บทที่ 10 ใช้เวทมนตร์
บทที่ 10 ใช้เวทมนตร์
"ฮ่าฮ่าฮ่า..."
ชาวบ้านทุกคนหัวเราะออกมา พวกเขารู้ดีว่านี่เป็นความตั้งใจของจางปินที่จงใจโยนให้อีกฝ่ายไปอยู่บนหลังคารถ
“พี่บ้าจริงๆเลย ทำลายรถของคนอื่นแบบนี้ถ้าเขาให้จ่ายเงินพี่จะยังไง?”แต่เมื่อเสี่ยวฟางเห็นสภาพของเซี่ยวเฟิงผ่านหน้าต่างก็หัวเราะเบาๆ
"ลูกแม่ ลูกเป็นยังไงบ้าง" แม่ของเซี่ยงเฟิง รีบวิ่งมาหาลูกชายของเธอ
"ผมสบายดี." เซี่ยวเฟิงตื่นขึ้นมาแล้วรีบลงจากรถพร้อมพูดออกมาอย่างจริงใจ "ชาวนา อย่างนายมีทักษะที่ดีจริงๆฉันให้นาย 100,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 4-5 แสนบาทต่อเดือน) มาเป็นบอดี้การ์ดของฉันเป็นยังไงดีไหม"
เซี่ยวเฟิงเป็นคนฉลาด ไม่งั้นครอบครัวของเขาคงไม่รวยขนาดนี้ เมื่อเขาเห็นว่าเขาทำอะไรจางปินไม่ได้เขาเลยเปลี่ยนกลยุทธ์มาล่อจางปินด้วยเงินแทน
เขาพึ่งได้ยินจากแม่ของเสี่ยวฟางว่าครอบครัวจางปินนั้นกำลังลำบากมาก
ดังนั้นเขาจึงมั่นใจ 100% ว่าจางปินจะต้องรับข้อเสนอนี้อีกอย่าง 100,000 หยวนต่อเดือนไม่ใช่เงินน้อยๆชาวนาหลายคนไม่เคยเก็บเงินได้เยอะขนาดนี้มาก่อนในชีวิตด้วยซ้ำ? ทำไมจางปินจะไม่เอา?
ถ้าจางปินมาเป็นบอดี้การ์ดของเขา เสี่ยวฟางก็คงไม่สนใจหมอนี้อีกแล้ว
ชาวบ้านหลายคนตกตะลึงและอุทานออกมา
“พระเจ้า 100,000 หยวนต่อเดือน จางปิน รวยแล้ว”
“ผู้ชายคนนี้รวยจริงๆ ไม่สิเขาต้องรวยอยู่แล้วไม่งั้นไม่น่าขับ เมอร์เซเดส-เบนซ์”
"เสี่ยวฟางไม่แต่สวยจนน่าอิจฉายังมีคนแบบนี้มาขอแต่งงานด้ววงั้นเหรอชีวิตของเธอดีมากจริงๆ..."
แม่ของจางปินเองก็อยู่ในเหตุการ์ณนี้ครอบครัวของเธอไม่มีเงิน เธอสัญญาว่าจะจ่ายเงินให้พี่ของเธอ 20,000 แต่ตอนนี้เธอไม่มีสักหยวน
ทุกคนอิจฉา จางปินที่มีโอกาศดีๆแบบนี้
แม่ของเซี่ยวเฟิง หัวเราะเบาๆ เธอแอบชื่นชมลูกชายในใจ ลูกชายเธอเฉียบแหลมไม่เบาจริงๆ
"พี่ชาย นายไม่สมควรมาที่นี่ อย่าให้ฉันเห็นหน้านายอีกละไม่งั้นฉันจะเอาหน้าของนายมารองเท้าฉันดู ไม่สิรองเท้าฉันนายยังไม่คู่ควรเลย" ใบหน้าของจางปินดูเย็นชา เขาไม่ใช่คนโง่และเข้ารู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับเขา เป็นธรรมดาที่เขาไม่จำเป็นต้องสุภาพกับอีกฝ่าย
“อะไรนะ เสี่ยวปิน ปฏิเสธงั้นเหรอ? แถมไปดูถูกเขาอีก?”
ชาวบ้านทั้งหมดตกใจมาก พวกเขาแทบไม่เชื่อหูของพวกเขา
"ทำได้ดีมากพี่ปิน" เสี่ยวฟางตะโกนอย่างมีความสุข
"รองเท้ายังไม่คู่ควรงั้นเหรอ?" เซี่ยวเฟิงโกรธมาก เขาพูดออกไปอย่างประชดประชัน "ครอบครัวของแกกำลังลำบาก เงินก็ไม่มี อย่างแกจะเอาอะไรมาเทียบกันฉันที่มี เงินหลายพันล้าน ต่อให้แกตายจนกลายเป็นผีแกยังไม่มีทางหาได้เท่าฉันเลย!!!"
"แกไม่สูงเท่าฉัน ไม่หล่อเท่าฉัน แถมสู้ไม่เก่งแบบฉันอีก นี้ถ้าฉันรวยกว่าแกอีก แกจะไม่คิดว่าตัวเองไร้ค่าบ้างเลยเหรออีกไม่กี่ปีแกจะรู้เองว่าแกไม่มีค่าพอที่จะเป็นรองเท้าให้ฉันหรอก" จางปินกล่าวอย่างเย้ยหยัน
"แกไปได้แล้ว"
"โอเค ฉันจะรอดูว่าแค่ไม่กี่ปีแกจะทำอะไรได้"
เซี่ยวเฟิง เกือบจะอาเจียนเป็นเลือดเขาไม่หน้าด้านอยู่อีกต่อไปเขาดึงแม่ของเขาเข้าไปในรถและขับรถจากไปอย่างรวดเร็ว
แม่ของเซี่ยวเฟิง โผล่หัวออกมาจากหน้าต่างและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "สาวน้อยทางมันตาบอด อีกไม่นานเธอจะรู้ตัวว่าเธอเลือกผิด!!!"
"ยัยแก่ รู้ไหมว่าทำไมลูกชายของคุณถึงยังไม่ได้แต่งงานเพราะว่าผู้หญิงทุกคนตาบอดงั้นเหรอหรือเพราะว่าเขาไม่ปกติ!" จางปินโต้กลับ
"แกกกก……" แม่ของเซี่ยวเฟิงแทยจะอาเจียนเป็นเลือด
เซี่ยวเฟิง เมื่อได้ยินแบบนี้แทบจะขับรถตกคูน้ำ
"ฮ่าฮ่าฮ่า..." ชาวบ้านต่างก็ตัวงอและหัวเราะออกมา
"ไอ้หนุ่ม แกทำดีมากนักนะ" เมื่อมองไปที่จางปิน เฉิงมู่ก็ดูหดหู่ไอ้เด็กคนนี้ทำลายการแต่งงานที่สวยงามของเสี่ยวฟาง
"เสี่ยวปิน เธอเก่งมาก ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนธรรมดา สักวันเธอต้องยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน" ชายชราที่มีเคราสีขาวตบไหล่ของจางปิน
“ใช่ ตั้งแต่เสี่ยวปินกราบไหว้อาจารย์ในภูเขาความสามารถของเขาก็เริ่มปรากฏ เขาเก่งขึ้นมากในอนาคตหัวหน้าหมู่บ้าน จะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของเสี่ยวปินและเสี่ยวฟางได้ยังไง?” ม่ายสาวหลิวซินพูดพร้อมรอยยิ้ม
"ถ้าเธอชอบเขา เธอก็แต่งงานกับมันเองเลยสิ" เฉิงมู่กล่าวอย่างโกรธเคือง
"ถ้าอย่างงั้น ต้องถามเสี่ยวปินแล้วละว่าจะเอายังไง" หลิวซินหันไปมองหน้า จางปินด้วยใบหน้าที่เศร้าโศกราวกับว่าโดนแย่งคนรักไป เขารีบคิดในใจ อย่ามามองผมแบบนั้นสิ แบบนี้มันไม่ดีกับเสี่ยวฟางนะ!
จางบินเขินอายจึงรีบหนีกลับบ้านไปในทันที
จากนั้นเขาก็ได้รับโทรศัพท์จาก เกาส์ โดยบอกว่าเขาส่งหนังสือวิชาแพทย์หนังสือยาจำนวนมากให้แล้วพร้อมข้อมูลแบบละเอียดเกี่ยวกับวิชายืดอายุ พวกนี้ถูกเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ สามารถกดเพื่อเรียนรู้ได้ทุกเมื่อ
จางปินดีใจมาก หลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่งหนังสือจำนวนหนึ่งก็ปรากฏบนหน้าจอ "วิชาเพิ่มอายุไข","สารานุกรมยา","สารานุกรมโรคต่างๆ",
"พื้นฐานการปรุงยา", "พื้นฐานการรักษาโรค"
"...มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ." เขาเริ่มเรียนรู้วิชาต่างๆด้วยใบหน้าที่มีความสุข
หัวใจของจางปินเต็มไปด้วยความสุข ถ้ามีข้อมูลจากต่างดาวพวกนี้ละก็เขาจะเอามันไปสร้างรายได้มากมาย
แม้ว่าเขาจะใช้เม็ดยาแห่งปัญญาไปแล้ว แต่ผลของมันจะติดตัวไปตลอด เมื่อเขาอ่านเขาจะไม่มีทางลืมมันได้เลย แต่มีข้อมูลมากเกินไปและคำศัพย์ต่างๆนั้นยากและยาวกว่านิยายเรื่องไซอิ๋วเป็นเป็นหลายร้อยเท่าดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอ่านหนังสือพวกนี้ให้หมดในเวลาอันสั้น
เขาได้อ่านวิธีการรักษาโรคต่างๆและมีเวทมนต์มากมายซึ่งสามารถรักษาโรคที่ปัจจุบันยังไม่มีตัวยารักษาบนโลก แต่วัตถุดิบบางชนิดที่ใช้ทำไม่มีในโลกดังนั้นวิธีการรักษาส่วนใหญ่จึงไม่สมบูรณ์หากเขาต้องการรักษาโรคบ้างโรคจริงๆเขาต้องทำยาพิเศษโดยใช้วัตถุดิบอื่นๆแทน
แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาวัตถุดิบอื่นๆมาแทน มันต้องมีการทดลองและศึกษาอย่างรอบคอบ
"อะไรกัน……"
จางปินส่งเสียงแปลกๆและใบหน้าของเขาก็แสดงความปีติยินดีออกมา! เพราะเขาเห็นใบสั่งยาเวทย์มนตร์ที่ใช้ได้ง่ายและเขาได้เห็นชื่อสมุนไพรต่างๆที่มีในภูเขา!
มันคือยาพิเศษสำหรับการรักษาสายตาสั้น,สายตายาว,สายตายาวตามอายุและโรคตาอื่นๆ มันเรียกว่ายาตาสดใส ตราบเท่าที่หยดลงไป 2 หยดในดวงตาแล้วนอนลงสักครึ่งชั่วโมง ดวงตาก็จะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ คนที่ไม่เป็นโรคพวกนี้ก็ใช้งานได้เพราะมันจะช่วยปรับปรุงการมองเห็น
"ฉันรวยแล้ว ฉันรวยแล้วจริงๆ!!!" จางปินตะโกนด้วยความตื่นเต้นดีใจ
เขารู้ว่ายาตาสว่างสามารถสร้างรายได้ให้กับเขาได้อย่างแน่นอนเพราะสายตาของคนทุกวันนี้ไม่ดีนัก นั่นเป็นเพราะเด็กประถมสวมแว่นตาสายตาสั้นกับเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดเรื่องอะไรที่พ่อแม่เด็กพวกนี้จะไม่ยอมเสียเงินเพื่อช่วยพวกเขา
แถมคนสูงอายุทุกคนยังไงก็ต้องมีภาวะสายตายาวตามอายุ? ที่ช่วยพวกเขาได้ตอนนี้มีแต่แว่นตาที่ไม่สะดวกเท่าไร?
ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันไม่มีวิธีใดที่ดีในการรักษาปัญหาการมองเห็นได้อย่างสมบูรณ์ แม้แต่การรักษาด้วยเลเซอร์ที่ล้ำหน้าที่สุดก็มีข้อเสียมากมาย มันทำร้ายดวงตาและกลายเป็นคนตาบอดได้เลยถ้าทำผิดพลาด
ดังนั้นถ้ายาวิเศษของเขาถูกวางขายมันจะกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลกและเงินก็จะไหลมาเทมาเหมือนสายน้ำ
“แต่ต้นไม้ต้นนี้มันอยู่ตรงไหนในภูเขากันนะ, ต้องออกไปหามันก่อน”
จางปินกระโดดขึ้นมาพร้อมหยิบโทรศัพท์แล้ววิ่งไปที่ภูเขาพร้อมความหวังและความตื่นเต้น!!!