บทที่ 4 เสี่ยวฟางเป็นผู้หญิงของฉัน
บทที่ 4 เสี่ยวฟางเป็นผู้หญิงของฉัน
ช่วงบ่ายจางปินอุ้มหมูป่าครึ่งตัวออกจากบ้านของเซี่ยวฟางอย่างซึมเศร้า
แม่ของเฉิงฟางไล่เขาออกมา “เสี่ยวปินเธอช่วยเซียวฟางเอาไว้ฉันรู้สึกขอบคุณเธอจริงๆ แต่ถ้าเธอคิดจะจะแต่งงานกับเสี่ยวฟางเพราะแค่ช่วยเธอเอาไว้ละก็เธอคิดผิดแล้ว เธอไม่ได้ดูสภาพบ้านของตัวเองเลยเหรอตอนนี้ครอบครัว 4 คนของเธอพ่อป่วยหนักและน้องสาวกำลังเรียนมัธยม…”
จางปินรู้สึกหดหู่มากเขาไม่ได้อยากแต่งงานกับเสี่ยวฟางตอนนี้เขาแค่มาส่งเนื้อหมูป่าครึ่งตัวให้เท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตามแม่เฉิงฟางฉลาดเกินพอจพเห็นความคิดเล็กๆของเขาในทันทีดังนั้นเธอจึงตัดสินใจไม่ยอมรับเนื้อหมูและขับไล่เขาออกมา
“กล้ามากนะ เสี่ยวปิง เธอคิดแบบนี้กับเสี่ยงฟาง ได้ยังไงน่าอายจริงๆ!”
“เด็กน้อย เสี่ยวปิน คิดแบบนั้นจริงเหรอ?”
“น่าเสียดาย…ถ้าพ่อของเสี่ยวปินไม่ป่วย เรื่องคงไม่ยากขนาดนี้”
เพื่อนบ้านทางซ้ายและขวาทุกคนออกมาดูความปั่นป่วนและกระซิบกันใหญ่
“แม่อย่าพูดอะไรเลย……….”
เสี่ยวฟางเขินและหยุดแม่ของเธอเอาไว้ เธอพูดจางปิน “พี่ปิงฉันขอโทษนะที่แม่พูดกับพี่แบบนี้……..”
อย่างไรก็ตามแม่ยังไม่หยุด “เสี่ยวปินฉันจะให้พ่อของเสี่ยวฟางไปที่บ้านเธอเพื่อขอบคุณก็แล้วกัน แต่ยังไงก็ตามนายต้องเจียมตัว…”
“ป้าอย่ามากลั่นแกล้ง ชายหนุ่มในตอนที่เขายากจน เพราะเขาอาจจะกลายเป็นเศรษฐีหรือคนมีอำนาจก็ได้ใครจะไปรู้!” จางปินโกรธมากเลยหันมาพูดอย่างโอหัง
“……อย่ากลั่นแกล้งเพราะเขาอาจจะกลายเป็นเศรษฐีหรือคนมีอำนาจก็งั้นเหรอ! เสี่ยวปิงพูดได้ดีๆ” ชาวบ้านต่างก็ชอบในคำพูดของเขา
แม่ของเฉินฟาง หัวเราะและพูดออกมา “ถ้าเธอสร้างบ้านหลังใหญ่ในหมู่บ้านนี้ได้ภายในอีก 2 ปีฉันจะให้เธอแต่งงานกับเสี่ยวฟางเป็นยังไง?”
แม้ว่าจะมีเพียงสองร้อยครอบครัวในหมู่บ้านซานเจียเหอ แต่ก็มีชาวบ้านที่ร่ำรวยจำนวนมากและบ้านเรือนแต่ละหลังนั้นสวยงามกว่าหมูบ้านอื่นๆหรือในเมืองมาก
บ้านที่สวยที่สุดของหมู่บ้านคือ ไตฮง เขาทำงานที่โรงงานในเมืองใหญ่และหาเงินได้มากมาย
บ้านของเขามีราคาสูงกว่า 15 ล้านหยวน (ประมาณ 75 ล้านบาท)และสวยงามมากไม่เพียงแต่มีไร่ สวน ยังมีสระว่ายน้ำ โรงจอดรถ บาร์และก็ยังมีสิ่งอำนวจความสะดวกต่างๆชาวบ้านในหมู่บ้านอิจฉาเขาแทบตาย
ดังนั้นสำหรับจางปินการจะสร้างบ้านหลังใหญ่มูลค่ากว่า 15 ล้านใน 2 ปีนี้จะเป็นไปได้ยังไง?
"คุณแน่ใจเหรอ?" จางปินลังเลเหมือนไม่เชื่อเธอก่อนถามพร้อมอมยิ้ม
“เขาเหมือนไม่รู้ว่าท้องฟ้าสูงแค่ไหน” ชาวบ้านหลายคนที่ดูบ่นอยู่ในใจ
“ตอนนี้พี่เขาฆ่าหมูป่าด้วยการเตะแค่ 2 ครั้ง ถ้ามีความสามารถแบบนี้การหาเงินแค่ 15 ล้านใน 2 ปีมันไม่ได้ยากเลย แต่แม่ไม่รู้เรื่องนี้เลยทำให้อะไรไม่รู้ออกไป……...” เสี่ยงฟางคิดในใจอย่างเขินอาย ใบหน้าที่สวยงามของเธอแดงก่ำ ดวงตางดงามของเธอมองจางปินโดยไม่กระพริบ
“สิ่งที่ฉันพูดออกไปแล้วไม่มีวันคืนคำ แต่ตอนนี้ฉันขอให้เธออย่ามายุ่งกับเสี่ยวฟางอีกเลยนะ” แม่ของเสี่ยวฟางพูดพร้อมรอยยิ้ม
“งั้นผมถือว่า เสี่ยวฟางเป็นภรรยาของผมแล้วนะ ขอบคุณแม่ยายที่ใจดีช่วยส่งเสริม ฮ่าฮ่าฮ่า” จางปินพูดจบแล้วก็หัวเราะก่อนจากไป
“แก ไอ้คนปากไม่ดี ฉันจะฉีกปากของแกออกมาเดียวนี้ละ” แม่เสี่ยวฟางโกรธจนด่าเขาออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า……ไอ้หนุ่มนี้มันร้ายจริงๆ” ชาวบ้านทุกคนเริ่มหัวเราะออกมาพร้อมกับจางปิน
จางปินที่กลับบ้านมาแล้วพยายามกำจัดน่ารำคาญของแม่เสี่ยวฟางออกไปและกลับบ้านโยนเนื้อหมูป่าลงบนโต๊ะก่อนรีบกลับเข้าไปที่ห้อง
“ไอ้ลูกคนนี้ เขาอยากแต่งงานกับเสี่ยวฟางตั้งแต่เมื่อไรกันนะ” แม่จางปิน มองไปที่ประตูห้องนอนของจางปินและถอนหายใจเบาๆ
ทันทีที่จางปินเข้ามาในห้องเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและติดต่อกับเกาส์
โทรศัพท์ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความง่วงนอนของเกาส์ปรากฏขึ้นบนหน้าจอและเขาบอกอย่างเบื่อหน่าย “กลางดึกขนาดนี้นายโทรมาทำไมเนี้ย”
จางปินขอโทษก่อนจะถามอย่างหงุดหงิด “นายสบายดีไหม? ได้เผยแพร่
ไซอิ๋วไปยัง”
ระหว่าง 1 เดือนที่ฝึกวิชาเขาอ่านไซอิ๋วให้เกาส์ฟังทุกคืนจนตอนนี้เกาส์ได้อ่านมันทั้งหมดแล้ว
เกาส์เมื่อได้ยินที่เขาถามก็ตอบกลับมาอย่างตื่นเต้น “เหอๆ…ตอนนี้ฉันรู้ตัวแล้วว่ากำลังจะเป็นนักเขียนนิยายที่โด่งดังที่สุดบนดาวดวงนี้ ฉันได้ติดต่อค่ายใหญ่ๆไปแล้ว พวกเขายินดีที่จะเผยแพร่เรื่องนี้และนอกจากนี้ฉันยังได้
ค่าต้นฉบับสูงมากแถมส่วนแบ่งการขาย 50 เปอร์เซ็นต์แล้วยังมีสิทธิ์ สำหรับภาพยนตร์ โทรทัศน์และเกม ที่เหลือกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา…….ฉันไม่สามารถรวยตอนนี้ฉันจะไปรวยตอนไหน”
“นายรวยก็ดีแล้วแต่ฉันนี้สิเพิ่งเริ่มฝึกวิชา ปลูกฉันยังผ่านขั้นกลั่นพลังเลยแถมฉันยังยากจนและใช้ชีวิตอย่างน่าเศร้าใจ ตอนนี้พ่อของฉันป่วยหนักและฉันยากมีเมีย ฉันต้องไปหาเงินจำนวนมากมาไม่งั้นก็ไม่ได้แต่งงาน?” จางปินกล่าวด้วยท่าทางโศกเศร้า
“ขายน้ำพลังจิตวิญญาณสิ” เกาส์พูดเหมือนเรื่องง่ายๆ
“ขายน้ำพลังจิตวิญญาณ? นายหมายถึงอะไร” จางปินกล่าวด้วยความกลัว
“พลังจิตวิญญาณนั้นละลายได้ง่ายเมื่อผสมในน้ำ นายไปหาภาชนะมาบรรจุน้ำเล็กน้อยแล้วนายก็รวบรวมพลังจิตวิญญาณให้ละลายไปในน้ำจากนั้นมันจะกลายเป็นน้ำจิตวิญญาณ น้ำจิตวิญญาณสามารถรักษาโรคและยืดอายุไขได้ หากนายมอบมันให้กับพ่อของนายแม้ว่าพ่อของนายจะไม่หายทันที แต่อาการของเขาก็จะไม่แย่ลงและจะดีขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นนายแค่ต้องขายน้ำจิตวิญญาณและนายก็จะหาเงินได้ราวกับเสกเงิน” เกาส์อธิบายอย่างรวดเร็ว
“เป็นความคิดที่ดีที่จะให้น้ำจิตวิญญาณกับพ่อฉันแต่จะขายน้ำจิตวิญญาณตอนนี้คงไม่ได้ผลและฉันต้องถูกตีจนตายด้วยไม้เพราะทุกคนคิดว่าฉันเป็นพวกต้มตุ๋นหรือถูกแจ้งความให้ไปที่สถานีตำรวจ” จางปินพูดอย่างหดหู่
“ดังนั้นวิธีนี้ยังใช้งานไม่ได้”
“เทคโนโลยีพวกนายมันล้าหลังเกินไปหากนายอยู่ในดาวของฉันมันจะมีเครื่องทดสอบและนายจะได้รับเอกสารรับรองอย่างเป็นทางการแค่นี้นายก็จะขายน้ำวิญญาณได้อย่างหมดห่วง” เกาส์ กล่าว “แต่ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างรายได้จากน้ำจิตวิญญาณเนื่องจากน้ำจิตวิญญาณสามารถเอาไปใช้ปลูกพืชสมุนไพรที่มีคุณค่าและทำให้พวกมันเติบโตอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่นโสมที่นายหาเจอตอนฝึกวิชา มันจะเติบโตขึ้นด้วยน้ำจิตวิญญาณและกลายเป็นโสม 10 ปีภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน”
"จริงๆเหรอ? นายไม่ได้โกหกฉันใช่มั้ย" จางปินตกใจมาก
“จะโกหกทำบ้าอะไร” เกาส์กลอกตาไปมาเหมือนเจอคนโง่เข้าให้แล้ว
“จริงๆแล้วฉันไปหาหนังสือวิชาแพทย์และใบสั่งยาจำนวนมากมาแล้วเดียวจะส่งให้นายภายใน 2 วันนี้เก็บมันไว้ในโทรศัพท์มือถือของนายให้ดีละ นายจะได้ศึกษาได้อย่างถูกต้องในขณะที่นายฝึกวิชา ข้อตกลงของฉันกับนายจะได้เสร็จสมบูรณ์……”
จางปินวางสายและเริ่มการทดลองทันที
ก่อนอื่นเขาหยิบแก้วใบใหญ่และเทน้ำใส่ครึ่งแก้วจากนั้นเข้าไปในป่าเพื่อใช้ลมปราณและพลังจิตวิญญาณให้ละลายในน้ำเมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วน้ำก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อนส่งกลิ่นที่หอมสดชื่นออกมา
เขาไปที่สวนผักและเทน้ำลงใต้ต้นพริกที่กำลังผลิดอกออกผล
เขาตกใจมากที่ต้นพริกเริ่มสูงขึ้นจนน่าประหลาดใจมันรวดเร็วมากจนเห็นได้ด้วยตาเปล่าและผลิตพริกเล็กๆออกมา
“น้ำแห่งจิตวิญญาณมันน่าเหลือเชื่อจริงๆ! ฉันรวยแล้วรวยแน่ๆ”
จางปินตะโกนด้วยความตื่นเต้น เขาไปที่ห้องของพ่อทันที
ปีกว่าแล้วที่พ่อของจางปินล้มป่วยทำให้ครอบครัวขาดรายได้จำนวนมากและมันเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ดังนั้นเขาจึงเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง
ถึงกระนั้นตอนนี้ก็พอจะเดินได้แล้วถ้ามีอุปกรณ์ช่วยเหลือ
“พ่อครับ พ่อจะหายเป็นปกติแล้วนะ” จางปินช่วยพ่อของเขาลุกขึ้นยืนแล้วเอนตัวพิงหัวเตียงพร้อมกับพูดอย่างมั่นใจ
“เสี่ยวปิน พ่อไม่ดีขึ้นหรอก พ่อทำให้ทุกคนต้องลำบาก พ่อเป็นพ่อที่แย่จริงๆ” พ่อจางปินพูดอย่างเศร้าใจ
“พ่อ พ่อจะหายแล้วจริงๆเพราะผมไปเจออาจารย์ลัทธิเต๋าคนหนึ่งในภูเขาบอกว่าเขาสามารถรักษาพ่อได้ นี่คือยาที่ผมไปขอร้องเขามา” จางปิน
กล่าวแล้วถือขวดน้ำแร่
“ลูกแม่ อาจารย์ลัทธิเต๋าอะไรกัน ลูกจะให้ของแบบนี้กับพ่อได้ยังไง?
จะทำยังไงถ้าพ่อลูกเป็นอะไรไปถ้าดืมมัน?” แม่ของจางปินวิ่งมาทันที