บทที่ 6 ม่ายสาวผู้ดึงดูดใจหนุ่มหล่อ
บทที่ 6 ม่ายสาวผู้ดึงดูดใจหนุ่มหล่อ
จางปินโบกมือให้จิ้งจอกตัวน้อยแต่จิ้งจอกตัวน้อยกลับวิ่งและกระโดดเข้าสู่อ้อมแขนของจางปินทันที
จางปินกอดจิ้งจอกตัวน้อยด้วยความรักและพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ฉันเรียกเธอว่าเสี่ยวหงได้ไหม?”
จิ้งจอกตัวน้อยส่ายหัวอย่างรวดเร็วดูเหมือนมันไม่ชอบชื่อพวกนี้
“งั้นถ้าฉันเรียกเธอว่าเสี่ยวเชียนละ”
จางปินไตร่ตรองสักพักแล้วพูดออกมาจิ้งจอกตัวน้อยลังเลครู่นึงก่อนที่จะพยักหน้าในที่สุด
“เสี่ยวเชี่ยน เธอเป็นสัตว์ปีศาจจริงๆเหรอ? เธอแปลงร่างเป็นสาวงามได้หรือเปล่า” จางปินถามอย่างเขินๆ จิ้งจอกตัวน้อยส่ายหัวทันที
“อ่า สรุปเธอไม่ได้เป็นสัตว์ปีศาจเธอแค่มีพลังจิตวิญญาณสินะ แถมเธอยังเข้าใจคำพูดของมนุษย์ได้” จางปินรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเขาถามพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง “ถ้าเธอเห็นคนมาขโมยโสมที่ฉันปลูกเธอจะทำยังไง”
เสี่ยวเชียนทำท่าทางดุร้ายเผยเขี้ยวที่คมกริบแล้วกระโดดเข้าใส่ต้นไม้ใหญ่และตระปบใส่ต้นไม้อย่างแรง
ตู้มมมม เปลือกของต้นไม้ใหญ่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
“ฟู่..........”
จางปินสูดหายใจเข้าลึกๆ เสี่ยวเชียนแข็งแกร่งมากแม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นสัตว์ปีศาจ แต่เธอก็แข็งแกร่งมากจริงๆ
เขาสัมผัสเสี่ยวเชียนเบาๆ ไม่รู้ทำไมเขาได้กลิ่นหอมแปลกๆ บนร่างกายของเธอเหมือนผู้หญิงคนหนึ่ง
“โลกใบนี้กว้างใหญ่จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร” จางปินถอนใจ แล้วมองไปรอบๆเขาก็เห็นว่ามันมืดแล้วก่อนที่เขาจะออกจากบ้าน
เมื่อเขามาถึงลำธาร เขาหยุดระหว่างทางเนื่องจากมีหญิงสาวกำลังอาบน้ำอยู่กลางลำธาร
ผมยาวสีดำเงางามของเธออยู่สูงเหนือหัว ผิวสีขาวราวหิมะของเธอซ่อนอยู่ในน้ำ ใบหน้าที่งดงามน่าหลงใหล
“นั้น หลิวซิน ไม่ใช่เหรอ? ปีศาจจิ้งจอกของจริงอยู่นี้แล้ว” จางปินคิดในใจ แต่ก็ไม่กล้าขยับตัวแล้วซ่อนตัวเองหลังต้นไม้พร้อมชื่นชมภาพอันงดงามตรงหน้า
หลิวซิน อายุ 26 ปีเป็นสาวม่ายทรงเสน่ห์ เย้ายวนใจเหมือนแอปเปิ้ลสุก
เป็นสิ่งล่อตาล่อใจมากสำหรับชายหนุ่มแบบจางปิน อย่างไรก็ตามจางปินไม่ได้ดูหมิ่นเธอ เพราะหลิวซินเป็นผู้หญิงที่จางปินชื่นชมและนับถือมาตลอด
หลิวซินแต่งงานตอนอายุ 20 ปีในหมู่บ้านซานเจียเหอและในเพียง 1 ปี
เจิ้งเหิง สามีของเธอก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ด้วยรูปลักษณ์ของเธอมันง่ายมากที่จะแต่งงานใหม่
อย่างไรก็ตามเธอมีเงื่อนไขว่าจะแต่งงานกับเธอ ต้องพาดูแลแม่สามีเก่าของเธอจนกว่าเธอจะเสียชีวิตด้วยวัยชรา
ป้าเจิ้งอายุ 60 ปีและมีสุขภาพไม่ดีนัก เธอมักไปโรงพยาบาลบ่อยมาก
การแต่งงานกับหญิงม่ายก็ต้องดูแลคนแก่ที่ป่วยหนักด้วยนั้นเป็นเรื่องที่ยากจนทำให้ผู้คนท้อแท้
"อึก………." ด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามเบื้องหน้าจางปินอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงเต็มปากแม้ว่าเขาจะไม่กล้าพูดลามกแต่ดวงตาเขาไม่เหมือนกัน
หลิวซินดูเหมือนจะได้ยิน ใบหน้าของเต็มไปด้วยความเขินอายแต่แน่นอนว่าเธอไม่เห็นจางปินที่กำลังซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้
“เสี่ยวปินใช่มั้ย” หลิวซินพูดอย่างประหม่าเบาๆ
"เห้ย รู้ได้ไงวะ." จางปินตอบในใจ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่กล้าพูดออกมา
“ว้าย…งู…งูกัดฉันแล้ว” หลิวซินจู่ๆก็ร้องออกมาเหมือนตกใจอะไรบ้างอย่าง
จางปินตกใจมากจนรีบวิ่งออกมาทันที เขากระโดดลงไปในน้ำแล้วอุ้ม
หลิวซินพร้อมถามอย่างร้อนรน “งูกัดที่ไหน”
“ว่าแล้ว เป็นนายจริงๆ เสี่ยวปิน นายนี้มันแย่จริงๆ” ปรากฏว่าหลิวซินไม่ได้ว่าถูกงูพิษกัด เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งหลอกต้น จางปิน
“นี่นี่…ผมไม่ได้แอบมองคุณ…” จางปินรู้สึกอายเกินกว่าที่จะทำอะไรต่อ แต่ดวงตาของเขาเปร่งประกายขณะที่เขามองสาวงามในอ้อมแขนของเขา
มันช่างสิ่งล่อตาล่อใจสำหรับชายหนุ่มอย่างเขาจริงๆ
“เสี่ยวปิน นายแย่มากระวังนะฉันจะบอกเสี่ยวฟาง” หลิวซิน ขัดคอของจางปินแต่น้ำเสียงเธอเหมือนกำลังล่อลวงอะไรสักอย่างจากเขา
“มัน….มัน…..ผมไม่ได้ตั้งใจ” จางปินตื่นตระหนกและปล่อยเธออย่างรวดเร็ว เขาหายใจเข้าลึกๆและวิ่งหนีไป
"นี่รอฉันด้วยสิ." หลิวซินสวมเสื้อผ้าของเธออย่างรวดเร็วและเดินตามเขาไป เธอยิ้มแล้วพูดออกมา “ตัวเลวร้ายใหญ่ ไม่ต้องกังวลฉันไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกเสี่ยวฟางหรอก ว่าแต่นายแอบดูฉันอาบน้ำบ่อยไหมเนี้ย?”
“ครั้งเดียวจริงๆ นี้ครั้งแรกเลยเนี้ย” จางปินกล่าวด้วยความเขินอาย
“โอเค แต่ยังไงนายก็แอบดูฉันอาบน้ำแล้วแบบนี้นายจะรับผิดชอบยังไง” หลิวซินจับมือของจางปินเธอมองเขาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
จางปินตอบกลับทันที “งั้นผมสัญญาว่าจะรักษาอาการเจ็บป่วยของป้าเจิ้ง ให้ดีไหม” จางปินกล่าวด้วยใบหน้าที่จริงใจ
หลิวซิน ตกใจมากจากน้ันน้ำตาเธอก็ไหลลงมาอย่างหยุดไม่ได้
“พี่ซิน คุณร้องไห้ทำไม” จางปินรู้สึกสับสน
“อยู่ในป่าไม่น่า มีทรายเข้ามาในตาของฉันน่ะสิ” หลิวซินสะอืนเบาๆ
"มัน….ไม่น่าเป็นไปได้นะ." จางปินกล่าวแบบมึนงง
“ไอ้เด็กบ้า พวกเราไม่ใช่คู่ที่เหมาะสมกัน ฉันอายุมากกว่าตั้ง 6 ปีแถมทางบ้านนายก็มีปัญหาไม่มีทางที่นายจะแต่งเมียตอนนี้ได้หรอก นี้ยังไม่รวมถึงพ่อแม่ของเธอที่ไม่น่าจะเห็นด้วยอีกนะ” หลิวซินถอนหายใจออกมา
“หา….เมื่อกี้ฉันขอเธอแต่งงานเหรอ?” จางปินรู้สึกสับสน แต่เขาจู่ๆเขาก็เข้าใจ เมื่อกี้เขาสัญญาว่าจะรักษาอาการป่วยของป้าเจิ้ง แต่ว่ามันไม่ใช่การขอแต่งงานซะหน่อย? ทำไมจู่ๆเธอก็ทำตัวแปลกๆแบบนี้ละ
ช่างเถอะถึงจะยังไงก็ถือว่าฉันพูดไปแล้ว หลังจากนี้เดียวไปบอกว่าฉันได้เรียนรู้วิชาแพทย์มาจากต่างประเทศและมารักษาอาการป่วยของป้าเจิ้งก็น่าจะไม่มีปัญหา แถมอีกอย่างถ้าเขาไปขัดคอเธอตอนนี้เธอต้องอายเขามากแน่ๆ
เมื่อมองดูเธอดีๆ หัวใจของเขาก็เต้นรัวเพราะยังไงสาวสวยอย่าง หลิวซิน นั้นก็เป็นสาวงามที่ผู้ชายทุกคนต้องการ
เขาแอบคิดในใจหรือว่าเขาสามารถแต่งงานกับเธอได้จริง หัวใจของเขาเต้นแรงขณะที่เขาบีบมือขาวของเธอแน่น
“งั้น เสี่ยวปิน นายทำอะไรให้ฉันหน่อยได้ไหม?” หลิวซิน พูดเบาๆ
"ให้ทำอะไรว่ามาเลย?" จางปินพูดทันที
“ฉันได้ยินจากเสี่ยวฟางนายฝึกวิชากำลังภายในงั้นเหรอ? แล้วนายฆ่าหมูป่าด้วยการเตะ 2 ครั้งแน่นะ?” หลิวซินถามอย่างไม่แน่ใจ
“เสี่ยวฟางไม่ได้เก็บเป็นความลับเหรอ? เธอบอกใครไปบ้างเนี้ย”
จางปินรู้สึกกังวล
“จะไปว่าเสี่ยวฟางไม่ได้หรอก แม่ของนายนั้นละที่บอกว่านายไปได้อาจารย์จากในภูเขา แม่นายเล่าว่านายยกหินโม่แป้งมีน้ำหนัก 150 กิโลได้สบายๆเลยละ” หลิวซิน กล่าว “ผู้คนในหมู่บ้านไม่เชื่อแต่ เสี่ยวฟาง เห็นไม่ดีเลยออกมาช่วยยืนยัน เธอบอกว่านายช่วยเธอและเตะหมูป่าจนตาย”
“แม่...เหรอ.......” จางปินพูดไม่ออก เขาตกใจมากที่แม่ไปโม้อะไรแทนเขา
ไม่สิเราต้องภาคภูมิใจที่แม่พูดถึงเราให้คนอื่นฟังสิแถมแม่ไม่ได้โกหกใครซะหน่อย
“เสี่ยวปิน นายตอบฉันมาว่าจริงไหม” หลิวซินกล่าว
“มันเป็นเรื่องจริง” จางปินพยักหน้า
“ถ้างั้นช่วยฉันสอนบทเรียน ซวีเสี่ยวปิง ให้ทีเขาขโมยไก่ของบ้านฉันไปตอนนี้ไก่ทุกตัวในบ้านของฉันถูกขโมยไปหมดแล้ว บ่ายนี้ไก่ตัวสุดท้ายถูกเขาจับไป เมื่อปีที่แล้วหมูตัวใหญ่ตัวหนึ่งในบ้านของฉันก็ถูกมันแอบเอาออกไปฆ่าตอนกลางคืนกลางภูเขา” หลิวซินกัดฟันและพูดออกมา
ซวีเสี่ยวปิง เป็นนักเลงที่ไม่มีความมีปรากฏในชีวิต เรื่องที่เขาถนัดคือการขโมยและยังมีกลุ่มเพื่อนๆของเขาที่มักจะดื่มและมั่วสุมกันในบ้านอีก
คนส่วนใหญ่ปกติแล้วไม่กล้าที่จะทำให้เขาขุ่นเคือง หลิวซินเองก็ไม่กล้าที่จะทำให้เขาโกรธ
“นับว่ามันกล้ามาก ฉันจะสั่งสอนบทเรียนมันเอง” จางปินโกรธมาก
เมื่อพูดถึง ซวีเสี่ยวปิง จางปินก็โกรธขึ้นมาเพราะ ซวีเสี่ยวปิง เองก็มาขโมยของออกจากบ้านของเขาไปเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เขาเป็นแค่คนธรรมดาและไม่มีพลังพอที่จะสั่งสอนอีกฝ่าย
แต่ตอนนี้เขาได้ฝึกฝนวิชาต้นไม้สีเขียวอมตะ ความแข็งแกร่งของเขาเรียกได้ว่าแม้จะไม่ใช่ซูเปอร์แมน แต่ก็เกือบจะเป็นซูเปอร์แมนอยู่แล้ว
เขาจะปล่อยโอกาศนี้ไปได้ยังไง!