ตอนที่แล้วChapter 21- 22: ผู้หญิงนิสัยไม่ดี (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 25 - 26: ชายผู้ไม่ธรรมดา, เลิ่งเชาถิง (อ่านฟรี)

Chapter 23 - 24: ถูกนักเลงดักกลางทาง! (อ่านฟรี)


 

Chapter 23: เจ็บปวด

หยูหมิงซีงุนงง เธอไม่เข้าใจว่าพวกเขาพูดเรื่องอะไรกัน

“เอ่อ จริงๆแล้วเมื่อวานฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมาก นายไม่กลัวว่าฉันจะแค่แกล้งทำเหรอ? และฉันเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการต่อสู้ด้วย”

กู้หนิงตอบคำถามมู่เค่อทันทีและถามเขากลับ

“ถึงฉันจะคิดผิด แต่เธอก็สู้เก่งกว่าฉัน ถ้าเธอเต็มใจรับฉันเป็นลูกศิษย์จะดีมาก! มู่เค่อมองกู้หนิงอย่างจริงใจ

ถ้ากู้หนิงเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาๆ เธอคงไม่สามารถล้มผู้ชายตัวโตได้ถึงสามคนง่ายๆ

เธอต้องเป็นเจ้าแม่แห่งวงการต่อสู้แน่!

มู่เค่อกังวลว่ากู้หนิงจะปฏิเสธเขา ดังนั้นจึงเอ่ยสำทับขึ้นมาอีกว่า “ฉันจะไม่รบกวนเวลาเรียนเธอ เอาไว้เธอว่างค่อยมาสอนฉันและฉันจะจ่ายค่าเรียนให้เธอหรืออะไรก็ได้ที่เธออยากจะให้ฉันทำ”

มู่เค่อกล่าวอย่างจริงใจเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเขา

กู้หนิงลังเลในตอนแรกแต่ตอนนี้เธอรู้สึกประทับใจ

เธอนึกถึงอันเฉียน

กู้หนิงมีเพื่อนน้อยมากขณะที่มู่เค่อมาจากครอบครัวที่มีอำนาจ เธออาจจะได้ขอความช่วยเหลือจากเขาในอนาคตก็ได้

กู้หนิงยอมรับว่าเธอทำแบบนี้เพื่อตัวเธอเองและยังเป็นเพราะมู่เค่อเป็นเด็กหนุ่มนิสัยดีและอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งก็ได้

ดังนั้นกู้หนิงจึงเอ่ยตอบกลับไปว่า “ฉันสอนนายได้ถ้านายต้องการ แต่นายไม่จำเป็นต้องลูกศิษย์ฉัน เงินนายฉันก็ไม่ต้องการเหมือนกัน สิ่งที่ฉันต้องการคือความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากนาย”

“จะ..จริงเหรอ?” มู่เค่อตื่นเต้นดีใจที่กู้หนิงยอมตกลง

“หลังเลิกเรียนฉันว่างแล้วจะมาสอนนาย” กู้หนิงเอ่ย

“จะ..จริงเหรอ?” มู่เค่อเอ่ยถามอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น มันดีมากสำหรับเขา “ดะ ได้ ได้” เขาเอ่ยละล่ำละลัก

มู่เค่อพูดตะกุกตะกักบ่งบอกว่าเขากำลังดีใจสุดสุด ถ้ากู้หนิงไม่ได้อยู่ที่นี่เขาคงกระโดดตัวลอยไปแล้ว

จากนั้นมู่เค่อชวนกู้หนิงกินข้าวกับเขา กู้หนิงตกลง เธอและหยูหมิงซีเดินตามมู่เค่อไปยังโรงอาหารชั้นสอง

(*ความคิดเห็นของผู้แปล ไม่แน่ใจว่าทางโรงเรียนของจีนมีแบ่งเวลาทานอาหารช่วงบ่ายด้วยมั้ย อันนี้แปลตามฉบับแปลอังกฤษค่ะ)

หยูหมิงซีอยากรู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกันแต่ไม่รู้ว่าจะถามอย่างไรดี

แม้ว่ากู้หนิงไม่ต้องการให้มู่เค่อเป็นลูกศิษย์ แต่มู่เค่อยืนกรานที่จะเรียกกู้หนิงว่า ‘บอส’ เพื่อสร้างความสนิทสนมกับเธอ

กู้หนิงไม่เต็มใจในตอนแรก เธอไม่ชอบถูกเรียกว่า ‘บอส’

ถึงอย่างนั้นมู่เค่อก็ยังยืนยันที่จะเรียกเธอว่า ‘บอสหรืออาจารย์’

เปรียบเทียบกับ ‘อาจารย์’ แล้ว คำว่า ‘บอส’ ยังฟังดูเข้าท่ากว่า

ระหว่างมื้ออาหารมู่เค่อเรียกกู้หนิงว่าบอสตลอดเวลา เขารับใช้กู้หนิงอย่างแข็งขันซึ่งเรียกความสนใจจากนักเรียนที่อยู่แถวนั้น

กู้หนิงอายและสั่งให้มู่เค่อหยุด

ถ้าหยูหมิงซีไม่ได้รับรู้บทสนทนาระหว่างพวกเขา เธออาจจะคิดว่ามู่เค่อตกหลุมรักกู้หนิงและพยายามตามตื้อเธออยู่

เมื่อหยูหมิงซีรู้ว่ากู้หนิงล้มนักเลงได้ด้วยหมัดเดียว เธอประหลาดใจมากยิ่งขึ้น

แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ระหว่างกู้หนิงและจ้าวเฟยเฟย เธอรู้โดยทันทีว่ากู้หนิงนั้นทรงพลังจริงๆ

หยูหมิงซีปลื้มกู้หนิงมากกว่าเดิม

“กู้หนิง เธอช่วยสอนฉันบ้างได้ไหม?” หยูหมิงซีเอ่ยขอร้อง

“ได้สิ” กู้หนิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว

กู้หนิงหวังว่าอย่างน้อยหยูหมิงซีจะสามารถเรียนต่อสู้ไว้ป้องกันตัวเองได้

แต่เธอจะไม่บังคับหยูหมิงซีเรียน ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวหยูหมิงซีเอง

ถ้าหยูหมิงซีมีความสนใจเพียงช่วงเวลาสั้นๆแล้วยกธงขาว กู้หนิงก็ไม่สนใจที่จะสอนเธอต่อเช่นกัน แต่ถ้าหยูหมิงซีปรารถนาที่จะเรียนต่อด้วยปณิธานที่แรงกล้า กู้หนิงก็พร้อมที่จะฝึกให้เธอเป็นนักสู้มืออาชีพ

หลังจากมื้ออาหาร ทั้งสามต่างพากันเดินไปยังป่าเล็กๆ มีคนอยู่ไม่กี่คน พวกเขาไม่อยากไปรบกวนคนอื่น

เนื่องจากกู้หนิงสัญญาว่าจะสอนพวกเขา เธอต้องแสดงความสามารถที่แท้จริงของตัวเธอเอง เธอต้องการให้พวกเขาเชื่อว่าเธอเชี่ยวชาญการต่อสู้จริงๆ

ดังนั้นกู้หนิงจึงไม่ลังเล เธอล้มมู่เค่อลงไปกองกับพื้นเพียงท่าเดียว

มู่เค่อนิ่งเป็นคนโง่แต่ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวดแต่เป็นเพราะกำลังช็อค

ถึงแม้กู้หนิงลงมือโดยไม่ลังเล แต่ร่างกายของเธอยังไม่ค่อยดีนัก ความแข็งแรงของเธอจึงมีจำกัด มู่เค่อรู้สึกเจ็บแต่ยังปลอดภัย

นักสู้จะต้องเรียนรู้และเติบโตจากความเจ็บปวดของเขา

หยูหมิงซีที่ยืนอยู่ข้างๆอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง เธอชื่มชมกู้หนิงมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก

ประทับใจ! นี่มันน่าประทับใจเกินไปแล้ว

“ลุกขึ้นมา!” กู้หนิงสั่งให้มู่เค่อที่ยังนอนกองกับพื้นให้ลุกขึ้น

ในเมื่อกู้หนิงตัดสินใจที่จะสอนพวกเขาแล้ว เธอจำเป็นต้องเป็นครูที่เข้มงวด

นักเรียนที่เปล่งประกายโดดเด่นล้วนถูกฝึกจากครูที่เข้มงวด

กู้หนิงให้ความสำคัญกับคุณภาพและประสิทธิภาพมากที่สุดดังนั้นเธอจะไม่ยอมให้พวกเขาเสียเวลา

มู่เค่อลุกขึ้นทันทีและตั้งใจกับการฝึก

กู้หนิงตั้งใจจะให้มู่เค่อเข้าใจทักษะได้โดยเร็ว เธอจึงจู่โจมมู่เค่อด้วยแรงทั้งหมดที่มี

แน่นอนว่ากู้หนิงจะไม่ทำร้ายร่างกายมู่เค่อ เธอแค่ปรับการเคลื่อนไหวของเธอตามความสามารถของเขา กู้หนิงต้องการให้เขาได้สัมผัสกับความเจ็บปวดและเรียนรู้ทักษะไปพร้อมกันระหว่างการฝึกซ้อม

หลังจากนั้นไม่นานมู่เค่อก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย

ถึงแม้เขาจะเจ็บปวด เขาก็ไม่ยอมหยุดหรือยอมแพ้ เขาเผชิญกับความท้าทายด้วยจิตใจที่หึกเหิม

หยูหมิงซีซึมซับการฝึก ทุกครั้งที่มู่เค่อร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เธอจะตั่วสั่นไปด้วย อย่างกับว่าเธอเป็นคนที่ถูกต่อยซะเอง

แม้ว่าจะมีคนไม่กี่คนที่อยู่ในป่าแห่งนี้ เสียงตะโกนของมู่เค่อก็ดึงดูดความสนใจของนักเรียนหลายคน

เมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งถูกผู้หญิงทุบตีพวกเขาต่างก็ประหลาดใจ เด็กหนุ่มบางคนถึงกับเปล่งเสียงออกมา

“อะไรวะนั่น!! ผู้หญิงคนนี้ช่างแข็งแกร่งจริงๆ! ผู้ชายคนนั้นสู้กลับไม่ได้เลยสักนิด!!”

Chapter 24: ถูกนักเลงดักกลางทาง!

“เร็วเข้าสิ รีบถ่ายวิดีโอพวกมันไว้ แล้วก็ไปอัพลงบอร์ดของโรงเรียน ฮ่า ฮ่า”

เด็กหนุ่มคนหนึ่งล้วงหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงเตรียมกดถ่าย

แต่ก่อนที่เขาจะทันกด ‘บันทึก’ กู้หนิงและมู่เค่อก็หยุดซ้อม

“หยุดทำไมล่ะ? ซ้อมต่อสิ ฉันกำลังจะถ่ายแล้วเชียว” เด็กหนุ่มเปล่งเสียงหงุดหงิด

กู้หนิงมองไปทางเด็กหนุ่มอย่างเย็นชา เธอเดินเข้าไปหาพวกเขา

“ทำไมนายไม่ลองมาสู้กับฉันหน่อยล่ะ?”

ถ้าเด็กหนุ่มพวกนี้เอาเธอไปลงบอร์ดของโรงเรียน ทุกคนต้องรู้แน่ กู้หนิงไม่อยากมีปัญหามากไปกว่านี้

เด็กหนุ่มตกใจและรีบปฏิเสธเสียงอ่อน

“มะ ไม่ ฉันไม่ได้คิดจะทำแบบนั้น….”

จากนั้นเขาถอยหลังออกไปให้ห่างจากกู้หนิง เขากลัวว่าเธอจะจับเขาทุ่มเหมือนมู่เค่อ

เมื่อกู้หนิงและมู่เค่อหยุดซ้อม ผู้ชมก็ค่อยๆแยกย้ายพากันเดินหนี

“เฮ้ บอส เธอนี่แข็งแรงกว่าที่ฉันคิดเลยนะ” ตอนนี้มู่เค่อรู้สึกปวดระบมไปทั้งตัวแล้ววิ่งไปหากู้หนิง เขาดูตื่นเต้นอย่างกับว่าตัวเขาเองเป็นปรมาจารย์ด้านต่อสู้ซะเอง แทนที่จะเป็นกู้หนิง

กู้หนิงยิ้มตอบแต่รู้สึกผิดหวังกับตัวเอง

เปรียบเทียบกับคนธรรมดาแล้ว เธอค่อนข้างดีเลยทีเดียวแต่ถ้าเปรียบกับถังอันหนิง กู้หนิงรู้ว่าตอนนี้ตัวเองนั้นยังอ่อนแออยู่มาก

เธออยากจะเก่งให้เท่ากับตัวเองก่อนกลับมาเกิดใหม่

“นายเป็นไงบ้าง?” หยูหมิงซีถามมู่เค่อด้วยความเป็นห่วง

เธอรู้ว่ามู่เค่อเจ็บมากจากการซ้อมต่อสู้กับกู้หนิง แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมากนักเมื่อสีหน้าของเขายังดูปกติ

“อ้อ เจ็บสิ ธรรมดาน่า เธอต้องเรียนรู้และพัฒนาจากความเจ็บปวด!” มู่เค่อตอบกลับ เขาสนุกมาก!

ขณะเดียวกันกู้หนิงก็พูดกับหยูหมิงซีอย่างจริงจัง

“หมิงซีไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียนต่อสู้ หากเธอต้องการเป็นนักสู้จริงๆ เธอต้องเตรียมพร้อมสำหรับความเจ็บปวดและบาดเจ็บ นอกจากนี้เธอยังต้องพิสูจน์ตัวเองเหมือนกัน การฝึกฝนนี้อาจช่วยให้เธอปกป้องตัวเองในอนาคตได้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเธอว่าต้องการเรียนรู้หรือเปล่า”

หยูหมิงซีไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย เธอต้องทำงานใช้แรงงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัวเมื่อยังเด็ก ความเจ็บปวดนับว่าเป็นเพื่อนของเธอก็ว่าได้

เหมือนที่กู้หนิงพูด มันอาจจะดีสำหรับเธอในอนาคตที่จะฝึกต่อสู้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิง การรู้วิธีป้องกันตัวเองถือเป็นข้อได้เปรียบ ดังนั้นหยูหมิงซีจึงไม่ยอมแพ้ เธอยอมรับการฝึกด้วยความกล้าหาญ

หยูหมิงซีต้องเริ่มเรียนจากศูนย์เพราะเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการต่อสู้เลย

กู้หนิงไม่ต้องการให้หมิงซีวิ่งจากบ้านมาโรงเรียนทุกเช้า มันอันตรายเกินไป เธอจึงขอให้หมิงซีมาถึงโรงเรียนเช้าหน่อยจะได้ซ้อมวิ่งก่อนเข้าเรียน

ในช่วงเริ่มต้นกู้หนิงไม่อยากเข้มงวดกับหมิงซีมากนัก เธออนุญาตให้หมิงซีฝึกซ้อมตามความสามารถของเธอไปก่อน

ฉินเจิ้งได้ยินข่าวว่ามู่เค่อชวนกู้หนิงไปกินข้าวด้วยกัน คาบเรียนช่วงเย็นฉินเจิ้งจึงถามเรื่องนี้กับมู่เค่อ

“ฉันได้ยินมาว่านายเลี้ยงข้าวกู้หนิง ทำไม?”

ฉินเจิ้งไม่รู้จริงๆว่าทำไมเขาต้องถามมู่เค่อในเมื่อเขาเลิกกับกู้หนิงแล้ว และนี่ก็ไม่ใช่เรื่องของเขาที่กู้หนิงจะไปทานข้าวกับใคร

แต่ฉินเจิ้งควบคุมตัวเองไม่ได้

“ไม่มีอะไรนี่ ฉันแค่เจอเธอที่ทางเดินแล้วชวนกินข้าวด้วยกันเท่านั้น” มู่เค่อไม่ได้บอกฉินเจิ้งทั้งหมด

ฉินเจิ้งไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับ

“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นายสนิทกับกู้หนิงและไม่ได้บอกฉัน”

มู่เค่อหงุดหงิดที่ถูกฉินเจิ้งจี้ถาม “ฉินเจิ้ง นายเป็นอะไร? เธอไม่ใช่แฟนนายแล้ว ทำไมฉันจะชวนเธอกินข้าวไม่ได้?”

ถึงแม้ว่ามู่เค่อและฉินเจิ้งจะไปไหนด้วยกันบ่อยๆ พวกเขาก็ไม่ได้สนิทกัน มู่เค่อไม่สนถ้าต้องทะเลาะกับฉินเจิ้ง

นอกจากนี้กู้หนิงยังมีความสำคัญกับเขา เขายืนอยู่ข้างเธอโดยไม่ลังเล

“แก…” ฉินเจิ้งเริ่มโกรธแต่ยักนึกได้ว่านี่ไม่ใช่ธุระของเขา ดังนั้นจึงไม่พูดอะไรต่อ

ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มครึ่ง คาบเรียนช่วงเย็นจึงจบลง

นักเรียนที่มีฐานะดีจะมีรถที่บ้านมารับ ขณะส่วนที่เหลือเดินทางกลับโดยแท็กซี่ไม่ก็รถประจำทาง

กู้หนิงกลับตรงกันข้าม เธอไม่ได้กลับโดยแท็กซี่หรือรถประจำทาง เธอวิ่งกลับบ้าน!

แม้ว่าเขตที่กู้หนิงอาศัยอยู่นั้นกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและไม่ปลอดภัยแต่กู้หนิงไม่กลัวเลยสักนิด ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอกลับบ้านคนเดียวในเวลากลางคืน เธอไม่เคยตกอยู่ในอันตรายมาก่อน

แต่คืนนี้กลับต่างออกไป

รถตู้สีดำหยุดอยู่หน้ากู้หนิง ชายหนุ่มสามคนลงจากรถแล้วตรงไปที่เธอ

พวกเขามีรอยสักที่แขนดูเหมือนว่าจะเป็นพวกนักเลง

“เธอคือกู้หนิงใช่ไหม?” ชายที่เป็นหัวหน้าเอ่ยถามขึ้น

“ใครส่งแกมา?” กู้หนิงไม่กลัว เธอถามอย่างใจเย็น

ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่สันนิษฐานได้ว่าต้องเป็นจ้าวเฟยเฟยไม่ก็เฉินจื่อเหยา

“แล้วเธอไปก่อเรื่องกับใครไว้บ้างล่ะ?” ชายอีกคนเยาะเย้ย

“เยอะแยะ จำไม่ได้หรอก”

ตอนนี้นักเลงทั้งสามคนสังเกตว่ากู้หนิงยังคงสงบตลอดเวลา เธอไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย

พวกเขารู้สึกเหมือนถูกสบประมาทและสงสัยในเวลาเดียวกัน

“อุ๊บ๊ะ ช่างเป็นเด็กสาวที่กล้าอะไรอย่างนี้! ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมเธอถึงกล้ามีเรื่องกับลูกสาวตระกูลจ้าว” เวลานี้พวกนักเลงก็ได้เผยว่าใครที่อยู่เบื้องหลัง

จ้าวเฟยเฟยนั่นเอง ไม่แปลกใจเลย

“งั้นเหรอ แล้วไงต่อล่ะ?” กู้หนิงถาม

“พวกเราถูกสั่งให้รุมโทรมเธอน่ะสิสาวน้อยจากนั้นก็โพสลงอินเตอร์เน็ต ฮ่าฮ่า” พวกนักเลงบอกกู้หนิงหมดทุกอย่าง ไม่สนว่ากู้หนิงจะรู้หรือไม่เพราะพวกเขาก็จะทำอย่างนั้นอยู่ดี

--------------------------------------------------------------------------------------------

ฝากกดไลค์และติดตามเพจด้วยนะคะ ในกลุ่มจะแปลเร็วกว่าค่ะ

https://www.facebook.com/BuaElla-Translation-World-113119973697579/

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด