บทที่ 5: เจ้าชายรูปงามอยู่ประตูถัดไป (5)
บทที่ 5: เจ้าชายรูปงามอยู่ประตูถัดไป5)
“ที่บอกว่าหยูเซิงกลับมาบ้านตลอด หลังเสร็จงานเป็นเรื่องจริงหรือ?” นายผู้เฒ่ากู่ยิงคำถามอย่างไม่อ้อมค้อม
พ่อบ้านกำลังเตรียมจะตอบว่า ‘ใช่’ แต่ก็ถูกนายผู้เฒ่ากู่พูดขัดขึ้นก่อน “ถึงแม้ว่าคนที่จ่ายเงินเดือนให้เธอคือหยูเซิง แต่ฉันเองก็สามารถไล่เธอออกได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นคิดทบทวนให้ดีก่อนที่จะตอบฉัน”
พ่อบ้านออกอาการเลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัด แต่ท้ายที่สุดก็เลือกที่จะตอบไปว่า “ใช่ครับ” และก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ ผู้เฒ่ากู่ก็ตวัดสายตาคมกริบมองไปที่เขาอีกครั้ง พ่อบ้านตัวแข็งทื่อ ก่อนจะก้มศีรษะลง และตอบด้วยน้ำเสียงเบาหวิวว่า “แม้ว่านายท่านจะไม่ได้กลับมาทุกวัน แต่ก็กลับมาเกือบทุกวันครับ”
“ฉันคิดว่าเธอคงอยากโดนไล่ออกจริงๆใช่ไหม?” นายผู้เฒ่ากู่พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ
พ่อบ้านที่ถูกนายผู้เฒ่าขู่เริ่มคิดหนัก ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะยอมตอบออกไปด้วยน้ำเสียงจำนน “นายท่านเพิ่งจะเคยกลับมาบ้านแค่ครั้งเดียวเท่านั้นครับ…..”
นายผู้เฒ่ากู่หน้าบึ้งตึงทันทีที่ได้ยินคำตอบของพ่อบ้าน
“เป็นคืนที่นายผู้เฒ่ากำลังจะไปไหหลำครับ”
‘คืนที่ฉันไปไหหลำ? ถ้างั้นก็หมายความว่าเจ้าลูกเต่าหยูเซิงไม่กลับบ้านมาหนึ่งเดือนแล้วสิ’ ผู้เฒ่าโมโหจนลมแทบจับกับพฤติกรรมของหลานชาย “เธอหมายความว่า หยูเซิงไม่เคยกลับมาบ้านเลยตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมางั้นสิ?”
“ใช่ครับ.....” พ่อบ้านตอบรับด้วยที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
นายผู้เฒ่ากู่ขบกรามแน่นด้วยความโมโห ดวงตาของเขาในตอนนี้ราวกับมีไฟลูกใหญ่ลุกโชนอยู่ในนั้น แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ใดๆใส่พ่อบ้านที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าตอนนี้ “โทรหาหยูเซิง ให้มันมาหาฉันเดี๋ยวนี้!!” ผู้เฒ่ากู่สั่งแม่นมจางเสียงดังลั่น
ตั้งแต่ที่กลับบ้านมาแล้วเจอนายผู้เฒ่ากู่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นจนถึงตอนนี้ ที่แม้ว่าท่านจะกลับไปแล้ว แต่ซินเจียก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย เธอรู้สึกราวกับว่าวิญญาณของเธอออกจากร่างไปแล้ว มันเหนื่อยล้าอย่างบอกไม่ถูก เธอล้มตัวลงนอนบนเตียงเงียบๆ โดยไม่แม้แต่ขยับตัว
แต่เธอยังนอนไม่ได้ เพราะว่าเธอยังไม่ได้อาบน้ำ ที่หลับตาเมื่อครู่ก็แค่เพื่อพักสายตาเท่านั้น เมื่อเริ่มรู้สึกโอเคขึ้นมาบ้างแล้วเธอก็ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ เธอเดินไปเปิดน้ำอุ่นทิ้งไว้ในอ่างอาบน้ำ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมหยิบชุดนอนเข้ามาด้วย ดังนั้นเธอจึงเดินกลับออกมาเพื่อไปหยิบมัน
ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำนี้เอง เธอเดินไปหยิบชุดนอนที่ได้เตรียมไว้ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องน้ำ แต่เดินไปยังไม่ถึงห้องน้ำดี เดินไปได้เพียงสองก้าวอยู่ๆประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกแรงเสียงดังปัง!
ซินเจียตกใจยืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิมตัวเธอสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มมองหาสิ่งที่เป็นต้นตอของเสียงเมื่อครู่ ใช่…เป็นเขา ผู้ชายที่เพิ่งจะทิ้งเธอไว้ที่ข้างถนนเมื่อช่วงค่ำ กู่หยูเซิงกำลังยืนจ้องมองเธอด้วยสายตาแดงก่ำ ราวกับจะฉีกเธอเป็นชิ้นๆอยู่ตรงกรอบประตู
เขาไม่แม้แต่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ ทำเพียงแต่ยืนจ้องมองเธออยู่อย่างนั้นด้วยสีหน้าราวกับว่าจะฆ่าเธอให้ตาย ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยความโกรธเต็มพิกัด
ซินเจียตกใจกลัวจนแทบไม่กล้าหายใจ เมื่อเธอมองเห็นไอสังหารที่แผ่ออกมารอบๆตัวกู่หยูเซิง เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับขาเธอมีรากงอกออกมายึดไว้กับพื้น มีเพียงแค่ใบหน้าของเธอเท่านั้นที่กำลังประจันหน้ากับเขาอยู่ ส่วนร่างกายส่วนอื่นของเธอไม่มีความรู้สึกไปนานแล้ว
พ่อบ้านที่อยู่ชั้นล่างรีบวิ่งขึ้นมาชั้นบนทันที เมื่อคิดว่าอาจจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับซินเจีย “คุณ......”
เมื่อเขาขึ้นมาถึงชั้นบนและพบว่าคนที่ยืนอยู่เป็นกู่หยูเซิงไม่ใช่คนร้าย เขาหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปถามด้วยความระมัดระวัง“คุณกู่......คุณ...”
แต่เขายังถามไม่ทันจบประโยคดี กู่หยูเซิงก็หันกลับมาพร้อมตวัดสายตาอันเย็นยะเยือกมาที่เขา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำกับเขาว่า “กลับไปที่ห้องของคุณซะ และอย่าขึ้นมายุ่งวุ่นวายข้างบนนี้อีก”
พ่อบ้านหยุดการกระทำของเขาทันทีราวกับว่าเขาเป็นหุ่นยนต์ที่เพิ่งโดนป้อนคำสั่ง เขาสังเกตเห็นได้ชัดว่ากู่หยูเซิงกำลังโกรธมาก แต่เขาเองก็เป็นห่วงซินเจียกลัวว่าเธอจะโดนทำร้าย เขาสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อข่มความกลัว และรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีเพื่อพูดเกลี้ยกล่อมกู่หยูเซิง “นายท่าน.....”
“รีบไสหัวไปสะ!”
สิ้นคำของกู่หยูเซิง พ่อบ้านก็รีบวิ่งลงมาชั้นล่างทันทีด้วยความกลัว
เมื่อพ่อบ้านจากไปแล้ว กู่หยูเซิงก็เดินสาวเท้าเข้าไปหาซินเจียทันที เขาก้าวเดินอย่างไม่ช้าและเร็วเกินไป ค่อยๆเดินไปบนพื้นพรม
กู่หยูเซิงในคืนนี้มีออร่าความน่ากลัวแผ่ออกมาจากทุกอณูรูขุมขน เพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนที่พบเห็นจะกลัว และอยากวิ่งหนีจากเขาในทันที
ซินเจียมองดูกู่หยูเซิงที่กำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆด้วยสีหน้าหวาดกลัว มือของเธอกำชุดนอนในมือแน่น แถมเผลอเดินถอยหลังอย่างไม่รู้ตัวทั้งๆที่ขายังสั่นๆ
แต่ความเร็วของเธอจะเทียบกับเขาได้อย่างไร เธอจึงทำได้เพียงมองดูเขาเข้ามาใกล้เธออย่างช้าๆ จนในที่สุดกู่หยูเซิงก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอ
ความใกล้ขนาดนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวเพิ่มมากขึ้นไปอีก เธอไม่กล้าแม้แต่สบตาเขา เธอรู้สึกราวกับว่ากำลังโดนจับจ้องด้วยพญามัจจุราช ที่แค่ขยับเบาๆก็สามารถทำให้หัวเธอหลุดออกจากบ่าได้
ระดับความสูงของเธอต่างจากเขามากพอสมควร ทำให้ตอนนี้หัวของเธออยู่แค่ระดับไหล่ของเขาเท่านั้น เธอได้แต่ก้มหน้าหลับตาแน่น เขาเองจ้องมองหัวของเธอครู่หนึ่งก่อนจะเอื้อมมือมากระชากผมของเธออย่างแรงโดยไม่บอกกล่าว ก่อนจะค่อยๆเพิ่มแรงดึงในมือเพื่อบังคับให้ซินเจียเงยหน้าขึ้น
ความเจ็บปวดที่มาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ซินเจียตกใจและเผลอตะโกนใส่หน้าเขา “หยูเซิง!!”
คำเรียกที่ดูสนิทสนมของเธอยิ่งไปกระตุ้นความโกรธของกู่หยูเซิง เขาดึงหน้าตึง รูในม่านตาก็ค่อยๆหดตัวลงบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างถึงขีดสุดเขาออกแรงกระชากผมของอีกครั้งอย่างแรง “เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?”
ใบหน้าของซินเจียเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เธอขยับริมฝีปากด้วยความยากลำบาก และตอบเขาด้วยเสียงสั่นเครือ “คุณ....คุณกู่.....”
กู่หยูเซิงเค่นเสียงหัวเราะต่ำ “หึๆ....” เขาไม่สนใจอะไรอีกต่อไป เขาโน้มตัวลงจูบซินเจียอย่างรวดเร็ว
จริงๆแล้วมันไม่ใช่การจูบ แต่มันคือการกัดมากกว่า
เขาไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง เขาบดขยี้จูบเธออย่างบ้าคลั่งและหยาบคาย เขากัดลิ้นของเธอจนเลือดคละคลุ้งเต็มปากของเธอ
ซินเจียพยายามดิ้นหนีจากเขาเพราะความเจ็บปวด เธอพยายามซ่อนลิ้นจากเขา แต่การกระทำเช่นนั้นยิ่งทำให้เขาโกรธและบดขยี้จูบเธออย่างหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม จนในปากของทั้งคู่มีแต่กลิ่นคาวของเลือดอบอวนเต็มไปหมด
ซินเจียเริ่มจะหมดแรง เพราะไม่ว่าเธอจะพยายามดิ้นหนีขนาดไหนก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากอุ้งมือมารของกู่หยูเซิงได้เลย
กู่หยูเซิงเพิกเฉยกับการดิ้นรนที่เปล่าประโยชน์ของเธอ เขากัดลิ้นของเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันรุนแรงกว่าทุกครั้ง ร่างกายของซินเจียเกร็งไปหมดด้วยความเจ็บปวด เขาค่อยๆละออกจากริมฝีบากที่บวมเจ่อของเธอ ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูของเธอเบาๆ ท่าทางราวกับว่าเขากำลังพูดเรื่องโรแมนติก แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับเย็นยะเยือกจนชวนขนหัวลุก “เธอคงคิดว่าคำเตือนของฉันเป็นเรื่องไร้สาระงั้นสิ?”
“ฉันเคยบอกเธอไปแล้วถ้าเธอกล้าปล่อยให้คุณปู่รู้เรื่องความบาดหมางระหว่างเรา มันจะเป็นยังไง?”
เขาหรี่ตาลงต่ำพลาง “หรือเธอกลัวว่าจะไม่ได้ทำหน้าที่เมีย ถึงกล้าแจ้นเอาเรื่องที่ฉันไม่เคยกลับบ้านไปฟ้องคุณปู่ จนทำให้คุณปู่ต้องบังคับให้ฉันกลับมาที่บ้าน เธอคงอยากจะนอนกับฉันจนตัวสั่นละสิ?”