เล่ม1 : บทที่ 26 – ทหารหนีทัพ
กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 26 – ทหารหนีทัพ
โนอาห์ตื่นขึ้นมาในห้องหนึ่งบนตึกผู้พิทักษ์ สองสัปดาห์ผ่านไปตั้งแต่กลับมาจากภารกิจและเขาเพิ่งผ่านการรักษาขั้นที่สามมาเมื่อสี่วันก่อน
เขายังเจ็บหลังอยู่ แต่พลังงานจิตกลับมาฟื้นฟูเต็มที่แล้ว เขาจะเริ่มฝึกฝนหากอาจารย์ของเขาไม่ได้เอารูนไปจากเขาด้วยความกังวลว่าเขาจะไม่จดจ่อกับการพักฟื้น
และความกังวลของวิลเลียมก็ถูกต้อง
‘ร่างกายของฉันน่าจะถึงขีดจำกัดอันดับหนึ่งเมื่อจบวัฏจักร ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน ช่างน่าเสียดาย ถ้ามีหินนั่นคงไอถึงอันดับสองภายในเดือนนี้แน่’
อาศิรของลมหายใจถูกส่งตรงไปยังเขตในโดยวิลเลียมเช่นนั้นมันจะจากมือของโนอาห์ไปตลอดกาล เขาตั้งสมาธิกับพลังงานจิตเพื่อช่วยเสริมกระบวนการฟื้นฟูอีกแรง เนื่องจากเขาไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากกินอาหารที่เหลืออยู่บนโต๊ะใกล้ๆ
ประตูห้องถูกเปิดออก และวิลเลียมก็เดินเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มที่กว้างใหญ่กว่าที่เคย เขาขนถุงหนังและกล่องไม้ขนาดใหญ่มาด้วย
“ฮ่าๆ ศิษย์รักของข้า อรุณสวัสดิ์ ข้านำข่าวดีมาฝาก!”
เขาวางกล่องและถุงลงบนเตียงและชี้ไปที่ของทั้งสองอย่างนั้น
“สองสิ่งนี้คือรางวัลที่ข้านำมาให้เจ้าและข้าต้องขอบอกเลยว่ามันอัศจรรย์มาก เจ้าจะไม่ผิดหวังแน่นอน”
โนอาห์ไม่รอช้าเริ่มเปิดกล่องทันที อาจารย์ทำให้ความอยากรู้อยากเห็นของเขานั้นพุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย
ภายในกล่องมีดาบอยู่สองเล่มถูเก็บรักษาคมอยู่ในฝัก ด้ามจับสะอาดตาเป็นประกาย มันดูเหมือนของใหม่ เขาหยิบขึ้นมาและชักออกจากฝัก ใบดาบมีความคมและมีสำดำ
“ดาบสองเล่มนี้ถูกตีขึ้นมาเพื่อเจ้าโดยเฉพาะมันมาทำขาทั้งสองข้างของแมงมุมหุ้มเกราะเหล็กอันดับสามที่เจ้าฆ่ามัน ดาบนี่ไม่ใช่อาวุธเวทมนตร์แต่ที่แน่นอนคือมันอยู่ในขั้นสูงสุดระหว่างดาบธรรมดา”
โนอาห์ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวขณะมองดาบและกวัดแกว่งไปมา เขาจะตื่นมาและลองใช้ดาบหากร่างกายของเขาฟื้นตัวแล้ว
เขาสวมดาบกลับเข้าฝักและมองไปที่ถุง ในถุงมีตำราเก่าๆ อยู่หนึ่งเล่มและเมื่อเขาเปิดดูหน้าแรกดวงตาของเขาก็เบิกโพลงและไม่สามารถเก็บอาการตกใจเอาไว้ได้ เขาหันกลับไปมองผู้เป็นอาจารย์ในความไม่เชื่อสายตา
“นี่ของข้าจริงๆ หรือ?”
วิลเลียมยิ้มกว้างขึ้นและพยักหน้า “อาจารย์ของเจ้านี่ยอดเยี่ยมไปเลยใช่หรือไม่ล่ะ?” เขาอยากจะคุยโม้เล็กน้อยแต่สายตาของโนอาห์กลับไปจดจ่อที่ตำราทันทีที่เขาเห็นวิลเลียมพยักหน้า วิลเลียมเพียงส่ายหน้าและรอจนกว่าลูกศิษย์ของเขาจะภาคภูมิใจกับตำราเสร็จ
‘กรงเล็บของคาไมทาจิ อันดับสาม ศิลปะการต่อสู้ที่สร้างมาจากการเลียนแบบ คาไมทาจิ* สัตว์เวทมนตร์อันดับสี่ เด่นในด้านความเร็วสูงสุดและการเจาะทะลวงระหว่างศิลปะการต่อสู้ในอันดับเท่ากัน มันทำให้ผู้ใช้ฟันด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อและเจาะทะลวงผ่านทุกแนวป้องกัน ทั้งนี้อาจฟันเป้าหมายได้แม้ดาบจะอยู่ห่างออกมาและเมื่อมีความชำนาญสูงสุด สามารถปล่อยคลื่นลมกระแทกผ่านอากาศได้ จำกัดอาวุธเพียงแค่สองชิ้นเท่านั้น’
โนอาห์ละสายตาจากตำรา
“คาไมทาจิคือตัวเพียงพอนว่องไวดุจลมและฟาดฟันเหยื่อจนถึงแก่ความตายโดยที่พวกเขาไม่ทันรู้ตัว มันน่าจะเหมาะกับเจ้านะ”
เขาหยิบกระดาษที่มีอักษรรูนอยู่ในนั้นออกมาจากเสื้อและยื่นให้โนอาห์
“สัปดาห์หน้าเราจะเริ่มการต่อสู้อีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเจ้าอยากจะทดสอบเคล็ดวิชาใหม่นี้ โนอาห์”
โนอาห์มองเขาและโค้งคำนับโดยไม่ได้สนใจอาการเจ็บหลัง
วิลเลียมหันหลังเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้โนอาห์ตั้งใจอ่านตำรา
ในที่สุดโนอาห์ก็ได้มีอะไรทำ วันของการฟื้นฟูร่างกายจบลงไปอย่างรวดเร็ว
การฝึกการต่อสู้ประจำสัปดาห์กับวิลเลียมดำเนินมาถึงแต่โนอาห์สังเกตเห็นหนึ่งปัญหากับศิลปะการต่อสู้ใหม่ของเขา “ลมหายใจ” ของเขาไม่เพียงพอที่จะแสดงศักยภาพของเคล็ดวิชาออกมาได้
เพื่อให้มั่นใจเขาจึงสามารถใช้ได้แค่เพียงความสามารถเดียวจำนวนสองครั้งก่อนที่ “ลมหายใจ” ในร่างกายจะหมดเกลี้ยง
“สิ่งนี้คือเรื่องธรรมดาที่เจ้ามักจะลืมว่าการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ สำหรับเจ้านั้นเป็นเช่นไร โดยปกติ การจะใช้ศิลปะการต่อสู้ระดับสูงได้นั้น เจ้าต้องมีตันเถียนเสียก่อน แต่เจ้ากลับบ่นว่าสามารถใช้ได้จริงกับการโจมตีเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น บทเรียนของเจ้าวันนี้ก็คือ การพัฒนาร่างกายของเจ้า ไม่ว่าอย่างไรเจ้าต้องรอจนกว่าจะได้ร่างกายอันดับสอง”
วิลเลียมอธิบาย
การฝึกต่อสู้ได้จบลงและโนอาห์ก็เผยท่าทีสงสัยออกมา
“ท่านอาจารย์ แล้วข้าควรทำยังไง?”
“เจ้าเพียงแค่ปล่อยให้ร่างกายได้เติบโตแต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่รู้วิธีการอยู่นิ่งๆ”
วิลเลียมรู้สึกโกรธเคืองเล็กน้อยเมื่อพูดเช่นนี้
“เจ้าสามารถรวบรวมประสบการณ์การต่อสู้ผ่านการทำภารกิจ ข้าเชื่อแม้สัตว์เวทมนตร์อันดับสองก็ไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้”
* * * * *
หลายเดือนผ่านไป
เวลาของโนอาห์สับเปลี่ยนไปมาระหว่างตารางชีวิตปกติของเขาในคฤหาสน์กับการเดินทางออกไปข้างนอกเพื่อกำจัดรังของสัตว์เวทมนตร์
มีฝูงหมาป่าสี่ตาพร้อมกับสิ่งตัวอย่างที่ไอถึงอันดับสองแต่พวกมันถูกกำจัดไปหมดภายในครึ่งวัน
งูมีหงอนตัวหนึ่งปรากฏบริเวณใกล้เคียงหมู่บ้านทางตอนเหนือ เกล็บนตัวของมันมีความแข็ง ลำตัวยาวสิบเมตรและกว้างสองเมตร มีคมเขี้ยวที่มีพิษอยู่ในปาก มันคือสัตว์อันดับสองและโนอาห์ต้องใช้ศิลปะการต่อสู้อันดับสามเพื่อฆ่างูตัวนั้นหลังจากการต่อสู้ที่หนักหน่วง เขาต้องนอนพักถึงสามวันเพราะการต่อสู้นั้น
แต่ศัตรูตัวฉกาจของเขาคือ ปีศาจโคลน สัตว์เวทมนตร์ประเภทนี้ถูกสร้างขึ้นจากธรรมชาติที่บริเวณนั้นๆ มีการสะสมและการควบแน่นของ “ลมหายใจ” ที่มากเกินไป
“ลมหายใจ” ที่ถูกควบแน่นจะทำหน้าที่เป็นแกนกลางของสัตว์ที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณโดยรอยภูมิประเทศที่มันเกิด มันไม่ใช่สัตว์ที่เก่งกาจนักแต่เคล็ดวิชาของโนอาห์ไม่ถูกกับมันเป็นอย่างมาก
เขาต้องหั่นมันเป็นชิ้นเล็กๆ ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อค้นหาแกนกลางและทำลายมัน ทั้งนี้ยังต้องหลบการโจมตีจากตัวอื่นๆ อีกด้วย
แต่ความชำนาญในการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เขาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี มีการตัดสินใจในการหาวิธีเอาชนะศัตรูด้วยวิธีดีที่สุดได้ไว้ขึ้น
วันนี้ เขากำลังนั่งคุกเข่ารอภารกิจที่อาจารย์ของเขาจะนำมาให้ในทุกๆ เดือน
“ครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เจ้าจะต้องไปเป็นกลุ่มกับผู้พิทักษ์คนอื่นๆ ที่ข้าได้เลือกไว้ให้แล้ว”
โนอาห์ครุ่นคิดทันที ‘ปกติแล้วเขาจะส่งฉันไปคนเดียวตลอด ความยากของภารกิจนี้น่าจะมากเอาเรื่องถึงต้องส่งไปหลายคน’
เขารับกระดาษที่มีคำอธิบายถึงภารกิจจากมือของวิลเลียม
‘ทหารหนีทัพจำนวนหนึ่งจากตระกูลโชสติได้บุกเข้าไปในหมู่บ้านทาซาร์ท พบศพของชายหลายคนและผู้สูงอายุ พวกเขาอาจจะพาผู้หญิงและเด็กผู้หญิงไปกระทำชำเราเพื่อความบันเทิง ค้นหากบฏและสังหารพวกเขา
คำเตือน : มีผู้ฝึกตนจำนวนหนึ่งอยู่ภายในกลุ่ม’
*คาไมทาจิ ในประเทศญี่ปุ่นมีตำนานที่น่าสนใจตำนานหนึ่งคือ ขณะที่เราเดินอยู่ในป่าหรือเดินขึ้นภูเขา บางครั้งเราอาจจะพบลมหมุนที่รุนแรงพัดมาที่ตัวเรา และเมื่อลมนั้นพัดผ่านไปก็ปรากฏว่าเกิดบาดแผลตามร่างกายแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างใด ซึ่งนั่นอาจหมายความว่าคุณได้พบกับภูติแห่งลมที่มีนามว่า “คาไมทาจิ” (鎌鼬 kamaitachi) เข้าให้แล้ว
鎌 [kama] แปลว่า เคียว
鼬 [itachi] หมายถึง ตัว “วีเซิล” (Weasel) ซึ่งในประเทศไทยจะเรียกว่า “เพียงพอน”