บทที่ 330 - ด้วยพลังของตัวนายเอง (10) [22-02-2021]
บทที่ 330 - ด้วยพลังของตัวนายเอง (10)
”
[มนุษย์จะมีมานามากขนาดนี้ได้ยังไงกัน?]
ลอร์ดแห่งความตายได้ยิงออร่าทรงกลมออกมาทำให้หอกแห่งวีรชนอ่อนแอลงไปพร้อมกลับถอยหลังไป ยังไงก็ตามเป็นไปไม่ได้เลยหอกแห่งวีรชนได้อย่างสมบูรณ์ เพราะแบบนี้ลอร์ดแห่งความตายจึงได้ยกขวานขึ้นมาป้องกันเพราะไม่อาจจะหลบได้ ความทนทานของความสามารถจะเห็นได้ชัดจากการที่มันไร้ซึ่งร่องรอยใดๆปรากฏมาเลย แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถป้องกันหอกแห่งวีรชนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
[อึก!]
แรงกระแทกจากออร่าได้ทำให้ลอร์ดแห่งความตายต้องไอออกมาเป็นเลือดอยู่เต็มปาก ยังไงก็ตามในขณะที่ร่างกายลอร์ดแห่งความตายพังทลายลงไป พลังแห่งความตายที่เขาปล่อยออกมาก็ยิ่งทรงพลังมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของราชาแห่งความตายได้ใช้พลังแห่งความตายควบคุมอันเดท แต่ลอร์ดแห่งความตายดูเหมือนทั้งร่างจะทำขึ้นมาจากพลังแห่งความตาย หากว่าฉันไม่ได้รู้เรียนรู้ลมหายใจแห่งความตายมา ฉันก็คงต้องตกอยู่ในอันตรายแล้ว
"ยังไงก็ตามการรวมมานาเป็นก้อนก็มีข้อจำกัดอยู่ไม่ใช่หรอ?"
[แน่นอนอยู่แล้ว สำหรับมนุษย์จะมีข้อจำกัดอยู่อย่างชัดเจน ที่จริงแม้กระทั่งเอลฟ์ คนแคระ มนุษย์สัตว์ และแม้กระทั่งมังกรก็ยังมีข้อจำกัด]
ไพก้าได้เข้าไปปะทะกับลอร์ดแห่งความตายอีกครั้งหนึ่ง ยังไงก็ตามบาเรียสีดำที่เขาได้สร้างขึ้นมาก็ทรงพลังมากพอจะป้องกันการโจมตีของไพก้าแล้ว
[ต่อให้เป็นภูติแห่งธาตุก็ตาม!]
[นายท่าน คนๆนี้ยังคง...!]
"อืม ฉันรู้แล้ว"
พลังแห่งความตายที่เล็ดลอดออกมาจากร่างลอร์ดแห่งความตายได้กระจายออกมาเป็นเส้นๆพุ่งเข้าใส่ฉันเหมือนกับแส้ ถึงแม้ว่าฉันจะใช้เหล็กกล้าป้งกันเอาไว้ แต่การทำแบบนั้นจะเป็นการสูญเสียมานามากเกินกว่าจำเป็น กลับกันฉันได้ขยายวงจรเพรูต้าออกไปสร้างวังวนอยู่รอบร่างกายฉันแทน จากนั้นแส้สีดำก็ได้ปะทะเข้ากับวังวนจนเป็นเสียงดังสนั่นออกมาอย่างต่อเนื่อง
"ตายซะ!"
ฉันได้พุ่งเข้าไปใส่ลอร์ดแห่งความตาย หอกแห่งความโกลาหลที่เก็บเอามานานับแสนอยู่ได้กำจัดพลังงานอ่นๆทั้งหมดไและพุ่งเข้าใส่หน้าอกของลอร์ดแห่งความตาย!
[ย๊าาาากกกก!]
ลอร์ดแห่งความตายได้ร้องดังสนั่นออกมาพร้อมๆกับยกขวานฟาดเข้าใส่หอกของฉันโดยที่ไม่คิดจะหลบใดๆ เมื่ออาวุธทั้งสองได้ปะทะเข้าด้วยกันได้ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมา ยังไงก็ตามไม่มีใครถอยออกมา
ฉันได้ดึงหอกกลับมาเล็กน้อยในระหว่างการปะทะและบิดสะบัดหอกฟาดออกไปเหมือนกับขวาน ในตอนนี้เองลอร์ดแห่งความตายก็ได้ใช้ขวานป้องกันอีกครั้งหนึ่ง
"ฮ่าห์"
ฉันได้เตะเข้าใส่ขาลอร์ดแห่งความตายซึ่งกำลังยืนบนพื้นอย่างมั่นคง และกระโดดขึ้นด้วยแรงปะทะ ขวานของลอร์ดแห่งความตายได้ตวัดฟาดตามฉันมาเหมือนกับมังกรที่กำลังพุ่งเข้ากระชากคนๆหนึ่ง
ฉันได้กัดฟันแน่นสะบัดแขนขวานและหมุนหอกของฉัน ออร่าที่หนาแน่นบนหอกได้พุ่งออกไปเป็นคมมีดหอกปัดขวานออกไปและพุ่งต่อไปทำลายส่วนหนึ่งของถ้ำ
"มาดูกันว่านายจะยังป้องกันนี่ได้ไหม!"
[นายพูดเหมือนกับพวกนักรบระดับล่าง ต่างกับความสามารถจริงๆ!]
เมื่อได้เห็นแผ่นหินบนเพดานร่วงลงมา ฉันก็ได้ส่งมานาของฉันไปและด้วยพลังของดอร์ตูก็ทำให้แผ่นหินพวกนั้นระเบิดออกมาในทันที จากนั้นฉันก็ได้ใช้หอกของฉันยิงพวกแผ่นหินออกไปเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่
ลอร์ดแห่งความตายได้ใช้พลังแห่งความตายสร้างแส้ขึ้นมาฟาดเข้าใส่กระสุนปืนใหญ่เทียมของฉันก่อนที่จะถึงตัวของเขา แต่ว่าด้วยแรงระเบิดก็ทำให้แส้ของเขาช้าลงไปเป็นอย่างมาก เมื่อได้เห็นโอกาสนี้ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์และยิงลูกบอลออร่าเข้มข้นออกไปอีก
ปึก! พร้อมๆกับเสียงทึบๆนี้ เกราะป้องกันส่วนแขนของลอร์ดแห่งความตายก็ได้ระเบิดออกมา นี่เป็นการโจมตีแรกที่ได้ผลเป็นอย่างดี
[นายไม่มีขีดจำกัดเลยนะ]
"ฮึ่ม!"
เขาได้ยกย่องฉันนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้เจอกัน แต่ว่าฉันก็ตกตะลึงกับพลังของเขาเช่นกัน
ความแข็งแกร่งของเขามันเหมือนกับราชาสรรพสัตว์ในร่างของมนุษย์ และเขายังกระทั่งใช้พลังแห่งความตายเพิ่มพลังให้กับตัวเองได้อีกด้วย หากว่าฉันไม่ระวังตัวแม้แต่วินาทีเดียว ฉันก็คงจะถูกการโจมตีในช่วงสำคัญที่ทะลวงพลังของเหล็กกล้าไปได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
[นี่คือพรสวรรค์โดยธรรมชาติของฮีโร่ผู้กอบกู้งั้นหรอ?]
"พรสวรรค์โดยธรรมชาติของฮีโร่ผู้กอบกู้? อะไรล่ะนั่น?"
ฉันได้ถามออกไปอีกครั้ง
"แล้วก็นะไอ้ฮีโร่ผู้กอบกู้นั่นมันคืออะไร?"
[ฉันก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน ทุกๆเรื่องที่ฉันรู้มาจากสิ่งที่่ลอร์ดแห่งดันเจี้ยนได้บอกกับฉัน ฉันก็แค่สรุปได้ด้วยตัวเองจากข้อมูลที่มีเท่านั้นเอง]
"แล้วนายสรุปอะไรได้ล่ะ?"
ลอร์ดแห่งความตายได้ยิ้มออกมา ขวานที่เขาถือเอาไว้ได้เริ่มขยายใหญ่ยิ่งึ้น มันได้คมขึ้นและทนทานมากขึ้นตามพลังแห่งความตายที่ได้ดูดเข้าไป
[เอาชนะฉันสิ แล้วฉันจะบอกนาย]
"เจ้าบ้านี่"
เขาไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหนกัน! ฉันได้เรียกไพก้ากลับมาทันที
[มีอะไรงั้นหรอนายท่าน?]
"เพลิงแห่งความโกลาหลไม่ได้ผลกับเขา"
จริงๆแล้วเพลิงแห่งความโกลาหลได้ผลนั่นแหละ แต่เพราะว่าเขาได้ปกคลุมร่างตัวเองด้วยพลังงานแห่งความตายอยู่ตลอดเวลา ทำให้เพลิงแห่งความเผาได้แค่พลังแห่งความตายของเขาเท่านั้น เมื่อว่าเพลิงแห่งความโกลาหลไม่ได้ผลอะไรจากการโจมตีครั้งก่อนที่พังชิ้นส่วนเกราะของเขาไปได้ทำให้ฉันมั่นใจขึ้นมา
เพลิงแห่งความตายจะสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องจากการลุกไหม้อยู่บนเป้าหมาย แต่ว่าสายฟ้าของไพก้าทรงพลังกว่ามาก ในเมือเพลิงแห่งความโกลาหลไปไม่ได้ถึงเขา ถ้างั้นหากไพก้ามาอยู่กับฉันก็น่าจะมีประสิทธิภาพกว่ามาก
"นายนี่มันกลุ่มก้อนพลังงานชัดๆ"
[นี่คือสิ่งที่ฉันได้รับมาจากการที่ฉันได้ล่ะทิ้งชีวิตและยอมแพ้กับความตาย ฮีโร่ผู้กอบกู้ อะไรกันที่นายยอมล่ะทิ้งไปกันล่ะ?]
"ชีวิตของฉันไงล่ะไอ้เวร"
ฉันได้ตอกกลับไป จากนั้นก็ผสมไพก้าเข้าไปภายในหอกและมองดูออร่าโปร่งแสงที่เริ่มมีประกายสายฟ้าโผล่ออกมา
"ดูพลังที่ฉันมีสิ มันดูเหมือนกับว่าฉันสนุกไปกับชีวิตสงบสุขไหมล่ะ?"
[คุฮ่าฮ่าฮ่า! บางทีในท้ายที่สุดของการพัฒนาของนาย นายก็อาจจะยอมแพ้กับความตายด้วยเหมือนกัน! ซึ่งจะต่างไปกับฉันที่ล่ะทิ้งร่างมนุษย์และกลายมาเป็นอันเดท นายจะเป็นในร่างของมนุษย์! ไม่สิ ถ้ามันเกิดขึ้นนายก็อาจจะไม่ใช่มนุษย์ไปแล้วก็ได้! คุฮ่าฮ่าฮ่า!]
"ตลกอะไรกัน ไอ้บ้านี่!"
ฉันได้ตะโกนดังลั่นออกมาและเสียงคำรามเยือกแข็งออกมา พลังแห่งความตายที่พวยพุ่งเข้ามาหาฉันได้ถูกแช่แข็งไป และพลังส่วนหนึ่งที่พุ่งออกมาจากขวานด้วย ในเวลาเดียวกันพลังก็ปะทุขึ้นในร่างฉัน
ยังไม่หมดแค่นี้ ฉันได้ใช้รอยสักโอเกอร์สองหัว และรอยสักหมาป่ายักษ์ พลังโจมตีของสกิลระยะประชิดและสกิลประเภทการพุ่งได้เพิ่มขึ้นไป 50% ในทันที หรือก็คือสกิลที่ฉันกำลังคิดจะใช้ได้เพิ่มพลังขึ้น
[จู่ๆพลังของนายก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล]
"นั่นก็เพราะพลังของดันเจี้ยนไม่ค่อยได้ผลมากนัก ฉันก็เลยชอบเก็บมันเอาไว้ไงล่ะ แต่ในตอนนี้ฉันมีความมั่นใจในตัวเองบ้างแล้ว อืมม นี่มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันควรจะเล่านี่นา"
ฉันไม่จำเป็นต้องเผยความลับอะไรออกไปนี่นา ฉันได้ยกหอกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ในเมื่อที่นี่ไม่ใช่ดันเจี้ยนที่หนึ่งแล้ว ฉันจึงได้เรียกชาราน่าออกมา
[โปรดสั่งมาเลยค่ะนายท่าน!]
"ใช้พลังลมของเธอเสริมพลังให้ฉันที"
[ได้เลยค่ะ]
พายุลมได้โหมกระหน่ำรอบตัวฉันในทันที และหลอมรวมเข้ากับสายฟ้าของไพก้า หากเป็นคนธรรมดาแค่มองหาร่างของฉันก็เป็นเรื่องยากแล้ว
ลอร์ดแห่งความตายก็ดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงอันตรายทำใหเขาปล่อยแส้สีดำออกมาหลายสิบอันและคลื่นออร่าใส่ฉันทันที ฉันได้เรียกริยูออกมาสร้างบาเรียน้ำแข็งขึ้นมาเมื่อป้องกัน ถึงแม้ว่ากำแพงน้ำแข็งจะหายไปในทันทีที่ปะทะกับแส้และคลื่นออร่า แต่ว่ามันก็ได้ซื้อเวลามากพอให้ฉันได้รวบรวมพลังที่จำเป็น
ฉันได้เล็งหอกไปที่ลอร์ดแห่งความตายและพุ่งตัวออกไป
"ราชันวายุพิโรธ"
[ย๊ากกกก!]
ไม่มีที่ไหนที่เขาจะหลบแล้ว ลอร์ดแห่งความตายส่งเสียงตะโกนออกมาและเหวี่ยงขวานตัดพลังที่ฉันได้ปล่อยออกมา ออร่าสีดำขนาดใหญ่ได้พวยพุ่งออกมาตามขวานของเขาที่ฟาดลงมาและพุ่งเข้ามาหาฉันไปพร้อมๆกับแยกพื้นขาดครึ่ง
ในเมื่อฉันกำลังพุ่งตัวไปหาเขาแล้ว ฉันก็ไม่อาจจะหลบไปไหนได้แล้ว เพราะงั้นฉันได้เผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ตรงๆ
[คุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! น่ายกย่องกับความกล้าหาญของนาย!]
"ฮึ่ม ขวานนายหั่นหอมยังไม่ขาดเลยด้วยซ้ำ!"
พายุสายฟ้ากับการโจมตีที่ตัดแผ่นดินได้ปะทะเข้าด้วยการ ถ้ำที่สั่นสะเทือนอยู่แล้วได้สั่นสะเทือนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
"โอ้วววววววว!"
ฉันได้รวบรวมมานาทั้งหมดของฉันที่อยู่ในร่างและเพิ่มพลังมานาเข้าไปในสายลม จากนั้นฉันได้เปิดใช้งานรอยสักนรกสีชาดและเริ่มดูดพลังแห่งความตายของลอร์ดแห่งความตายด้วยลมหายใจแห่งความตาย วิญญาณสัมบูรณ์ และวงจรเพรูต้าที่ทำงานรวมกันเพื่อดึงดูดมานาเข้ามาในร่างฉัน ทุกๆสิ่งนี้ได้เกิดขึ้นมาในทันที
ร่างกายฉันได้กลายเป็นกลุ่มก้อนมานาขนาดยักษ์
[ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก! รับนี่ไปฮีโร่ผู้กอบกู้! นี่คือพลังของฉัน!]
ลอร์ดแห่งความตายได้พุ่งตัวออกมาเข้าใส่ฉัน ทั้งร่างเขาได้ถูกปกคลุมไปด้วยพลังสีดำมืด หลังจากที่ฉันได้สลายออร่าที่เขาปล่อยออกมาแล้ว ฉันก็ได้พุ่งตัวเข้าไปหาเขาอย่างเต็มกำลัง
"ตายซะ!"
ฉันได้เริ่มรวบรวมพายุและสายฟ้าที่กำลังหมุนวนอย่างรุนแรงเข้ามา จากนั้นก็ใช้พรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฉัน การรวมพลังทุกๆอย่างไว้ในจุดๆเดียว
สภาพแวดล้อมได้เงียบลงไปในทันที แม้กระทั่งถ้ำที่กำลังสั่นก็ดูจะหยุดลงไปครู่หนึ่ง จริงๆแล้วทุกๆอย่างช้าลงอย่างมากก็เพราะฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์
เพราะความเร็วศักดิ์สิทธิ์นี้เองทำให้ฉันสามารถรวบรวมพลังงานทั้งหมดได้ในพริบตาเดียว ลอร์ดแห่งความตายก็ดูจะสังเกตเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาได้มองมาที่ปลายหอกของฉันที่พลังงานรวมกันอยู่ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
[เข้าใจแล้ว ฉันเข้าใจแล้ว! นี่สินะที่ทำให้นายเป็นฮีโร่ผู้กอบกู้]
"ถ้าฉันโจมตีโดนนาย นายก็จะตาย เพราะงั้นในตอนนี้ก็พูดสิ่งที่คิดออกมาดีกว่านะ!"
[คุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันได้เอาชนะความตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่นายกลับประกาศถึงความตายของฉันออกมาแบบนี้งั้นหรอ!?]
เขาได้ยกขวานขึ้นมาพร้อมๆกับเสียงหัวเราะออกมา น่าบังเอิญที่ในตอนนี้พลังแห่งความตายรอบๆร่างเขาและชุดเกราะที่เขาใส่อยู่ก้ได้หายไป
ตอนนี้ต่อให้ไม่ว่าใครหากโจมตีโดนจุดอ่อนเขาก็ฆ่าเขาได้แล้ว ตรงกลางหน้าอกของเขามีอัญมณีที่เปล่งประกายเหมือนกับดวงดาวออกมา
[ข้าดอร์ตู ได้ลบล้างเกราะออกไปแล้ว]
[อึก!?]
ดูเหมือนลอร์ดแห่งความตายจะไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นแบบนี้ เขาได้เริ่มรวบรวมพลังแห่งความตายมาปกคลุมร่างในทันที แต่ว่าในสายตาฉัน เขาในตอนนี้ได้เต็มไปด้วยช่องโหว่
ฉันได้แทงหอกออกไปพร้อมกับพูดขึ้นมา
"นายไม่มีอะไรจะผู้แล้วงั้นหรอ?"
[ฮีโร่ผู้กอบกู้คือ... ผู้ที่จะรวบรวมทุกๆอย่าง! และ...!]
น่าเสียดายที่เขาพูดจบแค่นี้
ก่อนที่ขวานเขาจะถึงไหล่ของฉัน หอกฉันก็ได้ทะลุหน้าอกเขาไปแล้ว
อัญมณีได้ระเบิดออกมาและเกิดเป็นคลื่นมานา สายฟ้า และสายลมทำลายร่างของลอร์ดแห่งความตายโดยไร้ร่องรอยใดๆเหลืออีก
ฉันได้ดึงหอกกลับมาและยืนขึ้นกับพื้น จากนั้นก็หยิบเอาชิ้นส่วนของถ้ำที่ถล่มลงมาออกจากร่างด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว
"นายน่าจะพูดมันก่อนหน้านี้นะลอร์ดแห่งความตาย"
[ข้าดอร์ตู นายท่าน ดอร์ตูทำผิดงั้นหรอ?]
"ไม่หรอก ดอร์ตู นายทำได้ยอดเยี่ยมมากในวันนี้ นายเป็นคนที่ทำให้เกิดผลลัพธ์แบบนี้ขึ้น"
หากไม่มีดอร์ตู ฉันก็ไม่มั่นใจเลยว่าการโจมตีสุดท้ายของฉันจะฆ่าลอร์ดแห่งความตายได้ไหม ชุดเกราะของเขาต้องเป็นไอเทมที่พิเศษอย่างแน่นอน
ในช่วงเวลาสั้นๆที่เราสองคนได้สู้กัน ดอร์ตูได้จัดการลบล้างกำจัดเกราะของลอร์ดแห่งความตายออกไป ดูเหมือนว่าพลังของดอร์ตูก็ได้เพิ่มขึ้นมาเช่นกัน
[ฉันหมดพลังแล้ว ฉันเหนื่อย]
"เธอก็ทำได้ดีมากไพก้า ไปพักเถอะนะ"
ฉันได้ลูบหัวไพกาและเธอได้กลับไปที่สวนแฟรี่อย่างมีความสุข
ฉันก็ยังได้ส่งดอร์ตูกลับไปเช่นกัน ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมา ก้อนหินขนาดใหญ่ได้ร่วงลงมาตามทางที่ฉันถูกขวานฟาดลงมา
"ดูเหมือนว่านายจะไม่ได้รู้ตัวเลยสินะ"
ในตอนท้ายฉันได้ควบคุมขวานของเขาด้วยพลังของเครื่องจักรสังหาร ฉันไม่อาจจะทำอะไรได้หากยังมีพลังอื่นๆอยู่อีก แต่ว่าสุดท้ายแล้วฉันก็สามารถจะทำให้ขวานของเขาที่เล็งมาที่ไหล่ของฉันช้าลงและหนักขึ้น
ลอร์ดแห่งความตายคงจะคิดว่าเขาได้ตายไปเพราะพลังที่รวมกันบนปลายหอกของฉัน แต่ว่าจริงๆแล้วฉันได้ใช้พลังมากมายในการเอาชนะเขา แม้ว่าหากฉันต้องการฉันจะเอานะเขาได้ง่ายๆ แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เจอนักรบที่ทรงพลังแบบนี้ทำให้ท้ายที่สุดฉันตื่นเต้นเกินไป
"ครั้งต่อไปฉันต้องไม่ทำแบบนี้ เดม่อนลอร์ดคงจะไม่พุ่งเข้าใส่ฉันตรงๆแบบนี้แน่"
เขาอาจจะอยู่เฉยๆคอยเอาแต่ยิงเวทย์ใส่ฉันก็ได้ จริงๆแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาต่อสู้กับฉันเองหรือไม่ด้วยซ้ำ แต่ว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นในกองทัพปีศาจที่มีศักยภาพในการต่อสู้กับฉัน เขาก็คงไม่มีทางเลือกอื่น
ฉันได้หมุนขวานออกไปรอบๆและเหวี่ยงมันเข้าใส่ก้อนหินทีล่ะก้อน เพื่อที่จะใช้พลังเครื่องจักรสังหารให้ชินมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าต่อให้เห็นตกลงมาทับฉัน ฉันก็คงไม่ตายอยู่ดี
หลังจากนั้นซักพักก็ได้มีข้อความดังออกมา
[คุณได้เอาชนะลอร์ดแห่งความตายสำเร็จ ลอร์ดแห่งความตายคือนักรบที่ทรงพลังและเป็นจอมเวทย์ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ใครมาก่อนในชีวิต การมอบความพ่ายแพ้และกำจัดเขาไปได้สำเร็จคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ คุณได้รับแต้มสกิล 5 แต้มเป็นรางวัล แต้มสกิลในปัจจุบัน: 39]
[คุณได้รับฉายา 'ผู้สังหารลอร์ดแห่งความตาย' ค่าสเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5 ผลจากฉายาจะถูกใช้งานต่อให้ไม่ได้สวมใส่]
[คุณได้เคลียร์บียอนด์ชั้นที่ 40 คุณได้รับคุณสมบัติในการท้าทายดันเจี้ยนที่หนึ่งชั้นที่ 91]
[คุณได้รับโบนัสสเตตัส 5 แต้ม พลังชีวิตและมานาเพิ่มขึ้น 2%]
[สกิลที่ใช้บ่อยในการผ่านบียอนด์ชั้นที่ 40 จะถูกเพิ่มค่าประสบการณ์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง]
[คุณได้รับรางวัลพิเศษที่เก็บเอาไว้สำหรับนักสำรวจคนแรก ยินดีด้วย! สเตตัสโชคของคุณเพิ่มขึ้น 10]
[รางวัลลับ ลอร์ดแห่งความตาย...]
จู่ๆข้อความได้หยุด
ก้อนหลินได้เริ่มตกลงมาทีล่ะก้อน ในเวลานี้เองฉันก็รู้สึกได้ว่าพลังได้ไหลออกไปจากร่างฉันอย่างช้าๆ ฉันหรี่ตาลงมา
"โฮ่... สถานการณ์ที่น่าสนใจนี่มันอะไรกัน?"
พลังของดันเจี้ยนกำลังหายไปจากดันเจี้ยน
ในตอนนี้เอง จู่ๆขวานก็หยุดอยู่กลางอากาศ ฉันได้พยายามจัดการกับขวานอีกครั้งด้วยความมึนงง แต่ว่าขวานก็ไม่ฟังคำสั่งจากฉันอีกแล้ว ความนี่มัน... ได้หยุดการเป็นอาวุธไปแล้ว
[ฉันลืมไป ฉันมีเรื่องที่ต้องบอกกับนาย]
"เฮ้ เจ้าสารเลว"
ฉันได้ด่าออกมา
"นายรู้ไหมว่าการโกหกมันบาปนะ!?"
[ฉันไม่ได้โกหก สำหรับนักรบแล้วอาวุธคือส่วนหนึ่งของร่างกาย! เพราะงั้นฉันได้ผนึกชีวิตฉันไว้กับร่างกาย!]
เขาได้ตอบกลับมาอย่างตั้งใจ
ใช่แล้วเสียงได้มาจากขวานที่ได้เก็บพลังชีวิตของเขาเอาไว้