ตอนที่แล้ว66 ปืนใหญ่ปีศาจโลหิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป68 จะเงียบปากหรือไม่?

67 วันโลกาวินาศ


67 วันโลกาวินาศ

“นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำไมฉันถึงไม่อยากเปลี่ยนร่าง เพราะทันทีที่ฉันเปลี่ยนร่าง ทุกคนก็จะคิดว่าฉันคือผู้ฝึกตนปีศาจ พวกเขาจะต้องอยากตัดหัวฉันและเอาร่างกายของฉันไปวิจัย!” เจิ้งตงหมิงถอนหายใจออกมาอย่างไร้หนทาง

“ผู้ฝึกตนปีศาจ” คำๆนี้เป็นเหมือนกับพลังงานที่มองไม่เห็น และอุณหภูมิรอบๆก็ลดลงไปจนเหลือศูนย์!

รอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้าของหลี่เย้า และใบหน้าที่แข็งทื่อของเจิ้งตงหมิง ความต้องการฆ่าได้พวยพุ่งออกมาจากดวงตาของพวกเขา

ผู้ฝึกตนปีศาจคือสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าปีศาจ พวกเขาละทิ้งการฝึกตนด้วยพลังวิญญาณ และดูดซับพลังวิญญาณแห่งความมืดแทน...พวกเขาบ่มเพาะ “พลังงานความมืด” พวกเขาคือความล้มเหลวของมนุษยชาติ และน่าหวาดกลัวกว่าเผ่าอสูรหลายร้อยเท่า!

ตำนานมีอยู่ว่า เมื่อการระเบิดครั้งใหญ่ของจักรวาลได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก จากตอนเริ่มต้นนั้น พลังวิญญาณอันไร้ที่สิ้นสุดและพลังแห่งความมืดได้พวยพุ่งออกมา พลังวิญญาณได้กลายเป็นสสารชนิดหนึ่ง ก่อเกิดเป็นทะเลดวงดาวไร้ที่สิ้นสุด และสร้างสิ่งมีชีวิตรุ่นแรกขึ้นมา “เผ่าพ่านกู่”

เผ่าพ่านกู่มีความหลงใหลในการสร้าง พวกเขาแยกฟ้าดินและหล่อหลอมโลกขึ้นมาสามพันใบ พวกเขานำดวงดาวที่กำลังแผดเผารวมเข้ากับดาวเคราะห์ เพื่อให้ดาวเคราะห์กลายเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิต

และมนุษยชาติก็ได้บันทึกเกี่ยวกับเผ่าพ่านกู่เอาไว้ว่า “เทพบรรพกาล”!

ส่วนพลังวิญญาณแห่งความมืดก็คือความมืดมิด ความมืดไม่ได้รวมตัวเป็นสิ่งมีชีวิตพลังงานความมืดขนาดใหญ่ได้รวมตัวกลายเป็นโลกอันลี้ลับ ที่รู้จักกันในชื่อของ อาณาจักรอสูร ความมืดได้รวมตัวกันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดและวิวัฒนาการเหนือยิ่งกว่าอสูร!

สิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าอสูรเป็นสิ่งมีชีวิตที่รวมตัวขึ้นมาจากพลังงานที่ไม่มีความบริสุทธิ์อยู่เลย พวกเขาไม่รู้วิธีการสร้าง พวกเขารู้แค่เพียงการทำลายเท่านั้น!

ความหลงใหลของพวกเขา ได้ทำลายกำแพงที่ขวางกันระหว่างจักรวาลของมนุษยชาติและอาณาจักรอสูร พวกเขาจู่โจมดาวเคราะห์ทั้งสามพันใบที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ บุกรุกเข้าไปในจิตใจของมนุษย์ ปลอมปนเข้าไปในจิตวิญญาณของมนุษย์ กัดกร่อนศีลธรรมความดีของมนุษย์ และทำให้มนุษย์กลายเป็นทาสทางความคิด, บ้าคลั่ง, ลุ่มหลง และจมปลักอยู่ในความมืดมิด ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ฝึกตนปีศาจที่น่าสะพรึงกลัว!

40,000 ปีในยุคแรกของการฝึกตน ก่อนที่เผ่าอสูรจะปรากฏตัว ผู้ฝึกตนและผู้ฝึกตนปีศาจก็กลายเป็นศัตรูที่ต้องฆ่ากันให้ตายไปแล้ว

มีข่าวลือมาว่า ผู้ฝึกตนที่สร้างไวรัสเทพอสูร และเป็นผู้ที่ทำให้เกินเผ่าอสูรขึ้นมานั้น ความจริงแล้วเขาได้ถูกผู้ที่อยู่เหนือกว่าอสูรเข้าครอบงำมานานแล้ว และกลายเป็นผู้ฝึกตนปีศาจ!

และเมื่อยุคมืดได้จบลงไปใน 30,000 ปีต่อมา เมื่อจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏตัวออกมา เมื่อมนุษยชาติฟื้นคืน และเผ่าอสูรเกือบสูญพันธุ์ เมื่อมนุษย์ต้องการประกาศตัวเป็นผ็ปกครองจักรวาล ผู้ที่อยู่เหนืออสูรก็ได้สร้าง “วันโลกาวินาศ” ขึ้นมา และทำให้โลกของผู้ฝึกตนเข้าสู่สงครามอีกครั้ง!

ในช่วงเวลาของวันโลกาวินาศ ทะเลดวงดาวในการปกครองของจักรพรรดิได้ร่วงหล่น การเชื่อมต่อระหว่างโลกทั้งสามพันใบเป็นไปด้วยความยากลำบาก เปลวไฟได้แผดเผาทะเลแห่งดวงดาวอีกครั้ง!

หลี่เย้ายืนนิ่ง ห่างจากเจิ้งตงหมิงไปห้าเมตร ท่าทางของเขาคมกริบราวกับคมมีด เขาสำรวจลำคอของเจิ้งตงหมิงด้วยสายตาของอีแร้ง

ถึงแม้ว่าเจิ้งตงหมิงจะอ่อนแอและไร้เรี่ยวแรง เหมือนกับแกะที่รอเชือดตัวหนึ่ง แต่หลี่เย้าก็ไม่กล้าที่จะประมาท

ฝ่ายตรงข้ามของเขาก็คือผู้ฝึกตนปีศาจที่น่าหวาดกลัว ใครจะรู้ ว่าเขาซ่อนไพ่ตายอะไรเอาไว้อีกบ้าง?

เจิ้งตงหมิงพูดออกมาด้วยเสียงหัวเราะอันขมขื่น “สรุปแล้ว นายคิดว่าฉันเป็นผู้ฝึกตนปีศาจสินะ ปีศาจร้ายจะต้องถูกชำระ แล้วทำไมเมื่อกี้นายจะต้องมาช่วยฉันเอาไว้ด้วย? แค่ปล่อยให้เจ้าลิงนั่นฆ่าฉันซะ ยังไม่มากพออีกเหรอ?”

หลี่เย้าส่ายหัวและพูดออกมาว่า “นายเข้าใจผิดแล้วล่ะ ฉันไม่ได้ช่วยนาย...ฉันได้ยินมาว่า ผู้ฝึกตนปีศาจเชี่ยวชาญในการต่อสู้แบบประชิด และพวกเขาบางคนยังรู้วิธีการชั่วร้าย อย่างการใช้เลือดเนื้อเพื่อคืนพลัง! ถ้าเกิดว่า ตอนที่ลิงตายักษ์เข้าโจมตีนาย แล้วนายกินเลือดเนื้อของมันเข้าไป แล้วเปลี่ยนร่างไปเป็นอะไรบางอย่างที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้! ฉันก็ซวยน่ะสิ! ฉันฆ่าลิงนั่น ก็เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่เข้าไปใกล้นาย ฉันต้องการให้นายอยู่ในจุดที่อ่อนแอที่สุด ก็เท่านั้น!”

หลี่เย้าหยุดไปครู่หนึ่ง เขาใช้เท้าขีดเส้นลงไปบนพื้น “ดูนี่ ฉันรักษาระยะห่างจากนายเอาไว้ 5 เมตร ฉันไม่กล้าที่จะเข้าใกล้นายแม้แต่นิดเดียว! เพราะฉันกลัวว่า นายจะโจมตีใส่ฉันยังไงล่ะ!”

ในตอนที่หลี่เย้ากำลังพูดอยู่นั้น ข้อมูลหนึ่งย่อหน้าที่เกี่ยวกับวันโลกาวินาศ ที่เขาเคยเรียนในชั้นเรียนประวัติศาสตร์ก็ปรากฏออกมาจากภายในจิตใจของเขา

ในระหว่างช่วงยุคมืดเมื่อ 10,000 ปีก่อน เผ่าอสูรคือปกครอง ส่วนมนุษยชาติก็เป็นได้แค่แสงเทียนท่ามกลางลมพายุ ที่สามารถดับลงได้ทุกขณะ

ในเวลานี้ มนุษยชาติได้ผงาดขึ้นมาได้อีกครั้ง พร้อมกับเหล่าผู้แข็งแกร่งจำนวนมาก

ในทวีปทางใต้ของทะเลดวงดาวไร้ที่สิ้นสุด เผ่าอสูรได้สร้างสังเวียนต่อสู้ใต้ดินที่มีชื่อว่า โลกแห่งเกล(ลมพายุ) ขึ้นบนโลกนับพันใบ ยอดมนุษย์ที่รู้จักกันในนามว่า จักรพรรดิสวรรค์หวูตี้ ก็มีชื่อเสียงขึ้นมาจากที่แห่งนี้

เขาเริ่มจากการเป็นนักสู้เดนตาย เขาสังหารทุกอย่างบนเส้นทางของเขา และภายในเวลาไม่กี่ปี เขาก็ได้กลายเป็น “เทพแห่งการต่อสู้” เขาเหยียบย้ำซากศพของนักสู้จำนวนนับไม่ถ้วนและลุกขึ้นต่อต้านเผ่าอสูร

ผู้เชี่ยวชาญของเผ่าอสูรจำนวนมากต้องกลายร่างเป็นเศษเนื้อและขี้เถ้า ภายใต้ดาบยักษ์และกำปั้นเหล็กของเขา

และบนดวงดาวที่มีชื่อว่า ล้วนชิง ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของทะเลดวงดาวไร้สิ้นสุด ก็ได้ปรากฏฮีโร่ของมนุษยชาติขึ้นมา เขาเป็นที่รู้จักกันในนามของ จักรพรรดิแห่งทะเลดวงดาว!

เขาเริ่มต้นจากการเข้ายึดครองเรือลาดตระเวนของเผ่าอสูร และปล้นสะดมไปทั่วด้วยนามของ โจรสลัดแห่งดวงดาว หลายปีต่อมา เขาได้สร้างกองทัพยานรบคริสตัลนับล้านขึ้นมา เขาเปลี่ยนจากการซุ่มโจมตีแบบกองโจร เป็นการโจมตีแบบซึ่งๆหน้า และสามารถสร้างชื่อเสียงขึ้นมา จากการจัดการกับกองทัพของเผ่าอสูรลงได้ เขาสังหารศัตรูลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า

และเมื่อจักรพรรดิสวรรค์หวูตี้และจักรพรรดิแห่งทะเลดวงดาว ได้มาพบหน้ากันเป็นครั้งแรก ในที่สุด ทุกคนต่างก็ได้รู้ว่า...

พวกเขาทั้งสองคนคือร่างจุติของคนๆเดียวกัน!

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จักรพรรดิสวรรค์หวูตี้และจักรพรรดิแห่งทะเลดวงดาว ก็ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ตัวตนที่แท้จริงของจักรพรรดิมีความสามารถในการรบขั้นสุดยอด และความสามารถในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม มนุษยชาติต่างก็เรียกขานเขาว่า จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่!

จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้พละกำลังของตัวเอง ในการนำพามนุษยชาติให้หลุดพ้นจากความมืดและนำความรุ่งโรจน์กลับคืนมา เขาได้นำพาเหล่าผู้ฝึกตน เพื่อเสาะหาเหล่าผู้ฝึกตนของนิยายโบราณกลับคืนมา ในยุคสมัยแห่งการบ่มเพาะในอดีตกาล ที่เขาเป็นผู้นำพา เขาได้ก่อตั้งนิกายขึ้นมายี่สิบนิกาย แล้วได้แบ่งจิตวิญญาณออกจากร่างมา 20 ร่าง เพื่อปกครองนิกายทั้ง 20 นิกาย!

ร่างโคลนที่แข็งแกร่งที่สุด ก็คือร่างที่ได้รับสัญชาตญาณในการต่อสู้และความบ้าเลือดของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไป เขารับหน้าที่ดูแลนิกายที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องของการต่อสู้ ซึ่งมีชื่อว่า นิกายเทพโลหิต และเขาก็ได้รับฉายาว่า เทพโลหิต!

และสมาชิกของเผ่าอสูรต่างก็เรียกเทพโลหิตว่า...จอมทำลายล้าง!

เมื่อจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่สร้างการปกครองขึ้นในทะเลดวงดาว เขาก็ยุ่งอยู่กับการสร้างสังคมมนุษย์ขึ้นมาใหม่ เทพโลหิตจึงเป็นผู้ที่ออกคำสั่งกับนิกายทั้งยี่สิบ และกองทัพยานรบคริสตัล เขาวิ่งพล่านไปด้วยความบ้าคลั่งและทำลายล้างดวงดาวที่มีเผ่าอสูรปกครองอยู่

เมื่อผ่านไปได้หลายสิบปี มันก็คล้ายกับว่า เผ่าอสูรได้หายสาบสูญไปจากทะเลดวงดาวจนหมดแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือรังเก่าของเผ่าอสูร อาณาจักรอสูร

ในการกำจัดเผ่าอสูรในราบ เทพโลหิตก็ได้ทำการรวบรวมผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งที่สุดจากนิกายทั้งยี่สิบ เขาสั่งการกองทัพกว่า 70% ของทั้งอาณาจักรแห่งทะเลดวงดาว และได้กลายเป็นกองทัพที่ยากจะต้านทานได้!

จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้แบ่งวิญญาณเซียนของเขาออกเป็นสอง แล้วส่งเข้าไปในร่างกายของเทพโลหิต เพื่อเพิ่มศักยภาพในการต่อสู้ของเขาให้สูงขึ้นไปอีก และเพื่อให้เขาเป็นผู้ต่อสู้กับราชาของอาณาจักรอสูร!

มหากาพย์อันยิ่งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น

ทุกคนต่างเชื่อกันว่า เมื่อกองทัพอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรนี้ได้เข้าสู่สนามรบ สงครามของเหล่ามนุษยชาติก็จะจบลงเสียที มนุษยชาติจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการคุกคามของเผ่าอสูรอีกต่อไป อาณาจักรแห่งทะเลดวงดาวจะยิ่งใหญ่เกรียงไกรและเบ่งบานไปอีกหลายล้านๆปี!

ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าเลยว่า มาร(สิ่งที่อยู่เหนือกว่าอสูร)จะกำลังเฝ้ามองดูเทพโลหิตอยู่ตลอดเวลา จากการเข่นฆ่าสังหารหลายต่อหลายครั้ง มารก็ค่อยๆคืบคลานเข้าสู่จิตใจของเทพแห่งการทำลายล้าง!

เมื่อสงครามอยู่ในช่วงที่เลวร้ายที่สุด เมื่อเทพโลหิตได้รับบาดเจ็บร้ายแรงจากการโจมตีของเทพปีศาจทั้งสาม และเมื่อเทพโลหิตถูกวิพากษ์วิจารณ์ลับหลัง ในที่สุด เทพโลหิตก็พลาดท่าและตกลงไปในห้วงของปีศาจ จากร่างโคลนของจักรพรรดิ ซึ่งเป็นผู้ฝึกตนผู้ยิ่งใหญ่ ได้ร่วงหล่นลงไปบนเส้นทางของผู้ฝึกตนปีศาจ!

เมื่อเทพแห่งการทำลายล้างกลายเป็นผู้ฝึกตนปีศาจ เขาก็ได้นำพานิกายเทพโลหิตบุกโจมตีนิกายอื่นๆ

และมารก็ใช้โอกาสนี้ ในการเข้าครอบงำร่างโคลนอื่นๆของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่!

ในตอนสุดท้าย เก้านิกายได้ตกลงสู่เส้นทางปีศาจ และกลายเป็นนิกายปีศาจ!

ภายใต้การเข้ามาแทรกแซงของมาร เทพแห่งการทำลายล้างและอาณาจักรอสูรก็ได้ข้อตกลงสงบศึก พวกเขาได้กลายมาเป็นพันธมิตรชั่วคราว พวกเขานำนิกายปีศาจทั้งเก้าบุกโจมตีอาณาจักรแห่งทะเลดวงดาว!

เมื่อมนุษยชาติยังไม่ทันสลัดโซ่ตรวนแห่งยุคมืดออกไปได้หมด พวกเขาก็ต้องเข้าสู่สงครามครั้งที่สอง!

ความขมขื่นไม่อาจเทียบได้กับสงครามครั้งแรกของเมื่อ 40,000 ปีก่อน ไฟสงครามได้ลามเลียไปทั่วทั้งอาณาจักรแห่งทะเลดวงดาว แม้แต่สองนิกายที่ยังคงอยู่ข้างมนุษย์ก็ยังถูกฆ่าล้างอย่างน่าอนาถ พวกเขาได้สูญเสียทะเลแห่งดวงดาวไปเสียสิ้น!

ในช่วงเวลาวิกฤต นิกายปีศาจทั้งเก้าได้บุกเข้าไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรแห่งทะเลดวงดาว จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ถูกบังคับให้ต้องเผยตัว และต่อสู้พัวพันกับเทพแห่งการทำลายล้าง จนฟ้าดินสะเทือนเลือนลั่น!

จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ คือผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของการวิวัฒนาการของมนุษยชาติ และเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนในตำนาน!

เทพแห่งการทำลายล้างคือร่างจุติของของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ และยังได้รับความสามารถในด้านของการต่อสู้และความบ้าคลั่งของเขามาด้วย เขายังได้รับดวงจิตส่วนหนึ่งของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งยังได้รับการอำนวยพรจากผู้ฝึกตนปีศาจนับล้านจากทั้งเก้านิกายปีศาจ และนรกสิบขุม มารและราชาอสูรต่างก็มอบพลังแห่งความมืดและพลังอสูรทั้งหมดให้กับเขา

ไม่มีใครสามารถอธิบายถึงความน่ากลัวของศึกตัดสินนี้ได้ ทั้งหมดที่ทุกคนรู้ได้ก็คือ อาณาจักรได้ถูกทำลายลงจากน้ำมือของคนเพียงแค่สองคนเท่านั้น!

ในตอนสุดท้าย ร่างของเทพแห่งการทำลายล้างได้แหลกเหลวภายใต้เงื้อมมือของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงแค่วิญญาณที่ได้รับบาดเจ็บของเขา ซึ่งถูกนิกายปีศาจทั้งเก้าพาหนีกลับไปยังอาณาจักรอสูร

และจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงเช่นกัน เขาถูกบังคับให้ต้องหนีตายไปยังดาวเคราะห์ดวงเล็กดวงหนึ่งที่เขาเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา เขาอยู่ในจุดของความเป็นความตาย เกิดใหม่และตายไป เป็นการพักผ่อนอันยาวนาน

อาณาจักรแห่งทะเลดวงดาวได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการต่อสู้ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังต้องสูญเสียผู้นำอย่างจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไป สัตว์ร้ายและอสูรต่างคว้าโอกาสนี้ในการบุกเข้าไปโจมตี และทำให้อาณาจักรแห่งทะเลดวงดาวต้องล้มสลาย ทั้งยังทำให้การเชื่อมต่อระหว่างดวงดาวนับพันต้องพังลงไป

นิกายทั้งเก้าที่ยังคงยืนอยู่ข้างมนุษยชาติ ได้เกิดการแตกแยกแบ่งออกเป็นนิกายขนาดเล็กนับร้อยนับพันนิกาย พวกเขากระจัดกระจายไปยังดวงดาวนับพันและต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติต่อไป กางต่อสู้นองเลือดเพื่อต้านเหล่ามารร้าย!

และในหมู่ดวงดาวนับพัน ก็มีดาวเทียนหยวนรวมอยู่ในนั้นด้วย นิกายผู้ฝึกตนหลายนิกายได้ร่วมกันสร้างประเทศที่แข็งแกร่งขึ้นมา พวกเขานำพากองทัพเข้าสังหารสัตว์อสูร ต่อสู้กับนิกายปีศาจ และมอบชีวิตที่ปลอดภัยและสงบสุขให้แก่ประชาชนของพวกเขา

ภายในดวงดาวนับพันดวงนั้น มนุษยชาติก็ค่อยๆลุกขึ้นยืนต่อต้านเหล่าสัตว์ร้ายและอสูรได้อีกครั้ง พวกเขาตกอยู่ในห้วงแห่งสงครามนานนับพันปี และต้องอยู่ท่ามกลางไฟสงคราม มือของพวกเขาเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลนองตั้งแต่เกิด...จนกระทั่งตาย

มีดวงดาวบางดวงที่ถูกยึดครองและปกครอง โดยเผ่าอสูรและนิกายปีศาจได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้มนุษย์ต้องใช้ชีวิตอย่างขมขื่นที่อยู่ไม่ต่างจากตาย!

หากมนุษย์ต้องการดับไฟสงคราม ประกาศตัวเป็นผู้ควบคุมทะเลดวงดาว พิชิตจักรวาล พวกเขาก็ยังมีเส้นทางที่ต้องเดินอีกยาวไกล!

การก่อกบฏของเทพแห่งการทำลายล้างในครั้งนี้ ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในประวัติศาสตร์ในชื่อ กบฏเทพแห่งการทำลายล้าง และท้ายที่สุด เรื่องทั้งหมดทั้งมวลก็เกิดขึ้นโดยฝีมือของมารผู้ที่อยู่เหนือเหล่าอสูร!

ดังนั้น เมื่อหลี่เย้าค้นพบว่า เจิ้งตงหมิงจะตกต่ำจนถูกมารร้ายล่อลวง และกลายเป็นผู้ฝึกตนที่ถูกพลังแห่งความมืดควบคุมอยู่ มันทำให้จิตใจของหลี่เย้าต้องสั่นไหวอย่างรุนแรง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด