเลงสามคนจึงถูกทิ้งไว้กลางถนน

"นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม? อยากให้ฉันช่วยทำแผลให้รึเปล่า?" กู้หนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

"ไม่ต้อง ขอบใจ" ชายหนุ่มตอบดูเหมือนเขาไม่ต้องการจะสนทนา

เมื่อเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ กู้หนิงจึงปิดปากเงียบสนิท

สักพักกู้หนิงรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาด เธอขับรถของพวกนักเลงออกมา ถ้าหากพวกนั้นกล่าวหาว่าเธอเป็นขโมยล่ะ?

และกล้องวงปิดที่อยู่ตรงถนนรอบๆ พวกมันไม่โกหก

เมื่อคิดได้ดังนั้น กู้หนิงเหยียบเบรคทันที ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังก็เซมาข้างหน้า

"เกิดอะไรขึ้น?" เขาถามอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงดูอ่อนระโหยโรยแรง

"พวกเราเพิ่งขับรถของคนอื่นมาน่ะสิ ถ้าหากว่าฉันถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขโมยล่ะ? มีกล้องวงจรปิดที่ถนน ฉันปฏิเสธไม่ได้แน่!"

"ใจเย็น เธอจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้" เขาพูดให้เธอสบายใจจะได้ไม่เสียเวลาและรับขับไปส่งเขาให้ถึงที่หมายโดยเร็ว

ไม่นานมือถือกู้หนิงก็ดังขึ้น เธอรู้ได้ทันทีว่าใครโทรมาโดยไม่ต้องเหลือบดูหน้าจอ

กู้ม่านนั่นเอง

กู้หนิงหยิบโทรศัพท์ออกมาทันที เป็นกู้ม่านจริงๆ เธอกดรับสาย ก่อนที่เธอจะพูดอะไร เสียงกังวลของกู้ม่านก็ดังขึ้นก่อน

“หนิงหนิงตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน ทำไมลูกยังไม่ถึงบ้าน?”

Chapter 26: เลิ่งเชาถิง

ปกติกู้หนิงต้องถึงบ้านเมื่อยี่สิบนาทีที่แล้ว กู้ม่านจึงเป็นห่วงเธอมาก

กู้หนิงเอ่ยปลอบแม่ของเธอทันที "แม่คะพอดีเพื่อนของหนูข้อเท้าแพลง หนูเลยต้องไปส่งที่บ้าน แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะกลับทันทีถ้าส่งเพื่อนเรียบร้อยแล้ว"

เมื่อได้ฟังคำอธิบายจากกู้หนิง กู้ม่านก็เบาใจลง เธอไว้ใจในตัวลูกสาว

"โอเคจ้ะ ระตัวด้วยนะ" กู้ม่านตอบ

"ค่ะแม่ แค่นี้ก่อนนะคะ" กู้หนิงถอนหายใจยาว

กู้หนิงไม่ทันสังเกตว่าคนที่อยู่ด้านหลังอารมณ์เสียและอิจฉานิดหน่อยขณะที่เธอคุยกับแม่ของเธอ

เฟิ่งหัวแมนชั่นเป็นสถานที่พักอาศัยที่หรูหราที่สุดในเมือง F มันอยู่ใกล้ตัวเมืองแต่เงียบสงบ มีทำเลที่ดีและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเช่นเดียวกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ผู้คนที่พักอาศัยอยู่ที่นี่ล้วนเป็นเศรษฐีหรือไม่ก็ทำงานให้รัฐบาล

ลุงคนโตของกู้หนิง กู้ฉินเซียงมีความปรารถนาที่จะซื้อบ้านในเฟิ่งหัวแมนชั่นเหมือนกัน แต่มันแพงเกินไปสำหรับเขา

บ้านหนึ่งหลังราคาอย่างน้อยห้าหรือหกล้านหยวน

แม้กู้ฉินเซียงจะมีทรัพย์สินหลายล้าน เขาก็ยังไม่อาจซื้อบ้านในนี้ได้

สินทรัพย์ของกู้ฉินเซียงนั้นรวมถึงสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ทรัพย์สินสังหาริมทรัพย์ของเขามีเพียงประมาณแปดล้าน เขาต้องการเงินจำนวนมากในการบริหารบริษัทของเขา ถ้าเขาใช้เงินซื้อบ้าน บริษัทของเขาอาจจะล้มละลายได้

ตรงกันข้ามกับกู้หนิง เธอมีมีความคิดจะซื้อบ้านสำหรับครอบครัวของเธอ และครอบครัวของกู้ชิงในเฟิ่งหัวแมนชั่น

กู้หนิงมีทักษะการขับรถที่ยอดเยี่ยม เธอขับรถเร็วแต่มั่นคง

ยี่สิบนาทีต่อมาพวกเขาก็มาถึงเฟิ่งหัวแมนชั่น

ชายหนุ่มลงจากรถทันทีที่รถจอด

"ขับกลับไปไว้ที่เดิม ฉันจะจัดการกับกล้องวงจรปิดเอง เธอไม่ต้องห่วง" พูดจบเขาก็เดินเข้าประตูไป

กู้หนิงไม่ใส่ใจที่เขาทำตัวเย็นชา เธอรู้ว่ามันเป็นบุคลิกของเขา

นอกจากนี้พวกเขาทั้งคู่เป็นเพียงคนแปลกหน้าต่อกัน

จากนั้นกู้หนิงก็ขับรถกลับไปจุดเดิม

กู้หนิงใช้เวลายี่สิบนาทีก็มาถึง นักเลงสามคนนั้นก็อันตธานหายไปแล้ว

กู้หนิงไม่รู้ว่านักเลงพวกนั้นตื่นขึ้นเองหรือมีใครบางคนมาพบแล้วโทรแจ้งตำรวจ พวกมันอาจถูกหามส่งโรงพยาบาลแล้วก็ได้

เมื่อคิดถึงคำพูดของเขาที่บอกว่าเธอจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากอยู่ให้ห่างกับเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เธอจอดรถทิ้งไว้แล้วรีบวิ่งกลับบ้าน

กู้หนิงมองเห็นกู้ม่านยืนรอเธออยู่ตรงถนนเข้าบ้าน ทันใดนั้นเธออยากจะร้องไห้ออกมา เธอวิ่งตรงเข้าไปและร้องเรียกกู้ม่านด้วยความรัก

"แม่"

กู้ม่านดูแลเอาใจใส่กู้หนิงอย่างดีซึ่งทำให้เธอรู้สึกผิด เธอไม่ควรปล่อยให้กู้ม่านต้องคอยเป็นห่วงเธอ

เมื่อเห็นกู้หนิงสบายดี กูม่านก็โล่งอก "หนิงหนิงลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"

"หนูสบายดีค่ะแม่ กลับเข้าบ้านกันเถอะ!" กู้หนิงตอบพลางเอามือคล้องไปที่แขนของกู้ม่าน ทำเหมือนเด็กหญิงตัวเล็กๆที่กำลังอ้อนมารดา

กู้ม่านยิ้มอย่างดีใจ แม่และลูกสาวจึงเดินกลับเข้าบ้านพร้อมกัน เงาของพวกเขาทอดยาวขึ้นไปตามแสงไฟของถนน

ในห้องนอนอันหรูหราโอ่อ่า มีชายหนุ่มเปลือยท่อนบนนอนอยู่บนเตียง

มีบาดแผลมากมายรอบตัวเขา ส่วนมากเป็นรอยกระสุนยิงซึ่งตอนนี้กลายเป็นรอยแผลเป็นน่าเกลียด

มีรอยกระสุนยิงสองรูที่หัวไหล่และเอวด้านซ้าย เป็นรอยยิงมาใหม่ๆ

คุณหมอประจำตระกูลฉีดยาระงับความเจ็บปวดให้เขาจากนั้นก็พันแผลด้วยผ้าก็อต

ชายหนุ่มผู้นี้ก็คือคนที่บอกให้กู้หนิงมาส่งที่บ้าน

สักพักใหญ่คุณหมอประจำตระกูลก็กลับออกไป มีผู้ชายใส่สูทอาร์มานี่เดินเข้ามาในห้อง

เขามีอายุราวๆยี่สิบห้า ผิวขาวเนียนละเอียด ดวงตาสีเข้มมีเสน่ห์ คิ้วเรียวบาง จมูกได้รูปและริมฝีปากบางที่เพอร์เฟค รูปลักษณ์ภายนอกของเขาช่างงามสง่าและดูสูงส่ง

"ฉันจัดการกล้องวงจรปิดเรียบร้อยแล้ว ไม่มีหลักฐานเล็ดลอดออกมาแน่" เขาพูดอย่างภูมิใจราวกับอยากจะอวดความสมารถของตัวเอง

"ดี" คำตอบที่ได้รับช่างสั้นและเรียบง่าย

ชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่ถามขึ้นอย่างสงสัยว่า "เชาถิง นายกลับมาบ้านได้ยังไง? แล้วทำไมต้องให้ทำลายกล้องวงจรปิดพวกนั้นด้วย?

"มีคนมาส่งฉันที่บ้านแต่พวกเราขโมยรถคนอื่นมา เพราะฉะนั้นต้องไม่มีหลักฐานเหลือรอด"

เลิ่งเชาถิงเอ่ยเสียงเรียบ แต่ชายผู้นั้นกลับตกใจ

"อะไรนะ? นายขโมยรถ?!" ไม่น่าเชื่อว่าเลิ่งเชาถิงจะทำแบบนั้น

"พอได้แล้ว ฉันอยากพัก นายออกไปได้แล้ว" ก่อนที่ชายผู้นั้นจะถามซอกแซกมากไปกว่านี้ เลิ่งเชาถิงจึงบอกไปให้เขาออกไป

ชายหนุ่มไม่พอใจ นี่เป็นบ้านเขา แล้วแขกมีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้เจ้าของบ้านออกไป?

เขาหงุดหงิดแต่ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

ดังนั้นเขาจึงออกจากห้องนอนไปอย่างไม่เต็มใจและปิดประตูให้เลิ่งเชาถิง

เลิ่งเชาถิงนอนไม่หลับ เขาเพียงแค่อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ

วันต่อมากู้หนิงตื่นนอนตอนตีห้าสี่สิบ เธอใช้เวลาสิบนาทีในการแปรงฟันและล้างหน้า ตีห้าห้าสิบเธอออกจากบ้านวิ่งไปยังโรงเรียน

ครึ่งชั่วโมงต่อมากู้หนิงก็มาถึงโรงเรียน เธอซื้อข้าวเช้าแล้วมุ่งไปยังสนามฟุตบอลระหว่างทางก็กินข้าวไปด้วย

กู้หนิงกินข้าวเสร็จแล้วเมื่อเดินมาถึงสนามฟุตบอล

มู่เค่อและหยูหมิงซีอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว พวกเขาทั้งสองกำลังวิ่ง

กู้หนิงจึงเดินเข้าไปร่วมกับพวกเขา

"กู้หนิง อรุณสวัสดิ์" เมื่อเห็นว่ากู้หนิงอยู่นี่ มู่เค่อและหยูหมิงซีจึงเอ่ยทักเธออย่างพร้อมเพรียง

ลมหายใจของมู่เค่อมั่นคงขณะที่หยูหมิงซีฟังดูอ่อนแรง

"พวกนายวิ่งได้กี่รอบแล้ว?" กู้หนิงถาม

"สาม" พวกเขาตอบพร้อมกัน

กู้หนิงพอใจกับคำตอบ รอบสนามฟุตบอลประมาณ400เมตร สามรอบก็1200เมตร หยูหมิงซีทำได้ดีมากซึ่งนั่นจะส่งผลให้เธอมีร่างกายแข็งแรง

"ดีมาก หมิงซีถ้าเป็นไปได้วิ่งเพิ่มอีกสองรอบ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็เลิกเสียตั้งแต่ตอนนี้"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด