ตอนที่แล้วบทที่ 192 แมลงพิษเขียว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 194 เพียงแค่ลองดู

บทที่ 193 ผลพลอยได้จากความขัดแย้งของผู้อื่น


มันเป็นเวลาสี่วันมาแล้ว หลังจากรออีกสองสามวันมันคงได้เวลา เมื่อถึงตอนนั้น เหล่าผู้รอดชีวิตจากการต่อสู้จะมีเหรียญตรามากขึ้น!

เจียงอี้เพิ่งบ่มเพาะพลังเสร็จและนอนลงในถ้ำหินขณะเคี้ยวอาหาร ถ้ำหินนี้ เขาไม่ได้เป็นคนขุด เขาพบมันในเขาหินยักษ์ อุโมงค์ใต้ดินขยายไปหลายร้อยกิโลเมตรซึ่งผู้คนเหล่านั้นไม่สามารถตรวจจับได้แม้จะมีเหรียญตรา เว้นแต่จะเป็นคนที่ต้องการหลบซ่อนเหมือนเขาและพบถ้ำหินนี้โดยบังเอิญ

"เหอะๆ จ่างซุนอู๋จี้ เซี่ยเถียนและสุ่ยเชียนโหรวคงตามหาข้าทั่วเลยสินะ? ให้พวกมันตามหาข้าต่อไปอีกพักแล้วกัน!"

เมื่อเขานึกถึงแร้งวิญญาณที่เจอเมื่อสามก่อน เจียงอี้ก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาจะต้องซ่อนตัวเป็นระยะเวลาหนึ่ง ถ้าเขากล้าเสี่ยงออกไปมันก็อันตรายเกินไป มันยังคงจัดการได้หากเขาพบผู้เชี่ยวชาญหนึ่งคนหรือสองคนของขอบเขตเสินโหยว แต่หากเป็นเจ็ดหรือแปดคนยิงแก่นแท้พลังมาในเวลาเดียวกัน แม้ว่าเขาจะเป็นเทพเขาก็ยังคงต้องร่วงหล่น

ก่อนที่เขาจะเข้าสู่สงครามราชอาณาจักร เขาไม่สนใจชีวิตและความตาย แต่ไม่มีใครอยากตายจริงๆหรอก เพื่ออันดับแรก เขายินดีที่จะเสี่ยงและไม่สนใจชีวิตหรือความตายของเขา

มันคงดีมากๆหากเขาสามารถเดินออกจากที่ราบหินผลึกด้วยอันดับหนึ่ง ท้ายที่สุดหากเขาตาย เจียงเสี่ยวนู๋จะหลับไปตลอดชีวิตของนาง

"ไหมปีศาจนภา!"

เขาเริ่มขัดเกลาไหมปีศาจนภาอีกครั้ง ระหว่างช่วงที่ผ่านมา เขาได้ฝึกฝนเพลงดาบเงาวายุและขัดเกลาไหมปีศาจนภา เขายังคงไม่รู้เลยว่าตนเองจะใช้ไหมปีศาจนภานี้และผ่านขั้นบรรลุของเพลงดาบเงาวายุได้หรือไม่.

เจียงอี้นำไหมปีศาจนภาออกมาและปลดปล่อยแก่นแท้พลังของเขาออกมาและขัดเกลา หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง ไหมปีศาจนภายังไม่มีทีท่าใดๆ เจียงอี้มองไหมปีศาจนภาด้วยความสับสนขณะพูดพึมพำด้วยความกังวลว่า "ไหมปีศาจนภานี้จะปรับแต่งอย่างไร? เฉียนว่านก้วนกล่าวว่าผู้เชี่ยวชาญศาสตร์วิญญาณนั้นสามารถขัดเกลาสิ่งประดิษฐ์ระดับสวรรค์นี้ได้อย่างง่ายดายเหมือนตัดเค้ก หากข้าได้รับศาสตร์วิชาที่บ่มเพาะพลังวิญญาณ วิญญาณของข้าจะแข็งแกร่งขึ้นและข้าอาจสามารถปรับแต่งไหมปีศาจนภาได้ในทันทีก็ได้นะ"

ขณะที่เจียงอี้กำลังดื่มด่ำไปกับจินตนาการ เขานึกขึ้นได้ในทันใด ดวงตาของเขาเปล่งประกายและอุทานออกมาว่า "ใช่แล้ว! ข้าไม่รู้ว่าจิตวิญญาณของข้าอ่อนแอหรือแข็งแกร่ง แต่การโจมตีทางวิญญาณเหล่านั้นไม่มีผลกับข้าใช่ไหม? ไข่มุกวิญญาณเพลิงจะถ่ายโอนพลังงานเพื่อปกป้องจิตวิญญาณของข้าทุกครั้ง ข้าสามารถกระตุ้นพลังงานนี้เพื่อขัดเกลาไหมปีศาจนภาได้ไหมนะ?

"ลองดูแล้วกัน!"

เจียงอี้มีความรู้สึกว่ามันเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงหมกมุ่นอยู่กับไข่มุกวิญญาณเพลิงเพื่อพินิจพลังงานลึกลับที่ปกป้องเจ้าของโดยอัตโนมัติ หลังจากพินิจมาเป็นเวลานาน นอกเหนือจากหินวิญญาณเพลิงสามสิบก้อน ของจิปาถะและเพลิงโลกา เขาก็ไม่พบสิ่งใดเลย

"เพลิงโลกา!"

เจียงอี้ตะโกนและควบคุมเพลิงโลกาจำนวนไม่มากออกมา ไข่มุกวิญญาณเพลิงถ่ายโอนพลังงานเพื่อปกป้องเจ้าของทันที เจียงอี้มุ่งความคิดของเขาไปที่พลังงานนั้นและพยายามควบคุมมัน

"เอ๊ะ? มีบางอย่างเกิดขึ้น!"

ร่องรอยของพลังงานที่ไม่รู้จักซึ่งแต่เดิมสร้างเกราะเพื่อปกป้องเจ้าของ และรอให้ไข่มุกวิญญาณเพลิงดูดซับเพลิงโลกาก่อนที่มันจะถูกดูดเข้าไปในไข่มุกวิญญาณเพลิงโดยอัตโนมัติ ตอนนี้เจียงอี้ใช้ความคิดของเขาเพื่อควบคุมมัน และตอนนี้มันก็ยังค้างอยู่ในร่างของเจียงอี้

"พลังงานนี้คืออะไรกัน?"

เจียงอี้รู้สึกประหลาดใจกับพลังงานที่มองไม่เห็นในร่างกายของเขา เขาค่อยๆ ควบคุมพลังงานนี้เพื่อไปยังฝ่ามือของเขาและหุ้มมันไปที่ไหมปีศาจนภา

มีบางอย่างที่ทำให้เจียงอี้ชื่นบานขึ้น พลังงานแบ่งออกเป็นส่วนเล็กๆและเข้าสู่ไหมปีศาจนภาในทันที ตอนนี้ จิตวิญญาณของเจียงอี้และไหมปีศาจนภาก็ถูกเชื่อมต่อกันโดยฉับพลัน

"มันขัดเกลาแล้ว? มันง่ายเช่นนี้เชียวหรือ?"

เจียงอี้กระพริบตาด้วยความเหลือเชื่อ เมื่อเจียงอี้ตกตะลึง เขาสูญเสียการควบคุมก้อนพลังงานที่ไม่รู้จัก ทำให้มันหายไปอย่างรวดเร็วจากร่างกายของเขาและเข้าสู่ไข่มุกวิญญาณเพลิงเหมือนเดิม

"ไหมปีศาจนภา ไปเลย!"

ในตอนนี้เจียงอี้ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับพลังงานที่ไม่รู้จัก เขาใช้ความคิดของเขาควบคุมไหมปีศาจนภาทันทีเพื่อบินไปข้างหน้า

ตามที่คาดไว้ ไหมปีศาจนภาปล่อยแสงแวบหนึ่งและพุ่งทะลุเข้าไปในกำแพงหิน

"กลับมา!"

เจียงอี้ตะโกนออกมาอย่างรวดเร็วและใช้ความคิดของเขาควบคุมไหมปีศาจนภาให้กลับมา ไหมปีศาจนภานี้เร็วเกินไปและเขากลัวว่ามันจะบินไปข้างหน้าต่อไปอย่างไม่กลับมา

ของดีจิรงๆ!

หลังจากไหมปีศาจนภาบินกลับมา เจียงอี้ก็เอื้อมมือไปคว้ามันและเกิดความประหลาดใจ ไหมปีศาจนภานี้มีความยืดหยุ่นสูงมากจนกำลังของผู้อาวุโสหลิวและผู้อาวุโสจีไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวก็ยังได้แต่รอความตายหากพวกเขาถูกไหมปีศาจนภารัดอยู่

"ไป!"

เจียงอี้ใช้ความคิดของเขาในการควบคุมไหมปีศาจนภาและบินไปรอบๆร่างกายของเขา ทำให้รู้สึกราวกับว่ามีผีกำลังลอยไปมา แน่นอนว่าความเร็วของไหมปีศาจนภานั้นเร็วกว่าหมาป่าจันทราสีเงิน อาจจะเป็นความเร็วระดับเดียวกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวขั้นสูงสุด

อืม…ถ้าสงครามราชอาณาจักรนี้ไม่มีผู้เชี่ยวชาญศาสตร์วิญญาณ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องกลัวผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวคนไหนเลย ตราบใดที่ข้ายังมีไหมปีศาจนภานี้ ถ้าเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ข้าสามารถฆ่าพวกมันได้อย่างง่ายดาย!

เจียงอี้รู้สึกดีใจเล็กน้อย ด้วยการรวมกันของไหมปีศาจนภา เพลิงโลกาและหินวิญญาณเพลิง เขาจะกลายเป็นเครื่องจักรสังหารแน่นอน ก่อนอื่นเขาจะใช้ไหมปีศาจนภายับยั้งศัตรูก่อนที่จะปล่อยเพลิงโลกาออกไปเผาศัตรูให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสงครามราชอาณาจักรคงจะอยู่ขั้นที่สามถึงสี่ของขอบเขตเสินโหยวเท่านั้น เมื่อพวกเขาถูกเพลิงโลกาล้อรอบ มีแต่ความความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่!

แน่นอนว่า…หากเขาต้องพบผู้เชี่ยวชาญศาสตร์วิญญาณและไหมปีศาจนภาคงถูกศัตรูขัดเกลาในทันที เช่นนั้นเจียงอี้ก็คงต้องยอมรับความโชคร้ายของเขาเท่านั้น

"ฟรึ่บ ฟั่บ!"

เจียงอี้ควบคุมไหมปีศาจนภาให้บินไปรอบๆและเก็บมันลงไปหลังจากเล่นไปได้สักพัก เขารู้สึกกลัวพลังงานที่ไม่รู้จักและรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ ไม่เพียง แต่สามารถขับไล่ไฟเท่านั้น

แต่ยังสามารถปกป้องจิตวิญญาณได้โดยอัตโนมัติ ตอนนี้มันช่วยให้เจียงอี้ขัดเกลาไหมปีศาจนภาได้อีก ไม่น่าแปลกใจเลยที่ราชันสวรรค์หมื่นมังกรจึงเก็บไข่มุกวิญญาณเพลิงไว้ในร่างของเขาแม้กระทั่งตอนตาย

"เพลงดาบเงาวายุ!"

เจียงอี้นั่งพักสักครู่ก่อนที่เขาจะเริ่มฝึกฝนเพลงดาบเงาวายุ ถ้ำแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มาก ดังนั้นเขาไม่กล้าที่จะปลดปล่อยเต็มกำลัง เขาทำได้เพียงหมุนเวียนแก่นแท้พลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากกลัวว่าถ้ำหินนี้อาจถล่มจากพลังของเพลงดาบได้

"บูม บูม บูมม!"

ก่อนที่เขาจะปล่อยเพลงดาบเงาวายุ พื้นดินก็สั่นไหวเล็กน้อย ดวงตาของเจียงอี้จู่ๆก็เย็นชาและเขาก็เด้งขึ้นมา เขาหยิบเหรียญตราออกมาเพื่อตรวจรอบข้าง แต่ไม่สามารถตรวจจับใครได้ภายในรัศมีสามร้อยเมตร

"บูม บูม บูม!"

พื้นดินเริ่มสั่นไหวอีกครั้ง เจียงอี้ไม่ได้หวั่นเกรงเพราะมีการต่อสู้กันระหว่างผู้เชี่ยวชาญพื้นดินด้านบนเป็นแน่ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังปลดปล่อยการโจมตีที่น่ากลัวออกมา มิฉะนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะสั่นสะเทือนมาหลายร้อยกิโลเมตร

ขึ้นไปดูดีไหม?

นัยน์ตาของเจียงอี้กำลังสั่นไหวด้วยความลังเล เสียงกึกก้องขนาดใหญ่ดังกล่าวหมายความว่ามีใครบางคนกำลังใช้สิ่งประดิษฐ์ระดับสวรรค์หรือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวกำลังปะทะกันด้วยแก่นแท้พลังของพวกเขา

มีโอกาสที่พวกนั้นเป็นจ่างซุนอู๋จี้และเซี่ยเถียน เช่นนั้นก็หมายความว่าเขาจะเดินเข้าไปในกับดักหากเขาขึ้นไปดู

"บูม บูม!"

มันสั่นสะเทือนอีกครั้งหนึ่งซึ่งทำให้โคลนบนเพดานถ้ำแตกออก เจียงอี้กัดฟันของเขาแล้วขึ้นไปบนพื้นดินอย่างรวดเร็วโดยใช้อุโมงค์ หากถ้ำใต้ดินนี้ล่มสลายเขาก็จะถูกฝังทั้งเป็น เขาอาจไม่กลัวที่จะถูกทับจนตาย แต่ด้วยการต่อสู้ครั้งใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงเขาจะไม่สบายใจหากเขาไม่ได้สอดแนม

ในขณะที่เจียงอี้กระโจน เขาหยิบเหรียญตราออกมาอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบสิ่งต่างๆ เมื่อเขาอยู่ห่างจากพื้นประมาณสามร้อยกิโลเมตร ในที่สุดเขาก็สามารถตรวจจับเหรียญตรามากมายเหนือพื้นดิน ในบรรดาเหรียญตราเหล่านั้น มีเหรียญตราสีดำมากกว่ายี่สิบเหรียญและมีเหรียญตราสีแดงเกือบหนึ่งพันเหรียญ

"ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวมากกว่ายี่สิบคน? ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจื่อฝู่มากกว่าหนึ่งพันคน? ผู้คนเหล่านั้นคงไม่ได้เป็นคนของจ่างซุนอู๋จี้ เซี่ยเถียนหรือสุ่ยเชียนโหรวหรอกนะ?"

ใจของเจียงอี้สั่นคลอน เขาจำได้อย่างชัดเจนว่ามีบุคคลสามคนนั้นที่แต่ละคนนำผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวมาอย่างต่ำสามสิบคน

แต่นี่มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวทั้งหมดประมาณยี่สิบคนเท่านั้น นั่นก็หมายความว่านี่ไม่ใช่พวกเขา

"ไปกันเถอะ!"

เจียงอี้เร่งความเร็วของเขา นี่เป็นการต่อสู้ที่วุ่นวายระหว่างสองกองทัพ มันคงจะดีหากเขามีโอกาสได้ผลพลอยได้จากความขัดแย้งของผู้อื่น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด