บทที่ 3 ช่วยสาวงามกลางป่า
บทที่ 3 ช่วยสาวงามกลางป่า
ในป่าทึบจางปินกำลังฝึกฝนวิชาต้นไม้สีเขียวอมตะ
ในขณะที่เขาเดินอย่างช้าๆ พลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งของเขาก็ลอยออกไปจากร่างกายของเขาและกลายเป็นกระแสน้ำวนที่มองไม่เห็นห่อหุ้มพืชภายในรัศมี 2 เมตรต่อหน้าเขา
“.........”
มีสิ่งประหลาดเกิดขึ้นพลังจิตวิญญาณสีเขียวออกมาจากพืชซึ่งจางปินดูดซับเอาไว้และรวมเข้าไปในสายเลือดของเขา
สัตว์มีวิญญาณ พืชก็มีวิญญาณ พืชมีอายุยืนยาวเพราะพวกมันดูดซับพลังวิญญาณได้ดี กุญแจสำคัญในการฝึกวิชาต้นไม้สีเขียวอมตะคือการสกัดพลังจิตวิญญาณของพืชและเอามาเป็นลมปราณของตัวเองหรือที่เรียกว่าลมปราณ จากนั้นนายจะสามารถยืดอายุไขของตัวเองและมีพลังมหาศาลและนายจะสามารถใช้มันเพื่อช่วยชีวิตผู้คน
หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงจางปินก็หยุดดึงพลังงานแล้วยืนสงบนิ่งก่อนที่จะเริ่มชกอากาศอย่างขยันขันแข็ง
หมัดของเขาเต็มไปด้วยความดุ!
มีทั้งหมด 9 ขั้นในวิชาต้นไม้สีเขียวอมตะและขอบเขตแรกคือขอบเขตกลั่นวิญญาณ!
เมื่อร่างกายดูดซับและปรับแต่งพลังวิญญาณให้ร่างกายจนเสร็จสมบูรณ์มันจะกลายเป็นต้านทานและมีทรงประสิทธิภาพนั้นคือการฝึกวิทยายุทธ์
ตู้มม….ตู้มม...ตู้มม…….
ความเร็วที่เขาชกออกมาเร็วขึ้นและเร็วขึ้นกล้ามเนื้อแขนของเขาเพิ่มขึ้นจากกล้ามธรรมดาๆตอนนี้เขาชกจนเกิดการระเบิดของอากาศอย่างรุนแรง
เขาลองเคลื่อนไหวอีกหนึ่งอย่างเขาเตะไปที่ต้นไม้ใหญ่อย่างแรงจนต้นไม้สั่นสะเทือนจากการเตะ
หลังจากเตะไปประมาณครึ่งชั่วโมงเขาก็มาที่ก้อนหินที่มีน้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัมเขายกมันขึ้นเหนือหัวของเขา 100 ครั้งในหนึ่งลมหายใจก่อนที่จะโยนก้อนหินออกไป
เขาโยนก้อนหินให้ลอยห่างออกไป 7-8 เมตรจนกระแทกกับพื้นทำให้เกิดเสียงดัง
ตู้มมมมมมมมมม
ความตกใจปรากฎบนใบหน้าของจางปินวิชามนุษย์ต่างดาวนี้น่าอัศจรรย์หลังจากผ่านการฝึกฝนเพียงครึ่งเดือนเขาได้แปรสภาพตัวเองให้กลายเป็นซุปเปอร์แมนไปแล้วเขาเหมือนนายพลที่ดุร้ายในสมัยโบราณที่เขาว่ากันและนี่เป็นเพียงขั้นแรกของวิชาต้นไม้อมตะสีเขียวและเขาเองก็เพิ่งเริ่มฝึกถ้าเขาฝึกจนถึงขั้นที่ 9 ขั้นดินแดนแห่งต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนกันนะ?
น่าเสียดายที่มันไม่ง่ายเลยที่จะฝึกฝนวิชาต้นไม้สีเขียวอมตะและนอกเหนือจากการดึงพลังงานออกใช้แล้วมันใช้ทำยารักษาโรคได้อีกด้วย
เราต้องหัดปรุงยานอกจากนี้เราต้องไปหาสมุนไพรสำหรับการปรุงยา
"ช่วยด้วย……….ช่วยฉันด้วย"
ทันใดนั้นเสียงร้องที่ตื่นตระหนกก็มาจากส่วนลึกของป่าทึบ
เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากนั้นก็มีหญิงสาวแสนสวยกระโจนออกมาจากป่าทึบ
เธอคือเฉิงฟางลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้าน เฉิงหยูเทียน ผู้คนเรียกเธอว่าเสี่ยวฟาง จางปินกับเธอสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว
เสี่ยวฟางอายุ 19 ปีอายุน้อยกว่าจางปิน 1 ปี เธอความสูงประมาณ 160 มีใบหน้ายาวสง่างามและผิวสีขาว งดงามเหมือนดอกไม้ของหมู่บ้านความงามของเธอถือว่าเป็นสร้างชื่อเสียงในแถบนี้ไม่น้อย
ข้างหลังเธอเป็นหมูป่าตัวใหญ่ที่กำลังวิ่งไล่เธอมา เมื่อเห็นจางปินเธอก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “พี่ปิงช่วยฉันด้วย!”
“ไม่ต้องตกใจไป พี่อยู่นี้แล้ว” จางปินพุ่งไปเหมือนลูกศรและกางแขนเพื่อจับเซียวฟางไว้ในอ้อมแขนของเขา
“อา…พี่จะทำอะไร” เสี่ยวฟางสับสน พี่ปิงกำลังช่วยชีวิตเธอหรือล้อเธอเล่น?
“แน่นอนพี่กำลังช่วยเสี่ยวฟางของพี่ไง!” จางปิน กอดเอวของเธอด้วยความยินดีแล้ววิ่งไปหาหมูป่า
“งี่เง่าไปใหญ่แล้ว พี่จะทำอะไรกับหมูป่า? พี่อยากตายหรือไง?”
เสี่ยวฟางกระแทกหน้าอกของจางปินอย่างแรงและพูดด้วยความโกรธ
"ก็ฆ่ามันไง………."
จางปินวิ่งใส่หมูป่า เขาลอยไปเตะมันเข้าที่กรามอย่างแรง
กร็อบ
หมูป่าลอยไปไกลถึง 5 เมตรก่อนที่จะกระแทกพื้นอย่างแรงและกลิ้งตัวไปอีกไกลก่อนที่จะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจนไม่สามารถลุกขึ้นได้
ใบหน้าของเสี่ยวฟางแข็งค้างอย่างไม่เชื่อสายตา จางปิน แข็งแรงขนาดนี้เลยเหรอ เป็นไปได้ยังไง? ฉันกำลังอยู่งั้นเหรอ
จางปินยังกอดเสี่ยวฟางไว้แน่นๆแล้วหายใจเบาๆเขาได้กลิ่นสดชื่นของหญิงสาว จากนั้นเขาพุ่งเข้าไปเตะหมูป่าเข้าที่หัวอีกครั้ง
ตู้มมมม
หมูป่าลอยไปกระแทกก้อนหินแล้วแน่นิ่งไปเลยเห็นได้ชัดว่ากระดูกกะโหลกของมันแตกหมดแล้ว
“พี่ฆ่าหมูป่าภายในการโจมตี 2 ครั้งเองเหรอ? พี่เรียนศิลปะการต่อสู้?” เซียวฟางถามด้วยความตกใจขณะที่ดวงตาสวยเบิกกว้าง
“มันเป็นความลับที่มีเพียงแฟนของพี่เท่านั้นที่รู้ ได้เธอแน่ใจเหรอว่าเธออยากจะให้พี่บอกเธอ” จางปินกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่เป็นอันตราย
“ใครอยากจะรู้ความลับของพี่กันล่ะ”
เสี่ยวฟางจะถอยออกมาพร้อมเอามือปิดหน้าอย่างเขินอายแต่ทันทีที่เท้าของเธอลงบนพื้นเธอก็ล้มลงไปในอ้อมแขนของจางปินอีกครั้งหน้าของเธอแดงก่ำและอธิบายว่า “เท้าของฉันพลิก”
“งั้นพี่จะพาเธอกลับไปเอง”
จางปินแอบดีใจ เขาอุ้มเสี่ยวฟางไว้บนหลังของเขาและเอามือที่วางอยู่จับขาข้างหนึ่งของหมูป่าลากหมูป่าไปพร้อมกับแบกเสี่ยวฟางเดินกลับไปยังหมู่บ้าน
“พี่ปิงแข็งแรงจังเลย” เสี่ยวฟางพูดเบาๆขณะพูดมันเหมือนเธอเป่าหูของ
จางปิน
“เสี่ยวฟาง พี่ชอบเธอมานานแล้วเป็นแฟนพี่ไหม” หลังจากเดินไปซักพักจางปินพูดด้วยความประทับใจ
ในอดีตเขาเคยฝันที่จะแต่งงานกับเสี่ยวฟางผู้สวยงามเหมือนนางฟ้าสวรรค์ แต่เมื่อคำนึงถึงสภาพครอบครัวของเขามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแต่งงานกับเสี่ยวฟางดังนั้นเขาจึงได้แค่คิดเฉพาะในความฝัน
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาแตกต่างกว่าเมื่อก่อนเขามีความกล้าที่จะบอกรักเสี่ยวฟาง
ในอนาคตเขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่มีอะไรที่เขาไม่กล้าทำ? ใบหน้าของเสี่ยวฟางแดงด้วยความเขินอายและพูดด้วยน้ำเสียงที่เบายิ่งกว่ายุง
“ต้วเลวร้ายตัวใหญ่อย่างพี่น่ะเหรอ คิดแบบนี้กับฉันมาตลอดเลยเหรอ
ไม่เห็นรู้มาก่อนเลยปิดบังเก่งนะเราน่ะ”
“ตอบแบบนี้คือพี่ไม่ได้อกหักสินะ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า………” จางปินจิตใจเต็มไปด้วยความสุขจนทำได้แต่หัวเราะออกมา
“ตัวเลวร้ายใหญ่ ไม่ได้ตอบอะไรซะหน่อยมีความสุขอะไรกัน” เสี่ยวฟางพูดด้วยใบหน้าเขินอายจนแดงไปทั้งตัว
“ตอบแบบนี้แสดงว่าเธอเห็นด้วยกับพี่ แต่ก็แน่นอนเป็นธรรมดาที่เธอจะเห็นข้อดีมากมายในตัวพี่ ดังนั้นจากนี้ไปเธอจะเป็นแฟนของพี่แล้ว พี่จะไม่มีความสุขได้ยังไง” จางปินกล่าวอย่างมั่นใจ
“พี่จะตายหรือไงถ้าพี่ไม่หลงตัวเอง” เสี่ยวฟางกล่าว “ฉันไม่เห็นข้อดีอะไรในตัวพี่เลยนะ แต่เห็นข้อเสียมากมายเลยละ”
“เอ๊ะ…พี่แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?” จางปินกล่าวด้วยใบหน้าที่เศร้าเบาๆ?
“หึหึหึ…ฉันไม่เคยเห็นข้อดีในตัวพี่มาก่อนเลยละ” เสี่ยวฟางหัวเราะออกมาเหมือนระฆังเงินในสายลม
“แล้ววันนี้เธอเจอข้อดีของพี่หรือเปล่า? มั่นใจได้เลยว่าเธอจะได้เห็นข้อดีมากกว่านี้อีก สามีของเธอเก่งกาจอย่าบอกใครเลยละ” จางปินกล่าวด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
“เจ้าพี่บ้า สามีอะไรของพี่ ฉันกัดพี่ให้ตาย” เสี่ยวฟางโกรธจนอ้าปากกัดหูของจางถัง แต่ทันใดนั้นจางปินก็หันหัวของเขามาโดยเจตนาจะให้เธอกัดเขาที่ปาก
"อา……….." เขาราวร้องกับว่าเขาถูกงูพิษกัดเสี่ยวฟางรีบหันกลับมามอง
“เสี่ยวฟาง เธอกล้าจูบพี่ได้ยังไง เมื่อให้เธอได้จูบแรกกับพี่ไปแล้วเธอต้องรับผิดชอบต่อพี่ในอนาคตด้วยนะ!” จางปินพูดด้วยสีหน้าเศร้า
“.......” เซียวฟางโกรธมากจนเธอไม่รู้จะพูดอะไรดี!!!